สวัสดีหน้าร้อนค่ะ วันนี้ KinlakeStars.com – กินแหลกแจกดาวมีข้อเสนอใหม่ ที่จะพาทุกท่านไปเพลิดเพลินกับ Afternoon tea ในร่ม นั่งแอร์เย็นๆ ขนมอร่อยๆ กลางใจเมืองกันค่ะ วันนี้เราจะไปกันที่ โรงเเรมสยามเคมปินสกี้ ใกล้ห้าง สยามพารากอนนั่นเอง โรงเเรมแห่งนี้ ทราบกันอยู่แล้วว่าโอ่อ่า สวย งามสง่า ขนาดไหน สำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากออกไปตากแดดให้ผิวเสีย เราก็มาเพลิดเพลินกันที่ afternoon tea ซึ่งเน้นเป็นขนมคาวหวานของไทยๆผสมความเป็นยุโรปสมชื่อสยามเคมปินสกี้
ในเซตนี้ขนมคาวที่เป็นตัว ชูโรงคือ พายแพนงไก่ ซึ่งรสชาตินั้นน่าทึ่งมาก ดูเผินๆอาจไม่ได้น่าสนใจอะไร แต่เมื่อกัดคำแรกเข้าไป แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน ไส้แกงไก่ภายในระอุ ควันหอมฉุย ส่งกลิ่นมาตั้งแต่คำแรก เป็นกลิ่นเครื่องแกงไทยแท้ๆ รสชาติกลมกล่อมออกเค็มเล็กน้อย เป็นการผสมผสานอาหารไทยเข้าไปในเบเกอรี่ได้อย่างลงตัว แนะนำว่าควรรีบทานตอนกำลังอุ่นๆ เนื่องจากความนุ่ม กรอบของแป้งพายนั้น ทำให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างน่าประทับใจ
ส่วนถัดมาข้างๆกัน ม้าฮ้อ เป็นหมูสับผสมถั่ว ปั้นเป็นก้อนกลมเสิร์ฟมากับสับปะรด มีรสเปรี้ยวตัด ให้ความรุ้สึกคล้ายกับสาคูไส้หมู อีกตัวที่น่าประทับใจในชั้นอาหารคาวนี้ ก็คือ แซนด์วิชน้ำจิ้มเเจ่วเมโย ตัว ขนมปังนุ่ม ที่น่าอร่อยคือไส้ ด้านในที่เป็นชื่อเมนู รสชาติ ของซอสนั้นแซ่บอย่าบอกใคร เเหวกแนวจาก ขนมที่ทานในชุดชาทั่วไป เนื่องจากมีรสชาติเผ็ดๆ เปรี้ยวนำ คล้ายทานลาบ ช่วยให้เซตนี้ไม่เลี่ยนจนเกินไปนัก ขนมชิ้นสุดท้ายเป็นสโคนตะไคร้ เสิร์ฟมากับ ซอสถั่วที่รสชาติคล้าย น้ำจิ้มสะเต๊ะ แต่ต่างตรงที่ซอสถั่วที่นี่ จะมีความเหนียวมากกว่า แห้งกว่า มีรสชาติถั่วเด่นทานกับสโคนตะไคร้นุ่มๆ เข้ากันอย่างมากค่ะ
ถึงตอนนี้เราขอคั่นรายการด้วยการแนะนำชา 2 กาเเรกที่เลือกมาวันนี้ ตัดความเลี่ยนก่อน นั่นคือชา lemon -mint และ oolong -mango ชาตัวแรกทั้งที่ดิฉันไม่ชอบทานมิ้นต์ แต่ต้องยอมรับว่า ชานี้ ทานกับขนมอร่อยจริงๆ เนื่องจากทำให้สดชื่น หอมมิ้นต์ ตัดความเลี่ยนได้ดี มีรสชาติ และความเย็นซ่าของมิ้นต์ติดที่ปลายลิ้นหลังจากจิบไปแล้วอยู่สักพักด้วยค่ะ ส่วนเพื่อนชอบชาอู่หลงกลิ่นมะม่วงเป็นพิเศษ กลิ่นหอมมะม่วงเด่นชัด หอมละมุน หวานเล็กน้อย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ
ต่อกันที่ชั้นที่ 2 มีขนมสามชิ้น ได้แก่ มาการองชาไทย ทำได้ดีทีเดียวเนื่องจาก ที่นี่ตัวมาการองนั้น กรอบนอกนุ่มใน ไม่เเข็ง ไม่นิ่มเละเกินไป รสชาติชาไทยตามสไตล์พื้นบ้าน แต่ กลิ่นเหลือร้าย ชิ้นตรงกลางเป็นฟักทองชีสทาร์ต เเป้งทาร์ตหวาน นุ่ม ไส้ในสีเหลืองของฟักทอง ถึงแม้จะไม่มีรสชาติของฟักทอง แต่ ชีสทาร์ตนี้ไม่เปรี้ยวไม่หวาน เลี่ยนเกินไป และเค้กริมสุดสี่เหลี่ยมนั่นคือ เค้กสับปะรด short cakeนี้ เนื้อแน่น นุ่ม หวานละมุน มีครีมแทรกอยู่ตรงกลาง มีรสเปรี้ยวสับปะรดตัดกับความหวานของเนื้อเค้ก ใครชอบทานshort cake จะปลื้มเป็นพิเศษแน่นอนค่ะ
มาถึงชั้นที่ 3 คุกกี้มะพร้าว ขนมนี้เราสองคนชอบมาก เนื่องจากตัวคุกกี้ แม้จะออกแข็งๆหน่อย เเข็งเนื่องจากข้างในตรงกลางอัดเเน่นด้วยมะพร้าว หวาน หอม มัน เคี้ยวเพลินทีเดียว แถมยังมี ช็อกโกเเลต แทรกอีกสอง ทำให้มีรสขม กลิ่นหอมของช็อกโกเเลตช่วยตัดความหวานเลี่ยนได้มาก อร่อยจนอยากจะซื้อกลับไปทานเล่นซักโหลนึงเลยทีเดียวค่ะ ไฮไลท์อีกอย่างของชั้นนี้คือ สาคูมะม่วง แน่นอนว่าถึงหน้าร้อนทีไร จะมีบางคนรอทาน ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นเเน่ ซึ่งทีนี่เปลี่ยนจากข้าวเหนียวน้ำกะทิมาเป็น สาคูราดน้ำกะทิเล็กน้อย ด้านบนท้อปด้วย มะม่วงหั่นชิ้นเล็กๆ เป็นความอร่อยที่เเปลกใหม่ ไม่อ้วนเกินเท่ากับทานข้าว เหนียว แถมได้รสสัมผัสแปลกใหม่อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ในชั้นนี้ยังมี มะพร้าวแก้ว สีม่วงๆ หอม หวาน มัน ตามแบบฉบับมะพร้าว ซึ่งทำได้ดีทีเดียว และลูกชุบสีสดใสด้วย ส่วนชั้นบนสุด มีเค้กกล้วยหอม ซึ่งประทับใจอีกแล้วเพราะปกติดิฉันไม่ค่อยชอบทานเค้กกล้วยหอมเท่าไหร่ เพราะรู้สึกมีแต่แป้ง ไม่ค่อยมีรสกล้วย แต่ที่นี่ ต้องทานค่ะ เนื่องจากมีกลิ่นกล้วยคล้ายกล้วย ตากเด่นชัดมาก รสชาติ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นกล้วย แหม ทานแล้ว ค่อยสมชื่อหน่อย ส่วนข้างๆกัน เป็นรสชาติน้ำตาลสด และมะนาว ฟังชื่อแปลกๆหน่อย หน้าตาเหมือนเค้กกล้วยหอม แต่ หวานเจี๊ยบของน้ำตาลสด และด้านบนเค้ก มีรสชาติเปรี้ยวตัดของมะนาว ทำให้ไม่เลี่ยนไป คนชอบหวานต้องปลื้มแน่ๆ รับรองค่ะ และสุดท้าย เป็นสโคน ซึ่งคอนเซปต์ของเซตนี้คือ ความเป็นไทย เพราะฉะนั้น จึงมีสโคนแบบใหม่ให้เราลอง คือสโคนกลิ่นใบเตย สีเขียวอ่อนน่ารัก ตัวสโคน ไม่แข็ง ไม่ร่วนไป ทำออกมา แล้ว เราสองคนประทับใจมากเนื่องจาก ด้านนอกเเข็งเล็กน้อย แต่ ด้านในนุ่มมาก เนื้อเเน่น ทานกับเนยจืดและ แยมสับปะรด รสชาติหวานๆ ละมุนลิ้นทีเดียว แถมมีกลิ่นใบเตยด้วย เป็นการนำความเป็นไทยมาใส่ในทุกรายละเอียดของเมนูจริงๆ ส่วนด้านข้าง เป็น สโคนแบบรสชาติดั้งเดิมค่ะ
แต่ที่แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบทานช็อกโกแลต ต้องลองชาชื่อ Irish whiskey ชานี้ดึงดูดดิฉันตั้งแต่ ที่พี่กิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านชา ของโรงเเรมเปิดมาให้ดมเล่นๆ หลังจากนั้น เราก็เกิดอยากลองจิบอย่างมากเนื่องจาก ใบชาแห้งๆ ยังหอมรัญจวนใจมาก กลิ่น ช็อกโกแลตเด่นชัด ดมใกล้ๆ จะได้กลิ่นเหมือนครีม คาราเมล ให้ความรู้สึกหอมหวานอย่างบอกไม่ถูก จนต้องเอ่ยปากขอชิมซักกา ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง กลายเป็นว่า ชานี้ทำให้ดิฉันรู้สึกสดชื่นและมีความรู้สึกร่าเริงได้อีกครั้งหลังจากที่ทานจนอิ่ม กลิ่นของชาเด่นชัดในตัวช็อกโกแลต และความเป็นครีมและคาราเมล รสชาติชาหอมหวาน สีน้ำตาลอ่อนๆ ใครชอบแล้วไม่ลอง ถือว่าพลาดอย่างเเรงค่ะ
ขอเสริมอีกนิด ที่นี่หลังห้าโมงเย็นเป็นต้นไป เค้กในตู้จะลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์ ใครอยากจะมาซื้อ ขอแนะนำ เค้กตัวเด่นของทางร้าน ซึ่งวันนี้ดิฉันชิมมาสามชนิด
1. chocolate casis เป็นมูส blackcurrent
ตัดกับเนื้อช็อกโกเเลตกรุบกรอบ ต้องขอชมเลยว่าทำได้ดีมากจริงๆ เนื่องจาก ชั้นมูสรสชาติเปรี้ยวหวาน เหมือนร้านทั่วๆไป แต่ที่ทำให้ดิฉันประทับใจคือชั้นเนื้อเค้กช็อกโกเเลตที่เชฟทำมาคั่นระหว่างมูส ช่วยดึงรสของผลไม้ให้เด่นชัดขึ้นและมีรสสัมผัสที่มากขึ้น ไม่เลี่ยนเละเกินไป รสชาติของช็อกโกแลตเข้มๆ ออกขมเล็กน้อย ช่วยตัดความหวานและทำให้มีรสเปรี้ยวที่ไม่ได้มีแค่จาก ผลไม้ บรรยายมาขนาดนี้ อาจจะยังจินตนาการกันไม่ออก ขอแนะนำว่าต้องไปลองสักครั้ง ไม่ชอบไม่ว่ากัน
2. white chocolate rasberry
ตัวหลักคือมูสด้านบนสุดเป็นช็อกโกแลตขาว หวานนุ่ม ถัดมาเป็นมูสราสเบอรี่ เปรี้ยวจี๊ด ทำให้เกิดรสชาติที่แตกต่างกันทันทีที่ได้ลองชิมทั้งสองชั้นพร้อมๆกัน ใครชอบทานช็อกโกแลตขาวและผลไม้รสเปรี้ยวน่าจะถูกใจไม่น้อย 3. และใหม่ล่าสุด เค้กที่มีส่วนผสมของ มะม่วง ลิ้นจี่และ อัลมอนด์ ตามลำดับ ด้านบนสุด มูสสีเหลืองสดใส หวานมะม่วงสุกคั่นด้วยชั้นบางๆของลิ้นจี่เปรี้ยวอมหวาน และ ตบท้ายชั้นล่างสุด เป็นอัลมอนด์ที่มาทำเป็นเนื้อเค้กเหนียวๆ กรุบๆแข็งเล็กน้อย หวานมัน เข้ากันได้อย่างดี
สุดท้ายนี้เซตชายามบ่ายผสมกลิ่นอายความเป็นไทยนี้เสิร์ฟช่วงหน้าร้อนนี้เท่านั้น หลังจากช่วงเดือนมิถุนายนไป ทางโรงเเรมจะเปลี่ยนเป็นเซตใหม่ซึ่งต้องติดตามกันว่าเป็นแบบไหน
แต่หากใครกำลังคิดว่าเราคนไทย ไม่น่าไปทานนะขนมไทยแบบนี้ ขอบอกว่าต้องคิดใหม่เนื่องจากที่นี่ผสมผสานความเป็นไทย และความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว รสชาติขนมไม่หนัก ไม่เลี่ยนไปถูกปากคนไทยแน่นอน ราคาไม่แพงเลยสำหรับสองคน และชามีคุณภาพอย่าง Ronnefeldt
เรื่อง : Dr. Kwankamol W.
ภาพ : Pol.Lt. Kittin A.