ห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ หนึ่งในห้องอาหารที่มีชื่อเสียงอย่างยาวนาน ต้อนรับเชฟคริสเตียน คาลูวัต (Christian Caluwaert) หัวหน้าพ่อครัวคนใหม่ ประจำห้องอาหารตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เชฟคริสเตียน คาลูวัต เป็นลูกครึ่งไทย-เบลเยี่ยม เกิดในประเทศไทย จากนั้นไปศึกษาและเติบโตในประเทศเบลเยี่ยม พร้อมนำประสบการณ์ที่สั่งสมจากการทำงานในห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งทีมีชื่อเสียงทั้งในเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม และมีโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคการทำอาหารอย่างใกล้ชิดกับเชฟจากร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ชื่อดัง อย่างเชฟ Vincent Maillard และเชฟ Frederic Vardon แห่ง Le 39V ร้านอาหารชื่อดังใจกลางกรุงปารีส จากนั้นเขาได้กลับสู่ประเทศไทย เมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยทำงานในตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัว (Chef de Cuisine) ที่ห้องอาหารฝรั่งเศสและสเต๊กเฮ้าส์ 2-3 แห่ง ในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะมาเป็นหัวหน้าเชฟคนใหม่ประจำห้องอาหาร “เมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์” เชฟคริสเตียน ได้รังสรรค์เมนูใหม่และเพิ่มเทคนิคในการปรุงอาหารแบบเฉพาะตัวลงไปในเมนูยอดนิยมของห้องอาหารเมดิสัน อาทิ ซิกเนเจอร์สเต๊กโทมาฮอว์ค สเต๊กเนื้อวากิว สเต๊กไดแอน เนื้อแฮมหมูดำไอบีเรียน บอสตันล็อบสเตอร์ย่างเนยสมุนไพร และแคเนเดียนล็อปสเตอร์ ขาปูอลาสก้ายักษ์ หอยนางรมจีราโด (Gillardeau) เสิร์ฟสไตล์ซีฟู้ดแพลทเทอร์ ส่วนของหวาน แนะนำนิวยอร์คชีสเค้ก รสนุ่มละมุน นอกจากนี้ยังมี เทสติ้งเมนูอาหาร 6 คอร์ส ในราคา 2,990++ บาทต่อท่าน (ราคาไม่รวมภาษี 7% และค่าบริการ 10%) ห้องอาหารเมดิสันเปิดให้บริการ มื้อกลางวัน เวลา 12.00 น. ถึง 14.30 น. (วันจันทร์ – วันเสาร์) และ มื้อค่ำ เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. (วันจันทร์ – วันอาทิตย์) สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โทร. 0 2126 8866 หรืออีเมล: [email protected] ห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์, เชฟคริสเตียน คาลูวัต, โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ, New chef, New menu, Madison Steak House, Anantara Siam Bangkok, ห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์, เชฟคริสเตียน คาลูวัต, โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ, New chef, New menu, Madison…
Author: Kittin Assavavichai
Chef : เชฟชัชษร ประทุมมา : 10 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A เปิดประสบการณ์ความอร่อยกับ Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา ที่ห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ลิ้มลองเมนูอาหารไทย 5 คอร์ส ที่เชฟชัชษร ประทุมมา หัวหน้าเชฟครัวไทยได้รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน เชฟผู้มากประสบการณ์กับโปรไฟล์สุดปังที่เคยถวายงานเป็นอดีตเชฟของกษัตริย์ประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง โดยครั้งนี้ Kin&Leisure จะพาทุกท่านไปลิ้มรสอาหารรสที่คนไทยถูกปาก ต่างชาติประทับใจ รส กลิ่น สัมผัสครับ ผสานกับเทคนิคการนำเสนอการจัดจานรูปแบบใหม่ที่เพิ่มความสร้างสรรค์เข้าไปให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เริ่มต้น ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าตึงเครียดด้วยน้ำผักผลไม้ปั่รสูตรเฉพาะที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารเป็น Welcome drink เช็ดมือกันด้วยผ้าเย็นหอมๆช่วยให้สบาย ผ่อนคลาย Chef’s Table @THB 3,600++ per person Amuse bouche เริ่มจากเมนูของว่างที่รวม 3 เมนูอย่าง เมี่ยงคำ ข้าวตังน้ำพริกไข่ปู และ ข้าวตังน้ำพริกกุ้ง ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว Miang Kham (เมี่ยงคำ) Miang of pomelo, coconut, ginger, coconut sugar sauce served on a betel leaf เมี่ยงคำรสชาติกลมกล่อม ที่เสิร์ฟเครื่องเคียงสมุนไพร มะพร้าวคั่ว ห่อด้วยใบชะพลูปลอดสารพิษ เติมน้ำเมี่ยงสูตรเฉพาะ ที่นำน้ำตาลมะพร้าวมาเคี่ยวจนได้ที่ เพิ่มเนื้อมะพร้าวและสมุนไพรนานาชนิด เคี่ยวต่อจนได้น้ำเมี่ยงรสชาติกลมกล่อม Khao Tang Nam Prik Kai Pu (ข้าวตังน้ำพริกไข่ปู) Spicy crab roe relish on rice…
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์และภูมิอากาศที่ไม่มีที่ไหนเหมือน จึงก่อให้เกิดเขตผลิตไวน์ที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร, เป็นถิ่นกำเนิดของชุมชนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาสำหรับทั้งเกษตรกรผู้ปลูกองุ่น ผู้ผลิตไวน์ ผู้ที่ศึกษาด้านการปลูกองุ่น และผู้ปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตไวน์เป็นการเฉพาะ เรามีพันธุ์องุ่นมากกว่า 100 สายพันธุ์ที่ปลูกใน 65 เขตผลิตไวน์ เรามีอิสระในการผลิตไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยกรรมวิธีของเราเอง เราไม่ต้องยึดมั่นต่อขนบประเพณีใดใด และเราไม่หยุดที่จะก้าวข้ามผ่านทุกข้อจำกัด เพื่อให้ได้มาซึ่งไวน์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจและหลากหลายที่สุดในโลก และนี่คือทางของเรา -ประเทศออสเตรเลียคือฉากแห่งไวน์ที่หลากหลายที่สุดในโลก องุ่นต่างสายพันธุ์มากกว่า 100 สายพันธุ์ ปลูกใน 65 เขตผลิตไวน์ -ชุมชนไวน์ของประเทศออสเตรเลีย มีชื่อเสียงเรื่องความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นที่จะทดลอง -ไวน์ของออสเตรเลียแสดงถึงต้นกำเนิด ของผู้ที่บรรจงสร้างมันขึ้นมา, ดิน และสภาพภูมิอากาศอันหลากหลายของประเทศฯ ภูมิอากาศอันหลากหลายของเขตผลิตไวน์ของออสเตรเลีย rpt -ตำแหน่งเส้นรุ้ง อิทธิพลจากทะเล และระดับพื้นสูงต่ำลดหลั่นต่าง ๆ กันของประเทศออสเตรเลีย ล้วนแล้วแต่นำไปสู่ความหลากหลายทางสภาพภูมิอากาศอย่างน่าประหลาดใจ -เขตผลิตไวน์คุณภาพสูงอยู่ในบริเวณที่อากาศอบอุ่นของประเทศ -หนาแน่นในนิวเซ้าธ์เวลส์, ออสเตรเลียใต้, แทสเมเนีย, วิกตอเรีย และออสเตรเลียตะวันตก พื้นที่ผลิตไวน์ ประเทศออสเตรเลียแบ่งพื้นที่อันหลากหลายออกเป็น 65 เขต ตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศที่แตกต่างกัน ออสเตรเลียเป็นประเทศแห่งไวน์ที่ไม่มีใครเหมือน ในงานนำเสนอพาวเวอร์พอยต์ที่เราจัดทำนี้ จะมีข้อมูลของ 10 เขตพื้นที่ผลิตไวน์ ซึ่งท่านสามารถนำไปใช้ในการจัดอบรมหรือจัดกิจกรรมของท่านได้ และจะทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมมากขึ้นด้วย ท่านสามารถใส่เพิ่มโลโก้ของท่านเอง หรือดัดแปลงสไลด์ในแบบที่ท่านต้องการได้ หรือเพียงแต่นำเอาสไลด์ที่ท่านเห็นว่ามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องไปใส่รวมกับสไลด์ของท่านได้เลย Adelaide Hills อ่านรายละเอียด>>ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Barossa อ่านรายละเอียด>>ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Clare Valley อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Coonawarra อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Great Southern อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Margaret River อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint McLaren Vale อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Mornington อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Tasmania อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Yarra Valley อ่านรายละเอียด>> ดาวน์โหลดงานนำเสนอ PowerPoint Kin General Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร…
โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เปิดสัมผัสประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายชุดใหม่ HOUSE OF EDEN โดยการทำงานร่วมกันของเชฟอนุพงษ์ นวลฉวี หัวหน้าพ่อครัวเพสทรีของโรงแรมฯ และ อรรถกฤษณ์ วรรณสอน หรือที่รู้จักกันในนาม Krishna the Fifth ศิลปินที่รังสรรค์ผลงานจิตรกรรมด้วยจินตนาการจากเรื่องเล่าของสวนเอเดนกับผลไม้ต้องห้าม อรรถกฤษณ์ วรรณสอน ศิลปินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการรับรู้ เพื่อสื่อสารเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ สัตว์ และพระเจ้า โดยถ่ายทอดเรื่องราวของสวนเอเดน สู่ภาพวาดสีน้ำผสมผสานสีอะคริลิค เชฟอนุพงษ์ นวลฉวี หัวหน้าพ่อครัวเพสทรีของโรงแรมฯ ได้รังสรรค์เมนูของหวานโดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลไม้ต้องห้ามแห่งสวนเอเดน คือแอปเปิ้ล โดยเมนูซิกเนเจอร์ เป็นRed Delicious Apple ชูครีมสอดไส้แอปเปิ้ล เคลือบด้วยไวท์ช็อคโกแลตและมะพร้าว ประดิษฐ์เป็นรูปผลแอปเปิ้ลสีแดงสดใส เมนูจะเริ่มเสิร์ฟด้วย ซอร์เบแอปเปิ้ล ตามด้วยสโคนแอปเปิ้ลกลิ่นอบเชย, สโคนครีมชีสบัตเตอร์ ทานกับแยมส้ม, แยมสตรอร์เบอร์รี และครีมคลอตเต็ด ตามด้วยเมนูของคาว อาทิ แซนด์วิชแตงกวาสอดไส้แซลมอนและครีมชีสเห็ดทรัฟเฟิล, ริลเล็ตต์เนื้อปูและบีทรูท, ปานีปูรีไส้ไก่โคโรเนชั่น, คีชหัวหอมอบชีสมันเชโก และฟอคคาเซียชีสบูราตาหน้าพาร์มาแฮม และขนมหวาน อาทิ มาการองรสแอปเปิ้ลเอนวี่และเอิร์ลเกรย์, โรลแอปเปิ้ลมาร์ชแมลโลว์รสส้มยูซุ แนะนำให้ทานคู่กับ ชา มาริยาจ แฟรส์ ปรุงพิเศษ กลิ่น Eléphant Blanc (ช้างเผือก) ชาดำที่ได้แรงบันดาลใจจากช้างเผือก ซึ่งถือว่าเป็นช้างหายากคู่บ้านคู่เมืองตั้งแต่อดีต ถูกนำมาเปรียบเทียบกับชาชนิดนี้ที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศป่าและผลไม้หายากตามฤดูกาล ซึ่งมีเสิร์ฟเฉพาะที่โรงแรมอนันตรา สยาม เท่านั้น สัมผัสประสบการณ์การจิบน้ำชายาบ่าย พร้อมชื่นชมงานศิลปะ “HOUSE OF EDEN” และเปียโนบรรเลงสด ในราคาชุดละ 1,950 ++ บาท สำหรับ 2 ท่าน รวมชามาริยาจ แฟรส์ (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%) ทุกวันระหว่างเวลา 14.00 – 18.00 น. ณ เดอะ ล็อบบี้ ชั้น 1…
Buffet Dimsum Date : Oct 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. สำหรับท่านที่อยู่ระหว่างการมองหาร้านอาหารจีนแนวกวางตุ้ง ที่มีจุดเด่นทั้งเมนูติ่มซำและอาลาคาร์ต ในราคาสบายกระเป๋า แถวย่านลาดพร้าว รัชดา ห้องอาหารหล่งฟ่ง ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจและน่าลองไปรับประทานเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีตั้งแต่ของทั่วๆไปแต่อร่อยล้ำอย่างไก่แช่เหล้า ติ่มซำสุดคลาสิคอย่าฮะเก๋าขนมจีบ เมนูพรีเมียมอย่างฮะเก๋ารังนกออนทอปด้วยอิกุระ สุดพิเศษที่รวมเป็ดปักกิ่งหนังกรอบ ไปจนถึงซุปเกี้ยวหล่งฟ่งขึ้นชื่อสุดกลมกล่อม ฯลฯ เอาใจคนรักบุฟเฟ่ต์สายอาหารจีน ด้วย “ห้องอาหารจีนหล่งฟ่ง(Loong Foong)” ณ โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ลิ้มรสอาหารจีนต้นตำรับ ท่ามกลางบรรยากาศคลาสสิคแบบดั้งเดิม “หล่งฟ่ง” มีความหมายแปลเป็นไทยว่า “มังกรกับหงส์” ซึ่งแสดงออกถึงความรุ่งเรืองของอาหารจีน โดดเด่น บรรยากาศสบายๆ มีห้องส่วนตัวหลายห้องหลายขนาด รับรองแขกได้ตั้งแต่ 5-6 ท่าน จนถึง 20 ท่าน ที่ให้บริการทั้งบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ บุฟเฟ่ต์อาหารจีน และอาหารโต๊ะจีนแบบเซ็ตที่ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถมารับประทานอาหารจีนรสเลิศคุณภาพพรีเมี่ยมกันได้ทุกโอกาส สามารถนัดเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมารับประทานอาหารได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งในโอกาสปกติ และในโอกาสพิเศษ มีห้องส่วนตัวหลากหลายขนาด โดยทางร้านพร้อมต้อนรับด้วยบริการสุดพิเศษ และอาหารจีนในราคาสุดคุ้ม โดยทางร้านมีบุฟเฟต์อาหารจีนและติ่มซำพร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนู ในราคามิตรภาพ และคุณภาพอาหารที่คุ้มเกินราคา บริการอาหารจีนแท้ ๆ ต้นตำรับกวางตุ้ง ที่ปรุงโดยเชฟฝีมือเยี่ยมที่เชี่ยวชาญด้านอาหารจีนด้วยประสบกรณ์กว่า 20 ปี ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบสมัยนิยมอย่าง A La Carte Buffet บุฟเฟ่ต์ติ่มซำและอาหารจีนแบบตามสั่ง ที่เสิร์ฟอาหารจีนแบบต้นตำรับ ผ่านไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้มีความทันสมัย ด้วยการฟิวชั่นผสมผสานกับวัฒนธรรมอาหารอื่น ๆ และดีไซน์รูปแบบอาหารให้สวยงามแปลกใหม่ ซึ่งมีให้เลือกถึง 50 เมนู เสิร์ฟแบบอุ่นร้อนสดใหม่ ทั้งเมนูออร์เดิร์ฟ ซุป ผัด ทอด ติ่มซำต่าง ๆ เช่น ฮะเก๋านึ่งรังนก กร…
พบกับติ่มซำทำใหม่นึ่งสดจากวัตถุดิบพรีเมียม ตามสูตรต้นตำรับแท้ๆ โดย เชฟ เลสลี่ ดูว์ หัวหน้าพ่อครัวชาวจีนแห่งห้องอาหารจีนมาน โฮ ตั้งใจพิถีพิถันดูแลใส่ใจในทุกกรรมวิธี ผสมผสานรสชาติที่คงความอร่อยในแบบต้นตำรับกวางตุ้งดั้งเดิมโดดเด่นด้วยเทคนิคการปรุงเพื่อคงความสดใหม่ของอาหารมากที่สุดภายใต้การนำเสนอในรูปลักษณ์ที่ทันสมัยน่ารับประทาน เพลิดเพลินไปกับเมนูบุฟเฟ่ต์ติ่มซำมื้อกลางวันที่มีให้เลือกมากกว่า 40 รายการ ซึ่งแฟนพันธุ์แท้ของห้องอาหารจีนมาน โฮ ไม่ควรพลาดอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบ กุ้งนึ่งกระเทียม งาทอดไส้ไหล พร้อมเมนูยอดนิยมอย่าง ฮะเก๋ากุ้ง ขนมจีบซิวหม่าย ฟองเต้าหู้นึ่งราดซอสเป๋าฮื้อ เนื้อปลาอบวุ้นเส้น ซาลาเปาไข่เค็ม พร้อมขนมหวานให้ เลือกอย่าง สาคูมะม่วง นมขิงผลไม้รวม และอีกมากมาย รวมถึงยังมีเครื่องดื่มฟรีเติมได้ไม่อั้น ทั้งชาจีนร้อนหรือเย็น และน้ำเก๊กฮวย ในราคาท่านละ 988++ บาท สำหรับวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 11.30 – 14.30 น. และสำหรับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำแบบพรีเมียม ที่มีเมนูต้นตำรับพิเศษให้เลือกเพิ่มเติมอีกหลากหลายเมนู อาทิ หมูกรอบมานโฮ ไก่แช่เหล้าเซี่ยงไฮ้ เป็ดย่างฮ่องกง ก๋วยเตี๋ยวหลอดหอยเชลล์ ราดหน้าหมูย่างกับเนื้อปลา และเมนูของหวานเสริมมงคลอย่าง โอวหนี่แปะก๊วย ในราคาท่านละ 1,188++ บาท พร้อมให้บริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์สำหรับมื้อกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 15.30 น. ห้องอาหารจีนมาน โฮ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ เปิดให้บริการ มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.30 – 15.30 น. และ มื้อค่ำ 17.30 – 22.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ เบอร์โทร 02.656.7700 Kin Promo Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก…
Chef : เชฟเอ๋ อนุพงษ์ : 09 2022 Story : Nathapol K. . / Photo : Pol.Capt.Kittin A ผ่านไปแล้วกับงาน “เวิลด์ กูร์เมต์ เฟสติวัล ครั้งที่ 22” ซึ่งเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลอาหารและไวน์ชั้นเยี่ยมระดับโลก โดยมีเหล่าเชฟระดับมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังทั้งจากในและต่างประเทศซึ่งล้วนแต่ได้รับรางวัลการันตีฝีมือมากมาย มาเพื่อรังสรรค์อาหารรสเลิศด้วยเทคนิคต่าง ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มลองและสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่กันถึงที่ ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม (6 – 11 กันยายน 2565) กิจกรรมภายในงานแต่ละวันก็จะมีเชฟหลากหลายท่านคอยดูแลจัดเตรียมมื้ออาหารสุดพิเศษให้กับทุกท่าน ณ ห้องอาหารต่าง ๆ ภายในโรงแรม ซึ่งมีทั้งอาหารมื้อค่ำ บรันช์ หรือชุดน้ำชายามบ่าย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ นั่นก็คือ กิจกรรมมาสเตอร์คลาส ที่เชฟระดับมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังต่าง ๆ จะมาสาธิตการทำอาหาร พร้อมเผยเทคนิควิธีการทำอย่างละเอียด ให้ทุกท่านได้รับชมอย่างใกล้ชิดและลิ้มลองรสชาติด้วยตนเอง โดยใน column นี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับเชฟเอ๋แห่งอนันตรา เชฟอนุพงศ์ นวลฉวี (เชฟเอ๋) หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี ของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เมนูที่เชฟเอ๋ได้มาสาธิตวิธีการทำก็คือ CHOCOLATE BONBON ซึ่งหมายถึง ลูกอมหรือขนมช็อกโกแลตแบบพอดีสำหรับคำหนึ่ง ที่ภายในสอดไส้ต่าง ๆ ไว้ ช็อคโกแลตที่เป็นพระเอกในวันนี้ คือ passion fruit chocolate เป็นช็อคโกแลตที่มีส่วนผสมของเสาวรส ได้ลองชิมแล้วมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ได้กลิ่นและรสของเสาวรสชัดเจน โดยเชฟจะนำมาเป็นไส้ ร่วมกับ puree เสาวรส ที่มีทั้งเนื้อและน้ำเสาวรส เพื่อให้มีความเข้มข้น วิธีการทำนั้น เริ่มจากนำแม่พิมพ์ที่เป็นหลุม ๆ รูปทรงโดมกลม ไปแช่เย็น แล้วนำมาตกแต่งพื้นผิว โดยใช้แปรงหรือพู่กันจุ่มโกโก้บัตเตอร์ที่ละลายกับสีผสมอาหาร นำมาวาดหรือสะบัดแปรงไปที่แม่พิมพ์ เพื่อให้เกิดลวดลายตามชอบ แล้วจึงนำแม่พิมพ์ไปแช่เย็น จากนั้นนำช็อคโกแลตที่มีความเข้มข้น 57% ไปละลาย แล้วทำการลดอุณหภูมิโดยเทบนแผ่นหินอ่อนให้มีอุณหภูมิอยู่ที่…
เปิดประสบการณ์ความอร่อยกับ Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา ที่ห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ลิ้มลองเมนูอาหารไทย 5 คอร์ส ที่เชฟชัชษร ประทุมมา หัวหน้าเชฟครัวไทยได้รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน เริ่มจากเมนูของว่างที่รวม 3 เมนูอย่าง เมี่ยงคำ ข้าวตังน้ำพริกไข่ปู และ ข้าวตังน้ำพริกกุ้ง ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ต่อด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง ยำหอยเชลล์ เมนูเรียกน้ำย่อยธรรมดาที่ไม่ธรรมดา โดยเชฟชัชษรได้คัดสรรหอยเชลล์ขนาดใหญ่นำเข้าจากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น วางเจลลี่น้ำยำรสชาติจัดจ้านปรุงจากน้ำเสาวรสไว้ด้านบนตัวหอย ท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ ไม่ควรพลาดเมนูซุปที่หาทานได้ยากอย่าง ต้มเต้าเจี้ยวปลาฟู ที่เชฟผสมผสานความเป็นไทยของเต้าเจี้ยว กะทิ และสมุนไพร เข้ากับความเป็นตะวันตกของปลาแซลม่อนได้อย่างกลมกล่อม เพิ่มความสดชื่นก่อนถึงเมนูจานหลักด้วย เมล่อนกรานิต้า อิ่มอร่อยกับเมนูจานหลักอย่าง คั่วกลิ้งสเต็กเนื้อ รสชาติเผ็ดร้อนเสิร์ฟพร้อม ข้าวยำ 3 กษัตริย์ ที่ทางเชฟเลือกข้าวกล้อง ข้าวมันปู และข้าวไรซ์เบอร์รี่ มาคลุกเคล้าผสมกับสมุนไพรกว่า 10 ชนิด ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างเมนู กล้วยทอด ของหวานสไตล์ไทยๆ ที่นำกล้วยไข่มาทอดร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิและซอสฮันนี่ วานิลลา Chef’s Table โดยเชฟชัชษร ประทุมมา พร้อมบริการคุณทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในราคาท่านละ 3,600++ บาท และ ราคาท่านละ 6,000++ บาท สำหรับอาหารพร้อมเครื่องดื่ม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 02 095 9999 หรือเยี่ยมชมเว็ปไซต์ชองโรงแรมได้ที่ www.kempinski.com/en/bangkok/sindhorn-hotel/ Kin Promo Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น…
ลา สกาลา ห้องอาหารอิตาเลียนระดับรางวัลรวมถึงมิชลินไกด์ห้าปีซ้อน ประจำโรงแรมสุโขทัยกรุงเทพ นำโดยเชฟชาวอิตาเลียน อิวจินิโอ แคนโนนิ เรียนเชิญเชฟระดับติดดาว เชฟ ลูคา อาบรูซิโน ที่ปัจจุบันเป็นเชฟและเจ้าของร้านมิชลินหนึ่งดาว Ristorante Abbruzzino ที่ตั้งอยู่ที่ Via Fiume Savuto, 88100 Cava-cuculera Nobile CZ, Italy เมืองทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกเพื่อร่วมสรรสร้างเมนูพิเศษร่วมกันในรูปแบบ Four Hands Collaboration ในโปรโมชั่นสุดเอ็กคลูซีฟครั้งนี้ เพียงสามวันตั้งแต่วันที่ 27-29 ตุลาคม 2565 มื้อกลางวันและมื้อค่ำเพียง 6 มื้ออาหารเท่านั้น ห้องอาหาร Ristorante Abbruzzino โดยเชฟ ลูคา อาบรูซิโน ที่เป็นทั้งเชฟและเจ้าของได้รับการยอมรับในเรื่องการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดประจำถิ่นมาปรับใช้ในงานครัวสากลระดับโลก ในปี 2013 ร้านอาหารได้รับการประดับดาวมิชลิน (One Michelin Star) ซึ่งเป็นการยืนยันในเรื่องของแนวคิดและความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นของเชฟ ลูคา อาบรูซิโน ประกอบกับการเรียนรู้และซึมซับการปรุงอาหารสไตล์อิตาเลียนดั้งเดิมของแคว้นคาราเบียของคุณพ่อ ได้ทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จแบบไม่มีข้อกังขา ในการร่วมปรุงอาหารครั้งนี้ระหว่าง Luca Abbruzzino และ Eugenio Cannoni ได้นำเสนอการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแคว้นคาราเบียและเพียดมองต์ ถิ่นกำเนิดจากเชฟทั้งสอง ร่วมกันปรุงเมนูอาหารด้วยความเอาใจใส่และตั้งใจเพื่อให้อาหารที่นำเสริฟมีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบการนำเสนอที่สวยงามทันสมัย เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์อันน่าจดจำแด่นักชิมทุกท่าน 27 – 29 ตุลาคม 2565 8 Courses: 4,600++ บาทต่อท่าน 6 Courses: THB 3,900++ บาทต่อท่าน 4 Courses: THB 2,300++ บาทต่อท่าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ 02 344 8888 หรืออีเมล์มาที่ [email protected] Kin Promo Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว…
Chef : ~ : 09 2022 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Bai Yun: Wellness Meal สำหรับ คอร์สอาหารพิเศษใน wellness program ของ Banyan tree ก็จะมีการจัดให้เหมาะสมตามสภาวะของร่างกายที่ได้รับวินิจฉัยโดยแพทย์จีน เป็นเมนูพิเศษที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นเมนูอาหารจีนที่ห้องอาหาร Bai Yun หรือ อาหารนานาชาติที่ห้องอาหาร ร่มไทร การกินอาหารที่โอบล้อมไปด้วยเมฆขาว ตามชื่อห้องอาหาร Bai yun ซึ่งแปลว่า เมฆขาว กับทัศนียภาพกรุงเทพมหานคร อันสุดลูกหูลูกตา จรดเส้นขอบฟ้า ด้วยความสูงจากชั้นที่ 59 ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้จากความชอบส่วนตัวของเรา และ เพื่อให้เข้าธีมการรักษาแบบครบวงจรจากแพทย์แผนจีน เราจึงเลือกคอร์สเมนูที่ห้องอาหาร Bai Yun กันครับ หลังจากเลือกห้องอาหารแล้ว ผู้ประสานงานของ wellness ก็จะทำการจองห้องอาหารให้เราเรียบร้อย สะดวกสบายมาก ๆ ซึ่งมื้ออาหารที่เราเลือกรับคือ มื้อเที่ยงในวันถัดไปครับ สำหรับห้องอาหาร ไบยุนแห่งนี้ บรรยากาศในช่วง ตอนกลางวัน และ ตอนกลางคืน ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ให้ความรู้สึกคนละเรื่องกันเลยทีเดียว ในช่วงกลางคืนเรียกได้ว่า บรรยากาศค่อนข้างจะโรแมนติกเลยทีเดียว ส่วนกลางวันก็แทบจะเห็นทุกมุมของกรุงเทพไปจนถึงสมุทรปราการ จากย่านเมืองเก่าไปจนถึงบางกระเจ้าและอ่าวไทย เมื่อถึงเวลาอาหารเราก็เดินไปที่ห้องอาหาร Bai Yun ชั้น 59 พร้อมวิวสุดสวยของกรุงเทพ ฯ แวะถ่ายรูปซักหน่อยก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะครับ หลังจากนั่งที่โต๊ะพนักงานก็จะนำเมนูอาหารที่เราเลือกไว้มาแนะนำว่า 4 courses มีอะไรบ้าง สำหรับของผมเป็นคอร์สสมดุล Balanced และของคุณซันจะเป็นคอร์สเสริมทดแทนพลังงาน Yin (Yin Depletion) เมื่ออ่านชื่อเมนูแล้วก็รู้ถึงได้ถึงพลังความขลังและสุขภาพ เริ่มต้นกันด้วย Appetizer Enoki Mushroom Salad (จากชุด…