Author: Kittin Assavavichai

ระบบอัตโนมัติมาถึงโต๊ะทำงานของเราเหล่าสถาปนิก นักออกแบบพื้นที่แล้ว หากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราคงไม่เชื่อว่าเทคโนโลยี (รวมถึงAI) จะสามารถแทนที่งานที่ทำมนุษย์ด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมได้ หากไม่รวมข้อกำหนดการออกแบบและด้าน ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ถ้าใครคิดว่ามันยังเป็นไปไม่ได้คุณคิดผิด! Finch บริษัท ออกแบบน้องใหม่มาแรงที่ได้คิดค้นอัลกอริทึมสำหรับสร้างการกำหนดค่าเชิงพื้นที่ที่แตกต่างกันตามพารามิเตอร์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เมื่อคุณเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดด้วยระยะความกว้างยาวของพื้นที่นั้นๆ อัลกอริทึมของ Finch จะช่วยในการกำหนดโซน ในระยะเริ่มต้นของโครงการ โดยยังคงการใช้งานเดิมทั้งหมดไว้ แต่ระบบจะขยับและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ทางเดิน ช่องเปิด ประตูหน้าต่างให้อย่างลงตัว ซึ่งสามารถปรับปรุงได้ตามความต้องการเฉพาะของงานที่มอบหมาย อัลกอริทึมนี้ได้รับการพัฒนาโดย BOX Bygg และ Wallgren Arkitekter ในอนาคตเราอาจมีซอฟแวร์ที่สามารถออกแบบงานสถาปัตยกกรรมครบวงจร ทั้งวัสดุ พื้ยผิว การประยัดพลังงาน รวมไปถึงการผสานแนวคิดสร้างสรรค์ลงไป ดังนั้นสถาปนิกทั้งหลายอาจจะต้องเริ่มคิดถึงอนาคตกันบ้างแล้วหละครับ เมื่อเทคโนโลยีไม่หยุดพัฒนา คุณก็ไม่ควรหยุดพัฒนาเช่นกัน เพราะในปัจจุบัน AI ได้เข้าไปในทุกวงการไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กฎหมาย แพทย์ และแม้แต่สถาปัตยกรรม Kinlakestars.com Living / Architectural Design FB Fanpage >>> (Click here)https://www.facebook.com/YuarsaiByKinlakestars/ KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน…

Read More

ผู้เขียน : Pol.Capt. Kittin Assavavichai B.Arch ,M.Arch/Tree A. ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองโลกมีบทบาทต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ชุมชน และการพัฒนาอย่างมากแก่บุคคลทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ทวีปแอฟริกาดินแดนที่เคยถูกละเลย การขยายอำนาจและการฟื้นตัวของจีนเป็นตัวแปรใหม่ที่มาแรกแซงยุโรป รัสเซีย จนมาคานกับอเมริกันผู้เคยประกาศว่าตนเป็นตำรวจโลก ทุนจีนมหาศาลไหลทะลักเข้าสู่แอฟริกาผ่านเงินกู้สำหรับภาครัฐในการลงทุนกันการพัฒนาประเทศและขยายสาธารณูปโภคภายใต้โครการ “One belt ,One road” Pretoria, South Africa แม้ว่าอุตสาหกรรมการก่อสร้างทั่วโลกจะชะงักงันในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แต่โครงการ “megacity” ในแอฟริกายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการพัฒนาใหม่ๆ ในเมืองใหญ่ๆ ทั่วทั้งทวีป แม้ว่าเราทั้งหลายอาจตื่นเต้นที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากการเติบโตของเมืองในแอฟริกาสมัยใหม่ ดั่งมหานครที่ผุดขึ้นอย่างรวดเร็วเปลี่ยนแปลงอย่างแทบตามไม่ทันในหลายทศวรรตที่ผ่านๆมาทั้งเซี่ยงไฮ้ โซล โฮจิมิน เป็นต้น และโอกาสการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่เสนอให้กับชาวเมือง แต่เราไม่ควรมองข้ามข้อบกพร่องที่จะเกิดขึ้น ความไม่เชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมกับวิสัยทัศน์ยูโทเปียของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประชากรในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่นี่ มีคำถามมากมายว่าจะสร้างเมืองใหม่ด้วยวิธีอื่นได้หรือไม่ หรือชาวแอฟริกันจะมีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากรูปแบบการจัดตำแหน่งในปัจจุบัน ในหนังสือของ Richard W. Hull ที่ชื่อ African Cities and Towns Before the European Conquest ได้พิสูจน์หักล้างความคิดที่ผิดพลาดและไร้เหตุผลที่ชาวแอฟริกันไม่มีเมืองก่อนการมาถึงของลัทธิล่าอาณานิคมของยุโรป เพราะอันที่จริงชาวแอฟริกันไม่ใช่ชาวป่าที่อาศัยตามถ้ำหรือป่าเขา แต่พวกเขาเองก็มีวิถีชีวิตในเมืองและมีรูปแบบอยู่อาศัยเป็นเมืองทั้งขนาดเล็กระดับหมู่บ้านไปจนถึงเมืองขนาดกลางและใหญ่ต่างๆ ในแอฟริกาก่อนอาณานิคมส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยสภาพแวดล้อมทางสังคมที่แปลกประหลาด และรูปแบบเชิงพื้นที่ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้มีรากฐานอย่างมั่นคงในค่านิยม ขนบธรรมเนียม และความเชื่อของชนเผ่าดั้งเดิม African Cities and Towns Before the European Conquest Richard W. Hull เองยอมรับว่า “ทุกอย่างมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันที่ละเอียดอ่อน และคุณภาพนั้นเองที่ทำให้ชุมชนและเมืองในแอฟริกา รวมถึงโครงสร้างภายในนั้น เป็นผลงานศิลปะ” นอกเหนือจากการเป็นผลงานที่มีชีวิต ชุมชนและเมืองต่างๆ ในแอฟริกายังให้ความสำคัญกับสังคมและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ที่นั่นอย่างไม่เห็นแก่ตัวและหวงแหนวิทยาการ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่แตกต่างจากการสร้างสถาปัตยกรรมและการพัฒนาในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง สภาพของสถาปัตยกรรมมชุมชนเมืองโบราณก่อนที่จะถูกครอบงำทางความคิดจากผู้ล่าอาณานิคมมุสลิม และเหล่าชาวตะวันตก แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะรวมชนเผ่าทั้งหมดข้าด้วยกันเป็นรัฐเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเชื้อชาติและกลุ่มชนเผ่าย่อยๆ ต่างภาษาต่างความเชื่อจำนวนมากประกอบขึ้นเป็นทวีปที่กว้างใหญ่นี้ แต่ผู้คนในแอฟริกาส่วนใหญ่แบ่งปันอุดมการณ์ดั้งเดิมของชุมชน ซึ่งเป็นชุดหลักของค่านิยมทางวัฒนธรรมของชุมชน ค่านิยมเหล่านี้สามารถกำหนดได้ดีที่สุดโดยอัตลักษณ์ทางสังคมที่ครอบคลุมทุกอย่างตามวิถีของอูบุนตู (Ubuntu) ซึ่งเป็นระบบสังคมดั้งเดิมที่เน้นความรับผิดชอบร่วมกันของสมาชิกในแต่ละครอบครัว ชนเผ่า หมู่บ้านต่อชุมชนของพวกเขา พูดภาษาแบบชาวบ้านคืออยู่กันอย่างเกื้อกูล City of Kano, Nigeria…

Read More

ขนมไหว้พระจันทร์ในตำนานด้วยหลากหลายไส้รสชาติยอดนิยมสุดคลาสสิกที่ขายดีที่สุด ให้คุณได้เฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์กันอย่างเปี่ยมสุข https://www.youtube.com/watch?v=srMnf6p_t4w&t=27s เทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของการที่เหล่าสมาชิกของครอบครัวได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอันแสนงดงาม วันพิเศษนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงทอแสงกระจ่างตาทั่วท้องฟ้า และเป็นเวลาที่ทุกคนจะได้ลิ้มรสขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติแสนอร่อยของแชงกรี-ลา ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ แห่งโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ พร้อมที่จะให้คุณและครอบครัวที่คุณรักมาร่วมเฉลิมฉลองหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญของชาวจีน พร้อมต้อนรับ “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ประจำปี พ.ศ. 2564 ไปกับขนมไหว้พระจันทร์ในตำนานหลากหลายรสชาติยอดนิยมสุดคลาสสิกในแบบฉบับแชงกรี-ลา ที่ได้รับความไว้วางใจจากท่านที่ชื่นชอบในการรับประทานขนมไหว้พระจันทร์มามากกว่า 30 ปี ซึ่งในปีนี้แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ได้นำเสนอเรื่องราวของนกฟีนิกซ์ที่ถือเป็นตำนาน และเป็นหนึ่งในเทพนิยายโบราณที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดในยุคปัจจุบัน และได้นำสัตว์มงคลนี้มาประดับบนกล่องขนมไหว้พระจันทร์ประจำปีพ.ศ. 2564 นี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวจากความยากลำบาก ด้วยโทนไล่สีเบอร์กันดีอันโดดเด่น เผยให้เห็นถึงความหรูหราของกล่องขนมไหว้พระจันทร์ที่ไม่ว่าใครที่ได้รับเป็นของกำนัลย่อมยินดี ขนมไหว้พระจันทร์แชงกรี-ลา บรรจุในกล่องดีไซน์สวยหรูหลากหลายขนาด พร้อมจำหน่ายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม – 23 กันยายน พ.ศ. 2564 นี้ ในราคาเริ่มต้นที่กล่องละ 398 บาทถ้วน – 2,198 บาทถ้วน ขนมไหว้พระจันทร์แห่งห้องอาหารจีนแชงพาเลซ รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศนานาชนิดผ่านกรรมวิธีอันแสนพิถีพิถันที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยมาสเตอร์เชฟขนมไหว้พระจันทร์มากประสบการณ์ นำมาบรรจุในกล่องบรรจุภัณฑ์อันหรูหราที่เต็มเปี่ยมด้วยความหมายอันเป็นมงคลให้แก่ทั้งผู้รับและผู้ให้ ขนมไหว้พระจันทร์ในตำนานในแบบฉบับแชงกรี-ลา หลากหลายไส้เลิศรสสุดคลาสสิก ประกอบไปด้วย ไส้โหงวยิ้ง พร้อมไข่เค็มเดี่ยวขนาดปกติ ความโดดเด่นของโหงวยิ้งที่นี่คือส่วนประกอบของไส้นั้นเอง กรุบกรอบไปกับเหล่าถั่วชนิดต่างๆ อาทิ อัลมอนด์ ผสมแฮมยูนนาน ใบมะกรูด หอมซ่าจางๆ ตัดด้วยรสชาติของไข่เค็ม ซึ่งตัวเนื้อนั้นที่นี่จะทำไม่แห้งเกินไป จะใส่ถั่วหลายชนิด อาทิ อัลมอนด์ วอลนัท หนำหยั่น และส่วนผสมอื่นนำเข้าจากประเทศจีน เช่น แฮมยูนาน รวมถึงมันหมูหั่นชิ้นเล็ก เม็ดก๋วยจี้หอมมันจากฮ่องกง เมื่อกัดขนมไหว้พระจันทร์แล้วจะได้รสขาติหอม มันของส่วนผสมเต็มคำ ไส้ทุเรียน พร้อมไข่เค็มเดี่ยวขนาดปกติ ที่ลูกค้าติดใจนั้นเกิดจากความพิถีพิถันของการเลือกวัตถุดิบจะต้องเลือกทุเรียนหมอนทองกวนจากสวนเจ้าประจำ เนื้อเนียนเหนียวและไม่หวานจัด ใช้ทุเรียนหมอนทองกวนจากทางจันทบุรี รสชาติทุเรียนเข้มข้น สีออกน้ำตาลเข้มหน่อยๆ ผสมกับเม็ดลูกบัวเพื่อไม่ให้ตัวเนื้อแข็งเกินไป รสชาติหวานอร่อย หนึบหนับกำลังดี…

Read More

วันแม่ปีนี้ เติมความรักและความอบอุ่นในครอบครัวพร้อมบอกรักคุณแม่ผ่านมื้อพิเศษจากโรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ลุมพินีพาร์ค ที่คุณสามารถรังสรรค์ช่วงเวลาพิเศษได้ที่บ้านของคุณ  เค้กแทนความรักสำหรับคุณแม่ มอบความรัก เติมความหวานผ่านขนมเค้กที่บรรจงรังสรรค์เป็นลวดลายอันสวยงาม ให้คุณได้สื่อความรักให้กับคุณแม่ สั่งจองล่วงหน้า: วันนี้ – วันที่ 9 สิงหาคม 2564 วันจัดส่ง: 11 และ 12 สิงหาคม 2564 ราคา: เค้กดอกมะลิ ราคา 599 บาทสุทธิ / 1 ปอนด์* เค้กพวงมาลัยดอกมะลิ ราคา 699 บาทสุทธิ / 1 ปอนด์ * รสชาติเค้ก: วนิลลา / ช็อกโกแลต / กาแฟ เพิ่มช่อดอกไม้สำหรับคุณแม่ในราคาพิเศษเพียง 599 บาทสุทธิ / 1 ช่อ เมื่อสั่งซื้อเค้กแบบใดก็ได้* ชุดน้ำชายามบ่าย ชวนคุณแม่มาจิบน้ำชาในช่วงเวลายามบ่าย พร้อมเพลิดเพลินไปกับหลากหลายเมนูของว่างและขนมหวาน เคล้าคลอกับชาระดับพรีเมี่ยมจากรอนเนอเฟลด์ ให้คุณได้อิ่มเอมช่วงเวลาที่พิเศษในมุมโปรดที่บ้านของคุณ สั่งจองล่วงหน้า: วันนี้ – วันที่ 9 สิงหาคม 2564 วันจัดส่ง: 11 และ 12 สิงหาคม 2564 ราคา: ชุดน้ำชายามบ่าย – ชุดคลาสสิค ราคา 850 บาทสุทธิ / เซ็ต* ชุดน้ำชายามบ่าย – ชุดพรีเมี่ยม ราคา 1,250 บาทสุทธิ / เซ็ต* ชุดน้ำชายามบ่าย – ชุดพรีเมี่ยม พร้อมเครื่องดื่ม 1 ขวด ราคา 1,999 บาทสุทธิ / เซ็ต* เพิ่มช่อดอกไม้สำหรับคุณแม่ในราคาพิเศษเพียง 599…

Read More

โดยทั่วไปแล้วการดื่มเครื่องดื่มในโลกของเรานั้นสามารถดื่มได้อย่างหลากหลายรูปแบบ มีภาชนะที่หลากหลายรูปทรง แต่โดยทั่วไปเรามักจะเห็นภาชนะเครื่องดื่มที่เป็นทรงโค้งมากกว่าทรงเหลี่ยม แล้วทำไมชาวญี่ปุ่นจึงเอาเจ้ากล่องไม้ทรงสี่เหลี่ยมมาใช้ดื่มเครื่องดื่ม แต่ทำไมบางครั้งเรากลับเห็นเอาแก้วที่มีเครื่องดื่มใส่ไว้ในกล่องไม้อีกที และการใช้กับกล่องไม้มาสุใช้ได้แค่กับสาเกหรือใช้กับสิ่งอื่นด้วย ไปดูกันเลยครับ กล่องไม้มาสุ เป็นภาชนะที่ชาวญี่ปุ่นใช้ใส่อาหาร อย่างเช่นข้าว ธัญพืช และเหล้าสาเก ซึ่งเป็นภาชนะที่ถูกสร้างขึ้นและเริ่มใช้มาเป็นระยะเวลานานกว่า 1,300 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีบทบาทสำคัญในด้านวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ด้วยตัวมาสุสามารถสร้างขึ้นมาง่ายมากเพราะใช้เพียงไม้ที่หาตัดได้ทั่วไปนำมาผ่าและต่อกันเป็นกล่อง ไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อน เตาอบเหมือนเครื่องปั้นดินเผา มาสุ (Masu) หรือจอกสี่เหลี่ยมสำหรับใส่สาเกนี้ แต่แรกเริ่มเดิมทีใช้เป็นอุปกรณ์ในการวัดปริมาณสาเก ต่อมาถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายจนกลายเป็นภาชนะพื้นฐานสำหรับดื่มสาเก แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีร้านที่ไหนรินสาเกใส่กล่องไม้มาสุนี้โดยตรง แต่จะเสิร์ฟเมนูที่เรียกว่ามงกิริสาเก โดยจะรินสาเกใส่แก้วซึ่งเป็นแก้วที่วางในกล่องไม้มาสุอีกทีจนเอ่อล้น เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดื่มสาเก ในการดื่มสาเกโดยใช้มาสุนั้นจะนำเกลือไปทาตรงมุมสี่เหลี่ยมแล้วดื่มเป็นวัฒนธรรมการดื่มสาเกที่มีมายาวนานแต่โบราณก่อนยุคเฮอัน Ochoko นอกจากนี้สาเกเองก็ยังใส่ภาชนะอื่นๆได้อีกหลายชนิดเช่นจอกหรือ Ochoko ซึ่งมีหลากหลายรูปทรง โดยรูปทรงต่างๆไม่ได้มาจากเพียงแค่เหตุผลความสวยงามแต่ยังเป็นเหตุผลในการใช้งานและกลิ่นกับรส โดยจอกที่ปากกว้างจะเหมาะสำหรับสาเกที่มีกลิ่นแรง กลิ่นยิ่งแรงควรใช้จอกที่ปากยิ่งบาน โดยปัจจุบันจอก เป็นภาชนะที่ได้รับความนิยมในการดื่มสาเกสูงสุดเพราะมีหลายรูปทรงสำหรับสาเกแต่ละชนิด มีหลากหลายวัสดุและลวดลายที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้งาน Sparkling Sake – Japanese Champagne  แก้วแชมเปญเป็นอีกหนึ่งวิธีในการดื่มด่ำสาเก โดยนิยมใช้กับสาเกที่หมักด้วยโซดาหรือน้ำที่อัดคาร์บอเนท ทำให้เมีฟองอากาศมาก มีความซ่า Sakazuki Sakazuki หรือชามทรงแบนที่มีก้นชาม ปัจจุบันแทบไม่มีการเสิร์ฟสาเกด้วยซาคาซูกิแล้ว จะเหลือใช้เพียงตามพิธิการใหญ่ๆ หรือพิธีการสำคัญๆ อาทิ งานแต่งงาน หรืองานพิธีในความเชื่อทางลัทธิชินโต จอกไม้สำหรับดื่มสาเกเป็นอีกหนึ่งภาชนะในการดื่มสาเกที่เหมาะสำหรับใช้ในการปรับรสและกลิ่นของสาเก หลายครั่งที่เราได้สาเกจะการรับเป็นของขวัญและไม่ได้เลือกซื้อเอง ดังนั้นสำหรับสาเกที่กลิ่นไม่หอมโดนใจหรือรสที่แรงไป จอกไม้เป็นภาชนะที่ใช้ปรับกลิ่นและรสให้ดื่มง่ายขึ้นได้เป็นอย่างดี Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง…

Read More

Safari Meal Box! Al Saray เอาใจชาวออฟฟิตที่ต้อง Work From Home จัด Safari Meal Box สำหรับมื้อเร่งรีบ อร่อย อิ่ม พร้อมทำงานต่อได้ ในราคาเพียง 299 เท่านั้น สั่งผ่านหน้าร้านรับส่วนลดทันที 10% ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกรฎาคมนี้ Safari Meal Box #1 ไก่ย่างมาลัยสไตล์อินเดีย ข้าวแซฟฟรอน ซาโมซ่าผัก Safari Meal Box #2 ไก่ย่างเตาโอ่งสไตล์อินเดีย ข้าวบริยานี่ ซาโมซ่าผัก Safari Meal Box #3 กาบับไก่ย่างเตาถ่าน สลัดผักสไตล์อาหรับ ถั่วลูกไก่บด Safari Meal Box #4 ปลากะพงย่างเตาถ่าน ข้าวผัดซอสมะขามอาหรับ ซอสงาขาว Safari Meal Box #5 ถั่วก้อนทอดอาหรับ สลัดผักสไตล์อาหรับ ถั่วลูกไก่บด ผักดอง Safari Meal Box #6 อกไก่หมักโยเกิร์ตย่างเตาถ่าน สลัดผักสไตล์อาหรับ ถั่วลูกไก่บด ผักดอง นอกจากนี้ Al Saray’s Special Combo Set ให้คุณได้ลิ้มลอง เมนูอาหารเลบานอนและอินเดียสุดฮิต ในราคาสุดคุ้ม ส่งตรงถึงบ้านคุณ เลือก size ที่ต้องการ S M L จะทานคนเดียว หรือทานกันทั้งครอบครัวก็ อิ่ม คุ้ม Set S รวม 4 เมนูสุดฮิต ในราคาเพียง 499 บาท Set S1…

Read More

เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ (Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok) รีสอร์ทใจกลางเมืองที่เน้นการพักผ่อนไปพร้อม ๆ กับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ร่วมมือกับ “บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก” (BDMS Wellness Clinic) คลินิกสุขภาพมาตรฐานระดับโลก เปิดตัว “Healthy Eating” เมนูอาหารสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่ได้รับการออกแบบและรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ นักโภชนาการ และเชฟฝีมือระดับห้าดาว พร้อมเดลิเวอรีถึงประตูบ้านชาวกรุงเทพฯ แล้ววันนี้  พิเศษ! ส่วนลด 10% ทุกรายการเพียงใช้ Code for discount 10%: kinlake10 เมนู “Healthy Eating” ได้รับการออกแบบขึ้นโดยความร่วมมือของเชฟมากฝีมือของ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ ร่วมกับนักกำหนดอาหารผู้เชี่ยวชาญจาก บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก สู่เมนูอาหารรสเลิศล้ำที่ปราศจากนมวัว(dairy) และกลูเตน (gluten-free) จำนวน 10 รายการ โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่และอาหารเสริมเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้ง่าย หรือมีข้อจำกัดด้านอาหารอื่น ๆ โดยเมนูเหล่านี้จะแสดงจำนวนแคลอรี่ที่แน่นอน และข้อมูลทางโภชนาการของแต่ละสูตร เพื่อให้นักชิมทุกท่านได้มั่นใจทุกคำที่อิ่มอร่อย ด้วยตัวเลือกเมนูที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทยรสจัดจ้าน อาทิ ผัดกะเพราเต้าหู้, แกงเขียวหวานไก่นมอัลมอนด์, แกงมัสมั่นไก่ใส่มันหวาน เสิร์ฟพร้อมข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นข้าวไม่ขัดขาวแบบออแกนิก หรือจะเลือกอร่อยกับอาหารตะวันตกรสกลมกล่อมอย่าง ลาซานญาผักกับซอสมะเขือเทศและพริกไทย, ปลาแซลมอนอบกับสปาเก็ตตี้ผักและซอสสมุนไพร, อกไก่ตะไคร้และมินต์กับบร็อคโคลินีนึ่งและมะเขือเทศเชอร์รี่ย่าง ในขณะที่อาหารจานพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเอเชีย ได้แก่ เรดมิโซะราเมนใส่เห็ด เส้นซูกินี และค็อบบ์สลัด ปิดท้ายด้วยขนมหวาน แพนนาคอตต้านมอัลมอนด์ และมูสคาเคานุ่ม ๆ ที่ให้คุณแฮปปี้ได้อย่างไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป เมนู “Healthy Eating” มีให้บริการที่ “ริมคลองคาเฟ่” (Rim Klong Café) ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลริมคลอง ที่ตั้งอยู่ใน เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ…

Read More

อวานี พลัส หัวหิน นำเสนอแพ็กเกจใหม่ล่าสุดเอาใจทั้งคนรักสุนัข และน้อง ๆ สี่ขา ที่จะต้องกระดิกหางอย่างมีความสุขกับแพ็กเกจ ‘บาร์ค แอนด์ เบรกฟาสต์’ (Bark & Breakfast) เพื่อให้ทั้งคุณเจ้าของและสุนัขแสนรู้ได้เปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ด้วยความผ่อนคลายใน พูล วิลล่า ส่วนตัว ณ รีสอร์ทหรูริมทะเล เหล่าเพื่อนซี้สี่ขาจะได้เปลี่ยนบรรยากาศการใช้ชีวิตในเมือง เป็นวิลล่าอันกว้างขวาง พร้อมกับเตียงขนาดคิงไซส์ และสระว่ายน้ำส่วนตัว เสริมด้วยที่นอนนุ่มสบายสำหรับสุนัข พร้อมชามข้าวและขนมขบเคี้ยว ในขณะที่เจ้าของอิ่มอร่อยไปกับอาหารรสเลิศ เจ้าตูบก็จะได้ลิ้มรสอาหารระดับวีไอพีจากทีมเชฟของรีสอร์ท ซึ่งจัดเสิร์ฟทุกมื้ออาหารภายในวิลล่า ทำให้เจ้าของและสุนัขได้ใช้เวลาผ่อนคลายร่วมกันอย่างเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ทางรีสอร์ทยังจัดพื้นที่เดินเล่นสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ เพื่อให้เจ้าตูบจะได้ออกมาวิ่งเล่น ออกกำลังพบเพื่อน ๆ สี่ขาตัวอื่นๆ เดินเล่นบนทรายนุ่ม ๆ ที่ทอดยาวตามแนวชายหาด หรือสนุกกับการเล่นจานร่อนกับเจ้าของได้อย่างเต็มที่ แพ็กเกจ ‘บาร์ค แอนด์ เบรกฟาสต์ (Bark & Breakfast)’ จากอวานี พลัส หัวหิน ราคาเริ่มต้นที่ 9,000 บาท สำหรับห้องพักแบบ พูล วิลล่า ส่วนตัว และมีค่าเข้าพักสำหรับสัตว์เลี้ยงในคืนแรกที่ 2,000 บาท และสำหรับคืนต่อ ๆ ไป 1,000 บาท ต่อคืน โดยสามารถชำระเมื่อเช็คอิน โดยแพ็กเกจประกอบด้วยห้องพักแบบวิลล่า 1 ห้องนอน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน และสุนัข 1 ตัว ที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 15 กก. และต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน โดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมตามที่ระบุในเว็บไซต์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก สามารถติดต่อได้ที่อีเมล [email protected] หรือ www.avanihotels.com/en/hua-hin/offers/bark-and-breakfast  หรือโทร 032 898 989 Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว…

Read More

หลากหลายความอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ กับ Movenpick BDMS บริการสั่งซื้อกลับบ้าน ที่ริมคลองคาเฟ่ จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น. ถึง 18.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 น. ถึง 18.00 น. บริการเดลิเวอรี  ทุกวัน เวลา 09.00 น. ถึง 19.00 น. (ออเดอร์สุดท้าย 18.00 น.) เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ (Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok) รีสอร์ทใจกลางเมืองที่เน้นการพักผ่อนไปพร้อม ๆ กับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ร่วมมือกับ “บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก” (BDMS Wellness Clinic) คลินิกสุขภาพมาตรฐานระดับโลก เปิดตัว “Healthy Eating” เมนูอาหารสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่ได้รับการออกแบบและรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ นักโภชนาการ และเชฟฝีมือระดับห้าดาว พร้อมเดลิเวอรีถึงประตูบ้านชาวกรุงเทพฯ แล้ววันนี้ เมนู “Healthy Eating” ได้รับการออกแบบขึ้นโดยความร่วมมือของเชฟมากฝีมือของ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ ร่วมกับนักกำหนดอาหารผู้เชี่ยวชาญจาก บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก สู่เมนูอาหารรสเลิศล้ำที่ปราศจากนมวัว(dairy) และกลูเตน (gluten-free) จำนวน 10 รายการ โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่และอาหารเสริมเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้ง่าย หรือมีข้อจำกัดด้านอาหารอื่น ๆ โดยเมนูเหล่านี้จะแสดงจำนวนแคลอรี่ที่แน่นอน และข้อมูลทางโภชนาการของแต่ละสูตร เพื่อให้นักชิมทุกท่านได้มั่นใจทุกคำที่อิ่มอร่อย ด้วยตัวเลือกเมนูที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทยรสจัดจ้าน อาทิ ผัดกะเพราเต้าหู้, แกงเขียวหวานไก่นมอัลมอนด์, แกงมัสมั่นไก่ใส่มันหวาน เสิร์ฟพร้อมข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นข้าวไม่ขัดขาวแบบออแกนิก หรือจะเลือกอร่อยกับอาหารตะวันตกรสกลมกล่อมอย่าง ลาซานญาผักกับซอสมะเขือเทศและพริกไทย, ปลาแซลมอนอบกับสปาเก็ตตี้ผักและซอสสมุนไพร, อกไก่ตะไคร้และมินต์กับบร็อคโคลินีนึ่งและมะเขือเทศเชอร์รี่ย่าง ในขณะที่อาหารจานพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเอเชีย…

Read More

ต้นไม้เองก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ต้องการกินต้องการดื่ม โตได้ป่วยเป็น หากไม่ได้รับสารอาหารที่ครบหมวดหมู่และพอเพียง ย่อมป่วยได้ และตายได้เช่นเดียวกับคนเราและสัตว์ต่างๆเช่นกัน แต่ทว่าต้นไม้พูดไม่ได้ ส่งเสียงบอกเราไม่ได้ว่าหิวไหม ต้องการอะไร ขาดสารอาหารอะไร ดังนั้นเราเองที่จำเป็นต้องหมั่นสังเกตุอาการ และคอยวิเคราะห์ว่าต้นไม้เราเป็นอะไร หลายอาการที่ต้นไม้แสดงออกอาจทำให้เรานึกว่าเป็นโรคต่างๆเช่นราเข้าทำลาย หรือโดนแมลงรบกวน ทั้งๆที่เป็นเพียงอาการขาดสารอาหาร พืชชั้นสูงจะได้รับธาตุคาร์บอน และออกซิเจนเกือบทั้งหมดที่พืชต้องการจากอากาศโดยตรง โดยคาร์บอนเข้าสู่พืชโดยตรงจากทางปากใบ (Stomata) ในรูป ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และได้รับออกซิเจนในรูปก๊าซออกซิเจน (O2) ทางปากใบและที่ผิวของราก สำหรับไฮโดรเจนนั้นพืชได้รับไฮโดรเจนอะตอมจากโมเลกุลของน้ำในขบวนการสังเคราะห์แสง เนื่องจากธาตุทั้ง 3 มีอยู่อย่างเหลือเฟือในสภาพธรรมชาติ จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความสนใจน้อยกว่าธาตุอาหารพืชอื่นๆ อีก 13 ธาตุ ที่พืชได้รับจากดินหรือกำเนิดจากดิน เนื่องจากปริมาณที่พืชได้รับมักไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยมีความรุนแรงใน การขาดธาตุอาหารเหล่านี้แตกต่างกัน ไปตามแต่สภาพของวัตถุต้นกำเนิดดินและ สภาพการณ์ ใช้พื้นที่ โดยธาตุทั้ง 13 ชนิดนั้นจะแบ่งออก เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ 1) ธาตุอาหารที่พืชต้องการเป็น ปริมาณมาก (Macronutrient elements) ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และ กำมะถัน 2) ธาตุอาหารที่พืชต้องการเป็น ปริมาณน้อย (Micronutrient elements) ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ทองแดง โบรอน โมลิบดินัม และคลอรีน ในครั้งนี้ทาง Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปดูกันว่าอาการแบบไหนต้นไม้ขาดสารอาหารอะไร ไปดูกันเลยครับ ขาด แคลเซียม (Ca) ใบอ่อนไม่คลี่ออกจากกัน ใบบิดเบี้ยว ใบอ่อนจะม้วนงอไปข้างหน้า ไม่คลี่ออกจากกัน และยังมีลักษณะบิดเบี้ยว ขาดเป็นริ้ว ๆ บางครั้งใบเหลืองและขอบใบหยักเป็นคลื่น อาจมีจุดประขาวตามยอดใบทำให้ดูเหมือนใบด่าง นอกจากนี้ ก้านใบแตก ตาใบและดอกยังร่วงเร็ว รากไม่สมบูรณ์อีกด้วย ลำต้นอ่อนแอ แสดงอาการในต้นอ่อน ถ้าเป็นที่ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ จะมีจุดสีดำที่ก้นผล เรียกว่า “โรคไส้ดำ”โรคไส้ดำ ในมะเขือเทศทำให้ผลเป็นก้นจุดที่ท้ายผลและเน่าในที่สุด แสดงว่าขาด แคลเซียม (Ca) ขาด สังกะสี (Zn) ธาตุสังกะสี (Zinc,…

Read More