_____________________________
” ข้าวแช่เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวมอญ เดิมทีนั้นจากเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา กษัตริย์มอญผู้ซึ่งยังไม่มีบุตรเพื่อสืบ บัลลังก์เสียที จนกระทั่งได้ทำการบนบานกับศาลเทวดาแห่งหนึ่งอันศักดิ์สิทธิ์จนสมหวัง จึงได้ทำเรื่องเซ่นมาไหว้ถวาย เครื่องเส้นเหล่านั้นก็ได้แก่ หมูเส้น ลูกกะปิ หอมยัดไส้ และไช้โป๊วหวาน อันเป็นของที่เก็บได้นาน ทำแล้วเก็บใส่ไหดินเผาไว้ ทำให้เก็บได้นานไม่บูดเน่าเสีย ต่อมา ชาวมอญถือเอาข้าวแช่เป็นอาหารสำคัญในประเพณีวันสงกรานต์ จะต้องจัดข้าวแช่ครบชุดไปถวายพระ และถวายแด่เทพีสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเมื่อชาวมอญอพยพเข้ามายังประเทศไทย ประเพณีข้าวแช่ในวันสงกรานต์จึงตามติดชาวมอญมายังประเทศไทยด้วย ทำให้ชาวไทยเริ่มรู้จักข้าวแช่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ต่อมาข้าวแช่เริ่มกลายมาเป็นอาหารชาววัง หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงเสด็จเมืองเพชรบ่อย และได้พบกับข้าวแช่ของชาวมอญ เมื่อได้เสวยแล้วก็ทรงปิติ แต่ข้าวแช่ที่เราคุ้นเคยกันดี ก็คือ ข้าวแช่เสวย อาหารชาววังที่ถูกจัดถวายให้กับ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ก็ทรงโปรดเมนูข้าวแช่เสวยมาก แต่ในช่วงนั้นข้าวแช่ยังเป็นอาหารชาววังที่ชาวบ้านยังไม่รู้จักกันนัก แต่ไม่นานนักข้าวแช่ชาววังจึงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในสังคมทุกชนชั้น นี่เป็นส่วนหนึ่งจากการสัมภาษณ์จากเชฟชำนาญ เชฟผู้มากประสบการ์ณแห่งห้องอาหารทิพย์ธารา โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ
และในวันนี้ทาง กินแหลกแจกดาว KinlakeStars.com จะขอนำเสนอข้าวแช่ทั้ง 9 ที่ ซึ่งมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปจะเด็ดและแปลก ต่าง สร้างสรรค์ อร่อย สวยงามแค่ไหน มาติดตามชมกันเลย
1. ศิลาดล Sukhothai Bangkok (1,250++)
KinlakeStars.com ขอแนะนำสุดยอดข้าวแช่ที่แสนวิจิตร เป็นทั้งอาหารตา อาหารจมูก อาหารปาก อาหารใจ ข้าวแช่ชาววังนั้นเริ่มเข้ามาเป็นเป็นที่รู้จักแก่ชาววังในช่วงรัชกาลที่ 4 แต่เป็นอาหารของชาวมอญมาตั้งแต่รัชกาลที่ 2 ซึ่งในชุดนี้ท่านจะได้พบกับข้าวแช่สูตรโบราณผสมผสานสไตล์ชาววัง ซึ่งหากินได้ยาก ทั้งขนมหวานในชุดได้แก่ มะกรูดลอยแก้ว อันหาทานไม่ได้ง่ายๆเป็นต้น และถ้วยที่วิจิตรที่สุดที่เคยมีมา แกะสลักจากฟักทองทั้งลูก อ่านต่อ>>
2. ทิพย์ธารา The Peninsula Bangkok (490 ++)
อากาศอันร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน หากจะหาอะไรดับร้อนเสียหน่อยก็คงต้องหาสถานที่เย็นๆ และอะไรเย็นๆกินไปด้วย “ข้าวเเช่ ” อาหารประจำฤดูร้อน ที่สวยงาม หอมหวน และกินแล้วเย็นสดชื่น ส่วนที่ ” ริมน้ำ ” ก็เป็นสถานที่ที่นั่งแล้วเย็นกาย สบายใจ และจะดีแค่ไหนถ้าได้นั่งกินข้าวแช่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ! ทิพย์ธารา ห้องอาหารไทยริมน้ำเจ้าพระยา ที่จะมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจไม่รู้ลืมด้วยวิวที่สวยงาม และข้าวแช่ชาววังรสดั้งเดิมโดยเชฟชำนาญ เชฟใหญ่แห่งห้องอาหารทิพย์ธาราผู้มากประสบการณ์ในการปรุงอาหารไทย อ่านต่อ>>
3. Saffron @ Banyan Tree Bangkok (770++)
กินข้าวแช่ ชมพระอาทิตย์ตกดินไปกับทัศนียภาพเส้นขอบฟ้ากรุงเทพมหานครทั้งเมือง หนึ่งเดียวในประเทศไทย ข้าวแช่ชาววังครบเครื่องที่เสิร์ฟมาในเครื่องเชี่ยนหมากขันเงิน โดยเชฟเรณู และมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบเพื่อความเหมาะสม กับการบริการและต้อนรับที่จะทำให้ทุกคนประทับใจและไม่รู้ลืม เริ่มตั้งแต่การล้างมือให้แขกทุกท่านด้วยน้ำสมุนไพรถึงโต๊ะ เช็ดมือ และดอกไม้ทัดหูสำหรับแขกผู้หญิงทุกคน อ่านต่อ>>
4. Tea Room, Grand Hyatt Erawan (280++)
อากาศร้อนๆยามบ่าย แดดแรงๆเช่นนี้ ย่อมทำให้อยากกินอะไรที่ทำให้รู้สึกเย็น สดชื่น และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ใช่แล้ว “ข้าวแช่” เมนูอาหารไทยนี้แหละที่จะตอบโจทย์คุณ กลิ่นน้ำอบควานเทียนหอมๆ เครื่องเคียงรสชาติดี สมุนไพรอันเป็นเครื่องเคียงในชุดที่จะทำให้ร่างกายคุณนั้น สดชื่นจากภายใน ในวันนี้กินแหลกแจกดาวจะขอนำเสนอข้าวแช่ของห้องอาหาร Tea Room, Grand Hyatt Erawan ซึ่งนอกเหนือจากคุณภาพที่สูง ราคายังเป็นมิตรสมเหตุสมผลอีกด้วย เพราะขายเพียงชุดละ 280++ อ่านต่อ>>
5. Osha Bangkok (550++)
ในปัจจุบันข้าวแช่เริ่มกลับมาได้รับความนิยม และมีการทำขาย ให้บริการแก่ท่านที่อยากลิ้มลองในหลายที่มากขึ้น ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีจุดขายและความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป สำหรับข้าวแช่ชาววังที่โอชานั้นบอกได้เลยว่าเด็ดที่กลิ่นอันหอมหวลจากน้ำอบควันเทียนที่ใช้ทั้งมะลิ กุหลาบมอญ และดอกชมนาด ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน อีกทั้งการเสิร์ฟอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นอย่างไรมาชมกันเลย อ่านต่อ>>>
6. Greenhouse, The Landmark Bangkok (280++)
เมื่อเข้าฤดูร้อนอากาศร้อนแล้วนั้น เราก็ต้องย่อมอยากกินอะไรเย็นๆหรือทำให้เย็น วันนี้กินแหลกแจกดาว KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปพบกับข้าวตำรับไทยคลายร้อน ณ ห้องอาหาร GreenHouse, The Landmark Bangkok ด้วยเมนูยอดนิยมของคนไทย “ข้าวแช่ตำรับชาววัง” ซึ่งความโดดเด่นของข้าวแช่ที่นี้คือคุณสั่งได้ตลอด 24 ชม. !!!! อ่านต่อ>>
7. Smooth Curry, Plaza Athenee Bangkok A Royal Meridien (780++)
สำหรับข้าวแช่ของ Smooth Curry เป็นข้าวแช่ชาววังที่ประยุกต์ ที่เพิ่มเติมเอาเครื่องเคียงใหม่ๆ และมีการดัดแปลงบางส่วน ตามสูตรและสไตล์ของเชฟจารีฟ สำหรับเครื่องเคียงที่นี้นั้นมีมากมายนั้นก็ได้แก่ ลูกกะปิทอด หมูเส้น/เนื้อเส้น หัวไช้โป๊วผัดหวาน ที่แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก ปลายี่สนผัดหวาน และ พริกหยวกสอดใส้ ในส่วนของเครื่องที่มีการเพิ่มเติมหรือดัดแปลงจากสูตรชาววังดั้งเดิมก็ได้แก่ หอมแดงยัดไส้ซึ่งเปลี่ยนจากไส้ปลาดุกเป็นแซลมอนแทน หมูสับปลาเค็ม และไข่เค็มชุบแป้งทอด อ่านต่อ>>
8. The Okura Prestige Bangkok (490++)
ข้าวแช่ชาววัง บรรยากาศชั้น 24 กลางย่านเพลินจิต สำหรับข้าวแช่ที่นี้นั้นรังสรรค์ขึ้นโดยเชฟ เจษฏณรงค์ ทักษาปกรณ์ หัวหน้าพ่อครัว ประจำห้องอาหาร อัพแอนด์อะบัฟ เครื่องในชุดก็จะมีข้าวและน้ำอบควันเทียน ลูกกะปิทอด หอมทอดยัดไส้ เนื้อเส้น/หมูเส้น ไช้โป๊วผัด พริกหยวกสอดไส้ และ เครื่องเคียงอันได้แก่ หอม มะม่วง แครอตและแตงกวาที่แกะสลักออกมาเป็นลวดลายที่ปราณีต ชดช้อย ตามตำหรับไทย อ่านต่อ>>
9. หวานละมุน เชียงใหม่ (380/take home 250)
ช่วงร้อนๆหากได้ลองกินข้าวแช่แล้วหละก็คุณจะสดชื่นขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับหวานละมุนนั้นไม่ได้มีดีแค่ของหวาน ข้าวแช่ขึ้นห้างที่มาแบบครบเครื่องตามตำหรับ สวยงาม รสชาติดีสมราคา นอกจากที่เชียงใหม่ตอนนี้ยังมีสาขาที่กรุงเทพฯ ด้วย อ่านต่อ>>
Kinlakestars.com กินแหลกแจกดาว
———————————————————————————————————————————————
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A