บรรยกาศสุนทรีย์แห่งการจิบชายามบ่ายริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมเสียงบรรเลงพินสดและของว่างในกรงทองกับชาชั้นเลิศ
นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย ไปกับเสียงพิณ และเสียงร้องอันไพเราะ มีเอกลักษณ์ของคุณหวาง ทุกวันอังคาร ถึง วันเสาร์ เวลา16.00 – 18.00 น.
เซต Afternoon tea สุดอลังการ ที่ถูกจัดวางบนกรงทอง ตามคอนเซป “Golden Birdcage”
ในส่วนของ Afternoon tea เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 – 18.00 น.
และนอกจากขนม และ ของว่างต่างๆ ที่ถูกจัดมาให้แล้ว ทางโรงแรมยังมี Mocktail สุดพิเศษให้ด้วย ซึ่งม๊อกเทลแก้วนี้ไม่ธรรมดาเลย เพราะได้รับรางวัล Dilmah Real High Tea Challenge มาด้วย
โดยจะมีทั้งหมด 3 ชั้น ด้วยกัน โดยสองชั้นบนจะเป็นของหวาน ส่วนชั้นล่างจะเป็นของคาว
เริ่มกันที่ชั้นล่างก่อนเลยดีกว่า ชั้นนี้จะเป็นของคาวก็เป็นพวก แซนด์วิช คานาเป้ เตอรีน เป็นต้น
มาที่ชิ้นแรกกันเลย เวลาทานเข้าไปจะได้กลิ่นของตับห่านอ่อนๆ และเนื้อที่เนียนนุ่ม ได้ความหวานจากตัว Caramelised Onion แล้วได้ความกรอบของขนมปังด้านล่าง ซึ่งช่วยให้เวลาทานไม่รู้สึกเลี่ยนเกินไป
ชิ้นนี้เป็นเนื้อปูบนแตงกวา โรยด้วยไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งเนื้อปู และ แตงกวามีความสดดี ปูมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และเนื้อหวานดี
ตัวนี้ ตัวแซลมอนรมควันรสชาติดีเลยทีเดียว และเห็นว่าทางโรงแรมฯเป็นคนทำเองด้วย แต่ติดที่ขนมปัง เนื่องจากในเมนูเขียนว่าเป็นเบเกิล แต่ตอนที่ได้ชิม รู้สึกว่าเนื้อสัมผัสยังไม่ใช่เบเกิล รสชาติจะไปทางขนมปังหวานมากกว่า
ชิ้นนี้เป็นแป้งชูว์ (Choux) สอดไส้ชีส Boursin คล้ายๆครีมชีส รสชาติเค็มนิดๆ และได้กลิ่นของพริกหวานอ่อนๆ
ตัวที่เป็นขนมปังสอดไส้ปาร์มาแฮม และ เชดด้าชีส มีความพิเศษตรงกลิ่นที่หอมของตัวปาร์มาแฮม
ชิ้นนี้ประกอบด้วย เจลลี่ฟักทอง เจลลี่ถั่วลันเตา และชีสจากนมแพะ ตัวเจลลี่ไม่ถึงกับแข็งมาก และ ไม่ได้นิ่มเกินไป แต่ไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไหร่ ได้รสเค็มอ่อนๆจากชีส ส่วนฐานข้างล่างคล้ายๆขนมปังกรอบ มีกลิ่นเฉพาะตัว เมื่อทานพร้อมกัน รู้สึกว่าเข้ากันมากๆ เพราะส่วนตัวคิดว่ากลิ่นของส่วนฐานช่วยชูตัวชีสขึ้นมาได้เป็นอย่างดี
ขนมปังนี้ได้สีมาจากบีทรูท สอดไส้ด้วยไก่รมควัน คลุกมายองเนส และ เครื่องเทศ ส่วนตัวคิดว่าเนื้อไก่ค่อนข้างละเอียดเกินไป
ต่อมาที่ชั้นกลางกันเลยนะครับ จะมีสโคน (ธรรมดา กับ ลูกเกด) ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นไปตามแบบฉบับมาก เนื่องจากให้ Clotted cream มาทานคู่สโคน ซึ่ง Clotted cream กับ สโคนเป็นของที่คู่กันสุดๆ นอกจากนี้ก็มีแยมสตรอเบอรี่ และ มาร์มาเลทส้มมาให้ เนื้อสโคนไม่แห้ง ไม่ร่วน มีความหนึบๆ ให้เคี้ยวเล็กน้อย เนื้อขนมคล้ายมาทางขนมปังมากกว่าบิสกิต
ชั้นนี้นอกจากมีสโคนแล้วยังมี Turnover ด้วย ชอบตัวนี้ตรงที่ตัวไส้มีเนื้อผลไม้เป็นชิ้นๆให้เคี้ยว และหอมกลิ่นอบเชยอ่อนๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเนื้อสับปะรด หรือ แอปเปิ้ล แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นสับปะรดมากกว่า
ชิ้นนี้เป็นโดมช๊อคโกแลต รูปร่างหน้าตาไม่ได้พิเศษ หรือ โดดเด่นอะไร
พอตัดครึ่งออกมาแล้ว พบว่ามีส่วนประกอบต่างๆอยู่ข้างใน โดยส่วนฐานผมคิดว่า น่าจะเป็น Sable Breton คล้ายคุกกี้ แต่มีความนิ่มเล็กน้อย ส่วนสีขาวๆข้างบน คือ มาร์ชเมลโลว์เนื้อฟูเบา เคลือบด้วยดาร์กช็อกโกแลต ตอนทานรู้สึกถึงความนุ่มของมาร์ชเมลโลว์ ซึ่งละลายในปากไปพร้อมกับช็อกโกแลตที่เคลือบข้างบน และเคล้าผสมกับเนื้อสัมผัสของส่วนฐานซึ่งมีกลิ่นของเนย เป็นอะไรที่ดีมากเลยจริงๆ
ตัวคุกกี้น่าจะเป็นคุกกี้เนย เนื้อร่วนๆหน่อย ส่วนตรงกลางเป็นแยมบลูเบอรี่รสชาติหวานอมเปรี้ยว
ชั้นสุดท้าย มีขนมหลากหลายชนิดเลยทีเดียว ทั้งไทย และ เทศ
ชิ้นแรกของชั้นนี้ อารมณ์ประมาณ New york cheesecake มีแยมราสพ์เบอรี่อยู่ข้างบน ซึ่งตัวรสชาติและกลิ่น ช่วยตัดกับรสของชีสเค้กได้ดีเลย
ชิ้นนี้เป็นแป้งคล้ายโดนัท สอดไส้เสาวรส ด้วยตัวไส้ที่เปรี้ยว ได้ตัวแป้ง และไวท์ช็อกโกแลตที่หวาน ทำให้รสชาติของชิ้นนี้เปรี้ยวหวานกำลังดีเลย
ชิ้นนี้สีเด่นมาก ครีมชีสฟรอสติ้งข้างบนรสชาติเข้มข้นดี เปรี้ยวนิดๆ แต่เสียดายที่เนื้อเค้กแห้ง และร่วนไปหน่อย
ตัวนี้ในชื่อคือ Chocolate and Espresso Tart แต่รู้สึกว่ากาแฟอ่อนไปหน่อย ได้แค่รสชาติของช็อกโกแลตเท่านั้น
ข้าวเหนียวมะม่วง รู้สึกชอบตัวข้าวเหนียวมูนมาก กำลังดี ไม่แข็ง ไม่แฉะ รวมถึงมีการนำเสนอที่แตกต่าง คือใช้เมอแรงก์มะพร้าว แทนที่จะใช้กะทิ ส่วนตัวคิดว่า ข้าวเหนียวมูน และการนำเสนอในมุมมองที่แปลกใหม่ ดีมากๆเลยครับ
ทีรามิสุชาเขียว ในถ้วยไวท์ช็อกโกแลต ตัวที่ถือว่าโอเค เพราะได้ทั้งรสชาเขียว ได้ทั้งรสกาแฟ แต่เนื้อสัมผัสอาจจะเบาไปหน่อย คือมีลักษณะเป็นโฟมเบาๆ
สุดท้าย เค้กป๊อบ 3 รส ในโหลน้ำตาล ได้แก่ Cherry Dark Chocolate (มีความเปรี้ยวของเชอรี่เล็กน้อย ซึ่งก็เข้ากับดาร์กช็อกโกแลต) Caramel Banana ,Milk Chocolate (กลิ่นกล้วยนำ มีรสเค็มนิดๆ น่าจะมาจากคาราเมล) ,Oreo Cookie (สำหรับตัวที่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเป็นพิเศษนอกจากความหวาน) ส่วนตัวถ้าให้เลือก รู้สึกชอบตัว Caramel Banana Milk Chocolate มากที่สุด
ปิดท้ายด้วยชั้นวางกนงทองสุดอลังการแบบเต็มๆ
เซตละ 1,588++ บาท สำหรับ 2 ท่าน
ใครต้องการพักผ่อน อย่าลืมมาแวะพัก จิบชา ทานขนมที่โรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ได้เลยนะครับ..เดินทางสะดวก เนื่องจากโรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ติดกับ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสิน และท่าเรือสาธร เลยครับ
เรื่อง/ภาพ : Krangkrai T.
KinlakeStars.com