โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมฉลองครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ (Mr.Berthold Kempinski) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Kempinski มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1843 ในครอบครัวเคมปินสกี้ โดยเริ่มต้นจากการเป็นพ่อค้าไวน์จากเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์ จากนั้นในปี 1872 ได้ย้ายไปที่กรุงเบอร์ลินและเปิดร้านไวน์เล็กๆ พร้อมให้บริการอาหารในราคาที่เป็นกันเอง มร.แบร์โธลด์เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนออาหารในปริมาณที่พอเหมาะคู่กับไวน์ที่เสิร์ฟขายเป็นแก้ว โดยในมื้อนั้นลูกค้าสามารถเลือกเมนูอาหารหลายเมนูคู่กับไวน์ได้ (wine pairing) หรือหากมีงบน้อยกว่า ลูกค้าก็สามารถที่เลือกไวน์ครึ่งแก้วและไวน์หนึ่งแก้วในราคาที่สามารถจับต้องได้ จากนั้นมร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ ได้ขยายกิจการสู่ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงโรงแรมสุดหรูในปัจจุบัน ในโอกาสครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณร่วมเฉลิมฉลองด้วยเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษจากเชฟรับเชิญ เชฟสตีเฟ่น โฮลเล่ (Chef Steffen Holle) หัวหน้าพาสทรี้เชฟ (Head pâtissier) จาก จาก Hotel Adlon Kempinski Berlin ประเทศเยอรมนี ที่จะมารังสรรค์ความอร่อยสไตล์เยอรมันสูตรต้นตำรับที่ Berthold Delicatessen ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธนเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ – 18 ตุลาคม 2566 สำหรับเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษจะมีให้ทุกท่านลิ้มลองตั้งแต่ วันนี้ – 31 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นOld German Apple Pie พายแอปเปิ้ลเยอรมันเก่า Classic Adlon Cake เค้ก Adlon สุดคลาสสิก, เค้ก Baumkuchen, เค้ก Frankfuter Kranz และอีกมากมาย เชฟสตีเฟ่น …
Author: Kittin Assavavichai
ร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์สุดประทับใจ ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ดื่มด่ำกับเมนูสุดพิเศษที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารญี่ปุ่นที่มีกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศส โดยเปิดให้บริการเพียง 3 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2566 เชิญชวนคุณมาเพลิดเพลินกับ ‘Taste of Hakuba: A Gastronomic Journey to Japan’ ที่รังสรรค์โดยเชฟฮิเดอะกิ นากายะ (Hideki Nagaya) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef ) จากคานอลลี่ รีสอร์ท (Kanolly Resort) ประเทศญี่ปุ่น เชฟมากประสบการณ์ที่เคยผ่านงานในห้องอาหารชั้นนำระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ Narisawa ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังระดับมิชลิน 2 ดาว และ L’Effervescence ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูมิชลิน 3 ดาว เชฟฮิเดอะกิได้นำเอาทักษะที่ฝึกฝนมาอย่างประณีต ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านจิตนาการ จนสร้างสรรค์สไตล์การทำอาหารในแบบฉบับของตัวเอง ลิ้มลองรสชาติที่ชวนหลงใหลของมื้ออาหาร 7 คอร์ส โดยทุกคอร์สนั้นมีการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไปและแสดงให้เห็นถึงปรัญชาในการทำอาหารที่เน้นความเรียบง่าย เลือกใช้วัตถุดิบอย่างพิถีพิถันและรสชาติแบบญี่ปุ่น ประยุกต์เข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศส โดยเมนูไฮไลท์ คือ สเต๊กเนื้อมิยางิวากิว ซึ่งเอาใจคนรักเนื้อด้วยการคัดสรรเนื้อวัวชั้นเลิศจากประเทศญี่ปุ่น นำมาย่างอย่างพิถีพิถันสุกนุ่มกำลังดี กลิ่นหอมรมควันช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้เข้มข้นกลมกล่อม ค่ำคืนพิเศษที่ทุกท่านไม่ควรพลาด กับประสบการณ์อาหารมื้อค่ำสุดครีเอทีฟ ‘Taste of Hakuba: A Gastronomic Journey to Japan’ 7 คอร์ส ราคา 4,990++ บาท ต่อท่าน หรือยกระดับอรรถรสอาหารไปอีกขั้นด้วยเครื่องดื่ม พรีเมี่ยมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ เพิ่มในราคาเพียง 1,599 ++ บาท ต่อท่าน ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ชั้นที่ 60 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 19.30-21.30 น. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. +66 (0)…
จากกระแสการตอบรับและความสำเร็จในการจัดงานJapanese Fair เมื่อปี 2565 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงาน Japanese Fairที่จะจัดขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sense of Japan” โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ถึงวันที่ 29ตุลาคม 2566ซึ่งภายในงานทุกท่านจะได้ร่วมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งกับศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นผ่านเวิร์กชอปทุกท่านจะได้เรียนรู้และลงมือทำด้วยตัวเอง รวมไปถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างเหนือระดับ“ประเทศญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และวัฒนธรรมที่สวยงามยาวนานนอกจากนี้ประเทศญี่ปุ่นยังมีชื่อเสียงในด้านการต้อนรับและการเอาใจใส่ในการบริการ หรือที่เรียกว่า “โอโมเตนาชิ”(Omotenashi) คือการให้บริการที่เหนือความคาดหวัง เพื่อสร้างประการณ์ที่ดีและความประทับใจนอกจากนี้ยังเป็นปรัชญาการให้บริการของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯและผมรู้สึกยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่เราจะได้จัดงานอันยอดเยี่ยมนี้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้” มร. นิกซ์ แฮมเมอร์ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวไฮไลท์เมนูของห้องอาหารสำหรับงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2023 ได้แก่:วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ – สำหรับผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะและใช้เวลาหลังเลิกงานกับเพื่อนฝูงและคนรัก ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ เปิดให้บริการบุฟเฟต์อิซากายะพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดงานประจำปี Japanese Fair – Senseof Japan เพลิดเพลินกับค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานด้วยบุฟเฟต์อิซากายะและยะไตที่มีให้เลือกหลากหลายชนิดดื่มด่ำไปกับค่ำคืนอันแสนสนุกด้วยสุราจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมดนตรีสดเพื่อความบันเทิงตลอดค่ำคืนให้บริการตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 22:00 น.แพ็กเกจบุฟเฟต์อิซากายะพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่นไม่อั้น 4 ชั่วโมง ราคา 3,300++ บาท ต่อท่านแพ็กเกจบุฟเฟต์อิซากายะรวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ราคา 2,300++ บาท ต่อท่านแพ็กเกจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่นไม่อั้น 4 ชั่วโมง ราคา 1,500++ บาท ต่อท่าน Park Ventures Ecoplex, 57 Wireless Road, Bangkok 10330 ThailandT. +66 (0) 2687 9000 F.…
โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท เฉลิมฉลองการกลับมาของล็อบบี้ด้วยพิธีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ทุกท่านได้ชมความหรูหรา ความสง่างาม และการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความอ่อนช้อย งดงาม ปราณีตของประเทศไทย และการออกแบบที่หรูหรา มาพร้อมเรื่องราวที่น่าประทับใจของฝรั่งเศส ภายในงานประกอบไปด้วยพิธีตัดริบบิ้น ซึ่งนำโดยโมด บายย์ลี่ย์, ประธานบริหารกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล ร่วมกับเรเน่ นิฮอฟ กรรมการผู้บริหารบริษัทเดลมอนสยาม, มาร์คัส เคลเลอร์ ผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล, โอลิเวอร์ ชนัทส์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท และผู้จัดการภูมิภาคประเทศไทย และโทมัส เมเยอร์ รองประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการสูงสุดกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล โดยงานนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมฯ ที่จะยกระดับการบริการ และเพิ่มประสบการณ์การณ์ของทุกท่านให้เต็มไปด้วยความหรูหราที่น่าประทับใจอย่างไม่รู้ลืม และงานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญสำหรับโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ที่ได้เฉลิมฉลองก้าวใหม่ที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและต้อนรับยุคใหม่แห่งความหรูหรา และสง่างาม ในภาพ จากซ้าย: มาร์คัส เคลเลอร์ ผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล, เรเน่ นิฮอฟ กรรมการผู้บริหารบริษัทเดลมอนสยาม, โมด บายย์ลี่ย์, ประธานบริหารกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล, โอลิเวอร์ ชนัทส์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท และผู้จัดการภูมิภาคประเทศไทย และ โทมัส เมเยอร์ รองประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการสูงสุดกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล อีกหนึ่งความน่าสนใจในค่ำคืนนี้ก็คือ “เมซง มิซูกิ” บาร์เปิดใหม่ของโรงแรมฯ ที่พร้อมให้คุณได้เข้าไปอยู่ในโลกของวิสกี้ ค็อกเทล และซูชิโดยแขกจะได้รับความสุขจากการรับประทานอาหาร ลิ้มลองเมนูเลิศรสที่ผสมผสานวัฒนธรรมและรสชาติเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นจุดเด่นของความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของโซฟิเทล ในส่วนของล็อบบี้ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ณ ตอนนี้ ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของความสุขและการเฉลิมฉลอง โดยได้รับการออกแบบใหม่ที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทางฝรั่งเศสเข้ากับการออกแบบของไทยร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งได้แฝงวัฒนธรรมและประเพณีไทยอย่าง “เทศกาลสงกรานต์” และกลีบดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนช้อย งดงามไว้ในโคมไฟระย้า ถือเป็นฉากหลังที่น่าหลงใหลสำหรับการเฉลิมฉลองเป็นอย่างยิ่ง “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ความผูกพันระหว่างประเทศไทยและฝรั่งเศสนั้นเหนียวแน่น และไม่มีที่ไหนที่จะเชื่อมโยงสิ่งนี้ได้ชัดเจนไปกว่าโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ที่ได้ผสมผสานทั้งสองวัฒนธรรมไว้ได้อย่างงดงาม เป็นเวลาเกือบหกทศวรรษแล้วที่แบรนด์ของเราเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราแบบฝรั่งเศส และ ณ ใจกลางกรุงเทพฯ เราได้ผสมผสานมันเข้ากับความอบอุ่นและความอ่อนน้อมในการต้อนรับแบบไทยได้อย่างลงตัว ล็อบบี้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะโคมไฟระย้าที่โดดเด่น ซึ่งเปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองอันมีชีวิตชีวาของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งสะท้อนถึงท่าทางการไหว้แบบไทย พร้อมใช้สุนทรียภาพแบบฝรั่งเศสทำให้โคมไฟระย้าชิ้นนี้ได้ชื่อว่า “การไหว้ และ สายน้ำ”…
วันหยุดอันแสนสบายในวันอาทิตย์ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนที่คุณรักด้วยการรับประทานในบรรยากาศแสนสบายกับ เมลโล่ ซันเดย์ บรั้นช์ (Mellow Sunday Brunch)อันเลื่องชื่อที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม ณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมลโล่ซันเดย์ บรั้นช์ (Mellow Sunday Brunch) เปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12:00 น. ถึง 15:00 น. ในราคาท่านละ3,500++ บาทวันอาทิตย์คือวันแห่งการพักผ่อนกับคนที่คุณรักพูดคุยในเรื่องต่างๆที่ผ่านมาพร้อมทั้งอิ่มเอมไปกับอาหารรสเยี่ยมวัตถุดิบชั้นเลิศกับบรรยากาศอันแสนสบายและเป็นกันเอง เมลโล่ ซันเดย์ บรั้นช์ (MellowSunday Brunch) ณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟที่จะเติมเต็มบ่ายวันอาทิตย์ของคุณให้สมบูรณ์แบบเพลิดเพลินไปกับอาหารหลากหลายเมนูตระการตาไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นและอาหารตะวันตกที่เชฟได้คัดสรรวัตถุดิบและปรุงอย่างพิถีพิถัน Park Ventures Ecoplex, 57 Wireless Road, Bangkok 10330 ThailandT. +66 (0) 2687 9000 F. +66 (0) 2687 9001 E. [email protected] facebook.com/theokuraprestigebangkok อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่ อาทิ ปูอลาสก้า หอยเรเซอร์แคลมหอยแมลงภู่นำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ หอยนางรมนำเข้า และอื่นๆอีกมากมายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล สามารถเพลิดเพลินกับสเตชั่นอาหารทะเลย่างสดใหม่เนื้อเด้งหวานฉ่ำ อาทิ กุ้งลายเสือ หอยเชลล์และปลาหมึกอีกทั้งยังมีสเตชั่นอาหารญี่ปุ่นให้ทุกท่านได้เลือกลิ้มลองกันอย่างจุใจ เช่นซาชิมิตามฤดูกาล (ฮามาจิ แซลมอน ทูน่า หอยปีกนกและปลาหมึก)นอกจากนั้นทุกท่านยังสามารถเลือกอิ่มอร่อยกันได้ไม่อั้นกับซูชิหน้าต่างๆ อาทิซูชิหน้าปลาไหล ซูชิกุ้ง ซูชิปูอัด ซูชิหน้าปลาฮามาจิ และแคลิฟอร์เนียมากิบุฟเฟต์มื้อสายวันอาทิตย์มีเมนูหลากหลายให้คุณได้เลือกสรรและอิ่มอร่อยรวมไปถึงสเตชั่นโคลด์ คัท (cold cuts) นำเข้าที่เชฟบรรจงคัดสรรมาอย่างหลากหลายครบทุกความต้องการ อาทิ พาร์มาแฮม ซาลามิ โชริโซ่ แซลมอนรมควันแซลมอนหมักซอสโชยุ แซลมอนหมักซอสบีทรูทและเอาใจคนรักชีสกับชีสพรีเมียมหลากหลายชนิดนอกจากอาหารทะเลสดๆ ซูชิ และซาชิมิยังมีเมนูไฮไลท์อันแสนอร่อยอีกมากมายของเมลโล่ ซันเดย์ บรั้นช์ (Mellow SundayBrunch) ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองความอร่อย เช่น…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมกับ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ จัดกิจกรรม ‘BE Health Auction’ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อหาทุนสานต่อโครงการ BE Health ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมที่กลุ่มโรงแรมเคมปินสกี้ริเริ่มจัดทำขึ้นการประมูลครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนสนับสนุนทางการเงินแก่มูลนิธิออทิสติกไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีและพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับเยาวชนและบุคคลออทิสติกในประเทศไทย การประมูล ‘BE Health Auction’ จะดำเนินการผ่านทาง Facebook ของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สามารถร่วมประมูลได้ที่ https://auctions.kempinskibangkok.com/ ตั้งแต่วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ.2566ซึ่งเป็นวันครบรอบของโรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ จนถึงวันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2566ซึ่งเป็นวันครบรอบของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมประมูลห้องพักระดับสวีทสุดพิเศษจากโรงแรมเคมปินสกี้ ที่ได้รับความนิยมในประเทศต่างๆโดยมีราคาประมูลเริ่มต้นที่ 9,999 บาทสุทธิโปรดดูรายละเอียดรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมกิจกรรมด้านล่าง Siam Kempinski Hotel Bangkok, ThailandSindhorn Kempinski Hotel Bangkok, ThailandThe Apurva Kempinski Bali, IndonesiaThe Capitol Kempinski Hotel, SingaporeHotel Adlon Kempinski Berlin, GermanyHotel Vier Jahreszeiten Kempinski München, Germany Grand Hotel des Bains Kempinski St. Moritz, SwitzerlandKempinski Palace Engelberg Titlis – Swiss Alps, SwitzerlandKempinski Hotel Aqaba Red Sea, JordanKempinski Hotel Ishtar Dead Sea, JordanKempinski Nile Hotel Cairo, EgyptVilla Rosa Kempinski, Kenya & Olare Mara Kempinski…
888 Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
โรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เปิดตัวชุดขนมไหว้พระจันทร์ Kimpton Mooncake ประจำปีกระต่ายกับเส้นสายและลวดลายดีไซน์สวยงามโดยศิลปินชาวไทย “จี๊ป” คงเดชะกุล ที่เคยวาดภาพประกอบให้กับนิตยสารชื่อดังมากมาย รวมทั้งร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Rimowa และ BMW แพ็คเกจบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้บอกเล่าเรื่องราวสุดคลาสสิกของกระต่ายบนดวงจันทร์และแม่นางฉางเอ๋อ เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตามนิทานปรัมปราของจีน โดยฝีมือการออกแบบและจิตนาการของ จี๊ป คงเดชะกุล ผ่านการวาดภาพประกอบเป็นกระต่ายขนฟูผู้ภักดีของเทพธิดา ผสมผสานสัญลักษณ์แทนความมั่งคั่งตามความเชื่อจีนเช่นดอกโบตั๋น ต้นไม้สวรรค์ และลวดลายดอกไม้อ่อนช้อยสีสันสดใสที่ปรากฏอยู่ทั้งบนกล่องและกระเป๋าที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ Kimpton Mooncake ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งต่อความรัก ความนับถือชื่นชม และความมั่งคั่งไปยังผู้รับ ประกอบไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์สี่รสชาติ ได้แก่ เริ่มจาก “ไส้เม็ดบัวและไข่แดงแบบดั้งเดิม” นี่คือความคุ้มค่าที่ต้องลิ้มลอง! รสชาติหวานละมุนจากเม็ดบัวความเค็มจากไข่แดงผสมกับความเนียนนุ่มของไส้เม็ดบัว ทำให้เรามีความอร่อยแบบเดิมๆ แต่ยิ่งดีขึ้น! ต่อมาคือ “ไส้ทุเรียนยอดนิยมตลอดกาล” ที่ไม่มีวันเบื่อเลย! รสชาติหวานนุ่มมาพร้อมกับเนื้อทุเรียนกวนและไข่เค็มอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมหวานหอมกลิ่นของทุเรียน หรือความนุ่มนวลของมัน และอย่าลืม “ไส้ครีมคัสตาร์ดเข้มข้น” ที่มาพร้อมความเข้มข้นของครีมและคัสตาร์ด รสชาติของมันจะไม่สร้างความผิดหวังได้เลย! หากคุณเป็นคนรักความหวาน มัน และเข้มข้น ขนมนี้คือคำตอบ! สุดท้ายคือ “ไส้แครนเบอร์รีรสหวานอมเปรี้ยว” ที่มาพร้อมความหวานอมเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อคุณเบิร์นไปกับแครนเบอรี่นี้ คุณจะต้องพิจารณาความหวานอันน่ารักและความเปรี้ยวสดชื่นที่สุด! ที่เต็มไปด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่สมบูรณ์แบบ เมื่อคุณกัดลงไป คุณจะรู้สึกเหมือนได้ยินเพลงของรสชาติที่สวยงาม! ไม่พูดเยอะแล้วนะ แค่บอกว่า “ขนมไหว้พระจันทร์ที่นี่” คือสวยกิ๊บเก๊ แพคเกจจิ้งสร้างสรรค์ ความอร่อยและความพิเศษในรูปแบบขนมที่สุดแสนมหัศจรรย์! ไปลิ้มลองกันเถอะ! 🌙✨😋 แต่ละชิ้นบรรจุในกล่องสีชมพูสดใสคาดเขียวมะนาวทันสมัย Kimpton Mooncake เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วในราคาพิเศษ 2,088 บาทสุทธิต่อกล่อง ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคมถึง 14 สิงหาคม 2566 และราคาปกติ 2,488 บาทสุทธิ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมถึง 29 กันยายน 2566 และสามารถมารับสินค้าได้ที่โรงแรมตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมเป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02 056 9999 หรืออีเมล [email protected] Kin Review Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์…
ห้องอาหารพาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ ด้วยคอลเลคชั่นขนมไหว้พระจันทร์ “A Harmony of Flavors” รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม บรรจุลงในกล่องที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญพิเศษให้เพื่อน ครอบครัว หรือมิตรภาพทางธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม – 29 กันยายน 2566 นี้ เชฟผู้มากฝีมือประจำห้องอาหารพาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์ ได้นำเสนอขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิม 4 รสชาติ (ขนาด 150 กรัมต่อชิ้น) ผสมผสานหลากหลายวัตถุดิบพรีเมียม ออกมาเป็นขนมไหว้พระจันทร์ ไส้ทุเรียนจันทบุรีกับเม็ดบัวและไข่แดง ไส้เม็ดบัวกับเมล็ดแตงโมและไข่แดง ไส้เม็ดบัวและแมคคาเดเมีย และ ไส้หมูแผ่นปรุงรสและสารพัดถั่ว ในปีนี้เชฟยังได้รังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์สูตรซิกเนเจอร์โดยเฉพาะ อีก 3 รสชาติ (ขนาด 50 กรัมต่อชิ้น) ได้แก่ ไส้คาราเมลเอสเปรสโซ หอมกรุ่นกลิ่นกาแฟตั้งแต่คำแรก สอดแทรกรสหวานละมุนสุดลงตัวจากคาราเมล ไส้ช็อกโกแลตมอลต์ โรเช่ร์ รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียมอย่าง ช็อกโกแลตฝรั่งเศสวาโรน่า และอัลมอนด์พราลีน ออกมาเป็นรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว และ ไส้หมูแผ่นปรุงรสและสารพัดถั่ว ที่ผสมผสานวัตถุดิบสุดพรีเมียม พร้อมอัดแน่นไปด้วยถั่วที่ให้กลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างระหว่างรับประทาน สำหรับกล่องบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ ทางห้องอาหารจีนพาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์ ได้จัดนำเสนอมาถึงสามดีไซน์ด้วยกัน เริ่มที่กล่อง “The Lunar” กล่องไม้ลิมิตเต็ดเอดิชั่นทำมือ ดีไซน์ทรงกลมสวยหรู ราคา 11,888 บาท ภายในบรรจุขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิมจำนวนสองชิ้น เซตส้อม-มีดไม้สองชุด และชาผูเอ่อร์โกลด์หนึ่งแพ็คเกจขนาด 50 กรัม “The Luxury” กล่องหนังทรงกระเป๋าสุดหรูหรา สามารถเลือกบรรจุขนมไหว้พระจันทร์สูตรซิกเนเจอร์คละรสจำนวน 6 ชิ้น หรือสูตรดั้งเดิมคละรสจำนวน 4 ชิ้น ราคาเพียง 2,288 บาท และ “The Treasure” กล่องกระดาษสีแดงสุดพรีเมี่ยม เลือกบรรจุขนมไหว้พระจันทร์สูตรซิกเนเจอร์คละรสจำนวน 6 ชิ้น…
Chef : Somsong Siriwannasawangwongsi : 09 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A จากตำนานก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นห้างเจ้าแรกในไทย ที่ทุกคนรู้จักกันในนาม Le Jardin (เลอ จาร์แด็ง) กลางห้างหรูที่ เดอะ เพนนินซูล่า พลาซ่า ถ. ราชดำริ เมื่อปี พ.ศ. 2528 ได้เติบโตมากว่า 30 ปี นำมาสู่ร้าน MaiMai Eatery ที่ได้แรงบันดาลใจจากคุณยาย (ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย) และคุณแม่ใหม่ (สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค) ที่รังสรรค์เมนูอร่อยจากการชื่นชอบของครอบครัว ทั้งอาหารไทยและตะวันตกที่หลากหลาย ปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวเรือในตำนานได้ถูกสืบทอดสู่เจนเนอเรชั่นที่สามโดย คุณมิ้นท์ (ชลิตา สาลีรัฐวิภาค) และได้ย้ายมาเปิดใหม่ ที่ซอยอารีสัมพันธ์ 1 พหลโยธิน เมื่อเดือนมกราคม 2566 นี้ ภายในร้าน ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมือนบ้านที่คอยต้อนรับผู้มาเยือนอยู่เสมอ มีความโปร่งโล่งสบายจากกระจกใสเมื่อยามต้องแสงแดดยามเช้า แต่งแต้มสีสันด้วยเรือจิ๋วสีชมพูสลับสีไม้ประหนึ่งเป็นงานศิลปะบนฝาผนัง จึงเป็นบรรยากาศแบบสบายๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ของร้านที่เน้นเมนูอาหารไทย รังสรรค์ความอร่อยด้วยวัตถุดิบที่ใหม่สด ปรุงสุกพร้อมเสิร์ฟร้อนๆทันทีจากครัวสู่โต๊ะอาหาร มีเมนูเด็ดที่ชวนรำลึกถึงความอร่อยเมื่อวันวานกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นของว่างที่ขึ้นชื่ออย่าง เต้าหู้-เผือกทอด เต้าหู้-เผือกทอดพร้อมน้ำจิ้มถั่วลิสงเคี่ยวเองจนเหนียวหนึบ ยามหยดลงบนเนื้อเต้าหู้ทอดใหม่ๆเนื้อในนุ่มๆ ช่างทำให้เคี้ยวเพลินเกินจะหยุดได้ หรือจะเป็น กากหมูจิ้มแจ่ว กากหมูจิ้มแจ่วก็ไม่แพ้กัน ด้วยความกรอบที่ต้องทอดถึง 3 รอบ ทำให้กรอบนาน จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของทางร้านก็ทำให้หมดถ้วยไปในพริบตา อีกทั้ง โครเก้เนื้อปู โครเก้เนื้อปูรสละมุนเสิร์ฟพร้อมทาร์ทาร์ซอส ซึ่งเป็นเมนูที่ถูกแนะนำลงในหนังสือ มิชลินไกด์ปี ค.ศ. 2021 (Michelin Guide 2021) โครเก้เนื้อปูมีความพิเศษที่รสชาติซึ่งเตกต่างจากโครเก้เครีมนื้อปูแบบญี่ปุ่น เพราะจะไม่ครีมมี่เลี่ยนมันแต่ได้รสอย่างไทยที่หลายคนคุ้นเคยด้วยการใส่เครื่องปรุงอันแสนจะเป็นเอกลักษณ์อย่า 3 เกลอ อันประกอบไปด้วย รากผักชี กระเทียม และพริกไทยนั้นเอง หมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะสุดเฮลตี้ไร้มันเนื้อเน้นๆโดดเด่นด้วยเครื่องเทศในซอสที่ใช้จิ้มกินคู่กันหอมผงกะหรี่อย่างโดดเด่น…