Author: Kittin Assavavichai

พบกับความสนุกและตื่นเต้นของค่ำคืนปล่อยผีที่ เบียร์ รีพับบลิค (Beer Republic)ในวันที่ 30 และ 31 ตุลาคม 2567 ด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษเฉลิมฉลองวันฮาโลวีน (Halloween) สัมผัสบรรยากาศค่ำคืนปล่อยผีวันฮาโลวีนที่โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ (Holiday Inn Bangkok) กับบรรยากาศสุดสนุกที่เต็มไปด้วยเบียร์หลากหลายชนิดให้เลือกสรร อาหารจานพิเศษสำหรับวันฮาโลวีนเริ่มต้นจานละ 250++ บาท อาทิ มัมมี่ ซอสเซจ โรล (Mummies Sausage Rolls) หรือ แป้งพัฟม้วนไส้กรอกหมูกับซอสมัสตาร์ด เฟรดดี้ ฟิงเกอร์ เฮล สลัด (Freddy Finger Hell Salad) หรือ ยำเล็บมือนาง และ เจสัน เบอร์เกอร์ (Jason Burger) หรือ เบอร์เกอร์เนื้อ ไข่ เบคอน เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอด นอกจากนั้น ยังมีเครื่องดื่มพิเศษสำหรับวันฮาโลวีน โดยค็อกเทล (Cocktail) ราคาเริ่มต้นเพียง 300++ บาท ต่อแก้ว เช่น เรด แบท (Red Bat) ที่มีส่วนผสมของเหล้า โฮเซ่ เคอร์โว่ (Jose Cuervo) ผสมกับราสเบอรี่และทับทิม หรือจะเป็นเครื่องดื่มสุดเก๋อย่าง ชาแม่มด (Witch Tea) ที่มีแอปโซลูท บลู วอดก้า (Absolute Blue Vodka) เป็นส่วนผสมหลัก หรือ ภูเขามรณะ (Death Mountain) เครื่องดื่มรสเข้มจากบีฟีเทอร์ จิน (Beefeater Gin) ส่วนท่านที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถสนุกสนานไปกับค่ำคืนปล่อยผีด้วยเครื่องดื่มม็อกเทล (Mocktail) ที่มีให้เลือกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น บลัดดี้ แครนเบอร์รี่ (Bloody Cranberry) โกสท ฟิซ (Ghost…

Read More

เปิดตัวคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection  by ITALASIA JIM THOMPSON จับมือ ITALASIA เปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษ ‘JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection’ ยกระดับประสบการณ์การดื่มไวน์ด้วยงานศิลป์จากแก้วไวน์ระดับโลกและผ้าไหมไทย จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) แบรนด์ไอคอนิกด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความประณีตและศิลปะการทอผ้าไหมของเมืองไทย ได้เปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญกับ อิตาเลเซีย (Italasia) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าพรีเมียมจากทั่วโลกที่มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์ไวน์และอุปกรณ์การดื่มไวน์ เพื่อเปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษ ‘JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection by ITALASIA’ ซึ่งเป็นการผสานงานฝีมือสุดประณีตจากผ้าไหมไทยกับแก้วไวน์คุณภาพเยี่ยมจาก ZWIESEL GLAS แบรนด์แก้วไวน์ชั้นนำจากเยอรมนี นับเป็นการคอลลาบอเรชั่นที่ลงตัวและมีความหมายอย่างลึกซึ้งในแง่ของการเชื่อมโยงวัฒนธรรมการดื่มไวน์ระดับโลกเข้ากับศิลปะการออกแบบที่มีรากฐานจากประเทศไทย คอลเลกชั่นนี้มีความพิเศษอย่างไร?‘JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection’ นำเสนอเซตแก้วไวน์ที่ผลิตขึ้นจากคริสตัลเกรดพรีเมียม ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่นด้านความใสสะอาด ความคงทน และการออกแบบที่สามารถเสริมรสชาติและกลิ่นของไวน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แก้วไวน์ทุกใบในคอลเลกชั่นนี้ถูกสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจาก ZWIESEL GLAS ที่ผสานความชำนาญในด้านการผลิตแก้วไวน์แบบมืออาชีพและเทคนิคการผลิตแบบเยอรมันที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากคุณภาพของแก้วไวน์แล้ว คอลเลกชั่นนี้ยังมาพร้อมกับกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ประดับด้วยผ้าไหมไทยจากจิม ทอมป์สัน ซึ่งออกแบบอย่างสวยงามและพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงความหรูหราที่เหนือระดับ ทุกกล่องถูกห่อหุ้มด้วยผ้าไหมดีไซน์ทันสมัยที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของจิม ทอมป์สัน และแสดงออกถึงวัฒนธรรมการใช้ผ้าไหมในชีวิตประจำวันของชาวไทย แต่ยังคงความคลาสสิกและความเป็นสากลไว้อย่างลงตัว จึงทำให้คอลเลกชั่นนี้เป็นมากกว่าอุปกรณ์การดื่มไวน์ แต่เป็นงานศิลป์ที่ควรค่าแก่การสะสม หรือมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุข การผสมผสานระหว่างสองแบรนด์ระดับโลกการจับมือกันระหว่าง Jim Thompson และ Italasia ครั้งนี้ นับเป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ได้อย่างลงตัว โดย Italasia ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องไวน์และการเลือกสรรอุปกรณ์ดื่มไวน์ชั้นนำ ได้คัดสรรแก้วไวน์จาก ZWIESEL GLAS แบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบและผลิตแก้วไวน์ที่ตอบโจทย์ทั้งความงามและการใช้งาน มาประกอบเข้ากับผ้าไหมไทยจาก Jim Thompson ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความงดงามระดับโลก ส่งผลให้คอลเลกชั่นนี้ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการของนักดื่มไวน์และนักสะสมที่มีความพิถีพิถัน แต่ยังสร้างประสบการณ์การดื่มไวน์ที่หรูหราและพิเศษยิ่งขึ้น คอลเลกชั่น JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive…

Read More

โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมฉลองครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ (Mr.Berthold Kempinski) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Kempinski มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1843 ในครอบครัวเคมปินสกี้ โดยเริ่มต้นจากการเป็นพ่อค้าไวน์จากเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์ จากนั้นในปี 1872 ได้ย้ายไปที่กรุงเบอร์ลินและเปิดร้านไวน์เล็กๆ พร้อมให้บริการอาหารในราคาที่เป็นกันเอง มร.แบร์โธลด์เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนออาหารในปริมาณที่พอเหมาะคู่กับไวน์ที่เสิร์ฟขายเป็นแก้ว โดยในมื้อนั้นลูกค้าสามารถเลือกเมนูอาหารหลายเมนูคู่กับไวน์ได้ (wine pairing) หรือหากมีงบน้อยกว่า ลูกค้าก็สามารถที่เลือกไวน์ครึ่งแก้วและไวน์หนึ่งแก้วในราคาที่สามารถจับต้องได้ คอนเซ็ปของครอบครัวแบร์โธลด์คือต้องการให้ผู้คนได้สัมผัสความหรูหราไม่ว่าจะอยู่ในชนชั้นทางสังคมระดับใด ด้วยแนวคิดดังกล่าวนี้ จึงทำให้ในปี 1889 ร้านอาหารของครอบครัวเคมปินสกี้ได้การขนานนามให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่ง ต้อนรับลูกค้ามาใช้บริการทุกวันจนถึงปี 1907 มากกว่า 10,000 คน จากนั้นมร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ ได้มอบกิจการให้กับทายาท และได้ขยายกิจการ เปิดร้านอาหารแห่งใหม่ คาเฟ่ รวมถึงโรงแรมสุดหรูในประเทศเยอรมันนี และทั่วทุกมุมโลก ในโอกาสครบรอบ 181 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณร่วมเฉลิมฉลองด้วยเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษ Caramel Kalamansi cake จากเชฟซีม่อน อีเบอร์ฮาร์ท (Chef Simon Eberhardt) พาสทรี้เชฟสัญชาติเยอรมันคนใหม่ของโรงแรมฯ (New Pastry Chef) ที่จะมารังสรรค์ความอร่อยให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง พบโปรโมชั่นพิเศษ Special Duo Set อิ่มเอมกับเค้ก Caramel Kalamansi คู่เครื่องดื่มพิเศษ Cold Brew Cherry ในราคาชุดละ 400++ บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2567 ที่ Berthold Delicatessen ชั้นล็อบบี้…

Read More

‘ลักซ์ชูรี กรุ๊ป ไดนิง ซีรีส์’ การรวมตัวของเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อนำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษพร้อมกันทั่วเอเชีย แปซิฟิก ที่ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล เดอะ ลักซ์ชูรี กรุ๊ป บาย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (The Luxury Group by Marriott International) เปิดตัว ลักซ์ชูรี กรุ๊ป ไดนิง ซีรีส์ (Luxury Group Dining Series) การรวมตัวของเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่มเพื่อนำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษพร้อมกันทั่วเอเชีย แปซิฟิก ที่จัดขึ้นในหลายเมือง หลายประเทศ ภายใต้โรงแรมเครือแมริออททั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ผ่านสุดยอดอาหารชั้นสูง เชฟระดับโลก และการร่วมมือด้านอาหารที่ไม่มีใครเหมือน โดย โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล จะเป็นโรงแรมเดียวในไทย ที่ได้รับคัดเลือกให้จัดงานนี้ ประสบการณ์สุดพิเศษนี้จะเกิดขึ้นใน 6 เมืองสำคัญ ตั้งแต่ โตเกียว บาหลี เมลเบิร์น กรุงเทพฯ มุมไบ และสิงคโปร์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 ในห้องอาหารและบาร์ 23 แห่ง เป็นการแสดงทักษะและฝีมือของเชฟและบุคลากรด้านอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 55 คน ซีรีส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้จะนำเสนอเมนูพิเศษ การทำงานร่วมกันของเชฟแต่ละคน รวมถึงประสบการณ์กินดื่มระดับลักซ์ชูรีสำหรับเหล่าฟูดดี้ที่มีรสนิยมในการรับประทานอาหาร ไฮไลท์ในซีรีส์นี้ที่จะเกิดขึ้นตามจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ได้แก่ เชฟมิชลินรับเชิญที่จะมาปิดห้องอาหารเพื่อโชว์ฝีมือ หรือจะเป็นมาสเตอร์คลาสการรังสรรค์ค็อกเทล กิจกรรมทั้งหมดนี้เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ทางอาหารให้มากขึ้น และพิเศษกว่าเดิม สำหรับ ลักซ์ชูรี กรุ๊ป ไดนิง ซีรีส์ ในกรุงเทพฯ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน ที่…

Read More

เทศกาลเจปีนี้ ร้านอาหารไทยจิม ทอมป์สัน ชวนสัมผัสอีกระดับของความอร่อยแสนอิ่มใจ พร้อมได้สุขภาพกับหลากหลายเมนูเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ ลิ้มรสอาหารไทยร่วมสมัยจานเด็ดของร้านที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นใหม่เป็นอาหารเจรสชาติเยี่ยม ชูการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นระดับพรีเมียมเพื่อเปิดประสบการณ์สุดพิเศษทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่วันนี้ – 15 ตุลาคม 2567 ร้านอาหารไทยจิม ทอมป์สัน พร้อมเสิร์ฟ 6 เมนูเจที่ครบทั้งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ เริ่มจากจานเรียกน้ำย่อยอย่าง ม้าฮ่อ (250 บาท++) ของว่างไทยดั้งเดิมช่วงรัตนโกสินทร์ อร่อยกับความกรุบกรอบของแมคคาเดเมียที่เคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวจนได้ที่ รับประทานคู่กับสับปะรดภูเก็ตย่างให้รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว ต่อด้วยเมี่ยงย่าง (250 บาท++) ที่ใช้ใบชะพลูกลิ่นหอมมาห่อไส้เจจากโปรตีนถั่วเหลืองแทนที่เนื้อวัว นำมาย่างไฟให้หอมและราดด้วยน้ำพริกเผามะขามรสชาติกลมกล่อม อีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยรสจัดจ้าน พล่าเต้าหู้เห็ดหอม (250 บาท++) นำเต้าหู้เห็ดหอมชิตาเกะย่างมาคลุกเคล้ากับน้ำยำสมุนไพรรสชาติถึงใจ นอกจากนี้ร้านอาหารไทยจิม ทอมป์สัน ยังรังสรรค์ทั้งเมนูแกงและอาหารจานหลักในแบบเจ เริ่มที่เมนูที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง ต้มยำหมี่กึงมันหวานญี่ปุ่น (350 บาท++) ที่นำเอาเอกลักษณ์ของต้มยำแบบไทยมาดัดแปลงใส่หมี่กึงมันหวานญี่ปุ่นและเห็ดหูหนู หอมกลิ่นเครื่องต้มยำครบรส เหมาะกับการรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่พิเศษไม่แพ้กันคือ แกงคั่วเป็ดย่างเจ (350 บาท++) ชูความเผ็ดร้อนสไตล์แกงคั่วภาคใต้ ใช้เป็ดย่างเจหมักเครื่องเทศ 7 ชนิด และจานสุดท้ายคือเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยไม่ธรรมดาอย่าง ผัดกะเพราเจ (350 บาท++) ที่รับรองว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้เนื้อสัตว์ นอกจากเมนูอาหารเจแล้ว ในช่วงเทศกาลเจ ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน ยังคงให้บริการเมนูอะลาคาร์ทอาหารไทยร่วมสมัยแบบปกติ นำเสนอเมนูไทย ๆ อันโดดเด่นที่เบลนด์เข้ากับเทคนิคการปรุงสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมเสิร์ฟให้อิ่มอร่อยทั้งช่วงมื้อกลางวันและมื้อค่ำเช่นกัน ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ในโซนอาหารของจิม ทอมป์สัน เฮอริเทจ ควอเตอร์ ที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์อาหารและบริการเหนือระดับ ท่ามกลางบรรยากาศสุดพิเศษ เพื่อสานต่อจิตวิญญาณแห่งความมีอัธยาศัยไมตรีของจิม ทอมป์สันในอดีต ที่ได้สร้างความประทับใจให้แก่แขกผู้มาเยือนด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่นและมื้ออาหารที่น่าจดจำ พบกับเมนูอะลาคาร์ทเจสุดพิเศษได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ตุลาคม 2567 ที่ “ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน” ซอยเกษมสันต์ 2 (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 1) เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันเวลา 11.30 – 16.30 น. (ออเดอร์สุดท้าย 15.30 น.) และมื้อเย็นเวลา 18.00 – 23.00 น. (ออเดอร์สุดท้าย 22.00 น.)…

Read More

กินเจมาจากไหน? เทศกาลกินเจ (หรือ “เจี๊ยะฉ่าย” ในแต้จิ๋ว) มีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนาของจีน โดยเฉพาะจากลัทธิเต๋าและพุทธมหายาน ในช่วงเดือน 9 ของปฏิทินจีน ชาวจีนเชื่อว่าการละเว้นเนื้อสัตว์และอาหารจากสัตว์ทำให้จิตใจและร่างกายบริสุทธิ์พร้อมรับบุญ เป็นช่วงที่เชื่อว่าสวรรค์เปิดรับความเมตตา โดยการกินเจซึ่งเป็นการละเว้นเนื้อสัตว์และผักบางชนิดมีมาช้านานในจีนเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระในนิกายมหายาน ในไทยการกินเจเริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยได้นำเอาข้อปฎิบัตินี้เข้ามาเผยแพร่ แต่ประเพณีกินเจนั้นที่มายังคงเป็นข้อถกเถียง บางกลุ่มเชื่อว่าประเพณีนี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ทางต้อนใต้ของไทย มาเลเซีย สิงค์โปร และมีชื่อเสียงที่สุดที่ภูเก็ต ที่มีพิธีกรรมและการละเว้นเนื้อสัตว์อันเข้มงวดจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ กินเจแล้วได้อะไร? การกินเจนอกจากจะได้บุญและเมตตาต่อสัตว์แล้ว ยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพด้วย การทานผักและอาหารที่มีกากใยมากขึ้นทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ช่วยลดคอเลสเตอรอล และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย หลายคนบอกว่าหลังจากกินเจแล้วร่างกายเบาสบาย พลังงานดีขึ้น แถมยังเป็นการฝึกจิตใจ ให้สงบและเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และหากเป็นคนที่เชื่อในเรื่องบุญกุศล ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะสะสมแต้มบุญได้เต็มที่! สภาวการณ์การกินเจในปัจจุบัน ในปัจจุบันการกินเจไม่ได้จำกัดเฉพาะในประเทศไทยหรือประเทศจีนอีกต่อไป คนทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจเทศกาลนี้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ความเป็นมิตรต่อสัตว์ กระแสการกินมังสวิรัติ (Vegetarianism) และวีแกน (Veganism) เติบโตในหลายประเทศ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย โดยเฉพาะในประเทศที่มีคนจีนอาศัยอยู่มาก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง รวมถึงชุมชนชาวจีนในสหรัฐฯ นอกจากเทศกาลกินเจแล้ว หลายเมืองใหญ่ทั่วโลกก็มีร้านอาหารและสินค้าที่ปราศจากเนื้อสัตว์ให้บริการตลอดปี ในยุโรป ร้านอาหารเจและวีแกนเติบโตเร็วมาก เช่น ในกรุงลอนดอนและเบอร์ลิน มีร้านอาหารเจและวีแกนเพิ่มขึ้นหลายเท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แม้แต่ในประเทศไทยเอง การกินเจไม่ได้จำกัดเฉพาะเทศกาล 9 วันอีกต่อไป แต่กลายเป็นกระแสนิยมของการดูแลสุขภาพ คนที่ไม่เคยกินเจเลยก็เริ่มหันมาลอง เพราะมันเข้าถึงง่ายและมีตัวเลือกมากมาย สถานการณ์การกินเจทั่วโลก การกินเจได้รับการยอมรับในระดับโลกไม่ใช่แค่เพราะศาสนาเท่านั้น แต่เพราะเป็นวิธีหนึ่งในการลดการใช้ทรัพยากรและลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมด้วย มีรายงานว่าการเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และหลายคนมองว่าการลดเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลกินเจเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีการรณรงค์ในประเทศต่างๆ เพื่อสนับสนุนการกินเจ เช่น ในสหราชอาณาจักร กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผลักดันให้ประชาชนลดการบริโภคเนื้อสัตว์และเข้าร่วมเทศกาลกินเจเพื่อสุขภาพและโลกที่ยั่งยืน ในสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งมีชาวจีนเป็นจำนวนมาก มีการจัดเทศกาลกินเจที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับในไทย และยังมีการนำเสนอเมนูเจแบบฟิวชันที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมอาหารตะวันตก เช่น พิซซ่าเจ เบอร์เกอร์เจ หรือแม้แต่ไอศกรีมเจที่เริ่มได้รับความนิยมในหลายประเทศ เมื่อกินเจกลายเป็นเทรนด์ระดับโลก การกินเจในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของศาสนาอีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นวิถีการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพ จิตใจ และสิ่งแวดล้อม การละเว้นเนื้อสัตว์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งเชื่อมโยงถึงความเมตตาและความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ Vegetarian Festival Kin Seasonal Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว…

Read More

Story : Nattawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. สวัสดีท่านผู้ที่หลงใหลในศิลปะการทานอาหารอย่างมีรสนิยมทุกท่านครับ วันนี้ทางทีม Kinandleisure ขอต้อนรับทุกท่านสู่การเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์อีกครั้ง กับประสบการณ์ Fine Dining อันน่าประทับใจที่ไม่เหมือนใคร คราวนี้เราขอพาทุกท่านสัมผัสกับ Progressive Thai Cuisine ฝีมือเชฟน็อค พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ เชฟไทยมากฝีมือ ที่ได้บรรจงรังสรรค์อาหารไทยในมิติใหม่ ผสมผสานศิลปะการทำอาหารแบบฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงาม การนำเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือรสชาติที่ซับซ้อนในทุกคำ ทุกจานเต็มไปด้วยแนวคิดที่ล้ำลึกและรายละเอียดที่พิถีพิถัน นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับมื้ออาหารที่ไม่ใช่แค่อาหาร แต่เป็นประสบการณ์แห่งความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ที่คุณจะไม่ลืม ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะต้องหลงรักในความพิเศษนี้ และขอเชิญชวนให้ไปสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วยตัวเอง Location สำหรับห้องอาหาร Restaurant INT ตั้งอยู่ค่อนข้างลับซักหน่อย โดยอยู่ที่โรงแรม Best Western ในซอยสุขุมวิท 20 ซึ่งห้องอาหารตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟฟ้าแล้วต่อรถเข้ามา หรือสามารถเดินทางมาได้โดยรถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามหรือสถานที่ใกล้เคียง (เพราะที่ Best Western ที่จอดรถค่อนข้างจำกัด) Decoration ภายในห้องอาหาร Restaurant INT มีการตกแต่งโดยใช้โทนสีเข้ม และแสงไฟสีเหลืองอ่อนสลัวๆ ให้ความรู้สึกถึงความโมเดิร์น เรียบง่าย แต่เรียบหรู โดยผู้รับประทานสามารถมองเห็นขั้นตอนการเตรียมอาหารและการเตรียมเสิร์ฟจากทีมเชฟได้อย่างชัดเจน เนื่องจากตรงสเตชันจะเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกใกล้ชิดและเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตา โดยเนื่องจากจำนวนที่นั่งของทานร้านมีจำกัด จึงขอให้ทุกท่านทำการจองโต๊ะอาหารก่อนมารับประทานครับ Chapter 3 : Yesteryears สำหรับ Theme อาหารในคราวนี้ของทางร้าน พร้อมนำเสนอใน Theme : Yesteryears ซึ่งมีคอนเซ็ปที่น่าสนใจ คือการมอบประสบการณ์ทางอาหารไทยซึ่งเป็นเมนูที่เป็นที่นิยมจากจังหวัดต่าง ๆ ให้กับผู้รับประทาน โดยที่มีความพิเศษคือการปรับรูปแบบการนำเสนอ ด้วยไอเดียที่มีความสร้างสรรค์และเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ที่มีความรอบด้าน เพื่อการนำเสนออาหารไทยดั้งเดิมเหล่านี้ในสไตล์ Progressive Thai Cuisine ด้วยเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีต ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือการนำอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมมาเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงใหม่ ให้กลายเป็นอาหารที่มีรูปแบบและการจัดจานที่ทันสมัย มีลักษณะเป็น Fine Dinning ในลักษณะแบบฝรั่งเศส พร้อมยังคงเอกลักษณ์ของรสชาติที่ยังคงอยู่ตามแบบฉบับของอาหารไทย ซึ่งทุกท่านจะได้พบกับอาหารไทยที่มีชื่อคุ้นหูต่างๆ ถูก Reconstruct…

Read More

ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ที่สุดของร้านอาหารจีนคุณภาพในเครืออิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอาหารเจ ประจำปี 2567 กับเมนูอาหารเจต้นตำรับสไตล์กวางตุ้งที่พิถีพิถันใส่ใจในการทำทุกเมนู รังสรรค์โดยเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟใหญ่มากด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ออกมาเป็น 18 เมนูอาหารเจพรีเมียมที่มาพร้อมกับความมงคล โดยเป็นเมนูติ่มซำเจ 9 เมนู และเมนูอะลาคาร์ตเจ 9 เมนู ในราคาเริ่มต้น 60 – 450 บาท (ราคาไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 – 11 ตุลาคม ศกนี้ พบกับ 18 เมนูอาหารเจที่ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” เริ่มที่เมนูอะลาคาร์ต ได้แก่ “เต้าหู้ทอดเห็ดมอเรลผัดพริกเกลือเจ” ราคา 450 บาท รสชาติอร่อยเข้มข้น และได้ประโยชน์จากเห็ดมอเรล “ซุปเสฉวนเยื่อไผ่เห็ดมอเรลเจ” ราคา 450 บาท ซุปเพื่อสุขภาพสไตล์เสฉวน “เป็ดปักกิ่งสาหร่ายเจ” ราคา 300 บาท เมนูทอด กรอบ อร่อย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มครบรส “ผัดโหงวก๊วยกุ้งเจในวงเผือกทอด” ราคา 450 บาท “ผัดเห็ดรวมหน่อไม้ฝรั่งซอสพริกไทยดำเจ” 320 บาท นอกจากนี้ยังมีพาเหรดเมนูจานเด็ด ทุกเมนูราคา 350 บาท ได้แก่ “ถั่วแขกผัดกุ้งเจ” “เต้าหู้ทอดราดผักหมุ่ยชอยและเห็ดสับเจ” และ “ข้าวผัดกุ้งเจซอสเห็ดทรัฟเฟิล” ปิดท้ายด้วยของหวาน “โอวหนี่แปะก๊วย” ราคา 60 บาท ในส่วนของเมนูติ่มซำเจ เชฟเน้นความอร่อยด้วยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากพืชเป็นหลัก ปรุงสดใหม่แบบวันต่อวัน โดยเมนูติ่มซำเจจะให้บริการในช่วงเวลา 11.00 – 18.00 น. ในราคา 120 – 140 บาท ได้แก่ “ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ผักรวมเจ” “ฮะเก๋ากุ้งเจสไตล์แต้จิ๋ว” “ขนมจีบเป๋าฮื้อเจ” “ขนมผักกาดเจี๋ยนเจ” “ฟองเต้าหู้เห็ดรวมทอดเจ” “เผือกทอดเจ” “ซาลาเปาไส้ผักเจ” “เกี๊ยวทอดครีมสลัดเจ” และ “เกี๊ยวผักต้มราดซอสเปรี้ยวหวานเจ” เทศกาลกินเจปีนี้มาอิ่มอร่อยพร้อมสุขภาพที่ดีไปกับเมนูเจจากเฮยยินที่ตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและความเป็นมงคล ตั้งแต่วันที่ 2 – 11 ตุลาคม ศกนี้เท่านั้น ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เปิดให้บริการ 2 ช่วง มื้อกลางวัน เวลา 11.00 – 15.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 22.00 น. พร้อมห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว 4 ห้อง (ค่าบริการ 1,000 – 2,000 บาท หากมียอดใช้จ่ายตามที่กำหนด ฟรีค่าบริการห้องส่วนตัว) สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 080-964-5423 และ LINE: @heiyinbangkok ดูรายละเอียดอื่นๆ และติดตามอัปเดตของร้านได้ที่เว็บไซต์: www.heiyinbangkok.com Facebook: www.facebook.com/heiyinbangkok และ Instagram: www.instagram.com/heiyinbangkok Kin Promo Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ…

Read More

“ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน” ภัตตาคารอาหารจีนชั้นนำในเครืออิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจ ประจำปี 2024 ชวนอิ่มอร่อยกับอาหารเจเลิศรสสไตล์ฮ่องกงแท้ ทั้งเมนูอะลาคาร์ตและติ่มซำที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ รังสรรค์โดยเชฟเชาไท้ชิง เชฟใหญ่ชาวฮ่องกงมากด้วยประสบการณ์ยาวนาน พร้อมให้บริการทั้งแบบรับประทานที่ร้านและเดลิเวอรี่ ในราคา 90 – 2,800 บาท (ราคาไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ตั้งแต่วันที่ 2 – 11 ตุลาคม ศกนี้ เริ่มด้วยเมนูอะลาคาร์ตเจ ได้แก่ “ซุปเกี๊ยวน้ำเสฉวนเจ” ราคา 350, 1,400 และ 2,800 บาท เกี๊ยวน้ำไส้ผักสไตล์เสฉวน “ซุปเห็ดมอเรลเห็ดหอมเก๋ากี้ผักฉ่อยเจ” ราคา 350, 1,400 และ 2,800 บาท ซุปน้ำใสใส่เห็ดมอเรล เห็ดหอม เก๋ากี้ และผักฉ่อย ช่วยบำรุงกำลัง “เผือกทอดวงแหวนผัดโหงวก๊วยไก่เจ” ราคา 550 และ 1,100 บาท เมนูเอาใจคนรักของทอดกับเครื่องโหงวก๊วยและไก่เจผัด เสิร์ฟในเผือกยีทอด หอมอร่อยลงตัว “เต้าหู้เทวดาเห็ดมอเรลน้ำมันหอยเจ” ราคา 600 และ 1,200 บาท เต้าหู้นุ่มๆ พร้อมเห็ดมอเรลเจี๋ยนน้ำมันหอย “เห็ดรวมสอดไส้หมิ่นกั๊นน้ำมันหอยเจ” ราคา 550 และ 1,100 บาท เมนูขายดีตลอดกาลที่ปรุงจากเห็ดรวมยัดไส้หมิ่นกั๊นกับแป้งเจที่ทางร้านทำขึ้นเอง ซึ่งนำไปนวดและทอดก่อนนำมาผัด  “มันเทศบดสอดไส้เห็ดรวมเจ” ราคา 550 และ 1,100 บาท มันเทศบดสอดไส้เห็ดต่างๆ ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน นอกจากนี้ยังมีเมนู “ขนมผักกาดผัดซอสเสฉวนเจ” ราคา 350 และ 700 บาท “หมี่ซั่วผัดเห็ดรวมซอสเห็ดทรัฟเฟิลเจ” ราคา 490 และ 980 บาท “เทมปุระผักรวมเจ” ราคา 500 และ 1,000 บาท และ “มะเขือยาวเต้าหู้ซอสเสฉวนหม้อดินเจ” ราคา 520 และ 1,040 บาท ปิดท้ายด้วยของหวาน “วอแป๋งไส้ถั่วแดง” ราคา 300 และ 600 บาท ของหวานสไตล์ฮ่องกงที่แป้งหอมนุ่มไส้ถั่วแดง อร่อยลงตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูติ่มซำเจสไตล์ฮ่องกงที่แป้งนุ่มไส้ฉ่ำหอมอร่อย ให้บริการในราคา 90 – 120 บาท ได้แก่ “ฮะเก๋าเจ” “ฝั่นโก๋เจ” “ซาลาเปาไส้เจนึ่ง” “ซาลาเปาไส้ลูกบัวเจ” “ปอเปี๊ยะไก่เจทอด” “ฮั่มสุ่ยกอเจ” (แป้งข้าวเหนียวไส้ไก่เจทอด) “ขนมผักกาดเจ” “เผือกสอดไส้ทอดเจ” และ “ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ” เทศกาลกินเจปีนี้มาอิ่มอร่อยสุขภาพดีกับเมนูสไตล์ฮ่องกงคุณภาพได้ที่ร้าน “ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน” ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ อาคาร 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำรองความอร่อย โทร. 02-833-5434-5 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือตามข่าวสารล่าสุดจากทางร้านได้ที่เว็บไซต์ www.hkfisherman.com Facebook: Hong Kong Fisherman และ LINE: @hongkongfisherman และอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อความสะดวกสบาย สามารถสั่งเมนูอาหารเจผ่านแอปพลิเคชัน LINEMAN และ GrabFood Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน…

Read More

กรุงเทพฯ 26 กันยายน 2567: โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยกับ New Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา ที่ห้องอาหารเฟลอริช ห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (MICHELIN Bib Gourmand)  เชฟชัชษร ประทุมมา มีประสบการณ์ด้านการปรุงอาหารมากมายทั้งในเอเชียและยุโรป อีกทั้งยังนำเสนอรสชาติไทยแสนอร่อยให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง และได้ร่วมงานกับโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในตำแหน่ง Executive Sous Chef เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีสไตล์เฉพาะไม่เหมือนใคร เชฟชัชษรได้คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่และดีที่สุด นำมารังสรรค์อย่างพิถีพิถัน นำเสนอเป็น New Chef’s Table ในรูปแบบที่หรูหราน่าลิ้มลองลิ้มลองอรรถรสความอร่อยของเมนูอาหารไทย 6 คอร์ส โดยเริ่มจากข้าวเกรียบปลากระพงเสิร์ฟพร้อมน้ำพริกเผาโฮมเมด ต่อด้วย 2 เมนูเรียกน้ำย่อยที่เสิร์ฟมาคู่กันอย่าง ต้มข่าพานาค็อตต้าหอยเชลล์ โดยเชฟชัชษรได้คัดสรรหอยเชลล์ฮ๊อกไกโดเนื้อแน่น วางน้ำต้มข่ารสชาติจัดจ้านที่มาในรูปแบบชองพานาค็อตต้าไว้ด้านบนของตัวหอยเชลล์ ท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ เสิร์ฟมาคู่กับ โครเกต์แกงเผ็ดเป็ดย่าง ที่เชฟนำเป็ดย่างมาคลุกกับข้าวหอมมะลิและพริกแกงแดง นำไปทอดจนสุกหอม กรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟคู่มากับน้ำแกงเผ็ดเป็ดย่าง ต่อด้วยเมนูเพิ่มความสดชื่นกับเมนู ปูซ่อนรส ที่เชฟนำเนื้อปูทะเลผสมไข่มาปรุงรสในรูปแบบยำ เสิร์ฟพร้อมแตงกวาสด แตงกวาดอง เจลลี่แตงกวา และเจลลี่น้ำมะนาวสดด้านบน ไม่ควรพลาดเมนูซุป ที่เชฟพร้อมเสิร์ฟ โป๊ะแตกทะเล รสชาติจัดจ้านผสมผสานความเป็นไทยของเครื่องสมุนไพรในต้มยำโป๊ะแตก เข้ากับความเป็นตะวันตกของปลาค็อดพร้อมราวิโอลี่ซีฟู๊ดได้อย่างกลมกล่อม เพิ่มความสดชื่นก่อนถึงเมนูจานหลักด้วย กรานิต้าตะไคร้เสิร์ฟคู่แยมสัปปะรด อิ่มอร่อยกับเมนูจานหลักอย่าง แกงหมูใบชะมวงแบบจันทบุรี เคี่ยวจนรสชาติเข้มข้นเสิร์ฟพร้อม ยำใบชะมวง และ ข้าวกล้องผสมธัญพืชห่อใบบัว ที่ทางเชฟเลือกข้าวกล้องหอมมะลิมาคลุกเคล้าผสมกับธัญพืชมากมายผัดจนหอมและห่อในใบบัวเพิ่มความหอมอร่อย  ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างเมนู ลิ้นจี่กุหลาบ ของหวานรสชาติละมุนที่นำวานิลลาครีมรสกุหลาบเนื้อเนียน สอดไส้ด้วยลิ้นจี่สดและเคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตกลิ่นลิ้นจี่และขึ้นรูปแบบโฮมเมดให้เหมือนผลลิ้นจี่ เสิร์ฟคู่เจลลี่ยูซุ New Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา พร้อมบริการคุณในมื้อค่ำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในราคาท่านละ 2,700++ บาท ที่ห้องอาหารเฟลอริช ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูล​เพิ่มเติม​และสำรองที่นั่งได้ที่​โทร. 02…

Read More