สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ Kinlakestars.com เราจะพาท่านไปเปลี่ยนบรรยากาศ ไปชม Afternoon Tea Set จาก Peacock Alley ณ โรงแรม 5 ดาวสุดหรูใจกลางเมือง “Waldorf Astoria Bangkok” ในเครือของ Hilton กันครับ
ร้าน Peacock Alley จะอยู่ที่ชั้น Upper Lounge ซึ่งมีบรรยากาศเปิดโล่งรอบด้านให้ความรู้สึกกว้างขวาง และตกแต่งด้วยสไตล์เรียบในโทนขาวดำ มีการจัดวางโต๊ะที่สามารถรองรับแขกที่มารับบริการได้อย่างเต็มที่ โดยไม่แออัดจนเกินไป
พีค็อก อัลเลย์ | 70 ที่นั่ง – เป็นเลาจน์ที่เลื่องชื่อของวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ให้บริการชุดชายามบ่าย และอาหารว่าง มีเมนูขนมอบโฮมเมดและเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นตลอดทั้งวัน พร้อมชมวิวสนามหญ้าที่เขียวขจีของราชกรีฑาสโมสร นอกจากนั้น ยังเสิร์ฟอาหารจานเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ซึ่งก็คือ วอลดอร์ฟสลัด (Waldorf Salad) และไข่เบเนดิกต์ (Eggs Benedict) อีกด้วย
ชื่อ “พีค็อก อัลเลย์” ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสะท้อนภาพของทางเดินเชื่อมระหว่างโรงแรมวอลดอร์ฟและโรงแรมแอสโทเรีย ในมหานครนิวยอร์คสมัยก่อน ที่โดดเด่นสวยงามด้วยต้นไม้ร่มรื่นสองข้างทาง พีค็อก อัลเลย์ คือสถานที่ที่คุณจะได้มาพบปะสังสรรค์กับผู้คน การตกแต่งภายในนั้นงดงาม หรูหรา แต่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ดีไซน์การตกแต่งนั้นมีการใช้ทองแดง ไม้สีอ่อน และเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส
บรรยากาศภายในร้านนั้นสงบและผ่อนคลายเหมาะสมแก่การจิบชายามบ่าย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับรู้สึกเคร่งเครียดหรือเงียบสนิท ทำให้เป็นที่ๆสามารถพูดคุยธุรกิจ พบปะสังสรรค์หรือเลี้ยงฉลองย่อมๆได้เลยครับ
โดย ร้าน Peacock alley นั้นได้จัดเซ็ต afternoon tea เอาใจท่านผู้อ่านที่ชอบจิบชาในยามบ่ายบนวิวสุดหรูของบนชั้น Lobby (Upper Lounge) ของโรงแรม
- โดยเซ็ต afternoon tea ของที่นี่เป็นเซ็ต สำหรับสองท่าน ในราคาเพียง 1900 บาท หรือหากมาไม่ครบคู่ก็สามารถสั่ง เป็น a la carte แยกได้ครับ
โดยชาของที่นี่จะมีหลากหลายแบบให้เลือกได้หลายตัว ตั้งแต่ ชาดำ ชาเขียว ชาขาว ชานํ้าเงิน ไปจนถึงชาสมุนไพร ซึ่งใช้ชาชั้นเลิศจากฝรั่งเศสของ Mariage freres โดยในชุด afternoon tea จะยังประกอบไปด้วย
- sandwiches ซึ่งเป็นของคาวหลากหลายแบบ
- scones ซึ่งมีการเปลี่ยน daily flavor ในแต่ละวัน
- และที่สำคัญคือ pastries ที่ได้เชฟ Remy Janicot ชาวฝรั่งเศสผู้มีประสบการณ์กว่า 25 ปี เป็นผู้กำกับดูแล
Chef Remy Janicot หัวหน้าเชฟขนมหวานชาวฝรั่งเศส
ในวันนี้ทางทีมงานได้เลือกชามา 2 ตัว คือ ชาขาว Madam butterfly และ ชาน้ำเงิน Thai Orchidee จาก Mariage freres ครับ
Madam butterfly ชาขาวกลิ่นหอมละมุนตั้งแต่หยิบแก้วขึ้นมา รสชาตินุ่มนวลไม่เข้ม เน้นไปที่รสสัมผัสของความบางเบา กลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ เป็นชาที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณผู้หญิงทั้งหลายด้วยความหอมละมุนและกลิ่นอันหอมหวาน หรือแม้แต่สุภาพบุรุษที่ไม่ชอบชาที่มีรสเข้มก็น่าจะโปรดปรานเช่นเดียวกันครับ
ด้านล่าง Blue Tea – Thai Orchidee (mariage freres)
Thai Orchidee ชานํ้าเงินที่ได้ชื่อเนื่องจากเป็นต้นชาที่ปลูกใน พื้นที่เฉพาะซึ่งเคยมีการปลูกกล้วยไม้ เป็นชาที่มีความหอมมากไม่แพ้กัน แต่จะไม่เป็นแนว fruity จะเป็นรสชาติและกลิ่นที่ให้ความ fresh ในกลิ่นของชา ซึ่งเมื่อจิบแล้วจะยังอบอวลในปากไปอีกสักพักเลยทีเดียว
ในส่วนของ Sandwiches ทั้งหลายหน้าตาสีสันสดใสน่าทานมากครับ แต่ละชิ้นขนาดพอดีคำ และจัดสรรมาโดยวางเป็นวงรอบจาน โดยแต่ละชิ้นมีทั้งหมด 2 ชุดสำหรับรับประทานเป็นคู่ครับ เราจะมาเริ่มรับประทานของคาวกันไปทีละตัวนะครับ
เริ่มต้นที่ Crispygolden pocket with vegetable หรือถุงทองนั่นเอง ทำมาได้ขนาดพอดีคำ แป้งกรอบหอม รสชาติกลมกล่อมจากภายใน โดยไม่ต้องจิ้มนํ้าจิ้มใดๆเพิ่มเติม
Tiger prawn Caesar wrap ภายในจะเป็นสลัดปูโดยที่ ภายนอกจะคล้ายปอเปี้ยะ แต่ตัวแป้งจะทำจากแป้งโรตีทำให้มีรสสัมผัสหนุบหนึบเคี้ยวเพลินครับ
Charcoal bun with smoked chicken and Waldorf salad เป็นชาโคลบันไซส์มินิที่อัดแน่นไปด้วยไก่รมควันหอมๆและ แทรกด้วยเนื้อผักกรอบๆ เป็นชิ้นที่เต็มคำมากๆครับ
Bagel with salmon gravlax, dill and cream cheese แป้งขนมปังชิ้นใหญ่ทานคู่กับแซลมอน gravlax แบบ Nordic รสสัมผัสเค็มมันตัดกับความกรุบกรอบของไข่ปลาด้านบนได้อย่างลงตัว
Rye bread with beetroot and goat cheese ตัวบีทรูทหวานแบบไม่ปรุงแต่งด้วยความสดแบบธรรมชาติซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว ผสมผสานกับความเค็ม แบบกลมกล่อมของชีสให้ความรู้สึกที่กลมกล่อมละมุนครับ
ชิ้นสุดท้ายตรงกลางจานคือ Potatoconfit with crab salad ด้านล่างจะเป็นมันฝรั่งนุ่มๆด้านบนเป็นปูเส้นที่รสชาติเข้ากันกับมันฝรั่ง กินคำเดียวปิดท้ายอยู่ท้องพอดีสำหรับอาหารคาวครับ
และแน่นอนถึงแม้เหล่าแซนวิชที่รับประทานเล่นจะช่วยให้อยู่ท้องและอิ่มเอม แต่การสั่งชุด afternoon tea ทุกคนย่อมคาดหวังกับของหวานที่เสิร์ฟมาเพื่อทานคู่กับชาหอมกรุ่น ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่จะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
โดยเราจะเริ่มกันจากสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการจิบชายามบ่ายนั่นก็คือ scones ครับ
ซึ่งรสชาติของวันนี้จะเป็นรส passion fruit และรส plain ครับ (ในแต่ละวันรสชาติของ scones จะไม่เหมือนกัน)
เสิร์ฟมาพร้อมกับ clotted cream, lemon curd, strawberry jam
โดยรส plain เหมาะจะกินคู่กับทุกครีมที่เตรียมมา และเมื่อจิบคู่กับชาจะได้รสชาติที่นุ่มละมุนละหอมมาก เนื้อ scone ร่วน ละเอียดสดใหม่มากๆครับ
ส่วนรส passion fruit จะมีกลิ่นหอมของเสาวรสอ่อนๆ เข้ากันกับ lemon curd มากๆ และเช่นเดิม เข้ากับชา อุ่นๆหอมๆที่สุดเลยครับ
ถ้าชาเป็นพระเอกของ afternoon tea แล้ว pastries ก็คงเทียบได้กับนางเอก ซึ่งทางเชฟ Chef Remy Janicot ได้บรรจงรังสรรค์ทำขึ้น และได้จัดวางตามลำดับการรับประทานที่แนะนำตามนี้เลยครับ
Tangerine Meringue Tartlet
เริ่มต้นด้วย Tangerine Meringue Tartlet ที่มีรสชาติหอมหวาน อมเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นของส้มเข้ากันกับครีม นุ่มๆของเมอแรง ไม่ถึงกับหวานมากแต่กินชาช่วยตัดความหวานที่ติดลิ้นได้ดีครับ
แล้วต่อด้วย Pandan and Passion fruit Religious เป็นความลงตัวกันของความหวานและความอมเปรี้ยว และ กลิ่นของใบเตยก็เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อกับครีมเสาวรส โดยเมื่อกัดเข้าไปครีมด้านในก็จะแตกตัวออกมาได้รสชาติที่อบอวล ภายในปากอย่างลงตัวครับ
Mango Mousseline Sablee มูสมะม่วงรสชาติเข้มข้นมาพร้อมกับขนมปังกรอบที่มีกลิ่นอบเชยอ่อนๆ ชิ้นนี้จะรสชาติเด่นมาก แต่เมื่อจิบชาตาม ก็จะเบาลงมากำลังพอดีเลยครับ
New York cheese cake เมนูที่คุ้นเคย แต่ถือว่าทำออกมาได้ประทับใจครับ ชีสมีความนุ่มหอมมากๆ เมื่อจิบชาอุ่นๆตาม รู้สึกเหมือนเนื้อชีสจะละลายและไหลวนในปากจนลงคอ แยมและเนื้อของสตรอเบอรี่สดหวานเล็กๆกับรสชาติเปรี้ยวตัดให้พอดี
Salted caramel macaroon มาการองที่มีลวดลายสัญลักษณ์ของร้าน peacock alley แห่งนี้ เป็นตัวเด็ดอีกชิ้นที่มีความเข้มข้นของ salted caramel ที่รสชาติลงตัวกับ texture ของเนื้อมาการอง ที่ทำได้อย่างสมบูรณ์
กลางจานจะเป็นเมนูสุดท้าย Mulberry chocolate fudge โดยที่ได้ช็อกโกแลตคุณภาพ พรีเมียมของไทยจากจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผ่านกรรมวิธีรสชาติ เข้มมาก หอมกลิ่นช็อกโกแลตแต่ไม่หวานหรือขมจนเกินไป รับประทานคู่กับ mulberry หรือลูกหม่อนที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานเฉพาะตัวช่วยฉีกรสชาติให้หลุดจากกรอบช็อคโกแลคฟัดจ์ปกติครับ
หากท่านยังไม่อิ่มหนำ ทางร้านยังจัด Hazelnut Feuilletee Brioche ขนมปังบริยอชสอดไส้ฮาเซลนัทชิ้นโตแบ่งครึ่งให้ท่านสามารถปิดฉากการรับประทานชุดน้ำชาได้อย่างสมบูรณ์ครับ
นอกจากใน Afternoon tea แล้ว ทางร้านยังมีเครื่องดื่มและเมนู a la carte อีกหลายชนิดให้ท่านสามารถเลือกรับประทานเพิ่มได้เช่น
White Orange Latte ลาเต้รสละมุนที่มีการผสมกลิ่นหอมของส้มลงไปทำให้ได้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ทันที
Arabica Soda กาแฟอาราบิก้าผสมโซดาที่ให้ความซาบซ่าและความเข้มหอมของกาแฟในแก้วเดียวกัน เป็นเมนูแปลกใหม่ที่รับรองว่าประทับใจแน่นอนครับ
สรุปสุดท้าย Peacock Alley เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่จะมาพบปะพูดคุยไม่ว่าจะเป็นทางธุรกิจหรือสังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมานั่งเล่นพูดคุยดื่มเครื่องดื่มแปลกใหม่กับเพื่อนๆอย่าง Arabica Soda หรือ White Orange Latte
หรือผู้ชื่นชอบในการจิบชายามบ่าย แม้แต่คู่รัก ที่ต้องการมาซึมซับบรรยากาศและลิ้มลองเซ็ตเมนู Afternoon Tea ที่คุ้มค่าและรสชาติดีในสถานที่อันโอ่อ่าก็สามารถมาลิ้มลองกันได้ครับ
ข้อมูลติดต่อ
โรงแรม WALDORF ASTORIA BANGKOK
ถนนราชดำริ ใกล้กับ BTS สถานีราชดำริ หรือสถานีชิดลม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-846-8888
Story Porchara S.
Photo Pol.Cap. Kittin A.
kinlakestars.com
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว