โบสถ์ที่สวยงาม แปลกตา สง่างาม มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมอย่างซับซ้อน โดยสร้างต่อเติมมาอย่างไม่หยุดยั้งเรื่อยๆมากกว่า 2,000 ปี ! แหล่งแช่นำ้แร่ธรรมชาติตั้งแต่สมัยโรมัน และต้นกำเนิดของขนมพรินเท่น ! จุดเชื่อมต่อสามประเทศ เที่ยวไหนก็สะดวก
เช้าวันหนึ่ง นักเรียนไทยในเยอรมันตื่นแต่เช้า รีบอาบน้ำแต่งตัว ทำอาหารกล่อง และมุ่งตรงไปยังสถานีรถไฟ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเบลเยียม แต่ต้องเปลี่ยนรถที่เมือง Aachen (อาเคิน) และต้องรอรถประมาณ 3 ชม นั้นจึงเป็นความบังเอิญที่ ทำให้เขาผู้นั้นได้พบกับเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่น่าแวะเที่ยว แต่ไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเท่าไหร่นัก
Aachen เป็นเมืองที่ตะวันตกสุดของ เยอรมนี โดยเป็นเมืองที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับ เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ชื่อเต็มของอาเคินคือ บัดอาเคิน (Bad Aachen) Bad หมายถึงน้ำ ทำไมต้อง Bad ??? เนื่องจากใต้เมืองอาเคินมีสายน้ำร้อนธรรมชาติอยู่มากมาย น้ำแร่ใต้ดินนี้ มีความเชื่อว่าสามารถนำมาดื่มเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ซึ่งกองทัพโรมันก็เคยใช้เมืองๆนี้เป็นหนึ่งในสถานพักฟื้น และเป็น Spa ให้กับทหารหนุ่มทั้งหลายในกองทัพด้วย ในปัจจุบัน เมืองอาเคินได้นำน้ำแร่ใต้ดินนี้ไปเปิดบริการเป็นสปาแบบทันสมัยให้แก่ประชาชน โดยใช้ชื่อว่า Carolus Thermen
บอกไว้ก่อนเลยว่าเมืองนี้แม้เป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็เดินทางสะดวกและยังสามารถเดินทางต่อไปได้ในหลายประเทศ เมืองนี้เหมาะจะแวะพักเที่ยวมาก สำหรับใครที่จะวางแพลนเที่ยวระหว่าง เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ก็น่านำเมืองนี้ใส่ไปในแพลนเหมือนกันครับ
ก่อนเดินทางไปหลังจากดูรอบรถไฟและวางแผนเดินทาง เมื่อรู้ตัวว่าต้องแวะไปเมือง Aachen ผมจึงได้หาข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับเมืองนี้ ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิดแฮะ ก่อนไปก็จึงทำแผนที่ไว้ว่าที่ๆจะไป และวันรุ่งขึ้นก็เริ่มออกเดินทาง มาดูแผนที่กันเถอะ
วิหารนี้สุดยอดและแปลกมากเป็นการรวมเอาการออกแบบตั้งแต่ยุคโรมัน โรมาเนสก์ โกธิค เรเนซองส์ บาโรกเข้าด้วยกัน สร้างอย่างไม่หยุดยั้งถึง 2000ปี !!
เมื่อผมได้ไปถึงและยกกล้องขึ้นถ่ายรูป ทันใดนั้นก็มีคุณลุงชาวเยอรมันคนหนึ่งพุ่งตัวปรี่เข้ามาและพูดไม่หยุดเลย ซึ่งผมจับใจความได้ว่าเขาถามว่ามาจากญี่ปุ่นหรอ พึ่งย้ายมาอยู่หรือมาเที่ยว จึงตอบกลับไปว่า ” Ich kann nicht sprechen Deutsch. Können Sie sprechen Englisch ?” คุณลุงน่ารักและเป็นเจ้าบ้านที่ดีมาก ยิ้มๆและพูดภาษาอังกฤษโดยเล่าถึงความเป็นมาของมหาวิหารนี้
ลุงเขาเล่าว่า
” วิหารนี้สุดยอดและแปลกมากเป็นการรวมเอาการออกแบบตั้งแต่ยุคโรมัน โรมาเนสก์ โกธิค เรเนซองส์ บาโรกเข้าด้วยกัน สร้างอย่างไม่หยุดยั้งถึง 2000ปี !! วิหารนี้เดิมทีเป็นโรงอาบน้ำของจักรวรรดิโรมันสร้างอย่างหรูหราและใหญ่โตด้วยหินอ่อนเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วก่อนคริสตกาล ต่อมา พระเจ้าชาร์เลอมาญ สร้างวิหารนี้ พร้องทั้งพระราชวังทับโรงอาบน้ำรวมถึงขุดทำลายสัญลักษณ์ของเทพโรมันออก เมื่อปีค.ศ. 792 พร้อมๆกับตัววัง ในรูปแบบ Romanesque เมื่อสร้างเสร็จ พระสันตะปาปาลีโอที่ 3 ก็ทำพิธีสถาปนาวัดนี้อย่างเป็นทางการ
เมื่อปี ค.ศ. 805 (พ.ศ. 1348) ขนาดตัววิหารจริงๆ แต่เดิมนั้นค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบขนาดส่วนที่ต่อเติมที่มาทำภายหลัง ระหว่างสมัยโกธิคทางวิหารจึงเริ่มขยายด้านบริเวณเวทีที่ใช้ร้องเพลงสวด เพื่อให้มีเนื้อที่พอที่จะรับนักแสวงบุญที่มาแสวงบุญที่เมืองนี้
ในปี 881 มหาวิหารได้รับความความเสียหายจากการโจมตีจากกลุ่มไวกิ้ง และได้รับการบูรณะในปี 983 ซึ่งยังคงอยู่ในยุกโกธิคและมีการขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ใน 1165 โบสถ์กลายเป็นสถานที่สำหรับผู้แสวงบุญ เพื่อสนับสนุนการไหลเข้ามาอย่างมหาศาลของผู้แสวงบุญในสมัยโกธิค จึงต้องขยายฮอลล์ส่วนนักร้องประสานเสียงที่ถูกต่อเติมขึ้นอีกในช่วงยุคเรเนซองส์ รวมถึงห้องย่อยต่างๆรอบๆวิหาร และส่วน Capella vitrea (โบสถ์แก้ว)
ซึ่งได้รับการถวายในวันครบรอบ 600 ของการเสียชีวิตของชาร์ล โดมโบสถ์และอื่น ๆ อีกหลายยอดยังถูกสร้างขึ้นในวันต่อมา ได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี 1881 ด้วยงานสถาปัตยกรรมยุคบาโรก เมื่อปูนปั้นรูปทรงปีศาจพิสดารตามยุคโกธิคถูกลบออก
เพราะความสำคัญของเมืองอาเคิน ทำให้เมืองนี้ได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นสถานที่แรกของประเทศเยอรมนีที่ได้ขึ้นทะเบียน”
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ♣
มหาวิหารอาเคิน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดทางภาคเหนือของทวีปยุโรป ระหว่างยุคกลางวัดนี้ชื่อ Royal Church of St. Mary at Aachen เป็นวิหารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะเคยใช้เป็นสถานที่สวมมงกุฏกษัตริย์ราชวงส์คาโรลิงเกียน (Carolingian) ระหว่างปี ค.ศ. 936 ถึงปี ค.ศ. 1531 ประมาณ 600 ปี วิหารนี้ใช้เป็นที่สวมมงกุฏให้กษัตริย์เยอรมนี 30 พระองค์ และพระราชินีอีก 12 พระองค์
ที่ลานกว้างหน้าโดมนี้ จะถูกใช้เป็นที่รับรางวัลคาร์ล (Internationaler Karlspreis zu Aachen ย่อว่า Karlspreis ; อังกฤษ: International Charlemagne Prize of the city of Aachen) ในทุก ๆ ปี รางวัลคาร์ลนี้จะมอบให้กับผู้ที่ส่งเสริมสันติภาพในยุโรป ตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลคาร์ลได้แก่ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ โทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร
และข้างๆกันนี้ก็จะมี วิหารพระแม่มารี (Shrine of St Mary) สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1220 – 1239 ยุคบาโรก ภายในวิหารมีวัตถุมงคลที่เชื่อกันว่าเคยเป็นของคนสำคัญทางคริสต์ศาสนา สองสามอย่างคือ เสื้อคลุมของพระแม่มารี ผ้าของพระเยซูและ เสื้อที่นักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ (John the Baptist) ใส่วันที่ท่านถูกตัดหัว ตั้งแต่ปีค.ศ. 1349
ซึ่งอย่างที่บอกไปเมื่อสักครู่ ข้างๆวิหารจะเป็นอดีตพระราชวังเก่า Domschatzkammer ของ พระเจ้าชาร์เลอมาญ ซึ่งปัจจุบันได้แสดง ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมุงกุฎทองคำ รูปหล่อทองคำครึ่งพระองค์ โลงทองคำ กางเขนทองคำประดับอัญมณี มือทองคำ ฯลฯ เหมาะสำหรับคนรักในศิลปะ งานจิตรกรรม และผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์
มาถึงศาลาว่าการเมืองหลังเก่ากันบ้างครับ อาคารหลังนี้ก็สร้างมาตั้งแต่ยุคโกธิค ไฟไหม้ไปช่วงยุคบาโรก แล้วก็ซ่อมแซมกันใหม่ เป็นอีกอาคารที่สวยงามน่าสนใจ อยู่ติดกับมหาวิหารเลยครับ
อาเคินยังเป็นจุดกำเนิดของขนมที่ชื่อว่าพรินเทิน (Printen หรือ Aachener Printen) ซึ่งมีชื่อเสียงในประเทศเยอรมนี พรินเทินเป็นขนมลักษณะคล้ายคุกกี้ ที่มีส่วนผสมของอบเชย และมักทำออกมาโดยพิมพ์รูปต่าง ๆ เช่น รูปพระจักรพรรดิคาร์ล รูปมหาวิหารอาเคิน
อ่านรายละเอียดของขนมต่อที่ >>>
และร้านแนะนำสำหรับขนม พรินเทิน Prinzenbäckerei Klein อยู่ตรงข้างสถานีรถไฟเลยครับ พิกัด : Franzstraße 91, 52064 Aachen, เยอรมนี (ตามแผนที่ข้างบนสุดเลย)
ขากลับ หากเดินตามเส้นทางแผนที่ด้านบน ก็จะพบกับอาคารหน้าตาสุดล้ำ AachenMünchener
อาคารสำนักงานนี้เป็นโครงสร้างเหล็กและกระจก มีระบบม่านไฟฟ้าเปิดปิดได้ตามแสง โดยมีเซนเซอร์วัดกันแสงบาดตาและความร้อน น่าจะเป็นที่น่าสนใจและชื่นชอบของบรรดานักออกแบบและสถาปนิก รวมถึงวิศวโยธาฯ ด้วยอาคารที่มีการแคนทิลีฟอย่างมากมาย
และหากใครพอมีเวลาและชอบสปาละก็ ที่แห่งนี้ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ นั้นคือ Carolus Thermen
อารมณ์ออนเซนล่ะครับแต่ไม่ต้องโป๊ จะว่าไปมันเหมือน Blue lagune มากกว่า เป็นสวนน้ำและสปาขนาดใหญ่ที่ดึงเอาน้ำแร่มาใช้ มีทั้งบริการนวด ซาวน่า บ่อกลางแจ้ง บ่อในร่ม และร้านอาหาร ราคาเริ่มต้น 12.00 € พิกัด : Carolus Thermen Bad Aachen Stadtgarten / Passstr. 79 52070 Aachen
ระหว่างทางเดินในเมือง กะจะเจอป้อม หอคอย โบสถ์เก่า ตั้งแต่ยุคโกธิค นับว่าเป็นอีกเมืองที่น่าแวะถ้าผ่านนะครับ ซึ่งปกติ ถ้าเที่ยวด้วยรถไฟ ระหว่าง เยอรมัน เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ อย่างไรก็ผ่านครับ เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงสะดวกกว่าเครื่องบินเยอะครับ
สุดท้ายนี้ อาเคินเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย RWTH Aachenมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มายาวนาน โดยนักเรียนของ RWTH Aachen มีจำนวนมากกว่า 30,000 คน โดย 10% ของทั้งหมดเป็นนักเรียนต่างชาติ และคลินิคุม อาเคิน (Universitätsklinikum Aachen) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแบบตึกเดียวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นที่ศึกษาของเหล่านักศึกษาแพทยศาสตร์ของอาเคิน ในขณะเดียวกัน ทางสาขาคอมพิวเตอร์ของ RWTH ก็กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์วิจัยเฟราน์โฮเฟอร์(Fraunhofer-Gesellschaft) และขณะนี้บริษัทไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดศูนย์วิจัยขึ้นในเมืองอาเคิน อีกทั้งคณะสถาปัตยกรรมด้านเทคโนโลยีทางอาคาร ใครหาที่เรียนต่อดูลองดูได้นะครับ
แล้วพบกันใหม่กับรีวิวท่องเที่ยวที่แตกต่าง 🙂 สวัสดีครับ
เรื่อง/ภาพ : Pol.Lt. Kittin A.