Author: Kittin Assavavichai

Chef :  Chef Jose Martin Ruiz Borja : 06 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A หลังจากที่เราชื่นชอบและคุ้นเคยกับอาหารสไตล์ Fine Dining, Omakase และ Chef’s Table มาพักใหญ่  นาทีนี้ ไม่มีอะไรที่จะซุปเปอร์เทรนดี้ มาแรงเท่ากับร้านอาหารสไตล์ Casual Fine Dining ที่สามารถตอบรับความต้องการของนักชิมหลังยุคโควิด ที่มองหาประสบการณ์ด้านอาหารรสเลิศในบรรยากาศสบายๆ ให้ทุกคนในครอบครัวสามารถมีความสุขร่วมกันในการรับประทานอาหารมื้ออร่อย ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ ทั้งในเรื่องแหล่งที่มาและคุณภาพของวัตถุดิบ รวมถึงเทคนิคในการปรุงอาหารโดยเชฟมืออาชีพที่ปรุงให้เห็นสดๆ ตรงหน้า พร้อมเสิร์ฟในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง เหมือนนั่งรับประทาน home-cooking meal อร่อยๆ ที่บ้าน แรกเริ่มเดิมทีนั้น ที่มาของร้านนี้เริ่มต้นจากการเป็นร้านที่ขายวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่ส่งให้กับโรงแรมและร้านอาหารดังๆมากมาย ผู้คนในย่านบางนาที่รักการดื่มกินต่างรู้จักและคุ้นเคย แขกต่างๆแวะเวียนมาเรื่อยๆและในหลายครั้งที่ให้เชฟลองปรุงอาหารให้ชิม นั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้ร้านแห่งนี้รายล้อม และประกอบไปด้วยวัตถุดิบมากมายตามตู้และชั้นวางดั่งของตกแต่งประจำร้านนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นของสดอย่างเนื้อ ผัก หรือของแห้งก็ล้วนครบครัน Sooooo Goood Gourmet เป็นร้านอาหารอาหารสไตล์ Casual Fine Dining หนึ่งเดียวในซอยราชวินิต บางแก้ว ที่กำลังมาแรง   ชื่อร้านมาพร้อมกับอักษรตัว “O โอ” 9 ตัว ที่บ่งบอกถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่จริงจังในการนำเสนออาหาร fine dining ในแง่ของวัตถุดิบคุณภาพ ทีมเชฟมืออาชีพที่มาพร้อมกับเทคนิคการปรุงอาหารระดับสูงนำทีมโดย Chef Jose Martin Ruiz Borja หรือ Chef Pepe ซึ่งมีดีกรีเป็นถึง Executive Chef ของโรงแรมหรูในกรุงเทพฯ มาก่อน รวมถึงการให้บริการภายใต้การดูแลของคุณเชิดชัย ทมแก้ว หรือ คุณแซ็ค ผู้จัดการร้านที่ผ่านงานร้านอาหารในโรงแรมระดับ 5 ดาวมาแล้วหลายแห่ง และยังเป็นไวน์กูรูประจำร้าน สามารถแนะนำไวน์รสเลิศไว้ดื่มคู่กับอาหารแต่ละจานได้อย่างลงตัว เมนูที่…

Read More

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ต้อนรับฤดูร้อนแสนสดใส พร้อมไฮไลท์และโปรโมชั่นสำหรับเดือนกรกฎาคม ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2565 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ รวมเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือ เทศกาลทสึกิมิ ในภาษาญี่ปุ่น ด้วยขนมไหว้พระจันทร์รสชาติพิเศษ ประเพณีทสึกิมิในประเทศญี่ปุ่นมักเฉลิมฉลองในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถือว่าเป็นวันหยุดตามประเพณีของคนญี่ปุ่น อีกทั้งคำว่าทสึกิมิ ยังมีความหมายว่า การชมจันทร์ ดังนั้นในคืนพระจันทร์เต็มดวง เทศกาลชมจันทร์จึงกลายเป็นเทศกาลประจำปีของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมและเป็นประเพณีสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยโบราณ การเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ มาพร้อมกับขนมไหว้พระจันทร์รสชาติต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ไส้คัสตาร์ด ไส้มันม่วงไข่เดี่ยว และ ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยวที่เลือกใช้เฉพาะทุเรียนหมอนทองจากจังหวัดจันทบุรี นอกจากขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับแล้ว เชฟยังได้รังสรรค์รสชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบของประเทศญี่ปุ่น ที่ผสมผสานรสชาติออกมาได้อย่างลงตัว อาทิ ไส้องุ่นเคียวโฮไข่เดี่ยว ไส้ชาโฮจิฉะผสมอัลมอนด์ ไส้สาเกโตเกียวและช็อคโกแลต ไส้เมล่อนญี่ปุ่นไข่เดี่ยว และ ไส้ชาโคลผสมส้มโอมือไข่เดี่ยว ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุกล่องไม้สนอย่างดีและห่อด้วยผ้าฟูโรชิกิพิมพ์ลายดีไซน์พิเศษ โดยสามารถเลือกกล่องบรรจุ 10 ชิ้น ฉลองครบรอบ 10 ปี ราคากล่องละ 1,988 บาท สุทธิ กล่องบรรจุ 5 ชิ้น ราคากล่องละ 1,488 บาท สุทธิ ให้บริการจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ถึง วันที่ 10 กันยายน 2565 พิเศษ สามารถสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์ สำหรับกล่องบรรจุ 5 ชิ้น และชำระเงินล่วงหน้าระหว่างวันที่ 13 – 30 มิถุนายน 2565 ในราคาเพียงกล่องละ 1,088 บาทสุทธิ สั่งจองขนมไหว้พระจันทร์ได้ที่ โทร. 02 687 9000 หรืออีเมล์ [email protected] ต้อนรับการมาถึงของฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่นด้วย ชุดน้ำชายามบ่าย ‘ลาเวนเดอร์’ โรงแรม ดิ โอกุระ…

Read More

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – วันที่ 31 พฤษภาคม 2565: โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ขอนำเสนออีกหนึ่งอาหารมื้อพิเศษ ‘เดอะ แกรนด์ ซันเดย์ บรันช์’ (The Grand Sunday Brunch) จากห้องอาหารเดอะ ไดนิ่ง รูม ที่พร้อมต้อนรับทุกท่านอีกครั้งอย่างอลังการในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ด้วยสุดยอดรายการอาหารจากทั่วทุกมุมโลกนานาชนิด รังสรรค์เป็นพิเศษให้เพลิดเพลินเต็มที่ตลอดมื้อ พร้อมให้บริการสำหรับทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน เริ่มต้นในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ห้องอาหารเดอะ ไดนิ่ง รูม ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ขอต้อนรับคุณสู่ประสบการณ์รับประทานอาหารสุดอลังการใน ‘เดอะ แกรนด์ ซันเดย์ บรันช์’ บรันช์วันอาทิตย์ยอดนิยมระหว่างเวลา 12:00 ถึง 15:00 น. ที่นำเสนอสุดยอดรายการอาหารนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแดนดินและท้องทะเล พร้อมเมนู ‘แกรนด์ ครีเอชั่น’ หลากหลายรายการที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น รังสรรค์เป็นพิเศษโดยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟเดวิด ซีเนีย เสิร์ฟให้ลิ้มลองถึงโต๊ะอาหารของคุณให้ได้เพลิดเพลินเต็มที่ตลอดมื้อ เริ่มต้นมื้อพิเศษยามสายวันอาทิตย์ใน ‘เดอะ แกรนด์ ซันเดย์ บรันช์’ ด้วยเมนู ‘แกรนด์ ครีเอชั่น’ รายการแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น เมนูฟัวกราส์ดูโอ อย่างเซียร์ฟัวกราส์คู่ซอสแอปริคอต (pan-seared foie gras with apricot puree) และ ฟัวกราส์ โอ ทอร์ชง จากแบรนด์ฌอง ลาร์โนดี (‘Jean Larnaudie’ foie gras au torchon) เมนูริซอตโต้ทรัฟเฟิลที่ปรุงสดใหม่ทุกจานในชีสพาร์เมซานก้อนใหญ่เต็มก้อน รวมถึงเมนูชวนลิ้มลองพอดีคำอย่างทาร์ตคาเวียร์อิคุระ ที่พร้อมเสิร์ฟอย่างเต็มที่ถึงโต๊ะของทุกท่านตลอดมื้อ ก่อนเลือกลิ้มลองรายการอาหารขึ้นชื่ออื่นๆ อีกมากมายจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งจากมุมอาหารทะเลที่เสิร์ฟหอยนางรมส่งตรงจากฝรั่งเศส 3 สายพันธ์อย่าง ฟินเดอแคลร์ เซลีน และ แซ็งวาสต์…

Read More

Chef :  Antonio Yang : 05 2022 Story, Photo : Pol.Capt.Kittin A. ในการเฉลิมฉลองเดือนแห่งไข่มุก Kinlakestars อยากจะร่วมเชิญให้เหล่านักชิมไปลิ้มลองชุดชาแสนสวยกันที่ Lobby Salons เพื่อเพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่าย The Sukhothai Bangkok x Matara “Legacy of Pearls” สุดพิเศษ อันโตนิโอ หยาง หัวหน้าพ่อครัวขนมสุโขทัยกรุงเทพฯ The Sukhothai Bangkok และทีมงานมากความสามารถภูมิใจเสนอชุดน้ำชายามบ่ายที่สวยงามซึ่งประดิษฐ์ขึ้นตามธีม “Legacy of Pearls” ในชุดมีทั้งอาหารคาวและของหวานที่หลากหลาย โดยทุกชิ้นได้แรงบันดาลใจและนำเสนอออกมาถึงรูปทรงของหอยและไข่มุก เช่น หอยนางรมลวก ริคอตต้าทรัฟเฟิลพัฟเพสตรี้ มูสตับไก่กับไข่มุกสีส้ม และอื่นๆ อีกมากมาย ชุดน้ำชายามบ่ายนี้จะเสิร์ฟพร้อมกับ SARO, The Oriental Senses of Premium Organic Tea แบรนด์ Matara ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 เป็นแบรนด์เครื่องประดับสุดหรูที่เชี่ยวชาญด้านไข่มุกธรรมชาติและไข่มุกเลี้ยง ห่างไกลจากความคิดเดิมๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องประดับมุกแบบคลาสสิก พวกเขาเสนอการตีความที่สร้างสรรค์มากขึ้นโดยผสมผสานความงามและความสมบูรณ์แบบของไข่มุกเข้ากับการออกแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย เราขอพาทุกท่านมาลองชมกันทีละชิ้นอย่างละเอียดกันครับ เริ่มต้นด้วยกลุ่มอาหารคาว Warm Savoury Poached oyster, scallop, milk foam, balsamic pearl เริ่มต้นกันด้วยเมนูหอยกันแต่ไม่ใช่หอยชนิดเดียว เพราะชิ้นนี้คือหอยนางรมหวานอวบครีมมี่ที่ออนท๊อปด้วยสแกลอปตัวโตสดแน่นเนื้อหวาน ประกอบกับโฟมนมมันๆเบาๆ และบัลซามิคที่ขึ้นรูปคล้ายคาร์เวียร์ที่ให้รสหวานอมเปรี้ยวๆสัมผัสกรุบกรึบ มาต่อกันที่หมวดหมู่ Sandwich Ricotta truffle mouse, puff pastry พัฟกรอบหอมเนยเรียงตัวหลายชั้นที่มาพร้อมกับมูสรีคอทต้ากลิ่นกรุ่นไปด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเห็ดทรัฟเฟิล Japanese pearl melon, shaved Iberico ham orange pearl ชิ้นนี้เป็นเมลอนหวานฉ่ำจากญี่ปุ่น ของดีประจำฤดูร้อนแห่งแดนอาทิตย์อุทัย หุ้มห่อด้วยไอเบอริโก้แฮมรสกลมกล่อมมันเค็มกำลังดี ที่มาพร้อมกับไข่มุกซอสส้มซึ่งเป็นการนำซอสส้มไปขึ้นรูปเป็นทรงสาคูด้วยเทคคิคการหยอดลงในน้ำเย็น The Sukhothai’s smoked…

Read More

หลังจากที่เราชื่นชอบและคุ้นเคยกับอาหารสไตล์ Fine Dining, Omakase และ Chef’s Table มาพักใหญ่ นาทีนี้ ไม่มีอะไรที่จะซุปเปอร์เทรนดี้ มาแรงเท่ากับร้านอาหารสไตล์ Casual Fine Dining ที่สามารถตอบรับความต้องการของนักชิมหลังยุคโควิด ที่มองหาประสบการณ์ด้านอาหารรสเลิศในบรรยากาศสบายๆ ให้ทุกคนในครอบครัวสามารถมีความสุขร่วมกันในการรับประทานอาหารมื้ออร่อย ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ ทั้งในเรื่องแหล่งที่มาและคุณภาพของวัตถุดิบ รวมถึงเทคนิคในการปรุงอาหารโดยเชฟมืออาชีพที่ปรุงให้เห็นสดๆ ตรงหน้า พร้อมเสิร์ฟในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง เหมือนนั่งรับประทาน home-cooking meal อร่อยๆ ที่บ้าน Sooooo Goood Gourmet เป็นร้านอาหารอาหารสไตล์ Casual Fine Dining หนึ่งเดียวในซอยราชวินิต บางแก้ว ที่กำลังมาแรง ชื่อร้านมาพร้อมกับอักษรตัว “O โอ” 9 ตัว ที่บ่งบอกถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่จริงจังในการนำเสนออาหาร fine dining ในแง่ของวัตถุดิบคุณภาพ ทีมเชฟมืออาชีพที่มาพร้อมกับเทคนิคการปรุงอาหารระดับสูงนำทีมโดย Chef Jose Martin Ruiz Borja หรือ Chef Pepe ซึ่งมีดีกรีเป็นถึง Executive Chef ของโรงแรมหรูในกรุงเทพฯ มาก่อน รวมถึงการให้บริการภายใต้การดูแลของคุณเชิดชัย ทมแก้ว หรือ คุณแซ็ค ผู้จัดการร้านที่ผ่านงานร้านอาหารในโรงแรมระดับ 5 ดาวมาแล้วหลายแห่ง และยังเป็นไวน์กูรูประจำร้าน สามารถแนะนำไวน์รสเลิศไว้ดื่มคู่กับอาหารแต่ละจานได้อย่างลงตัว แม้จะเจอวิกฤตโควิดแต่ด้วยใจรักเมืองไทยและคนไทย Chef Jose เลยผันตัวเองจากเชฟโรงแรมมาเปิดร้านอาหารนี้กับคุณพัชรินทร์ เหมอังกูร หรือ คุณจ้อ นักธุรกิจสาวเจ้าของ Gourmet One ซึ่งเป็นผู้นำเข้า fine food products เจ้าใหญ่ของวงการในประเทศไทย ดังนั้น จึงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ เพราะทั้งสดใหม่ สั่งตรงตามฤดูการเพาะปลูกจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเซีย รวมถึงเนื้อวัวพรีเมี่ยมที่ Gourmet One เป็นเจ้าใหญ่ในการนำเข้า เนื้อทุกชิ้นของ Gourmet…

Read More

 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เปิดสัมผัสประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายชุดใหม่ HOUSE OF BLOOM โดยการทำงานร่วมกันของเชฟอนุพงษ์ นวลฉวี  หัวหน้าพ่อครัวเพสทรีของโรงแรมฯ และ นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินผู้รังสรรค์ศิลปะการจัดวางดอกไม้หลากหลายชนิดสู่ภาพถ่ายเหนือจินตนาการ ณ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ศิลปินผู้ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการแอบวาดภาพดอกไม้ ดอกไม้เรียบๆ ที่วาดกลีบดอกไม้ต่างๆ ซ้อนทับกันหลายๆชั้น เพื่อทำให้เกิดภาพดอกไม้หน้าตาแปลกใหม่ไม่ซ้ำกับใคร ลงในหนังสือเรียนตอนเด็กๆ ดังนั้นผลงานชุดนี้จึงเป็นการนำเอากลีบดอกไม้จากหลากหลายสายพันธุ์มาวางเรียงกันอย่างไร้ข้อจำกัดใดๆ เพื่อทำให้ภาพวาดดอกไม้ที่เต็มไปด้วยเสรีภาพทางความคิดในวัยเด็ก กลับมาเป็นดอกไม้ที่มีอยู่จริงแม้จะอยู่ในช่วงชีวิตของความเป็นผู้ใหญ่ในวัยปัจจุบัน เชฟอนุพงษ์ นวลฉวี (หรือ เชฟเอ๋) หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี ซึ่งได้รางวัลการันตีมากมาย ได้รังสรรค์เมนูซิกเนเจอร์ เป็น The Orchid ช็อคโกแลตขาวปั้นรูปดอกกล้วยไม้ รสเสาวรสที่ติดอยู่บนกิ่งก้านของต้นกล้วยไม้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจ จากภาพถ่ายดอกไม้ของศิลปิน จิบคู่กับชาสัญชาติฝรั่งเศส มาริยาจ แฟรส์ (MARIAGE FRÈRES) ซึ่งเป็นชาที่ได้ชื่อว่าเป็นชาอันดับ 1 ของโลก เมนูเริ่มเสิร์ฟด้วยซอร์เบต์ตะไคร้และดอกเอลเดอร์ สร้างความสดชื่น ส่วน สโคน เชฟจะใช้เป็นดอกลาเวนเดอร์ และไวท์ช็อคโกแลตมาผสมผสานในสูตรต้นตำรับ ทานคู่กับแยมคาราเมลเนยสด ส่วนของขนมหวานที่มีดอกไม้นานาชนิดเป็นส่วนผสม อาทิ พีชเค้กและดอกเชอร์รีบลอสซัมป๊อปเค้ก, คาราเมลแอปเปิ้ลที่ทานคู่กับเมอแรงค์ยูซุและครีมกุหลาบ, ดอกกระเจี๊ยบเชื่อมผลไม้แห้งตัดรสเปรี้ยวด้วยเสาวรสเจลลี่, ขนมแห่งเมืองแซ็งทรอเป้ ( St. Tropez) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งดอกไม้ เป็นรสชาติของขนมปังบริยอชสอดไส้ครีมดอกส้ม ส่วนเมนูอาหารคาว มีทั้ง เมี่ยงบัวหลวงกุ้ง, ปอเปี๊ยะดอกไม้และปลากระพง, ทาร์ตหน่อไม้ฝรั่งกับเห็ดทรัฟเฟิล, แซนวิชแซลมอนรมควัน, ทูน่าสดเคล้าซอสพอนสึ เป็นต้น จิบคู่กับชาสัญชาติฝรั่งเศส มาริยาจ แฟรส์ แนะนำให้ทานคู่กับชาที่ผสมผสานกลิ่นดอกไม้ อาทิ ชา Macro Polo มีส่วนผสมดอกพีช, ชา L’Opera มีส่วนผสมดอกกุหลาบป่า, ชา Darjeeling มีส่วนผสมดอกลาเวนเดอร์, ชา Lune Rouge มีส่วนผสมกุหลาบฝรั่งเศส, ชา De-Stress มีส่วนผสมดอกมาโยซิส และชา Breakfast in Paris มีส่วนผสมดอกมะลิไทย สัมผัสประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่ายชุด HOUSE OF BLOOM ราคาเซ็ตละ 1,950 บาท ++ สำหรับ 2 ท่าน รวมชา หรือกาแฟ หรือม็อกเทล  (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ) เสิร์ฟทุกวันระหว่างเวลา 14.00 น – 18.00 น. ณ เดอะ ล็อบบี้ ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ (BTS ราชดำริ) สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0 2126 8866 หรืออีเมล: [email protected] Kin Promo Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก…

Read More

บ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเป็นที่อื่นคงเสิร์ฟอาฟเตอร์นูน ที ที่มาพร้อมสโคนและขนมอบใหม่ แต่ไม่ใช่สำหรับ เย่า เรสเตอรองท์ ห้องอาหารจีนตกแต่งสไตล์เซี่ยงไฮ้ ที่เสิร์ฟเซต ‘หยำฉ่า’ ติ่มซำคู่กับชาจีนหอมกรุ่นเพื่อความสุนทรีย์ในยามบ่ายพร้อมวิวมหานครและแม่น้ำเจ้าพระยา บ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเป็นที่อื่นคงเสิร์ฟอาฟเตอร์นูน ที ที่มาพร้อมสโคนและขนมอบใหม่ แต่ไม่ใช่สำหรับ เย่า เรสเตอรองท์ ห้องอาหารจีนตกแต่งสไตล์เซี่ยงไฮ้ ที่เสิร์ฟเซต ‘หยำฉ่า’ ติ่มซำคู่กับชาจีนหอมกรุ่นเพื่อความสุนทรีย์ในยามบ่ายพร้อมวิวมหานครและแม่น้ำเจ้าพระยา ‘หยำฉ่า’ มาจากภาษาจีนกวางตุ้ง ที่มีความหมายว่าดื่มชา แต่ในฮ่องกงแล้ว หยำฉ่า หมายถึงการดื่มชาควบคู่ไปกับการรับประทานติ่มซำ เชฟบรูซฮุย หัวหน้าเชฟชาวจีน จาก เย่า เรสเตอรองท์ แนะนำเมนูน้องใหม่ ‘หยำฉ่า’ เสิร์ฟพร้อมชาจีนเพื่อสุขภาพที่จิบคู่ไปกับติ่มซำปรุงสดใหม่จากวัตถุดิบคุณภาพ เช่น หอยเป๋าฮื้อในซอสสีทอง ขนมจีบ เสี่ยวหลงเปา กุ้ยช่ายทอดไส้ปลาพร้อมของทานเล่นต่างๆ เช่น ขนมผักกาด ข้าวห่อใบบัว เกี๊ยวปูชีส และเมนูอื่นๆให้อิ่มอร่อยในช่วงบ่าย ปิดท้ายด้วยขนมหวานเช่นขนมเปี๊ยะไส้คัสตาร์ด และสาคู แคนตาลูป หยำฉ่า เซตติ่มซำ ชาจีน พร้อมเสิร์ฟทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่ 15.00 -17.00 น. ราคา 1,888++บาท ต่อ 1 เซตสำหรับ 1 ท่าน สำรองที่นั่งและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำรองโดยตรงบนเว็บไซต์ : http://sevn.ly/xFOEo2L0 ไลน์ (LINE) : @marriottsurawongse โทร : 02 088 5666 เว็บไซต์ www.yaobangkok.com Kin Promo Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ…

Read More

นิทรรศกาลสู่การบรรลุตัวตนผ่านงานแสดงผลงานศิลปะ เวิร์คช็อปศิลปะบำบัด และประสบการณ์รับประทานอาหารเพื่อค้นพบสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิต กรุงเทพฯ มิถุนายน 2565 – 137 พิลลาร์ สวีทแอนด์เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ร่วมกับ TwelveArt และ Mission On พร้อมเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ “ปัญญาแห่งตน”(Wisdom of Self) ผ่านสามกิจกรรมสร้างสรรค์ จุดประสงค์ของงานนี้เพื่อเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้จักกับธรรมชาติของตนเองและก้าวออกจากขีดจำกัดสู่อิสรภาพ ภายใต้การดูแลของคุณ เกณฑ์ เมธาจารุนนท์ หัวหน้าภัณฑารักษ์จากทเลวล์อาร์ท และที่ปรึกษาด้าน Brand Experience งาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ โดยงานนี้จะจัดให้มีการแสดงผลงานศิลปะตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ถึง 23 กันยายน 2565 ที่บ้านบอร์เนียวคลับ ชั้น 26 ของโรงแรม นอกเหนือจากงานแสดงผลงานศิลปะยังมีการจัดเวิร์คช็อปอปศิลปะบำบัด (expressive art therapy) และเมนูอาหาร 3 คอร์สตามแนวคิด Timeless Truth นอกจากการแสดงงานศิลปะแล้ว ผู้เข้าชมยังสามารถยกระดับการบรรลุตัวตนผ่านเวิร์คช็อปศิลปะบำบัด(expressive art therapy) ในคอนเซ็ปท์ “Mission On Wisdom” โดย คุณอรญา หิมกร นักบำบัด หัวหน้านักจิตบำบัดและจิตวิทยาการปรึกษาที่ มิชชั่น ออน ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าถึงการยอมรับและเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง ความสงบภายใน การค้นพบตัวตนในอุดมคติ และในที่สุดสามารถค้นพบทิศทางในอุดมคติของการเริ่มดำเนินชีวิตตามตัวตนที่แท้จริง ทั้งหมดดำเนินผ่านกิจกรรมการเขียนอัตโนมัติ การฉายภาพสัญลักษณ์ผ่านการ์ดตัวตน การแกะสลักเทียน และกิจกรรมผ่อนคลายสติ ราคา 2,600 บาทต่อคน ครั้งละ 2 ชั่วโมง จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม 15 คน ที่ห้องประชุม ราชา บรู๊ค ทั้งรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 6 และ 20 สิงหาคม เวลา 16:00 น. – 18:00 น. และสำหรับผู้สนใจทำเวิร์คช็อปนอกเหนือวันดังกล่าวสามารถนัดหมายเพิ่มเติมได้ นอกจากงานศิลปะและเวิร์คช็อป ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถเติมเต็มประสบการณ์ด้วยการรับประทานอาหาร 3 คอร์สตามแนวคิด “Timeless Truth” ในราคาเพียง 1,490++ บาทต่อท่าน และ ราคา 1,990++ บาทต่อท่านพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก ภูมิปัญญาลัทธิเต๋าโบราณที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ    แมกซิม เบล ของโรงแรมได้เตรียมอาหารอันน่าทึ่งสำหรับจิตใจและรูปลักษณ์ เพื่อสำรวจธรรมชาติของชีวิต เริ่มจากคอร์สแรก “ความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติ” (Perfection of Nature)  การนำเห็ดเอโนกิกับซอสไข่แดง สาเกอุ่น  และอูนิมารวมกัน เพื่อแสดงถึงความกลมกลืนของธรรมชาติและทุกสิ่งมีสภาพธรรมชาติของตัวเองที่ไม่ควรฝืน คอร์สที่สอง “เทวภาพ” (Duality) แสดงให้เห็นถึงภาวะคู่กันของชีวิตและการรับรู้ในสิ่งที่ตรงกันข้าม โดมทูเลย์กรอบที่ถูกแต้มสีเปรียบเหมือนสัญลักษณ์หยินและหยาง เมื่อเปิดออกเผยให้เห็นไข่อบไสตล์ฝรั่งเศส (Eggs…

Read More

กิลตี้ (Guilty) ห้องอาหารใหม่ ใจกลางกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่มองหาสถานที่แฮงเอ้าท์แบบมีระดับ เสิร์ฟอาหารสไตล์ลาตินอเมริกัน สัมผัสสีสันแห่งงานศิลปะร่วมสมัย เพลิดเพลินกับดีเจสร้างความบันเทิงตลอดมื้ออาหาร พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ที่ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เชฟคาร์ลอส โรดริเกซ (Carlos Rodriguez) ชาวเวเนซูเอลา หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารกิลตี้ ผู้คร่ำวอดในวงการอาหาร มีประสบการณ์ในการร่วมงานกับหลากหลายห้องอาหารชื่อดังทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย อาทิ ร้าน Mejico, Gaggan – ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว, Meatlicious โดยเชฟ Gaggan Anand รวมถึง Penthouse Bar + Grill เชฟคาร์ลอสเป็นผู้รังสรรค์เมนูทั้งหมดของ Guilty เป็นอาหารในรูปแบบลาตินอเมริกันสมัยใหม่ ผสานวัฒนธรรมการทำอาหารร่วมกันหลายประเทศ ทั้งอาหารเปรู มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมของอาหารนิเคอิ เมนูแนะนำอาทิ ปลาฮามาจิ เชวิเซ่, ทูน่า อะเชวิชาโด เปรูมากิ, ทาโก้ เนื้อวากิว, เนื้อวากิวบราซิลเลียนเสิร์ฟกับซอสชิมิชูรี และไฮไลท์เมนูของหวาน อย่าง ชูโรสรสส้มมะนาว เค้กดั้งเดิมสไตล์เม็กซิกัน แมงโก้ลาตินโน่ ดื่มด่ำกับเครื่องดื่ม รังสรรค์โดยมาสเตอร์มิกโซโลจิสต์ นักออกแบบเครื่องดื่มมืออาชีพ พร้อมออกแบบซิกเนเจอร์ ค็อกเทลคอนเซ็ปต์ลาตินอเมริกัน อาทิ Manteca y Dulce หรือ เลือกดื่มไฮไลท์ช็อตปาร์ตี้ ที่ไม่ควรพลาด กับสูตรลับให้สัมผัสของกลิ่นกาแฟและมะพร้าวหอมกรุ่น การออกแบบตกแต่งห้องอาหาร ได้รับแรงบันดาลใจจาก ผลงานของ ริชาร์ด อาร์ชเวเกอร์ (Richard Artschwager) ซึ่งพื้นที่ภายในมีการผสมผสานรูปทรงเรขาคณิตอย่างโดดเด่น เพื่อให้เข้ากับโทนสีเขียวเอิร์ธโทนและสีเหลืองอำพันเพื่อสร้างสุนทรียภาพ โดยมีแชนเดอเลียร์เรซินวงรีเป็นเซ็นเตอร์พีซขนาดใหญ่ที่ส่องแสงเหนือพื้นที่ทั้งหมดของห้องอาหาร โดดเด่นด้วยศิลปะป๊อปอาร์ต ประดับผนังและจัดแสดงบนจอดิจิทัลด้วยผลงานชิ้นเอกจากศิลปินชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ เมลานี ไกร์ส, นักรบ มูลมานัส, กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย และ คุณศิลปินไทยที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกจากโซเชียลมีเดีย ยูน – ปัณพัท เตชเมธากุล ห้องอาหารกิลตี้ เปิดบริการทุกวันอังคารถึงวันเสาร์ มื้อกลางวัน เวลา 12.00 น. – 14.30 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.00 น. – 24.00 น. สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โทร. 0 2126 8866 หรืออีเมล: [email protected]

Read More

มาอิ่มเอมไปกับชุดน้ำชายามบ่ายธีมใหม่ล่าสุด “เดอะ รอยัล คอลเลกชัน” เสิร์ฟในกรงนกสีทองอันงดงามพร้อมชาหรือกาแฟที่คัดสรรเป็นพิเศษ รังสรรค์โดยทีมเชฟขนมหวานและขนมอบของโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ พร้อมแรงบันดาลใจจากขนมหวานและผลผลิตสดใหม่จากนานาประเทศที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนิน ชุดน้ำชายามบ่าย “เดอะ รอยัล คอลเลกชัน” ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมหวานและผลผลิตสดใหม่จากนานาประเทศที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนในโอกาสต่างๆ ภายในชุด ประกอบด้วยของหวานอันเป็นตัวแทนประเทศต่างๆ ดังนี้ เฟรนช์ ชูว์ สวอน ชูครีม (Choux Cream) ที่ชาวต่างชาติออกเสียงว่า “ชูซ์ อา ลาเคร์ม” หมายถึงกะหล่ำปลีมีครีม ดังนั้นรูปทรงของขนมชนิดนี้จึงเป็นก้อนกลมๆ คล้ายกับรูปทรงของกะหล่ำปลีนั่นเอง ส่วนผสมหลักคือ แป้งชู เนย นมและน้ำ  คำว่า “ชูครีม” เกิดจากการรวบคำตามแบบฉบับของคนไทยเหมือนในกรณี “ไอศกรีม” กลายมาเป็น “ไอติม” นั่นเอง โดยตัวเฟรนช์ ชูว์ สวอน คือการนำครีมสีม่วงและชมพูมาประดับด้วยช๊อคโกแลตแผ่นทรงหัวและปีกหงส์ให้ออกมารูปร่างเหมือนหง ทาร์ตกาแฟเวียดนาม เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มเบาจากแรงบันดาลใจของกาแฟสไตล์เวียดนามที่หอมด้วยกลิ่นของอบเชย และหวานด้วยนมข้น โดยเสิร์ฟมาในรูปแบบของเค้กมอคค่าที่หอมด้วยอบเชย พร้อมกับซอสนมข้นรสกาแฟ เสิร์ฟกับวิปครีมที่เนียนนุ่มด้วยส่วนผสมของมาสคาร์โปน เยอรมันแบล็กฟอเรสต์ “แบล็คฟอเรสต์” (Black Forest) ก็มาจากลักษณะของเค้กที่มองดูละม้ายคล้ายกับเครื่องแต่งกายของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในบริเวณแบล็คฟอเรสต์ โดยพวกเธอจะสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สีขาว-ดำ แล้วสวมหมวกที่มีลักษณะคล้ายปอมปอมสีแดง ซึ่งก็ดูละม้ายคล้ายกับลูกเชอรี่บนตัวเค้กชนิดนี้นั่นเอง และในปีคศ. 2013 คณะกรรมธิการยุโรปได้ออกกฏหมายว่าหากจะขายเค้กชนิดนี้ในชื่อ “แบล็คฟอเรสต์เค้ก” จะต้องใช้บรั่นดีเชอร์รี่ที่มาจากแบล็คฟอเรสต์เท่านั้น (อ้างอิงที่มาจาก พลพรรคนักปรุง 14 มิถุนายน 2561 ) โดย“แบล็ค ฟอเรสต์” (Black Forest Cake) มีต้นกำเนิดมาจากทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน ลักษณะของเค้กจะเป็นเนื้อเค้กช็อกโกแลตหลายๆชั้น สลับกับครีมสดและผลเชอรี่ รสชาติกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมของเหล้าเชอรี่ ออสเตรเลียนลามิงตัน ลามิงตันเป็นขนมยอดนิยมในออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ ทำด้วยเค้กสปอนจ์ ตัดให้เป็นรูปทรงเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆ (cuboids – หนังสือบางเล่มระบุขนาดเป็น 4 x 4 เซ็นติเมตร)…

Read More