ทุกวันอาทิตย์ มาอิ่มอร่อยไปกับบุฟเฟ่ต์สุดอลังการ ที่ห้องอาหาร 204 บิสโทร โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา พบกับอาหารนานาชนิด ที่เชฟมือฉมังของเราจัดวัตถุดิบคุณภาพหลากหลายให้คุณอิ่มและฟินไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็น ขาปูอลาสก้า ฟัวกราส์ เนื้อออสเตรเลียนไพร์มริบ หอยนางรมสดๆ หลากหลายพันธุ์ กุ้งแม่น้ำสดๆ ตัวใหญ่ และอาหารทะเลอีกมากมาย พร้อมทั้ง Free flow สปาร์คลิ่ง ไวน์ ค็อกเทล และน้ำผลไม้ ให้ดื่มไม่อั้น และอย่าลืมลิ้มลองอาหารจานเด็ดจากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของเรา อาทิ ชีสแรคแลตต์ (Raclette) เยิ้มๆ รับประทานคู่กับเครื่องเคียง สวิสโรสตี (Rosti) หรือมันฝรั่งฝอยทอด ราดด้วยซอสและท้อปปิ้งต่างๆ และยังมีชีสอีก 10 กว่าชนิด ที่พลาดไม่ได้เลย ตบท้ายด้วยของหวานมากมายกับสูตรเฉพาะจากสวิสเซอร์แลนด์ ในราคาเพียง 1,890 บาท++/ท่าน ราคารวมสปาร์คลิ่งไวน์ ค็อกเทล น้ำผลไม้ น้ำเปล่า และชา กาแฟร้อนแล้ว ที่ห้องอาหาร 204 บิสโทร ตั้งแต่เวลา 11:30 – 15:00 น. สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ 0-2694-2222 ต่อ 1530 หรือ http://bit.ly/2oPHxwa โปรโมชั่นพิเศษ มา 2 จ่าย 1 สำหรับเงินสดและบัตรเครดิต บัตรเครดิต SCB และ Citibank ราคา 990 บาทสุทธิ Kin Promo Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่…
Author: Kittin Assavavichai
เชฟพิม เตชะมวลไววิทย์ นำเสนอเมนูอาหารไทย ที่รังสรรค์ขึ้นจากความทรงจำในอดีตที่เธอเคยรับประทาน และเรียนรู้ จากฝีมือของคนในครอบครัว (26 กันยายน 2562) หลังจากปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ โรงแรม โคโม เมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ ได้ฤกษ์เปิดห้องอาหาร น้ำ (nahm) อีกครั้ง ภายใต้การนำของเชฟมือรางวัลอย่างเชฟพิม เตชะมวลไววิทย์ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้ เชฟพิม เจ้าของรางวัลมากมายและเป็นเชฟที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเอเชีย ผู้เป็นหัวหอกในการรังสรรค์อาหารไทยแท้ ๆ รสชาติแบบที่เธอเคยรับประทานในวัยเยาว์ ซึ่งนับวันจะหาได้ยาก มานำเสนอในรูปแบบสุดสร้างสรรค์ ล้ำลึกและน่าตื่นตาตื่นใจ แต่สิ่งที่เชฟบอกกับเราก็สร้างความประหลาดใจไม่น้อย: “ดิฉันมองตัวเองว่าเป็นแม่ครัว มากกว่าเป็นเชฟ การทำอาหารจริง ๆ แล้วคือการสรรหาวัตถุดิบ ส่วนผสม แล้วมาปรุงให้มันอร่อย และทั่ว ๆ ไปแล้วมันคืองานของผู้หญิง คือถ้าเป็นการทำอาหารที่บ้านนี่มันเป็นงานของผู้หญิงมาโดยตลอด แต่ถ้าเป็นการทำอาหารนอกบ้านแล้วทำเป็นอาชีพ มันกลับเป็นงานของผู้ชาย ดิฉันไม่ได้เริ่มทำอาหารเพื่อให้เป็นอาชีพ ก็เลยมองตัวเองว่าเป็นแค่แม่ครัว ที่ถูกสอนโดยผู้หญิงที่ทำอาหารอยู่ที่บ้าน” เชฟพิมกล่าวอย่างถ่อมตัว เมื่อคุณมารับประทานอาหารที่น้ำ ความตั้งใจของเชฟพิมคือ ให้คุณได้รู้สึกเหมือนมาบ้านคุณยาย หรือคุณป้าคุณน้า และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งเชฟมองเห็นตัวเธอเอง และร้านน้ำ ในบรรยากาศและความรู้สึกเช่นนั้น ญาติผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิงของเชฟได้ประสิทธิประสาทความรู้ให้เธอ ว่ารสชาติอาหารควรเป็นเช่นไร ส่วนไหนของวัตถุดิบที่ควรนำมาประกอบอาหารแต่ละจาน เชฟพิมยอมรับว่าความสนใจในอาหารไทยของเธอ เริ่มขึ้นเพราะความคิดถึงบ้าน เมื่อตอนที่เธอมาอยู่ที่อเมริกาตอนอายุ 19 ปี อาหารไทยที่หารับประทานได้ในตอนนั้น แม้กระทั่งในร้านอาหารไทยเอง กลับมีรสชาติแบบที่เธอไม่รู้จัก เป็นผลให้เชฟพิมเริ่มการเรียนทำอาหารไทยจากคุณป้าของเธอที่กรุงเทพฯ และตั้งให้เป็น “โปรเจ็ค” ให้ตัวเอง “ดิฉันตั้งใจเลยว่า ทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมบ้าน จะไปนั่งเรียนถึงในครัวเลย ถ้ารู้ว่าผู้ใหญ่ท่านไหนในครอบครัวมีสูตรเด็ดอะไร ก็จะไปขอดู ขอเรียนในครัว คุณพ่อคุณแม่ของดิฉันมองว่าน่ารักดี ที่เห็นดิฉันนั่งกับพื้น ตำพริกแกงเป็นชั่วโมง ๆ และชิมน้ำปลา หลาย ๆ ยี่ห้อ” ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปี เมนูใหม่ของเชฟพิมที่น้ำ คือผลงานรังสรรค์จากความทรงจำและความรู้ที่ตกทอดกันมา โดยใช้วัตถุดิบชั้นเลิศและการนำเสนอที่สวยงามวิจิตร หนึ่งในเมนูเหล่านั้นคือ “ขนมจีนน้ำพริก” จากสูตรของคุณยาย เป็นจานเด่นที่เชฟกล่าวถึงด้วยรอยยิ้มว่าเป็น…
กลับมาอีกครั้งกับงานดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ“ไทย แกสโตรโนมี ซีรีส์ 3” ครั้งนี้ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ได้รับเกียรติจากเชฟ “แบล็ค ภานุภน บุลสุวรรณ”ผู้ก่อตั้งร้านแบล็คคิช อาทิซาน คิทเช่น (Blackitch Artisan Kitchen) ชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดพิเศษกับหัวหน้าพ่อครัวอาวุโส “ชยวีร์ สุจริตจันทร์” แห่งห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการได้รับดาวมิชลิน และเชฟ “เฮนริค อูล แอนเดอร์เซน” แห่งร้าน Kiin Kiin โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และเชฟที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ร้านอาหารสระบัว บาย กิน กิน เชฟทั้งสามท่านรวมตัวกันเฉพาะกิจเพื่อโชว์ทักษะฝีมือการปรุงอาหารไทยที่มุ่งเน้นแนวคิดของความเป็น “ไทยแท้” (Pure Thai) นำเสนอในรูปแบบไฟน์ ไดนิ่งทั้งหมด 6 เมนู ในคืนวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 เพียงค่ำคืนเดียวเท่านั้น “ความพิเศษของดินเนอร์ ไทย แกสโตรโนมี ซีรีส์ 3 ณ ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน คือการนำวัตถุดิบไทยมาเป็นตัวละครเด่นในค่ำคืน เชฟทั้งสามท่านจะเน้นย้ำถึงความสำคัญ และประโยชน์ของวัตถุดิบประจำท้องถิ่นตามฤดูกาลที่นำมาปรุงอาหาร และนำเสนอในรูปแบบอาหารไทยไฟน์ ไดนิ่ง โดยเชฟแบล็ค ภาณุภน หนึ่งในเชฟผู้มีแนวคิดกว้างไกล ผู้ให้ความสำคัญในการใช้วัตถุดิบที่หาได้และมีอยู่ตามธรรมชาติ นำความรู้ และความเข้าใจถึงแก่นแท้ของวัถุดิบต่างๆ มาผสมผสานและรังสรรค์เมนูออกมาได้อย่างเหนือระดับ” กล่าวโดย มร.แอนเดรอัส แม็กนุส รองผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ภายในงานดินเนอร์ เชฟทุกท่านจะแสดงฝีมือการปรุงอาหารโดยมีหัวใจสำคัญในการเลือกใช้วัตถุดิบ และส่วนผสมท้องถิ่นจากภูมิภาคต่างๆของประเทศไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ Pure Thai “เมนูที่เสิร์ฟภายในงาน เปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวแหล่งที่มาของวัตถุดิบชนิดต่างๆ พร้อมบอกเล่าถึงประโยชน์ และความสำคัญในการนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ในการผสมผสาน ผ่านเทคนิคการปรุงอย่างปราณีต และพิถีพิถันของเชฟทั้งสามท่าน ช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทย ที่ไม่สามารถหารับประทานที่ไหนได้” มร.แอนเดรอัส แม็กนุส อธิบายเพิ่มเติม …
สุดยอดแห่งความสร้างสรรค์ทั้งแนวคิด รูปลักษณ์ การเลือกใช้วัตถุดิบและรสชาติ ครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับชุดชา “Beauty & The Beast” ที่โรงแรมบูติกสุดหรู 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดตัวชุดน้ำชายามบ่ายเซตใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิทานคลาสสิกเรื่องดัง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ทุกท่านจะได้ร่วมเดินทางย้อนกลับไปยังกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว และจะได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวอันมีสเน่ห์ของนิทานเรื่องนี้ เมื่อกล่าวถึงนิทานคลาสสิก เราคงจะคุ้นเคยกับเรื่องราวของเจ้าชายรูปงาม ที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นอสูรที่มีหน้าตาดุร้ายและน่ากลัว อาศัยอยู่ในปราสาทอันยิ่งใหญ่แต่กลับต้องเผชิญกับความอ้างว้างและเดียวดาย การจะกลับคืนสู่ร่างเดิมได้นั้น เขาจะต้องค้นพบความรักที่แท้จริงก่อนที่กุหลาบกลีบสุดท้ายจะร่วงโรย จนวันหนึ่งมีพ่อค้าผู้สิ้นเนื้อประดาตัวได้พลัดหลงเข้าไปในบริเวณปราสาท และถูกอสูรจับตัวไว้เนื่องจากไปขโมยดอกกุหลาบเพื่อจะนำกลับไปให้บุตรสาวอันเป็นที่รัก จึงเป็นเหตุให้พ่อค้าต้องยอมแลกตัวบุตรสาวกับอิสระภาพของตัวเขาเอง หลังจากนั้นเจ้าชายอสูรได้ตกหลุมรักโฉมงามและต้องพยายามที่จะเอาชนะใจเธอ เพื่อให้เธอรับรักตอบ ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องกลายเป็นอสูรไปตลอดกาล ทีมเชฟของโรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯ ได้จับมือกับเชฟยานนิส แยนส์เซนส์ เชฟผู้มีรางวัลการันตีฝีมือมากมาย เพื่อมาร่วมรังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายแสนอร่อยในครั้งนี้ หลากหลายเมนูอาหารคาว และขนมหวานได้ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างปราณีตและพิถีพิถัน และจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับชาออร์แกนิกคุณภาพเยี่ยมจากมอนซูนที ยานนิส แยนส์เซนส์ เชฟสัญชาติเบลเยี่ยมผู้ออกแบบและอยู่เบื้องหลังชุดน้ำชายามบ่ายแสนอร่อยเซตนี้ เขาได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร Dessert professional magazine ให้เป็นหนึ่งในสิบเชฟขนมอบในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ.2553 และเขายังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเชฟขนมอบ ณ โรงแรมเซไต (Setai Hotels) ในประเทศสหรัฐอเมริกา และโรงแรม ฟาวเท่นเบลอ (Fountainbleau Hotel Miami) ในเมืองไมอามี่ รวมไปถึงซูม่ากรุ๊ป (Zuma Group) ที่ดำเนินกิจการห้องอาหารญี่ปุ่นแบบไฟน์ไดนิ่ง หลังจากนั้นเขาได้เดินทางมาทำงานในตำแหน่งเอ็กเซคคิวทีฟเชฟ ปาทิซิเย่ ของห้องอาหารลัตเตอลิเยร์ เดอ โจเอล โรบูชง สาขากรุงเทพฯ “เราต้องการให้ชุดน้ำชาเชตนี้มีความพิเศษมากไปกว่าการเป็นแค่แซนด์วิช และขนมทานเล่นธรรมดาทั่วไป แต่เราตั้งใจรังสรรค์ให้ทุกคำมีเรื่องราว ที่แขกจะสามารถร่วมจินตนาการตามไปกับเรา เราคัดสรรและเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม รวมไปถึงใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำ” กล่าวโดยเชฟยานนิส แยนส์เซนส์ ผู้ได้รับเกียรติให้เป็น Baking & Pastry Innovator ในงานประกาศรางวัล Zest Awards Miami ในปี พ.ศ.…
เรามักได้ยินประเภทร้านอาหารของ Fine dining ที่คุ้นชินไม่ว่าอิตาเลียน ฝรั่งเศส ไทย จีน ญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้ Kinlakestars.com ขอนำเสนอสิ่งที่แตกต่างไม่เหมือนใครไปกับร้านอาหารนอร์ดิก-ไทยชื่อดังอย่าง Front Room ประจำโรงแรม Waldorf Astoria ซึ่งไม่เหมือนเดิมกับทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะเชฟเฟ ได้เพิ่มเมนูใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือกตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้สามารถดื่มด่ำกับอาหารสุดสร้างสรรค์ของเชฟ เฟ-รุ่งทิวา ชุ่มมงคลได้ง่ายขึ้น และตอบสนองวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนไทย เป็น Table Sharing แทนฟูลคอร์สเมนู Dr. Athiwat T. , Writer ร้านอาหาร Front Room ตั้งอยู่บนชั้นล็อบบี้ของโรงแรมหกดาวอย่าง Waldorf Astoria ซึ่งรับประกันความประทับใจตั้งแต่แรกเดินเข้าด้วยตัวล็อบบี้อันสวยงามทันสมัย และการต้อนรับชั้นเลิศของพนักงาน นอกจากนี้ถ้าท่านมาถึงก่อนเวลา อาจจะแบ่งเวลาไปชมพระอาทิตย์ตกดิน และ เส้นขอบฟ้าของกรุงเทพมหานครได้บน The Loft บาร์หรูสไตล์นิวยอร์ก ที่ชั้น 56 ของโรงแรม อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Loft เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ที่ร้านอาหาร Front room ซึ่งตกแต่งด้วยสไตล์นอร์ดิกอันอบอุ่น เน้นโทนสีหม่นเทา เงิน เขียวอมฟ้า และวัสดุไม้โอ๊ค ผสมผสานความเป็นไทยด้วยรายละเอียด การตกแต่งต่างๆ เช่น การใช้ประตูบานเกล็ดไทยมาเป็นส่วนประกอบของห้องครัวเปิด ภาชนะกระเบื้องเคลือบปั้นด้วยมือจากตอนเหนือของไทย และ ที่พิเศษสุดและเป็นไฮไลท์หนึ่งคือ โคมไฟขนาดใหญ่กลางร้านที่ให้แสงอบอุ่นและสะท้อนเงาหน้าต่างเป็นโคมยี่เป็ง เสริมบรรยากาศสุดโรแมนติกในอาหารค่ำมื้อพิเศษ การจัดอาหารเป็น Table sharing ได้คัดเลือกอาหารจานยอดนิยมของร้านมาจาก Tasting menu ของตัวอาหาร Full Course ทำให้สามารถเลือกอาหารจานโปรด มาเพื่อแบ่งปันความสุขร่วมกันได้หลากหลายโอกาสมากขึ้น ซึ่งแต่ละเมนูท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากพนักงานที่ให้ข้อมูล และช่วยแนะนำได้เป็นอย่างดี Amuse bouche: โครเกตต์สมองหมู/ลาบและทาโก้มันม่วงมะเฟือง ตัวโครเกรตต์สมองหมูดัดแปลงมาจากอาหารทางเหนือคือ แอ๊บอองอ่อ ซึ่งเป็นการนำสมองหมูมาผสมกับสมุนไพรและย่างสุก ซึ่งได้ทำเป็นลักษณะของโครเกตต์ช่วยให้รับประทานง่ายขึ้น มีรสชาติที่นุ่มนวลและหอมสมุนไพร ซึ่งเชฟจะแนะนำให้รับประทานเป็นคำแรกต่อด้วย ลาบที่มาคู่กับทาโก้มันม่วงและมะเฟืองช่วยเพิ่มรสชาติและให้ความสดชื่น Welcome drink เริ่มกันด้วย Welcome Drink ซึ่งเสิร์ฟมาแบบ On the…
หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการเปิดตัวชุดน้ำชายามบ่ายในธีม “อลิซในแดนมหัศจรรย์” ไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ และก็ถึงเวลาที่โรงแรมบูติกสุดหรู 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯจะเปิดตัวชุดน้ำชายามบ่ายเซตใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิทานคลาสสิกเรื่องดัง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ทุกท่านจะได้ร่วมเดินทางย้อนกลับไปยังกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว และจะได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวอันมีสเน่ห์ของนิทานเรื่องนี้ เมื่อกล่าวถึงนิทานคลาสสิก เราคงจะคุ้นเคยกับเรื่องราวของเจ้าชายรูปงาม ที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นอสูรที่มีหน้าตาดุร้ายและน่ากลัว อาศัยอยู่ในปราสาทอันยิ่งใหญ่แต่กลับต้องเผชิญกับความอ้างว้างและเดียวดาย การจะกลับคืนสู่ร่างเดิมได้นั้น เขาจะต้องค้นพบความรักที่แท้จริงก่อนที่กุหลาบกลีบสุดท้ายจะร่วงโรย จนวันหนึ่งมีพ่อค้าผู้สิ้นเนื้อประดาตัวได้พลัดหลงเข้าไปในบริเวณปราสาท และถูกอสูรจับตัวไว้เนื่องจากไปขโมยดอกกุหลาบเพื่อจะนำกลับไปให้บุตรสาวอันเป็นที่รัก จึงเป็นเหตุให้พ่อค้าต้องยอมแลกตัวบุตรสาวกับอิสระภาพของตัวเขาเอง หลังจากนั้นเจ้าชายอสูรได้ตกหลุมรักโฉมงามและต้องพยายามที่จะเอาชนะใจเธอ เพื่อให้เธอรับรักตอบ ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องกลายเป็นอสูรไปตลอดกาล ทีมเชฟของโรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯ ได้จับมือกับเชฟยานนิส แยนส์เซนส์ เชฟผู้มีรางวัลการันตีฝีมือมากมาย เพื่อมาร่วมรังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายแสนอร่อยในครั้งนี้ หลากหลายเมนูอาหารคาว และขนมหวานได้ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างปราณีตและพิถีพิถัน และจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับชาออร์แกนิกคุณภาพเยี่ยมจากมอนซูนที ยานนิส แยนส์เซนส์ เชฟสัญชาติเบลเยี่ยมผู้ออกแบบและอยู่เบื้องหลังชุดน้ำชายามบ่ายแสนอร่อยเซตนี้ เขาได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร Dessert professional magazine ให้เป็นหนึ่งในสิบเชฟขนมอบในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ.2553 และเขายังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเชฟขนมอบ ณ โรงแรมเซไต (Setai Hotels) ในประเทศสหรัฐอเมริกา และโรงแรม ฟาวเท่นเบลอ (Fountainbleau Hotel Miami) ในเมืองไมอามี่ รวมไปถึงซูม่ากรุ๊ป (Zuma Group) ที่ดำเนินกิจการห้องอาหารญี่ปุ่นแบบไฟน์ไดนิ่ง หลังจากนั้นเขาได้เดินทางมาทำงานในตำแหน่งเอ็กเซคคิวทีฟเชฟ ปาทิซิเย่ ของห้องอาหารลัตเตอลิเยร์ เดอ โจเอล โรบูชง สาขากรุงเทพฯ “เราต้องการให้ชุดน้ำชาเชตนี้มีความพิเศษมากไปกว่าการเป็นแค่แซนด์วิช และขนมทานเล่นธรรมดาทั่วไป แต่เราตั้งใจรังสรรค์ให้ทุกคำมีเรื่องราว ที่แขกจะสามารถร่วมจินตนาการตามไปกับเรา เราคัดสรรและเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม รวมไปถึงใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำ” กล่าวโดยเชฟยานนิส แยนส์เซนส์ ผู้ได้รับเกียรติให้เป็น Baking & Pastry Innovator ในงานประกาศรางวัล Zest Awards Miami ในปี พ.ศ. 2556 ชุดน้ำชายามบ่ายเซตนี้ เชฟยานนิส ได้นำเรื่องราวของความรักที่ไร้ข้อจำกัด รวมถึงได้นำคาแรกเตอร์ของตัวละครต่างๆ มาจินตนาการและนำเสนอออกมาในรูปแบบของเชฟเอง ผ่านทางชุดน้ำชายามบ่ายสุดคลาสสิกเซตนี้ ที่ประกอบไปด้วยเมนูของคาวและขนมหวานหน้าตาน่ารับประทานนานาชนิด…
ท่านที่กำลังหาสถานที่กินดื่ม พักผ่อนในวันอาทิตย์ แต่ยังติดไม่อยากตื่นเช้าแต่งตัวเพื่อมาให้ทันเวลาบรันช์ ณ เวลานี้ห้องอาหารอิลาเลียน La Tavola ของโรมแรม Renaissance มีทางออกให้คุณแล้วครับ ครั้งแรกของห้องอาหารอิตาเลียนชั้นนำ ที่ได้รับรองโดยกรมการค้าของอิตาลี อย่าง La Tavola ที่จัดบุฟเฟ่ต์ในห้วงเวลาสุดฮิป ไม่ซ้ำใคร สไตล์อิลาเลียนเป็น Apomeridiano Sunday หรือ วันอาทิตย์ยามบ่ายก่อนอาหารเย็น ให้ได้มาพักผ่อนกัน บุฟเฟ่ต์อันติปาสโต (Antipasto) หรืออาหารเรียกน้ำย่อยหลายชนิด พร้อมพาสต้า นอกจากนี้ยังสามารถเลือกที่จะเพิ่ม free flow Italian wine & cocktail และ เมนคอร์สที่นำเมนูตัวท๊อปของ La Tavola มาเสิร์ฟได้อีกด้วย ห้องอาหาร La Tavola นี้ตั้งอยู่ในโรงแรม Renaissance Ratchaprasong ชั้นสามตรงข้ามกับห้องอาหารจีน Fei Ya โดยช่วง Apomeridiano นี้จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าโมงเย็น หลังจากเข้าในร้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองส้มสดใส ชวนครึกครื้น กับแสงอาทิตย์ยามบ่าย ท่านจะพบกับ บาร์เครื่องดื่ม และไลน์บุฟเฟ่ต์อันติปาสโตหลากชนิดทั้งจากตอนเหนือและตอนใต้ของอิตาลีหลากชนิด ทั้งขนมปัง ชีส พาร์มาแฮม พิซซ่า และค็อกเทลอาหารทะเลพร้อมกับไลน์ขนมปังกับแยมผลไม้ ส่วนที่น่าสนใจเช่น Antipasti Asiago สารพัดโคลคัทชั้นดี Prosciutto di parma, Coppa และ Apulian salami Bread Corner: Ciabatta bread, rosemary stick, Piadina, Apulian focaccia with tomato and onionButter, extra virgin olive oil and balsamic selection รังผึ้งที่กินได้ทั้งตัวน้ำผึ่งและตัวรังที่เคี้ยวกรุบอร่อย Pizza Del Giorno Selection of pizza…
Café Claire ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่สไตล์เฟรนช์บิสโทร ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม Oriental Residence Bangkok บนถนนวิทยุ ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อเข้าไปภายในร้านจะพบกับการตกแต่งอย่างเรียบหรูสไตล์ฝรั่งเศส ด้วยเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ สีเอิร์ธโทน มีพนักงานคอยต้อนรับ ดูแล และให้บริการอย่างดี และเมื่อมองออกไปภายนอก จะเห็นต้นไม้สีเขียวขจีอยู่รายรอบ จึงทำให้สัมผัสได้ถึงความสงบ ร่มรื่น อบอุ่น และเป็นกันเอง เหมาะที่จะเปลี่ยนบรรยากาศจากความวุ่นวายภายนอก มานั่งรับประทานอาหาร หรือเพียงแต่จิบน้ำชายามบ่าย ราวกับได้ไปพักผ่อนอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว สำหรับในช่วงนี้ (12 สิงหาคม 2562 ถึง 31 ธันวาคม 2562) Café Claire ได้จัดชุดน้ำชาธีมใหม่ที่มีชื่อว่า Ferris Wheel Afternoon Tea ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก London Eye ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป โดยจัดวางอาหารทานเล่นและขนมหวานต่าง ๆ มาบนชิงช้าสวรรค์สีโรสโกลด์สุดอลังการ สามารถหมุนตัววงล้อของชิงช้าสวรรค์ได้ ทำให้ถ่ายภาพอาหารได้ทุกเมนู จะถ่ายมุมไหนก็งดงาม หรือจะถ่ายภาพคนผ่านวงล้อของชิงช้าสวรรค์ก็เก๋ไปอีกแบบ เหมาะกับการถ่ายภาพอวดลงโซเชียลเป็นอย่างยิ่ง ชุดน้ำชา Ferris Wheel Afternoon Tea นี้ ประกอบไปด้วย เครื่องดื่ม จะเป็นชา TWG แบรนด์ชาสุดหรูระดับพรีเมี่ยม มีให้เลือกถึง 16 รสชาติ โดยสามารถเลือกได้ 2 รสชาติ ในวันนี้ได้เลือก Pink Flamingo Tea จะเป็นเครื่องดื่มเย็น ส่วนประกอบหลักเป็นชาเขียว แต่มีสีแดงออกชมพูระเรื่อ เนื่องจากมีส่วนผสมของดอกไม้อยู่ด้วย โดยจะเสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง ท็อปด้านบนด้วยเลมอน มีไซรัปให้ต่างหาก สามารถเพิ่มความหวานได้ตามชอบใจ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น เหมาะกับผู้ที่ชอบรสเปรี้ยวหวาน และ Silver Moon Tea เป็นชาเขียวเช่นเดียวกัน แต่มีส่วนผสมของสตรอเบอรี่อบแห้ง วานิลลา และเครื่องเทศเล็กน้อย ทำให้ได้ทั้งความหอมและสดชื่นในส่วนของอาหารทานเล่นและของหวานนั้น ประกอบไปด้วย Quiche Lorraine (คีช ลอร์เรนน์) หรือที่ดั้งเดิม คือ…
ชวนกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารนอร์ดิก – ไทยกับเมนูที่ได้รับความนิยม จากรูปแบบเซตสู่อาหารจานเดี่ยวที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม (Front Room) โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ โดยเชฟเฟ รุ่งทิวา ชุ่มมงคล และทีมเชฟประจำห้องอาหาร นำอาหารจานเด่นในแต่ละเซตเมนู (Tasting menu) ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามารวมเป็นเมนูอาหารจานเดี่ยว ที่พร้อมเสิร์ฟในรูปแบบใหม่ที่เหมาะกับการรับประทานร่วมกัน (Sharing concept) ในราคาเริ่มต้นที่จานละ 400++ บาท ถึง 1,500++ บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้องอาหารฟร้อนท์ รูม เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ปีพุทธศักราช 2561 โดยทางห้องอาหารได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีลูกค้าทั้งชาวไทย และต่างชาติที่ได้มาลิ้มลองอาหารสไตล์ใหม่แบบนอร์ดิก-ไทยที่มีเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ โดยอาหารแต่ละจานในแต่ละเซตเมนู เชฟเฟและทีมเชฟห้องอาหารนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำอาหารแบบนอร์ดิกที่เน้นการหมัก ดอง รมควัน มาปรุงเป็นอาหารจานใหม่ที่เน้นการใช้วัตถุดิบ และสมุนไพรท้องถิ่นส่วนมากที่หาได้ในคุณภาพที่ดีเยี่ยมในประเทศไทยได้อย่างลงตัว สร้างสรรค์ มีศิลปะ และรสชาติกลมกล่อมอย่างมีเอกลักษณ์ “เชฟกับทีมเชฟได้วางแผนเปลี่ยนเซตเมนูอาหารทุกๆสี่เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เราเลือกมาใช้ให้มีคุณภาพที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล ด้วยกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารบางจานจากเซตเมนู (Tasting menu) ที่เราได้แนะนำตั้งแต่เปิดร้าน จวบจนปัจจุบันที่เราได้แนะนำเซตเมนูที่ 4 ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ เชฟจึงเลือกเมนูอาหารจานโปรดที่โดดเด่นมารวมอยู่ในเมนูอาหารจานเดี่ยว พร้อมแนะนำการเสิร์ฟอาหารในสไตล์ใหม่ที่ลูกค้าสามารถสั่งอาหารหลากหลายจานมารับประทานร่วมกัน” เชฟเฟ รุ่งทิวา ชุ่มมงคล หัวหน้าเชฟห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม กล่าว …/อาหารจานเด่นแนะนำ ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ นำอาหารจานเด่นจากเซตเมนูรวมเป็นเมนูอาหารจานเดี่ยว หน้า 2 อาหารจานเด่นแนะนำ อาทิ เอเชี่ยน แปซิฟิก ปลากระพงสดโรยผงกระเทียมเสิร์ฟพร้อมบล็อกโคลี่และโฟมมะพร้าว แอตแลนติก ลักซ์ ปลาแซลมอน รับประทานคู่กับแครอทและมายองเนสข้าวคั่ว บลูออฟเดอะซี สลัดปูคลุกผงกระหรี่สไตล์เฉพาะของฟร้อนท์ รูม เรส อิน โคราช เนื้อทาร์ทาร์คลุกผงพริกลาบเนื้อ สมุนไพรจากทางภาคเหนือ และมะละกอดอง สุโขทัย ดักซ์…
โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ชวนคุณมาดื่มด่ำความรื่นรมย์ยามบ่าย ด้วยชุดน้ำชายามบ่ายคอนเซปต์ใหม่ เฟอรีส วีล อาฟเตอร์นูน ที (Ferris Wheel Afternoon Tea) ที่จะมาทำให้คุณเพลิดเพลินและหลงใหลในเสน่ห์การจิบชา Ferris Wheel Afternoon Tea ชุดน้ำชายามบ่ายที่ได้แรงบันดาลใจจาก ลอนดอน อาย (London Eye) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป แลนด์มาร์คสำคัญที่สะท้อนถึงความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์งานดีไซน์ของชาวอังกฤษ ผ่านนานาเมนูคาวหวาน รสเลิศ ที่รังสรรค์มาอย่างพิถีพถัน โดยเชฟเอริค วีดแมน หัวหน้าพ่อครัวดีกรีเชฟผู้ท้าชิงที่ชนะในรายการกระทะเหล็ก ประจำห้องอาหารคาเฟ่ แคลร์ เสิร์ฟคู่กับชา TWG แบรนด์ชาสุดหรูระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม ที่เรียงรายมาให้เลือกหลากหลายรสชาติ ร่วมสัมผัสสุนทรียภาพยามบ่ายในรูปแบบใหม่ ไปกับเฟอรีส วีล อาฟเตอร์นูน ที ได้แล้ววันนี้ ที่ห้องอาหารคาเฟ่ แคลร์ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ให้บริการทุกวัน เวลา 14:30-17:30 น. ในราคาเซ็ตละ 1,250 บาท++ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่คาเฟ่ แคลร์ โทร 0 2125 9000 ต่อ 9080 หรือ อีเมล [email protected] Ferris Wheel afternoon tea Kin Promo KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด…