เอิร์ลเกรย์เป็นใคร?
ชาแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ชาเขียวกับชาขาวซึ่งต่างไม่ได้ผ่านการบ่ม ชาอู่หลงซึ่งผ่านการบ่มเล็กน้อย และชาดำซึ่งผ่านการบ่มเต็มที่ จากประเภทหลักข้างต้นยังมีประเภทย่อยอีกนับพันที่ผลิตกันทั่วโลก ชาดำชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุดนอกจากมีรสชาติไม่ธรรมดาแล้วยังมีชื่อค่อน ข้างพิลึกว่าเอิร์ลเกรย์ (Earl Grey)
ชาร์ลส์ เกรย์ เอิร์ลเกรย์คนที่ 2 (Charles Grey, 2nd Earl Grey, 1764-1845) เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในปี 1830-1834 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเมืองอังกฤษ แม้นโยบายของเขาถูกดยุคแห่งเวลลิงตัน (Duke of Wellington) นายกรัฐมนตรีคนก่อน คัดค้านอย่างรุนแรง เรื่องแรกที่เอิร์ลเกรย์ประกาศหลังขึ้นดำรงตำแหน่งแทนชายผู้ได้ฉายาว่า “ดยุคเหล็ก” คือคำสัญญาว่าจะปฏิรูปรัฐสภาครั้งใหญ่ รวมถึงยอมให้ประชาชนจำนวน 1 ใน 6 (จากประขากร 14 ล้านคน) ได้ออกเสียงเลืองตั้งจริงๆ ซึ่งอัตราก่อนหน้านั้นอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 20 เท่านั้น
ในช่วงสั้นๆ ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกรย์ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้เลิกทาสทั่วจักรวรรดิอังกฤษด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ชื่อของเขายืนยงเป็นอมตะคือการเลิกสิทธิผูกขาดการค้ากับจีน ของบริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) ในปี 1834 นำไปสู่การเปิดเส้นทางการค้าชาและยุคสมัยของเรือเร็วขนชา เรือประเภทนี้จะขนสินค้าเพียงชนิดเดียว สื่อให้เห็นว่าสินค้าดังกล่าวได้รับความนิยมสูงมาก ธุรกิจส่งออกชาในจีนทำกำไรมหาศาลขึ้นมาทันที และทูตจีนผู้ซาบซึ้งใจก็มอบของขวัญให้นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นชาสูตรใหม่ที่ ผสมน้ำมันพิเศษสกัดจากเปลือกมะกรูดฝรั่ง การที่ชาเอิร์ลเกรย์มีสีออกเทา (grey) มากกว่าชาธรรมชาติก็ดูจะเป็นการยกย่องท่านเอิร์ลผู้นี้ยิ่งขึ้นไปอีก ลองเอามันไปเทียบกับชาคนงานก่อสร้าง (builder’s tea) ดูสิครับ แล้วคุณจะเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร