วันนี้ทาง Kinlakestars อยากจะแนะนำบุฟเฟต์อาหารนานาชาติที่ห้องอาหาร อมาญา ฟู้ดแกลลอรี่ (Amaya Food Gallery) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพ (Amari Watergate Bangkok) โดยออกแบบในแนวร่วมสมัยมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถปรับใช้พื้นที่ได้ตามวัตถุประสงค์และรองรับแขกได้สูงสุดถึง 420 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีบริเวณไวน์ เซลลาร์และห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว 20 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไม่เป็นทางการหรือสถานที่รับประทานอาหารเพื่อการเจรจาทางธุรกิจในส่วนของบริเวณครัวเปิดและพื้นที่โดยรอบ ห้องอาหารยังเปิดรับจองเพื่อจัดงานส่วนตัวได้เช่นกัน
พิเศษ! อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ขอมอบส่วนลดสูงสุด 40% ให้กับผู้ติดตามแฟนเพจของกินแหลกแจกดาว (Kinlakestars) สำหรับมารับประทานอาหารที่อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2560
เมนูของอมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารพื้นเมืองของชาวเอเชียมาพร้อมกับครัวอิตาเลี่ยนด้วยห้องครัวแบบเปิดโดยแบ่งเป็นสเตชั่นต่างๆกันอย่างอมาญาไทยและเนเบอร์, อมาญามาร์เก็ต กริลล์, อมาญาอินเดีย, อมาญาเดลี่, อมาญาทรีท, และอมาญาอิตาเลียน
ค่ำคืนนี้จะเป็น Friday Seafood Night เริ่มเวลา 18:00 – 22:30 ราคา 1,500++ บาทต่อคน (เฉพาะค่าอาหาร) โดยจะเน้นอาหารซีฟู้ด เสมือนยกมาทั้งทะเล อาทิเช่น กุ้งแม่น้ำ กั้ง ล็อบสเตอร์ หอยนางรม ปูอลาสก้า เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีอาหารนานาชาติทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และฝรั่ง จุดเด่นของที่นี่คือ เชฟจะปรุงอาหารกันสดๆ โดยเราสามารถมองเห็นเชฟปรุงอาหารกันเพื่อเพิ่มอรรถรสในการทานอีกด้วย ทุกท่านคงอยากรู้แล้วว่ามีอาหารอะไรบ้าง มาเริ่มดูไลน์บุฟเฟต์กันเลยดีกว่าครับ
ไทย จีน
เมื่อเดินเข้ามาในห้องอาหารจะพบกับสถานีแรกอยู่ทางด้านขวามือ เป็นอาหารไทย และจีน มีส้มตำอาหารพื้นบ้านของบ้านเรา ก๋วยเตี๋ยว โดยเราสามารถสั่งได้เลยว่าต้องการรสชาติแบบไหน ใส่อะไร ไม่ใส่อะไรได้ตามใจชอบ เชฟจะปรุงตามรสชาติที่เราต้องการครับ ถัดมาจะเป็นยำ และอาหารไทยต่างๆที่เป็นที่รู้จักของคนไทยทั้ง พะแนงไก่ ขาหมู ผัดเผ็ด ผัดฉ่า เป็นต้น ถัดจากอาหารไทยจะเป็นอาหารจีนครับ มีทั้งข้าวผัดหยางโจว ติ่มซำนึ่งร้อนๆทั้ง ขนมจีบ ซาลาเปา และซุปประจำวัน
ย่าง
สถานีต่อไปจะเป็นโซนที่ห้ามพลาดเลย คือโซนปิ้งย่าง มีให้เลือกทั้งซี่โครงแกะ กั้ง กุ้งแม่น้ำ เนื้อ ปลาแซลม่อน และไก่ มีเชฟย่างให้ทานกันสดๆ ร้อนๆ ซึ่งย่างออกมาได้สุกกำลังดี รสชาติเยี่ยมมากครับ พร้อมกับเครื่องเคียงมันบด มันฝรั่ง เฟรนฟราย ข้าวโพด ผักนึ่งมาให้ทานด้วยโดยเราสามารถตักเองได้เลย ส่วนตัวผมชอบเนื้อแกะมาก ทานกับมิ้นท์ซอสแล้วเข้ากันดีครับ ดับกลิ่นสาบได้
อินเดีย
ถัดจากสถานีกริลล์ จะเป็นอาหารอินเดียครับ จะเห็นเชฟที่เป็นคนอินเดียทำแป้งนาน อบกันให้ดูสดๆในเตาอบเลย แนะนำว่าเวลาอบเสร็จใหม่ๆแล้วให้รีบทานร้อนๆ ไม่งั้นแป้งจะเหนียว ทานกับแกงอินเดีย 3 ชนิด ทีแกงถั่ว แกงชีส และแกงซีฟู้ด ผมแนะนำแกงชีสอร่อยมากครับ มีความหอมมันของชีส ทานคู่กับแป้งนานแล้วเข้ากันลงตัวมากครับ
สดๆจากท้องทะเล
มาถึงไฮไลท์ของคืนนี้แล้วครับ เป็นศูนย์รวมซีฟู้ด มีทั้ง ล็อบสเตอร์ ทั้ง Maine และ Andaman ก้ามปูอลาสก้า หอยนางรมสดๆมีหลากหลายชนิดทั้ง Irish, Australian, French และ Korean หอยตลับ หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ หอยแครง กุ้งลายเสือ กุ้งแม่น้ำ และปลาหมึก พร้อมทั้งไข่ปลา คาเวียร์ต่างๆให้ทานด้วย
ญี่ปุ่น
ถัดมาเป็นโซนอาหารญี่ปุ่น มีทั้งซูชิ และซาซิมิทั้งเลือกทาน แต่ไม่หลากหลายเท่าไหร่
อิตาเลียน
เดินถัดมาจะเจอกับสถานีของหวานก่อน สถานีอาหารอิตาเลียน เราเดินมาดูโซนอาหารอิตาเลียนก่อนไปดูของหวานก่อนละกัน ที่สถานีอาหารอิตาเลียนเราจะพบกับเชฟที่กำลังปรุงอาหารอยู่ทั้งสปาเก็ตตี้ พิซซ่าตามสั่งได้
มีชีสที่แนะนำคือ เกาด้าชีส และอีเมนทอลชีส ที่ทานง่าย รสชาติหอม มัน กลิ่นไม่แรง สามารถทานคู่กับผลไม้แห้ง หรือองุ่น และไวน์แดงเพื่อเพิ่มรสชาติได้อีกด้วย ส่วน Cold cuts ก็ทานคู่กับขนมปังกระเทียม และผักย่าง
เครื่องดื่ม
ด้านนี้จะเป็นบาร์น้ำ มีเครื่องดื่มไว้บริการนักดื่มทั้งหลายมากมาย สามารถสั่งกับบาร์เทนเดอร์ได้เลยครับ
ของหวาน
มาถึงแล้วสำหรับโซนที่สาวๆรอคอย บางท่านนี่ถึงกับวิ่งเข้ามาดูที่โซนนี้ก่อนเลย เป็นโซนของหวาน เริ่มจากมุมน้ำแข็งใสที่มีเครื่องให้เลือกทานมากมาย แต่ถ้าท่านมาวันที่เป็น Sunday Brunch จะมีเครื่องให้เลือกทานมากถึง 50 ชนิด ได้ยินแล้วต้องบอกว่า ว้าว!
แค่ที่เห็นก็เลือกใส่ไม่ถูกแล้วทั้งเครื่อง ทั้งน้ำหวาน มีทั้งน้ำกะทิ นมข้นหวาน น้ำหวานกลิ่นต่างๆ น้ำเชื่อม อีกทั้งยังมีเค้กนานาชนิด มีคัพเค้ก บลูเบอร์รี่ครีมทาร์ต เค้กโอเปร่า เค้กมะม่วง ขนมใส่ไส้ รวมถึงผลไม้ตามฤดูกาล แคนตาลูป ชมพู่ สับปะรด แก้วมังกร มะละกอ และแตงโม มีฟองดูว์
ขนมหวานไทยที่สับเปลี่ยนทุกวัน กล้วยบวชชี และกุหลาบจามุน เป็นขนมอีกอย่างที่ไม่ควรพลาด เป็นขนมหวานอินเดียทำจากแป้งผสมนม ปั้นกลมๆ ทอดในเนยกี โดยทำน้ำเชื่อมโดยใส่ลูกกระวานและน้ำดอกไม้เทศ กลิ่นหอม มัน ส่วนไอศกรีมที่นี่เป็นเป็นไอศกรีมโฮมเมด พร้อมเครื่องเคียงมากมายให้เลือกใส่แล้วแต่ชอบเลยครับ
ห้องอาหาร อมาญา ฟู้ดแกลลอรี่ (Amaya Food Gallery) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพ (Amari Watergate Bangkok)
โทร: 02-653-9000 ต่อ 355 หรือ 356
E-mail: [email protected]
อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ เปิดให้บริการทุกวัน สำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าตั้งแต่เวลา 06.00-10.30 น. บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.30 น. และเมนูอาหารค่ำแบบ A la carte ตั้งแต่เวลา 18.00-22.30 น. นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารตลอดวันตั้งแต่เวลา 12:00 – 22:30 น. (เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป) อมาญา บาร์ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 น.
โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่
- บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน ราคา 950 บาท++ ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร) ให้บริการวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 12:00 – 14:30 น.
- บุฟเฟ่ต์อาหารมื้อค่ำ ราคา 1,200 บาท++ ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร) ให้บริการวันจันทร์ถึงวันเสาร์ (ยกเว้นวันศุกร์) เวลา 18:00 – 22:30 น.
- ซีฟู้ดบุฟเฟ่ต์ ราคา 1,500 บาท++ ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร) ให้บริการเฉพาะวันวันศุกร์ เวลา 18:00 – 22:30 น. จ่ายเพิ่มท่านละ 650 บาท ++ สำหรับเครื่องดื่มไม่จำกัด
- ซันเดย์ บรันช์ ให้บริการเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 12:00 – 15:30 น.
- 1,800 ++ บาทต่อท่าน (เฉพาะอาหาร)
- 2,499 บาท ++ ต่อท่าน รวมน้ำดื่ม ซอฟดริงค์ น้ำผลไม้ ชาและ กาแฟ
- 2,999 บาท ++ ต่อท่าน รวมน้ำดื่ม ซอฟดริงค์ น้ำผลไม้ ไวน์แดง ไวน์ขาว และ สปารค์กลิ้งไวน์ ไม่จำกัด
- 3,500 บาท ++ ต่อท่าน รวมน้ำดื่ม ซอฟดริงค์ น้ำผลไม้ ไวน์แดง ไวน์ขาว และ สปารค์กลิ้งไวน์ และ แชมเปญ ไม่จำกัด
พิเศษ! อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ขอมอบส่วนลดสูงสุด 40% ให้กับผู้ติดตามแฟนเพจของกินแหลกแจกดาว (Kinlakestars) สำหรับมารับประทานอาหารที่อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2560
*เพียงแจ้งพนักงานว่าเป็นแฟนเพจของกินแหลกแจกดาว (Kinlakestars) รับส่วนลดไปเลย 40%
เรื่อง / ภาพ Chetrat M.
Amaya Food Gallery review
KinlakeStars.com