โดย Kin Healthy Quater by Kinlake Stars
ผักกาดขาวเป็นผักที่หาง่ายตามท้องตลาด มีการนำไปประกอบอาหารในหลายเมนู ประโยชน์ของมันมีมากมายแต่โทษของมันก็น่ากลัวใช่ย่อย
ผักกาดขาวหรือผักกาดขาวปลี เป็นพืชล้มลุกในวงศ์เดียวกับคะน้าและบรอกโคลี มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้น ชาวจีนใช้ผักกาดขาวปรุงเป็นอาหารมานานหลายพันปีแล้ว ผักกาดขาวมีหลายพันธุ์ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ ชนิดปลียาว เช่น ผักกาดโสภณ ผักกาดหางหงส์ ชนิดปลีกลม เช่น พันธุ์ซาลาเดียไฮบริด และชนิดปลีหลวม เช่น ผักกาดขาวธรรมดา
ผักกาดขาวมีก้านใบใหญ่อวบ สีขาว ใบฉ่ำน้ำ เส้นใบนูนชัดเจน เมื่อกินสดให้รสหวานอ่อน ๆ เนื้อกรอบ ช่วยตัดรสที่จัดจ้านของลาบ ส้มตำ หรือน้ำพริก เมื่อผ่านการปรุงสุก จะได้ผักเนื้ออ่อน นุ่ม รสหวาน โดยนิยมใส่ในแกงจืด แกงส้ม หรือนำมาผัดน้ำมันหอย ส่วนในต่างประเทศอย่างเกาหลี ก็ใช้ผักกาดขาวกันมาก โดยนำมาดองเก็บไว้กินได้นาน เรียกว่า กิมจิ
ผักกาดขาวมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 96.6 ใน 100 กรัม จะมีเส้นใยอาหาร 0.5 กรัม ช่วยทำความสะอาดลำไส้และทำให้ขับถ่ายสะดวก มีวิตามินซี 52 มิลลิกรัม ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ผักกาดขาวยังมีสารโฟเลต (Folate) ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและป้องกันความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง ของทารกแรกเกิด ส่วนในด้านสรรพคุณทางยาก็ช่วยขับปัสสาวะและแก้ไอ
เนื่องจากเป็นผัก ที่ฉ่ำน้ำและใบบาง ผักกาดขาวจึงเน่าเสียและช้ำง่าย เมื่อซื้อมาจึงควรเลือกส่วนที่เน่าหรือช้ำออก ล้างให้สะอาด โดยเด็ดออกมาล้างทีละใบ เพราะผักกาดขาวจะเจริญเติบโตใกล้กับพื้นดิน จึงอาจมีสิ่งสกปรกติดอยู่มากและมีแบคทิเรียสะสมอยู่เยอะเช่นจำพวกอีโคลาย เป็นต้น และควรนำไปประกอบอาหารทันที เพื่อให้ได้รับคุณค่าสารอาหารสูงสุด
และที่กล่าวไป ข้างต้นว่าโทษของผักกาดนั้นร้ายแรงมากนั้นคือเมื่อเรากินมันตอนเน่า หากกินผักกาดขาวเน่าเข้าไปจะเกิดเป็นพิษได้เพราะแบคทีเรียจะทำปฏิกิริยากับ เกลือไนเตรตในผักกลายเป็นเกลือไนตรัส ซึ่งจะส่งผลให้เธาตุเหล็กในฮีโมโกลบินสูงขึ้น ทำให้เลือดของเราขาดออกซิเจน เกิดอาการมึนหัวและปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นแรง จนอาจถึงขั้นหมดสติ ในอดีตมีการนำผักกาดเน่ามาทำเป็นยาพิษด้วย!
ด้วยความปรารถนาดีจาก Kin Healthy ทีมงานกินแหลกแจกดาว