โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (InterContinental Bangkok) หนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้อ่านนิตยสาร คอนเดนาสต์ ทราเวลเลอร์ (Condé Nast Traveller) สหราชอาณจักร และโรงแรมที่ได้รับตราสัญลักษณ์ ‘มิชลิน คีย์’ (MICHELIN Key) หรือกุญแจ มิชลิน 1 ดอก จาก มิชลิน ไกด์ (MICHELIN Guide) เมื่อเร็ว ๆ นี้ พร้อมส่งมอบประสบการณ์การเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและพร้อมต้อนรับปีใหม่ที่ไม่เหมือนใครด้วยมื้ออาหารสุดพิเศษสำหรับเทศกาลแห่งความสุขที่มีให้เลือกสรรอย่างหลากหลายไปจนถึงปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าที่จะมองเห็นการแสดงดอกไม้ไฟแสนตระการตา ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับวันปีใหม่ด้วยอาหารชุดพิเศษ 6 รายการที่ห้องอาหารไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์ (Fireplace Grill and Bar) เริ่มต้นด้วยหอยนางรมออสตร้า รีกัล (Regal Oyster) เสิร์ฟคู่กับโอเซียตรา คาเวียร์ (Osietra Caviar) ตามด้วยริซอตโต้กุ้งมังกรจากทะเลคาริเบียน (Caribbean Lobster Risotto) และสเต๊กปลาหิมะจี่กระทะให้สุกกำลังพอดี (Pan Seared Tooth Fish) เพิ่มอรรถรสให้กับการเฉลิมฉลองด้วยของหวานอย่างแชมเปญ เซส (Champagne Zest) กานาช รสแชมเปญและจิน (Champagne and gin ganache) ห่อในเจลลี่รสเลมอน อาหารชุดพิเศษ 6 รายการสำหรับส่งท้ายปีเก่าต้อนรับวันปีใหม่ มีให้บริการเฉพาะวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 23.00 น. ราคาท่านละ 6,400++ บาท เพลิดเพลินกับเสียงเพลงบรรเลงดนตรีสดจากกีตาร์และแซ็กโซโฟน ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 22.45 น. เพิ่มอรรถรสให้แก่มื้ออาหารด้วยไวน์ 3 แก้ว ราคาท่านละ 1,500++ บาท หรือไวน์ 5 แก้ว ราคาท่านละ 2,300++…
Author: Kittin Assavavichai
เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ก็ได้เวลาออกเดินทางขึ้นเหนือไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นความงามในอุทยานแห่งชาติ หรือการดื่มด่ำกับมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่น โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ซึ่งตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าอันเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของเชียงใหม่ ยินดีต้อนรับนักเดินทางสู่การพักผ่อนอย่างมีสไตล์ มาพร้อมกิจกรรมการรับประทานอาหารที่น่าจดจำตลอดช่วงเวลาถึงปลายปีนี้ พฤศจิกายน เดือนแห่งแสงจันทร์อบอุ่นนวลตา มาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทงในคืนวันเพ็ญเดือนพฤศจิกายนนี้ ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกใต้แสงจันทร์และแสงเทียนจากโคมที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เริ่มจากเซ็ตน้ำชายามบ่ายสีสันสดใสที่ คำ ล็อบบี้ เลานจ์ ซึ่งจับคู่ขนมคาวและหวานเข้ากับค็อกเทล Loy Krathong Aperol Spritz หรือตัวเลือกเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ได้แก่ Khom Rosita, Wiangping and Not Penicillin ราคาแก้วละ 350++ บาท ขณะที่ห้องอาหารจีน หงส์ ไชนีส นำเสนออาหารมื้อค่ำ 5 คอร์สสุดพิเศษในธีมลอยกระทง ราคา 2,988++ บาทต่อท่าน พร้อมมอบบัตรกำนัลส่วนลด 20% สำหรับเข้าร่วมเทศกาลลอยโคมหรือเทศกาลยี่เป็งที่ Sky Bar (วันที่ 15-17 พฤศจิกายน) ให้คุณได้สนุกกับกิจกรรมจับรางวัล ค็อกเทลรสชาติเยี่ยม ดนตรีสด และตื่นตาตื่นใจกับความงามของแสงเทียนจากโคมไฟที่ลอยเต็มท้องฟ้า เทศกาลลอยกระทงยังคงเฉลิมฉลองต่อเนื่องที่เดอะ กาด ลานนา กับ Loy Krathong Brunch บุฟเฟต์บรันช์แสนอร่อยวันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งมาพร้อมกิจกรรมทำกระทง การแสดงรำไทย ดนตรีสด (ราคา 2,188++ บาทต่อท่าน รวมไวน์หรือแชมเปญหนึ่งแก้ว) สำหรับแพ็กเกจเครื่องดื่มแชมเปญไม่อั้น ราคา 1,500++ บาท พร้อมโปรโมชั่น มา 4 ท่าน จ่าย 3 ท่าน ไฮไลท์ความสนุกเดือนธันวาฯ ครั้งแรกที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง จะจัด Christmas Market ช่วงวันที่…
เตรียมเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ร่วมเฉลิมฉลองกับครอบครัวพร้อมเพลิดเพลินกับเมนูพิเศษประจำฤดูกาล ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ตั้งแต่การประดับต้นคริสต์มาสสูงตระหง่านที่ล็อบบี้ บ้านขนมปังขิงขนาดเท่าของจริง บูธถ่ายภาพสุดเก๋ ไปจนถึงช่วงเวลาแสนวิเศษกับซานตาคลอส ทั้งหมดจะมาสร้างความทรงจำสุดประทับใจให้คุณและคนที่คุณรัก พิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม บริเวณล็อบบี้และกลาสบาร์ มาพร้อมการแสดงขับร้องเพลงคริสต์มาสโดย Harmonies Ladies Choir คณะนักร้องประสานเสียงขนาดเล็กจากโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ บรรเลงเปียโนโดยฌอง ฟรองซัวส์ ลินารด์ ซึ่งเด็ก ๆ ที่มาร่วมงานนี้ ก็จะได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมเพนต์ใบหน้าและบิดลูกโป่งเป็นรูปต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีบูธถ่ายภาพ ใกล้กับบ้านขนมปังขิงที่จะกลายเป็นฉากหลังสุดแฟนซีสำหรับเก็บความทรงจำในช่วงเทศกาลนี้ และเพื่อเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก เตรียมพบกับซานตาคลอสที่จะมาปรากฏตัวและมอบความสุขให้กับทุกคน งานครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ Central Thailand Mission มูลนิธิการกุศลที่ไม่แสวงหากำไร และรายได้จากการจัดงานจะนำไปช่วยเหลือชุมชนผู้ด้อยโอกาส บัตรเข้าร่วมงานราคา 1,100 บาท สำหรับผู้ใหญ่ 1 ท่านและเด็ก 1 ท่าน รวมเวลคัมดริงค์สำหรับผู้ใหญ่ และขนมและเครื่องดื่มสำหรับเด็กใน Secret Garden และมีค่าใช้จ่ายสำหรับจำนวนเด็กเพิ่มเติมราคา 600 บาท/เด็ก 1 ท่าน สถานที่: ล็อบบี้และ กลาส บาร์ (Glaz Bar) วันที่: อาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2567 เวลา: 15.00-19.00น. บัตรคอมโบ รวมค่าเข้าชมและอาหาร 1 มื้อ บรันช์วันอาทิตย์ที่เรน ทรี คาเฟ่:ราคา 3,800 บาท สำหรับผู้ใหญ่ 1 ท่าน และเด็ก 1 ท่าน โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับจำนวนเด็กเพิ่มเติมราคา 1,600 บาท/เด็ก 1 ท่านมื้อค่ำที่เรน ทรี คาเฟ่: ราคา 3,100 บาท สำหรับผู้ใหญ่…
อิสราเอลจัดโรดโชว์เทคโนโลยีด้านอาหาร (FoodTech Roadshow) ครั้งที่สองในประเทศไทยต่อยอดจากความสำเร็จของงานที่จัดขึ้นเมื่อปีแล้ว แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารจากสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลร่วมกับสถาบันการส่งออกอิสราเอล จัดงาน Israel FoodTech Roadshow เป็นครั้งที่สอง บริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยกำลังก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง อิสราเอลมีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมว่าเป็นผู้นำระดับโลกเรื่องเทคโนโลยีอาหาร โดยมีสตาร์ทอัพหลายร้อยแห่งที่เป็นผู้น้ำต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช เทคโนโลยีใหม่ที่ลดการ ไข่ น้ำตาล หมักแบบล้ำสมัย และนวัดกรรมอื่นอื่นๆ ในชนดียวกัน ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก มีความโดคเต้นในการพัฒนา การส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไปทั่วโลก ดังนั้นการผสานนวัตกรรมล้ำสมัยจากอิสราเอลกับความชำนานาญด้านการผลิตของไทย จึงสร้างสิ่งใหม่และพลิกโฉมตลาดอาหารระดับโลก มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกว่า ๑๐๐ คนจากบริษัทอาหารและเครื่องดื่มขั้นนำของไทยกว่า ๕๐ บริษัท โดยมีกิจกรรมประกอบด้วยการสัมมนาและการจับคู่ธุรกิจ ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสสำรวจแนวโน้มของนวัตกรรมและความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทำความรู้จักกับ “อาหารในอนาคล” ซึ่งจัดแสดนวัตกรรมอาหารหลากชนิด ได้แก่ น้ำสันลดน้ำตาตาล ผลิตภัณฑ์นท์ผมที่ไม่ไร้วัดถุติบจากสัตว์ เช่น ครีม ชีสและซีสเค้ก รวมทั้งไส้กรอกและเบคอนที่ทำจากโปรตีนสาหร่ายอีกด้วย ออร์นา ซากีฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลกล่าวว่า “งาน FoodTech Roadshow ของเราครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญอีกก้าวระหว่างอิสราเอลและไทย โดยเฉพาะในด้านการวางแผนอนาคตของอุตสาหกรรมอาหาร ดิฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการตอบรับบุคคลสำคัญด้านอุตสาหกรรมอาหารของทั้งทั้งทั้งประเทศ เมื่อผสานจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน อิสราเอลและไทยจึงมีความพร้อมที่จะพัฒนานวัตกรรมและสร้างผลลัพธ์อันยั่งยืนต่อตลาดอาหารโลก” ในขณะเดียวกัน นายโทเมอร์ ชปิลมาน หัวหน้าและที่ปรึกษาฝาฝาฝรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล กล่าวเสริมว่า “อิสราเอลเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นระบบนิเทคโลยีอาหารที่ใหญ่เป็นอันอับสองของโลก ในขณะที่ประเทศไทยได้รับสมญานานามว่าเป็น ‘ครัวโลก’ ความร่วมมือระดับทวิภาดีนี้จะช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถรับมือกับความท้าทาย พัฒนาระบบอาหารที่ยังอื่น และปกป้องโลกอนาคตไว้ได้อย่างมั่นคง เมื่อเราร่วมมือมือกัน เราก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนควานมั่นคงต้านอาหาร ความยั่งยืน และนวัตกรรระดับโลก” Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น…
: เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองในโอกาสสุดพิเศษของสุดยอดนักปรุงอาหารและนักผสมเครื่องดื่มแห่งเอเชียกับ Tatler Best of Asia Takeover Series ที่โคจรมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 26 พฤศจิกายน เทศกาลอาหาร 5 วันนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของโครงการ Tatler Best ที่ถูกกล่าวขานถึงอย่างมาก โดยเป็นชุมนุมของเหล่าเชฟและบาร์เทนเดอร์ชั้นนำของภูมิภาคนี้ในป๊อปอัปอีเว้นท์ที่จัดต่อเนื่องและไม่เหมือนใคร โดยจะเปิดให้จองเฉพาะที่หน้า Tatler Experience บนเว็บไซต์ Priceless.com ของ Mastercard เท่านั้น เพื่อให้สมกับการรอคอย งานนี้จะจัดขึ้นในสถานที่อันหรูหราและเป็นส่วนตัวที่สุดในกรุงเทพฯ มั่นใจได้ว่าแขกที่มาร่วมงานจะได้รับประกันประสบการณ์ด้านอาหารและได้ลิ้มลองค็อกเทลที่ไม่ซ้ำใครและหาไม่ได้จากที่อื่น โดยแต่ละอีเว้นท์มีที่นั่งจำกัด นับเป็นโอกาสหายากที่จะได้สัมผัสกับการสร้างสรรค์เมนูอาหารสุดล้ำสมัยและค็อกเทลสูตรใหม่ๆ จากยอดฝีมือของเอเชีย รายชื่อเชฟ นักชิมจะได้ดื่มด่ำกับอาหารจานพิเศษจากเชฟชื่อดังทั่วเอเชีย ไฮไลท์ได้แก่: Julien Royer จากร้าน Odette (สิงคโปร์): วันที่ 26 พฤศจิกายน เชฟจะนำเสนออาหารฝรั่งเศสสุดหรูพร้อมกลิ่นอายเอเชียที่ Maison Dunand Kai Ho จากร้าน Taïrroir (ไทเป) และ Vincent Thierry จาก Chef’s Table by Lebua: วันที่ 22-23 พฤศจิกายน เชฟคู่หูคู่นี้จะนำเสนอรสชาติที่ผสมกลมกลืนบของอาหารฝรั่งเศสและไต้หวันที่ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมดุสิตธานี Ricardo Chaneton จากร้าน Mono (ฮ่องกง): ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน โดยเชฟจะพาคุณไปสัมผัสกับอาหารละตินอเมริกาที่ Tiara Room พร้อมชมทิวทัศน์ที่สวยงามตื่นตาของสวนลุมพินี ค็อกเทลสูตรใหม่ๆ นักผสมเครื่องดื่ม (mixologist) ชั้นนำของเอเชียจะมาพลิกโฉมวงการบาร์ของกรุงเทพฯ ด้วยการนำเสนอค็อกเทลสุดพิเศษที่ก้าวข้ามขีดจำกัด โดยแขกจะได้พบกับ: Antonio Lai จากบาร์ Quinary (ฮ่องกง): นำการผสมเครื่องดื่มระดับโมเลกุลมาสู่ Firefly Bar (22 พฤศจิกายน) และ Raynue Lounge ภายในศูนย์การค้าเกสรอัมรินทร์ (23…
บริษัท กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) และกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ประจำสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย จัดแคมเปญส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วย “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน (American Beef Feast)” นำเสนอรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกัน โดยเฉพาะ USDA เกรดพรีเมี่ยมที่นำเข้ามาเป็นพิเศษโดย กูร์เมท์ วัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารของผู้ที่ชื่นชอบเนื้อในทุกมุมของประเทศไทย แคมเปญ American Beef Feast นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม โดยมีโรงแรมระดับ 5 ดาว และร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และขอนแก่น จำนวนถึง 17 แห่ง เข้าร่วมแคมเปญ นำเสนอเมนูพิเศษที่ปรุงด้วยเนื้อวัว USDA เกรดพรีเมี่ยมทั้ง USDA Prime, Choice และ Select เพื่อให้ผู้บริโภคไทยได้สัมผัสกับเนื้อวัวที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกในด้านความนุ่ม ความฉ่ำ และรสชาติที่เข้มข้น และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารที่บ้าน สามารถหาซื้อเนื้อ USDA พรีเมี่ยมคัทเหล่านี้ได้ที่ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 17 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลักได้เช่นกัน งานเปิดตัวแคมเปญ “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน” ครั้งนี้ จัดขึ้น ณ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก มร. โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นประธานในงานและเป็นผู้มอบ “American Black Angus Sculpture” ประติมากรรมรูปวัวแบล็คแองกัส ที่ กูร์เมท์ วัน จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบให้ผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้ แบล็คแองกัสเป็นวัวสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงในการผลิตเนื้อวัวคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ วัวพันธุ์นี้จึงได้กลายเป็นมาตรฐานระดับโลกสำหรับคุณภาพสเต็ก รูปวัวแบล็คแองกัส จึงเป็นสัญญลักษณ์ของเนื้อวัวคุณภาพสูง ภายในงาน ยังมีการสาธิตการปรุงอาหาร พร้อมเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ปรุงจากจากเนื้อวัว USDA Prime…
ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งมื้ออาหารละตินอเมริกันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ลิ้มลองทุกเมนูเด็ดที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์สไตล์เปรูและเม็กซิกันอย่างเหนือระดับ ด้วยเทคนิคการประกอบอาหารอันล้ำสมัยชูรสชาติต้นตำรับ จากเชฟฟรานโก อัลดาน่า (Chef Franco Aldana) ผู้คร่ำหวอดในการประกอบอาหารสไตล์เปรู ร่วมมือกับเชฟเฟอร์นันโด โคโรน่า (Chef Fernando Corona) เชฟประจำห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ผู้เชี่ยวชาญในการรังสรรค์อาหารสไตล์เม็กซิกัน ที่จะสร้างสีสันและพาทุกท่านเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนสุดพิเศษนี้ เชฟฟรานโก หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร Feliz ห้องอาหารเปรู รูฟท๊อปชื่อดังประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้สั่งสมประสบการณ์จากการเป็นเชฟ ณ ห้องอาหารชั้นนำหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสาธารณรัฐโดมินิกัน ตลอดจนประเทศเปรู ด้วยเทคนิคการประกอบอาหารอันเหนือระดับที่ได้รับการการันตีจากสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ทำให้เชฟฟรานโกเป็นหนึ่งในเชฟผู้เชี่ยวชาญในการประกอบอาหารสไตล์เปรูผู้หลงใหลในการรังสรรค์เมนูพื้นเมืองให้มีความล้ำสมัยโดยยังคงสอดแทรกวัฒนธรรมเปรูไว้ในทุกจาน เช่นเดียวกับเชฟเฟอร์นันโด เชฟชาวเม็กซิกัน ประจำห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ผู้มีประสบการณ์ในการเป็นเชฟมากกว่า 20 ปี และผ่านการเป็นเชฟประจำห้องอาหารชื่อดังหลากหลายแห่งในประเทศเม็กซิโก รวมทั้ง แถบแคริบเบียน ทำให้เชฟเฟอร์นันโดได้พัฒนาเทคนิคในการรังสรรค์อาหารสไตล์เม็กซิกันและนำมาประยุกต์เข้ากับวิธีการประกอบอาหารสไตล์ยุโรปดั้งเดิมได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างสรรค์และชูจุดเด่นของเมนูอาหารเม็กซิกันทุกจานให้มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์น่าลิ้มลอง ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ขอนำเสนอ “4-Hand Kitchen Takeover – Mexico meets Peru” มหกรรมการร่วมมือกันของสองเชฟมากฝีมือที่จะมาร่วมกันรังสรรค์เมนูสุดพิเศษซึ่งเชฟเฟอร์นันโดและเชฟฟรานโกพร้อมที่จะพาทุกท่านไปสัมผัสรสชาติต้นตำรับสุดเข้มข้นของอาหารสไตล์ละตินอเมริกัน โดยทุกจานได้มีการคัดสรรวัตถุดิบสุดพรีเมียมและนำเทคนิคการประกอบอาหารอันล้ำสมัยที่ได้สั่งสมประสบการณ์อย่างยาวนานมายกระดับมื้ออาหารแก่ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น เมนูยอดนิยมของชาวเม็กซิกันอย่าง ทามาล (Tamal abierto de cochinita pibil) แป้งข้าวโพดสอดไส้เนื้อหมูที่ได้รับการหมักและตุ๋นจนนุ่ม เสิร์ฟคู่กับโฟมข้าวโพดเพิ่มอรรถรส และสัมผัสเมนูอาหารต้นตำรับสไตล์เปรูไปกับ เมนูคีนัวเสิร์ฟคู่กับทูน่า ทาทากิ (Quinotto & Tuna Tataki) รับประทานพร้อมผักนานาชนิด ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน เค้กช็อคโกแลตสไตล์เม็กซิกัน (Texturas de chocolate) จัดเสิร์ฟพร้อม ช็อคโกแลตทรัฟเฟิล และไอศกรีมรสช็อคโกแลตสุดเข้มข้น เพิ่มความกลมกล่อมของมื้ออาหารสไตล์ละตินอเมริกันให้พิเศษไปอีกขั้น เชิญร่วมเปิดประสบการณ์ดินเนอร์สุดประทับใจไปกับ 4-Hand Kitchen Takeover – Mexico meets Peru ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู สัมผัสความเข้มข้นและจัดจ้านของ เซตอาหาร 5 คอร์ส ราคา 1,999 บาท ต่อท่าน หรือเพิ่มอรรถรสด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษ ในราคา 2,699 ต่อท่าน เฉพาะวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2567 นี้เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 0 2679 1200 หรือ [email protected] Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ประกาศแต่งตั้ง มร. ซาโตชิ ซาวาดะ เชฟญี่ปุ่นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการสรรค์สร้างอาหารญี่ปุ่นอย่างมีศิลปะมากว่า 30 ปี เชฟซาวาดะมีประสบการณ์ในด้านการเลือกวัตถุดิบชั้นดี มาปรุงแต่งเป็นอาหารญี่ปุ่นสุดหรู รวมถึงทักษะด้านอาหารทุกประเภท ได้ร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำและเครือโรงแรมระดับนานาชาติมากมาย เชฟซาวาดะมีประสบการณ์การทำงานในประเทศไทยมามากกว่า 25 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538-2563 จนเรียกได้ว่าประเทศไทยกลายเป็น “บ้านหลังที่สอง” เชฟซาวาดะมีประสบการณ์ในแวดวงอาหารญี่ปุ่นมากมาย เคยได้ร่วมงานกับห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่, โรงแรมเดอะ รีเจนท์ กรุงเทพฯ, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จากนั้นเชฟซาวาดะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเชฟเดอคูซีน และดำรงตำแหน่ง Executive Sous Chef ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2566 เชฟซาวาดะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเชฟใหญ่ที่โรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน โทยามะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในฐานะเชฟใหญ่ด้านอาหารญี่ปุ่นประจำห้องอาหาร คิ อิซากายะ เชฟซาวาดะพร้อมที่จะทุ่มเทความสามารถผนวกกับความเป็นศิลปินในด้านการทำอาหารญี่ปุ่น มานำเสนอเมนูที่ผสมผสานทั้งรูปลักษณ์และอรรถรสที่ดีที่สุด เพื่อต้อนรับแขกและผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ พบกับเชฟซาวาดะได้ที่ ห้องอาหาร คิ อิซากายา ชั้น 9 โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล…
อัปสรา เรือที่ได้รับการสรรสร้างอย่างวิจิตรงดงาม ผสมผสานเสน่ห์เหนือกาลเวลาของเรือบรรทุกข้าวโบราณเข้ากับความสง่างามร่วมสมัย ให้นิยามใหม่ของความหรูหราผ่านการล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองกรุงเทพมหานคร ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ อัปสรานำเสนอประสบการณ์เดินทางสุดพิเศษให้ทุกท่านได้ชื่นชมมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของราชอาณาจักรไทย เพียบพร้อมไปด้วยอาหารไทยสุดวิจิตร ทิวทัศน์ที่งดงาม และการแสดงวัฒนธรรมไทยแบบร่วมสมัยที่จะสะกดทุกสายตา อัปสราเป็นงานสร้างสรรค์ชั้นยอด สร้างขึ้นจากไม้สักที่สะท้อนความสง่างามแบบไทยไปพร้อมกับความสะดวก สบายสมัยใหม่ แขกที่ร่วมเดินทางสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์สองข้างทางแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มตาผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ และชื่นชมแลนด์มาร์กต่าง ๆ อย่างวัดวาอารามและเจดีย์ที่ส่องประกายระยิบระยับโดยไม่ต้องก้าวออกจากห้องปรับอากาศของห้องรับประทานอาหารที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ดาดฟ้าชั้นลอยที่จะสร้างความประทับใจที่ไม่อาจลืมเลือนบนพื้นน้ำเจ้าพระยาตลอดการเดินทางอีกด้วย ประสบการณ์บนเรืออัปสราเป็นความประทับใจที่หาไม่ได้ทั่วไป แรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าขานพื้นบ้านของไทย ทำให้เกิดการผสานระหว่างศิลปะและวัฒนธรรมอย่างลงตัว ทั้งการตกแต่งภายในของเรือที่จะสะกดทุกสายตา โดยเฉพาะผลงานที่สรรสร้างโดยศิลปินชื่อดังของไทยอย่าง นักรบ มูลมานัส ที่นำตำนานเก่าแก่ของไทยอย่างเมขลาล่อแก้วกับรามสูรขว้างขวานมาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์บาร์ ส่วนดีไซน์ในห้องควบคุมเรือเป็นการแสดงความเคารพต่อแม่โพสพ เทพีแห่งข้าวและสัญลักษณ์แสดงความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี นอกจากนี้ แม้แต่ห้องน้ำยังได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างสนุกสนานตามคติแบบไทย ๆ ด้วยภาพเขียนแบบตำนานเทพยดาที่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันและคำคมโบราณเกี่ยวกับการใช้ห้องน้ำของไทย ที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับการเดินทาง อาหารไทยต้นตำรับหายากที่เสิร์ฟบนเรืออัปสรามีสี่คอร์สด้วยกัน เป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมด้านอาหารของไทยที่สืบต่อกันมาแต่โบราณกาล และนำมารังสรรค์ใหม่ให้เข้ากับรสนิยมแบบร่วมสมัย อาหารแต่ละจานจะได้รับการเตรียมอย่างประณีตตามสูตรอาหารที่ตกทอดกันมา และปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบส่วนผสมที่มีในแต่ละฤดูกาล เพิ่มความหลากหลายและให้ความมั่นใจว่าวัตถุดิบที่ใช้มีความสดใหม่และคุณภาพดีเลิศที่สุด เมนูไฮไลท์ล้วนแต่ปรุงขึ้นอย่างบรรจง เช่น ซี่โครงเนื้อตุ๋น เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรลับของอัปสราและใบชะมวง ต้มยำกุ้งแม่น้ำจากอยุธยา ปลาหิมะทอดผัดน้ำพริกแจ่ว เป็นต้น เครื่องดื่มบนเรืออัปสราก็มีความน่าประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปจากอาหารเช่นกัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรมของไทย ตัวเลือกที่หลากหลายมีตั้งแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทย เช่น วิสกี้ รัม และวอดก้า รวมทั้งเครื่องดื่มจากประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีไวน์จากทั่วโลกนำเสนอเพื่อเพิ่มตัวเลือกระดับสากลให้กับประสบการณ์แบบไทย ๆ เซ็ทเมนูสี่คอร์สเสิร์ฟที่ราคาสุทธิ 3,800 บาท พร้อมตัวเลือกไวน์แพริ่งในราคา 4,800 บาท นอกจากนี้ ท่านที่ต้องการประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวยังสามารถเช่าเหมาลำ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นการดินเนอร์แบบส่วนตัวหรือการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ อัปสราขอเชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์อันหรูหรามีระดับที่จะพาคุณเดินทางผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ ชื่นชมวัฒนธรรม และลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษหรือค่ำคืนอันน่าประทับใจบนผืนน้ำ อัปสราจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน อัปสราให้บริการทุกวันและเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา 18.45 น. จากท่าเรือริเวอร์ซิตี้ หมายเลข 1 สามารถรับรองผู้โดยสารได้ 50 ท่าน พร้อมการแสดงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสการระหว่างดื่มด่ำทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่รวมถึงแลนด์มาร์กสำคัญ เช่น วัดอรุณ และ พระบรมหาราชวัง ติดต่อสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ 0-2679-1200 หรืออีเมล [email protected] ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ banyantree.com ดาวน์โหลดรูปและข้อมูลได้ที่: APSARA Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยกับ Six-Hand Dinner: Flourish x KAEN ลิ้มลองอรรถรสความอร่อยของเมนูอาหารไทยสไตล์อีสานร่วมสมัย 7-คอร์ส ที่ปรุงขึ้นโดย เชฟชัชษร ประทุมมา จากห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (MICHELIN Bib Gourmand) ผสานความอร่อยแบบไทยร่วมสมัยฝีมือเชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง จาก ร้านแก่น ร้านอาหารจากจังหวัดขอนแก่น ที่ได้รับรางวัลมิชลิน เพลท (MICHELIN Plate) เชฟชัชษร ประทุมมา Executive Sous Chef โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ มีประสบการณ์ด้านการปรุงอาหารมากมายทั้งในเอเชียและยุโรป พร้อมรังสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีสไตล์เฉพาะไม่เหมือนใครเพื่อนำเสนอรสชาติไทยแสนอร่อยให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง ผนวกกับเมนูอาหารไทย-อีสานสุดสร้างสรรค์จากร้าน “แก่น” โดยเชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง ที่ภูมิใจนำเสนอแก่นแท้ของความเป็นไทยร่วมสมัยถ่ายทอดผ่านอาหารรสมือของเชฟทั้งสองที่ปรุงขึ้นด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เริ่มจาก ลาบหมูหลุมโนนศิลา ต่อด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยที่อย่าง ทอดมันปูภูผาม่านสอดไส้ และ ส้มตำมันแกวบรบือ ปลายอนซอสปลาร้าหวาน ลิ้มลอง ซุปไก่บ้านใบย่านาง ที่เชฟพร้อมเสิร์ฟเมนูซุปรสชาติจัดจ้านผสมผสานความเป็นไทยของเครื่องสมุนไพร ตามด้วยกุ้งแม่น้ำกาฬสินธุ์แจ่วบักเขือส้ม อิ่มอร่อยกับเมนูจานหลักอย่าง มหาสารคามแองกัสสันในย่าง กับ คูนเกรวี ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างเมนู ไอติมกะละแม ขนมเหนียวดำมะพร้าวอ่อน ขนุนสาโท Six-Hand Dinner:โดย เชฟชัชษร ประทุมมา จากห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และ เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง จากร้านอาหารแก่น จังหวัดขอนแก่น พร้อมบริการคุณในมื้อค่ำวันศุกร์ที่ 15 – วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในราคาท่านละ 2,700++ บาท ที่ห้องอาหารเฟลอริช…