Author: Kittin Assavavichai

เอ็กเซ็คคิวทีฟพาสทรีเชฟ คริสตอฟ วิดเมอร์ หัวหน้า พ่อครัวขนมอบและขนมหวานมากประสบการณ์คนใหม่แห่งโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ภูมิใจนำเสนออีกหนึ่งความคิดสร้างสรรค์อันน่าตื่นเต้นของเขา ด้วยการสรางสรรค์ดาร์กช็อกโกแลตบาร์เข้มข้นของเนื้อโกโก้ 70% สี่รสชาติใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นจากเมล็ดโกโก้พันธุ์ดีที่ปลูกและได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมชาติจากทั้งสี่ภูมิภาคในประเทศไทย ด้วยส่วนผสมของน้ำตาลออร์แกนิคที่ได้รับตรารับรองอาหารและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคของสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of Agriculture หรือ USDA) อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารพฤกษเคมีที่สำคัญ ได้แก่ สารโพลีฟีน และสารฟลาโวนอลที่มีประโยชน์สูงต่อสุขภาพ ผู้ที่หลงรักช็อกโกแลตทุกท่านสามารถมาลิ้มลองความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ดาร์กช็อกโกแลตบาร์ใหม่ทั้งสี่รสชาติได้แล้ววันนี้ที่ เดอะ ช็อคโกแลต บูทีค บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมฯ ในราคาเริ่มต้นที่ ชิ้นละ 100 บาทถ้วนเท่านั้น ด้วยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนกรรมวิธีการผลิตของดาร์กช็อกโกแลตบาร์ทั้งสี่รสชาติใหม่ ประกอบกับ เชฟคริสตอฟต้องการช่วยส่งเสริมวัตถุดิบท้องถิ่นไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น เขาจึงได้ คัดสรรและเลือกใช้เมล็ดโกโก้สายพันธุ์ดีที่ปลูกตามธรรมชาติในสี่จังหวัดของประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่, ชุมพร, จันทบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ผสมผสานกับประสบการณ์ด้านการทำขนมอบและ ขนมหวานอันยาวนานกว่า 32 ปี และความคิดสร้างสรรค์อันยากที่จะลอกเลียนแบบของเชฟคริสตอฟ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกท่านจะมีความสุขไปกับการลิ้มรสดาร์กช็อกโกแลตบาร์แสนอร่อยทั้งสี่รสชาติใหม่ที่เขาภูมิใจนำเสนอ ดาร์กช็อกโกแลตบาร์เข้มข้นของเนื้อโกโก้ 70% สี่รสชาติใหม่ ประกอบด้วย ดาร์กช็อกโกแลตบาร์จากจังหวัดเชียงใหม่: คัดสรรและเลือกใช้เมล็ดช็อกโกแลตพันธุ์ดีที่เพาะปลูกในพื้นที่ของอำเภอดอยสะเก็ดในฟาร์มปลูกเมล็ดโกโก้ที่มีอายุกว่าหนึ่งทศวรรษในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มอบความหอมหวานให้กับคนรักช็อกโกแลต โดยผสมผสานกลิ่นหอมของตัวผลไม้และกลิ่นหอมของดอกไม้ให้เข้ากับเนื้อสัมผัสของผลไม้แห้งท้องถิ่นได้อย่างลงตัว อันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ อันโดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ ดาร์กช็อกโกแลตบาร์จากจังหวัดชุมพร: คัดสรรและเลือกใช้เมล็ดช็อกโกแลตพันธุ์ดีที่ปลูกและเจริญเติบโตในฟาร์มปลูกเมล็ดโกโก้ที่เปิดดำเนินการในจังหวัดชุมพรมาอย่างยาวนานจนมีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการเพาะปลูก เมล็ดโกโก้ที่ผ่านกรรมวิธีการสกัดจนเป็นช็อกโกแลต เนื้อเนียนเข้มข้นสีสันสวยงาม เพิ่มความอร่อยด้วยรสชาติของถั่วกรุบกรอบ และกล้วยท้องถิ่น อีกทั้งผสมด้วยความเป็นกรดเล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกสดชื่น ดาร์กช็อกโกแลตบาร์จากจังหวัดจันทบุรี: คัดสรรและเลือกใช้เมล็ดช็อกโกแลตพันธุ์ดีที่ปลูกในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในประเทศไทย ทำให้เมล็ดโกโก้เติบโตมาพร้อมกับมีรสชาติที่ดี เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ด้วยส่วนผสมจากถั่วและผลไม้ท้องถิ่น และลูกเกด เพื่อให้รสชาติแสนอร่อยและรสสัมผัสที่นุ่มละมุน ดาร์กช็อกโกแลตบาร์จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์: คัดสรรและเลือกใช้เมล็ดช็อกโกแลตพันธุ์ดีที่ปลูกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยประสบการณ์ด้านการปลูกเมล็ดโกโก้อันแสนยาวนาน ทุกขั้นตอนการผลิต โดยเริ่มต้นและสิ้นสุดกรรมวิธีในฟาร์มเดียวกัน สร้างรสชาติอันเข้มข้น และเพิ่มรสชาติความอร่อยมากขึ้นด้วยส่วนผสมหลักของมะพร้าวที่ให้เนื้อสัมผัสเข้มข้นหอมมัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 0 2236 7777 หรือ                     0 2236 9952   หรือ อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ http://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/dining/restaurants/the-chocolate-boutique/ chocolate boutique, shangrila, promotion, 2019 Kin PromoKinlakestars.com…

Read More

Europe Main Land นั้นเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลาย ศิลปะมากมาย ความหลากหลายทางเชื้อชาติ ความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและทรัพยากรที่อัดแน่นในพื้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ เพียงคุณเดินข้ามหมู่บ้านหนึ่ง คุณก็จะพบการใช้ภาษาที่ต่างออกไป การเต้นรำอีกรูปแบบ และอาหารทั้งวัตถุดิบและการปรุงอันแสนหลากหลาย นั้นเป็นมนต์สเน่ห์แห่งแผ่นดินยุโรปเลยก็ว่าได้ เมื่อจะกล่าวถึงประเทศฮังการี หลายคนคงมีภาพติดตาเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยงามใหญ่โต ณ กรุงบูดาเปสต์ ริมแม่น้ำดานูบ แต่นอกเหนือจากนั้นอาจนึกอะไรไม่ออก พื้นที่ส่วนใหญ่ของฮังการี ประมาณ 70% ทำการเกษตร ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นป่าทึบ ได้แก่ ป่าโอ๊ก และ ป่าบีช ดังนั้นจึงทำให้ของดีฮังการีมีมากมาย ถ้าให้เอ่ยให้หมดผมคงต้องเขียนออกมาเป็นหนังสือ แต่ในคอลัมน์นี้จะกล่าวถึงของดีส่วนที่เป็นอาหาร ซึ่งจะต้องทำให้ใครหลายคนร้อง ว้าว! จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ วันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ทางสถานทูตฮังการี​ Embassy of Hungary in Bangkok โดยท่านเอกอัครราชทูต ได้จัด มื้อดินเนอร์สุดพิเศษ เพื่อให้แขกพิเศษได้สัมผัส กับวัตถุดิบชั้นเลิศในการปรุงอาหารจากประเทศฮังการี ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่คุ้นชินของคนไทยทั่วไป ตัวอย่างแรกที่คนไทย น่าจะชื่นชอบและเป็นที่นิยมนั่นคือ​ Foie Gras แต่คนไทยมักจะคุ้นชินกับแบรนด์​จากฝรั่งเศส​ ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่าหนึ่งใน ​Foie​ Gras​ ที่ดีที่สุดในโลก นั้นมาจากประเทศฮังการี​ สัมผัสและรสชาติดีเยี่ยม​ยังไม่พอ​ ยังเป็น ​Foie ​Gras​ แบบธรรมชาติเสียด้วย เรามาเข้าสู่เมนูแรกอันมีพระเอกของจานเป็น Foie Gras กันเลยครับ เมนูแรกชื่อว่า “Budapest Gourmet” “Hungarian Chilled Foies gras (Libamáj) Terrine, Tokaj wine and mango chutney, Wild Rocket, Toasted Brioche” จานนี้ก็คือ ฟัวกราส์ชั้นเลิศของฮังการีที่เสิร์ฟแบบเย็น (Libamáj) ที่มาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษที่ทำจากไวน์ Tokaj ซึ่งเป็นชื่อของไวน์จากภูมิภาค Tokaj (เช่นภูมิภาคไวน์ Tokaj-Hegyalja หรือ Tokaj-Hegyalja) ในฮังการีหรือพื้นที่ไวน์ที่อยู่ติดกัน Tokaj ในสโลวาเกีย ภูมิภาคนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์หวานที่ทำจากองุ่น ซึ่งในอดีตปลูกตามบัญชาจากขุนนางที่ปกครองในแถบนั้น ซึ่งเป็นไวน์ที่มีประวัติยาวนานในภูมิภาคนี้ “น้ำหวาน” ที่มาจากองุ่นของ Tokaj…

Read More

โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เชิญคุณสัมผัสประสบการณ์การลิ้มรสความอร่อยมาพร้อมกลิ่นอายของประเทศอิตาลี กับเชฟมิชลินสตาร์ระดับหนึ่งดาว Luigi Taglienti ส่งตรงจากห้องอาหาร LUME ประเทศอิตาลี เพื่อจะมารังสรรค์สุดยอดมื้ออาหาร ตั้งแต่วันที่ 4-8 มิถุนายนนี้ เท่านั้น เชฟ Luigi นำเสนอศาสตร์แห่งการปรุงอาหารอิตาลีผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างแบบดั้งเดิมพร้อมสร้างสรรค์ในสไตล์โมเดิร์น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรสชาติอาหารอันหลากหลายในทุกภูมิภาคของประเทศอิตาลี พร้อมเพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารแบบ 3 คอร์ส 5 คอร์ส และ 7 คอร์สเมนู ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูพิเศษอย่าง Liguria Shrimp à la Planci- เมนูกุ้งจากเมืองลิกัวเลีย- หรือ Prime Piemontese Beef in Italian Sauce เนื้อไพมอนเทสเกรดพรีเมี่ยม หมักซอสอิตาลี- รวมไปถึงขนมหวานอย่าง Black Truffle Tiramisù ที่กลมกล่อมไปด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมจิบไวน์ชั้นดีจากโรงบ่มไวน์ชื่อดังของประเทศอิตาลี Alois Lageder อีกด้วย เมนูพิเศษแบบ 3 เซ็ต (เฉพาะมื้อกลางวัน) 1,488++ บาท988++ บาท สำหรับเซ็ตไวน์ เมนูพิเศษแบบ 5 เซ็ต (มื้อกลางวัน หรือ มื้อค่ำ) 2,888++บาท1,388++ บาท สำหรับเซ็ตไวน์ เมนูพิเศษแบบ 7 เซ็ต (เฉพาะมื้อค่ำ) 3,888++ บาท1,788++ บาท สำหรับเซ็ตไวน์ ทั้งนี้ความสอดคล้องอย่างลงตัวในการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมให้มีความร่วมสมัย ด้วยเทคนิคใหม่เฉพาะตัว ภายใต้พื้นฐานของความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความพิเศษของอาหารจานนั้นๆ ทั้งยังสามารถคงเอกลักษณ์และความทรงจำของเมนูแบบดั้งเดิมไว้ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถต่อยอดความสร้างสรรค์ในแบบใหม่ลงไปได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ชื่อเสียงของเชฟ Luigi เป็นที่ยอมรับจากนักชิมอาหารอีกด้วย ประวัติเชฟ Luigi Taglienti เชฟ Luigi เติบโตขึ้นที่เมือง Liguria ประเทศอิตาลี ท่ามกลางความหลากหลายของรสชาติอาหาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสมาชิกภายในครอบครัว ซึ่งแม้ภายหลังการใช้ชีวิตและเดินทางอยู่ต่างประเทศก็ไม่สามารถลบเลือนความทรงจำดีๆ ในรสชาติอาหารอิตาลีของครอบครัวได้เลย Luigi เริ่มต้นเส้นทางความเป็นเชฟด้วยการทำงานภายใต้การดูแลของเชฟที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศอิตาลี หนึ่งในนั้นคือ…

Read More

โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทยฉลองครบรอบ 36 ปี ด้วยการจัดแคมเปญยิ่งใหญ่เอาใจลูกค้าต่อเนื่อง 36 วัน เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและคืนกำไรให้กับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกและเฉลิมฉลองความสำเร็จของแบรนด์ในปีที่ 36 รวมถึงเฉลิมฉลองครบรอบ 36 ปี ของเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และครบรอบ 10 ปี ของเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทาราแกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา 36 ปีที่แล้วโครงการพัฒนาห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในนามเซ็นทรัล พลาซา ในพื้นที่ย่านชานเมืองบนถนนลาดพร้าวนั้นได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับโรงแรมระดับห้าดาวแห่งแรกที่อยู่ภายใต้การบริหารงานด้านธุรกิจโรงแรมของกลุ่มเซ็นทรัล โดยการลงทุนในครั้งนั้นถือเป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล จากโรงแรมแห่งแรกบนถนนลาดพร้าว เซ็นทาราได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบัน มีโรงแรมในเครือถึง 70 แห่ง ภายใต้ 6 แบรนด์ ตั้งอยู่ใน 12 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นในระดับสากล โดยจะเพิ่มจำนวนโรงแรมและรายได้ขึ้นเป็นสองเท่าภายในปีพ.ศ. 2565 เซ็นทาราเปิดตัวข้อเสนอสุดพิเศษต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบปีที่ 36 ของแบรนด์ต่อเนื่อง 36 วัน ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นห้องพัก อาหารและบริการราคาสุดคุ้ม หรือการจับรางวัลต่างๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป ทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้ธีมตัวเลขพิเศษ “36” ทั้งสิ้น โดยลูกค้าสามารถติดตามเซ็นทาราในช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษในครั้งนี้ได้ อาทิ สำรองห้องพักคืนที่ 3 ในราคาเพียง 36 บาท – ตลอดช่วงระยะเวลา 36 วัน (ระหว่างวันที่ 3 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562) ลูกค้าสามารถจองห้องพักได้ในราคาเพียง 36 บาทเท่านั้น ถือเป็นข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับลูกค้าที่ทำการจองห้องพักขั้นต่ำ 3 คืนขึ้นไป และสามารถใช้ได้กับทุกการจองในทุกโรงแรมและรีสอร์ทเซ็นทาราทั่วโลก รวมถึงโรงแรมหรูระดับห้าดาวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงรีสอร์ทที่มัลดีฟส์ด้วยเช่นกัน บัตรกำนัลห้องพักออนไลน์ – ลูกค้าสามารถจองห้องพักที่เซ็นทาราได้ในราคาเพียง 3,600 บาทต่อคืนในช่วงเวลา…

Read More

ตอนนี้ถ้าพูดถึงร้านอาหารหรือบาร์บนรูฟท็อป หลายคนคงนึกถึงร้าน SEEN Restaurant & Bar Bangkok ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 26 และ 27 ของโรงแรม Avani+ Riverside Bangkok ที่เพิ่งแกรนด์โอเพนนิ่งไปอย่างอลังการเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีเหล่าเซเลบริตี้และไฮโซชื่อดังมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง SEEN Restaurant & Bar Bangkok เป็นร้านอาหารในเครือโรงแรม Avani ซึ่งเปิดเป็นสาขาแรกของเอเชีย และเป็นสาขาที่สามของโลก หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาแล้วกับสองสาขาแรกที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล และที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยมีเซเลบริตี้เชฟชื่อดังอย่าง Olivier Da Costa เป็นผู้รังสรรค์เมนูสุดพิเศษมาเพื่อห้องอาหารบนรูฟท็อปทั้งสามแห่งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งในสาขากรุงเทพนั้น นอกจากจะเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นอาหารนานาชาติกับเอกลักษณ์อันโดดเด่นของอาหารตามแบบฉบับของ SEEN แล้ว เชฟ Olivier ยังได้ดึงเอาความเป็นอาหารท้องถิ่น ความสดใหม่ และรสชาติแบบไทย ๆ มารวมไว้อีกด้วย SEEN Restaurant & Bar Bangkok ได้รับการออกแบบและตกแต่งโดย M&J London ด้วยสไตล์ Art Deco ในยุค 80’s ซึ่งเน้นไปที่การใช้ลายเส้นแบบ Geometric และใช้โทนสีหลัก คือ ดำและทอง ให้ความรู้สึกหรูหรา และทันสมัย ผสมผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นท้องถิ่นของประเทศไทย โดยเลือกใช้วัสดุตกแต่งเป็นไม้ไผ่ เน้นรูปทรงโค้งมน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลไม่เคยหยุดนิ่ง โดยภายในร้านจะมีทั้งโซน outdoor ให้นั่งแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ๆ รับลมสบาย ๆ จากแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อเนื่องไปยังส่วนที่เป็นบาร์ สามารถชมลีลาของบาร์เทนเดอร์ได้อย่างใกล้ชิด หรือจะเลือกนั่งในโซน Indoor ที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นก็ได้ ส่วนชั้น 27 จะเป็น rooftop bar สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมที่นั่งแบบเดย์เบด ให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างไร้ขอบเขต แต่ไม่ว่าจะอยู่ชั้น 26 หรือชั้น 27 ก็ตาม ก็สามารถชื่นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ร้านได้ตั้งแต่วิวในเมืองอย่างสาทร…

Read More

Kinlakestars.com ขอเชิญทุกท่านไปยัง เทรเดอร์ วิคส์ ห้องอาหารสุดชิคริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท ไปขยับสเต็ปความมันส์ในสไตล์ลาตินกับโปรโมชั่น “ซัลซา ซันเดย์ บรั้นซ์” ความสนุกที่ควงคู่มาพร้อมขบวนบุฟเฟต์ซีฟู้ดสด ๆ และเมนูรสเด็ดหลากรสหลายสไตล์ในแบบอเมริกาตอนใต้ ให้คุณและเพื่อน ๆ ได้อร่อยเฮฮา ไปพร้อมกันทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 15.00 น. พาเหรดบุฟเฟต์ระดับพรีเมี่ยม อาทิ หอยนางรมสด ปูอลาสก้า ปูม้า แคนาเดียนล็อบสเตอร์ ก้ามใหญ่ๆ ก้ามเน้นๆ กินง่าย เนื้อแน่นหวานฉ่ำไม่อั้น กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่และหอยตลับ มุมสลัดรสเยี่ยม สำหรับมุมสลัดที่นี้นั้นมีให้เลือกอย่างมากมายและหลากหลาย ซึ่งมีทั้งแบบที่ปรุงไว้ให้สำเร็จแล้ว และแบบที่ท่านสามารถสร้างสรรค์ขึ้นเองได้ อาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมิ หลากหลายรายการทั้งนิริกิชนิดต่างๆพวกแซลมอนอาบุริ หรือซูชิแบบประยุกต์ต่างๆ และซาซิมิเลือกรับได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแซลมอน ปลาหมึกยักษ์ ปูอัด โทโร่ ไข่หวาน ตามด้วยเมนูยอดนิยมจากเตาอบสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นๆของห้องอาหารนี้เลย สำหรับเจ้าเตานี้เป็นเตาอบแบบโบราณขนาดใหญ่ที่แขกทุกท่านสามารถแวะชมในขณะที่มีการทำได้ โดยเตานั้นจะล้อมด้วยกระจก ชมได้ใกล้ๆโดยไม่ต้องกลัวร้อน ขาแกะอบสูตรเฉพาะของเทรเดอร์ วิคส์ ซี่โครงย่างบาร์บีคิว ไก่ย่างอบสมุนไพร ล็อบสเตอร์อบเนยสมุนไพร หนึ่งในไอเทมแนะนำ หลายๆที่ท่านอาจเจอเป็น ล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ แต่ที่นี้มีความคล้ายคลึงแต่ปรับสูตรและเพิ่มสมุนไพรเข้าไปทำให้ได้ความอร่อยอย่างแตกต่างและไม่เลี่ยนจนเกินไป เมนูแบบลาติน ไล่มาตั้งแต่เซบิเช่ เมนูปลาดิบราดซอสเปรี้ยวเผ็ดจากประเทศเปรู เรื่อยมาจนถึงความอร่อยในแบบอาซาโด เมนูปิ้งย่างยอดนิยมจากอาร์เจนตินา อาหารแบบเม็กซิกัน เอาล่ะ เรามาดูมุมปิ้งย่างกับอาหารปรุงสุกสดๆใหม่ๆตามสั่งกันบ้างดีกว่า ซึ่งส่วนนี้จะอยู่บริเวณริมระเบียงด้านนอกที่ติดกับริมน้ำเจ้าพระยา มุมปิ้งย่างตามสั่ง สำหรับมุมนี้ท่านสามารถเลือกสารพัดวัตถุดิบสดๆ ใหม่ๆ คุณภาพพรีเมียมไปให้เชฟปิ้ง ย่างได้อย่างเต็มที่ บอกเลยว่ามากมาย หลากหลาย และดีงามมาก เนื้อหมูคุโรบุตะ เนื้อวัวและเนื้อแกะ หอยเชลล์ หอยหวาน กุ้งแม่น้ำ และอีกสารพัดอาหารทะเลสดพร้อมย่างไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก แซลมอน กระพงแดง ฯลฯ มุมส้มตำ มุมฟัวกราส์ ตับห่านสีเหลืองทองอร่าม ทำใหม่ๆร้อนๆ หอมกรุ่นพร้อมบริการทุกท่านอย่างไม่อั้น มุมหอยทอด อันนี้ดูหาได้นอกโรงแรมก็จริงแต่เป็นหนึ่งในไอเทมที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกท่านลิ้มลอง อร่อยดีครับ พักยกความอร่อยด้วยเมนูเครื่องดื่มเลื่องชื่อ สูตรต้นตำรับอย่าง “ไหม ไท” หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ…

Read More

ห้องอาหารมิชลินสตาร์ สระบัว บาย กิน กิน ณ โรงแรมสยามเคมปินสก้ีกรุงเทพฯ ขอตอ้ นรับทุกท่านเขา้สู่ฤดูร้อนกบั เซตดินเนอร์ “The Summer Journey” อิ่มเอมไปกบั อาหารไทยสไตล์โมเดิร์น จำนวน 8 คอร์ส พร้อมเสิร์ฟคลายร้อนวันที่ 1 เมษายน ศกน้ี เซตดินเนอร์“The Summer Journey” เกิดจากความร่วมมือกนั ระหวา่ งเชฟมิชลินสตาร์“เฮนริค อูล แอนเดอร์เซน” เชฟที่ปรึกษากิตติมศกัด์ิของหอ้งอาหารสระบวั บายกิน กิน และหวัหนา้พอ่ ครัว “ชยวีร์ สุจริตจันทร์” ที่น าเอาวัตถุดิบทอ้งถิ่นประจา ฤดูกาลมาสร้างสรรคเ์ป็นอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นสุดครีเอทีฟจ านวน 8 คอร์ส เริ่มด้วยอภินันทนาการ อาหารกรุบกรอบสไตล์ snacks and street-food เพื่อเป็นการเรียกน้า ย่อยก่อนที่ทุกท่านจะเริ่มรับประทานอาหารในเมนูแรก เช่น ขนมกรอบไข่ขาวซอสถวั่ เหลืองพร้อมมายองเนสวาซาบิ(Meringue soya wasabi)ที่มาพร้อมกบั เม็ดมะม่วงหิมพานตในถุงพลาสติกใส ์ (edible plastic bags of nuts) ต่อดว้ยเมนูแคบหมูน้า พริกหนุ่ม ไอศกรีมโคนแกง เหลือง และทูน่าทาร์ทาร์เสิร์ฟในดอกบัวเป็นต้น เมนูไฮไลท์ในเซตดินเนอร์ “The Summer Journey” ประกอบไปด้วย เมนูเรียกน้า ยอ่ ยแสนอร่อย “ยำปลาแฮลิบัต” ที่ใช้เทคนิคการปรุงแบบเซวิเช่โดยนา ปลาแฮลิบตัแช่ไว้ในน้า ยา เสาวรสต ามือ ช่วยเพิ่มรสเปร้ียวตามธรรมชาติเป็นเวลา 7 นาทีโดยมีจุดเด่นในการใช้นาฬิกาทรายเป็ นเครื่องมือจับเวลา เสิร์ฟพร้อมขนมสายไหมที่ให้รสหวานเขา้กนั ไดเ้ป็นอยา่ งดี(Thai Ceviche with Halibut and Passion Fruit) ถัดมาเป็ นเมนู “ฟัวกราส์ลาบเป็ด” ที่นา เน้ือฟัวกราส์มาคลุกเคล้ากบั เน้ือเป็ด…

Read More

กลุ่มธุรกิจโรงแรมในเครือเคมปินสกี้ (Kempinski Hotels) เปิดตัวกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ “เคมปินสกี้ คอนเสิร์ตตินี่” (Kempinski Concertini) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และมอบโอกาสให้กับศิลปินรุ่นเยาว์ไปจนถึงระดับเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น ได้ใช้พื้นของโรงแรมเป็นสถานที่ในการจัดการแสดงความสามารถพิเศษทางด้านดนตรี โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้แบรนด์เคมปินสกี้ ด้วยการจัดเตรียมพื้นที่ในการแสดงดนตรีตลอดปีพ.ศ.2562 ในรูปแบบมินิคอนเสิร์ตทั้งหมด 4 ซีรีส์ สำหรับการแสดงเปิดตัวครั้งแรก “Kempinski Concertini Act I” ทางโรงแรมฯได้เนรมิตพื้นที่บริเวณล็อบบี้อันโอ่โถงหรูหรา ให้กลายเป็นเวทีในการโชว์ทักษะความสามารถในการขับร้อง และบรรเลงบทเพลงมิวสิคัลชื่อดัง จากทีมเยาวชน Bangkok Youth Opera และ Grand Opera Thailand ในคืนวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา “การส่งเสริมกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม รวมไปถึงการสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น ถือเป็นหนึ่งในพันธสัญญาหลักของกลุ่มโรงแรมในเครือเคมปินสกี้ทั่วโลกที่พวกเรายึดถือ และปฏิบัติร่วมกันมาโดยตลอด การจัดกิจกรรม ‘เคมปินสกี้ คอนเสิร์ตตินี่’ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่บรรลุเป้าหมายตามพันธสัญญา เราทุกคนเล็งเห็นถึงศักยภาพและความสามารถที่หลากหลายของเด็กและเยาวชน จึงร่วมมือกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม สนับสนุน พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่รัก ผ่านเสียงเพลงทั้งการขับร้องและบรรเลงเพลงด้วยเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ” กล่าวโดย มร.อเล็กซ์ พิเชล ผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ภายในงาน ได้รับเกียรติจากพันธมิตรทางธุรกิจ สื่อมวลชน และแขกที่มาใช้บริการในโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวกิจกรรมเพื่อสังคมในครั้งนี้ ภาพเรียงจากทางซ้ายไปขวา: มหรรณพ ปาณะศารทูล ขับร้อง จากแกรนด์ โอเปร่า ไทยแลนด์; มร.อเล็กซ์ พิเชล ผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ; อนุตตรา กิติยากร ณ อยุธยา ขับร้อง จากแกรนด์ โอเปร่า ไทยแลนด์; บุษยพัชร อุ่นจิตติกุล ขับร้อง จากแกรนด์ โอเปร่า ไทยแลนด์; มร.แอนเดรอัส แม็กนุส รองผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ; ณัชพงศ์ อัศวกาญจน์…

Read More

โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เชิญคุณสัมผัสประสบการณ์การลิ้มรสความอร่อยมาพร้อมกลิ่นอายของประเทศอิตาลี กับเชฟมิชลินสตาร์ระดับหนึ่งดาว Luigi Taglienti  ส่งตรงจากห้องอาหาร LUME ประเทศอิตาลี เพื่อจะมารังสรรค์สุดยอดมื้ออาหาร ตั้งแต่วันที่ 4-8 มิถุนายนนี้ เท่านั้น เชฟ Luigi นำเสนอศาสตร์แห่งการปรุงอาหารอิตาลีผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างแบบดั้งเดิมพร้อมสร้างสรรค์ในสไตล์โมเดิร์น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรสชาติอาหารอันหลากหลายในทุกภูมิภาคของประเทศอิตาลี พร้อมเพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารแบบ 3 คอร์ส 5 คอร์ส และ 7 คอร์สเมนู ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูพิเศษอย่าง Liguria Shrimp à la Planci- เมนูกุ้งจากเมืองลิกัวเลีย- หรือ Prime Piemontese Beef in Italian Sauce เนื้อไพมอนเทสเกรดพรีเมี่ยม หมักซอสอิตาลี- รวมไปถึงขนมหวานอย่าง Black Truffle Tiramisù ที่กลมกล่อมไปด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมจิบไวน์ชั้นดีจากโรงบ่มไวน์ชื่อดังของประเทศอิตาลี Alois Lageder อีกด้วย เมนูพิเศษแบบ 3 เซ็ต (เฉพาะมื้อกลางวัน) 1,488++ บาท988++ บาท สำหรับเซ็ตไวน์ เมนูพิเศษแบบ 5 เซ็ต (มื้อกลางวัน หรือ มื้อค่ำ) 2,888++บาท1,388++ บาท สำหรับเซ็ตไวน์ เมนูพิเศษแบบ 7 เซ็ต (เฉพาะมื้อค่ำ) 3,888++ บาท1,788++ บาท สำหรับเซ็ตไวน์ ทั้งนี้ความสอดคล้องอย่างลงตัวในการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมให้มีความร่วมสมัย ด้วยเทคนิคใหม่เฉพาะตัว ภายใต้พื้นฐานของความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความพิเศษของอาหารจานนั้นๆ ทั้งยังสามารถคงเอกลักษณ์และความทรงจำของเมนูแบบดั้งเดิมไว้ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถต่อยอดความสร้างสรรค์ในแบบใหม่ลงไปได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ชื่อเสียงของเชฟ Luigi เป็นที่ยอมรับจากนักชิมอาหารอีกด้วย ประวัติเชฟ Luigi Taglienti เชฟ Luigi เติบโตขึ้นที่เมือง Liguria ประเทศอิตาลี ท่ามกลางความหลากหลายของรสชาติอาหาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสมาชิกภายในครอบครัว ซึ่งแม้ภายหลังการใช้ชีวิตและเดินทางอยู่ต่างประเทศก็ไม่สามารถลบเลือนความทรงจำดีๆ ในรสชาติอาหารอิตาลีของครอบครัวได้เลย Luigi เริ่มต้นเส้นทางความเป็นเชฟด้วยการทำงานภายใต้การดูแลของเชฟที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศอิตาลี หนึ่งในนั้นคือ…

Read More

ห้องอาหารนิมิตร ณ ชั้น 27 ของโรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ กรุงเทพฯ เปิดตัวเมนูบรันช์สำหรับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทีมเชฟมากประสบการณ์ของทางห้องอาหารได้รังสรรค์เมนู ภายใต้แนวคิด “From Farm To Plate” หรือผลผลิตจากฟาร์ม สู่เมนูจานเด่นแสนอร่อย ทีมเชฟได้คัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีความสดใหม่ตามฤดูกาล และได้มาตรฐานรับรองการทำเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนแนวความคิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าและเพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อมาปรุงเป็นเมนูรสชาติเยี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารจานเด่นสไตล์ยุโรป และเอเชีย นอกจากจะอิ่มเอมไปกับอาหารรสเลิศ แขกที่มาใช้บริการยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความวิจิตรของห้องอาหาร รวมไปถึงวิวและบรรยากาศอันสวยงามของเส้นขอบฟ้าใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่งดงามราวกับภาพในความฝัน เฉกเช่นชื่อของห้องอาหาร “นิมิตร” ที่แปลว่า ความฝัน อิ่มเอมไปกับหลากหลายเมนูที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน พร้อมเพลิดเพลินไปกับการนั่งชมเชฟปรุงอาหาร ณ ครัวที่เปิดโล่งให้เห็นทุกขั้นตอนขณะที่เชฟกำลังตระเตรียมเมนูแสนอร่อย เริ่มต้นมื้อพิเศษด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย อาทิ ไข่ห่านต้มยางมะตูม เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาคาเวียร์จากโครงการหลวง ชีสบูรัตต้าเนื้อเนียนนุ่ม เสิร์ฟพร้อมชัทนีย์มะเขือเทศโฮมเมด ปลาไวท์เบท เทมปุระ และสลัดผักสด อะโวคาโดไส้ไข่แดงลาวาชุบเกล็ดขนมปังทอด โรยหน้าด้วยข้าวเกรียบกุ้งกรุบกรอบ ตามมาด้วยเมนูหลักจานเด่น อาทิ กุ้งแม่น้ำเผา เสิร์ฟเคียงคู่มากับส้มตำไทยรสเด็ด ซี่โครงเนื้อตุ๋นจนนุ่มละมุนลิ้นเสิร์ฟพร้อมซอสมัลเบอร์รี่พริกไทยอ่อน เป็ดบาบารี่หมักเครื่องเทศอบฟางจนหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมซอสส้มจี๊ดรสกลมกล่อม (Kumquat sauce) ปิดท้ายเมนูบรันช์สุดพิเศษด้วยขนมหวานนานาชนิด อาทิ เครปซูเซตใบเตยกับซอสส้ม แพนเค้กเนื้อฟูเสิร์ฟพร้อมซอสเสาวรสและมะม่วง และสับปะรดเคลือบคาราเมลเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมโฮมเมดกลิ่นวานิลลา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการดื่ม เพลิดเพลินไปกับแพ็กเกจไวน์ หรือบลัดดี้แมรี่ย์และมิโมซ่า พร้อมเสิร์ฟแบบไม่จำกัดในราคา 899 บาท++ ต่อท่าน เมนูบรันช์แสนอร่อย ณ ห้องอาหารนิมิตร ให้บริการแบบอาหารจานเดี่ยว (a la carte) ทุกวันเสาร์ และวันอาทิตย์ พร้อมให้ทุกท่านได้ลิ้มลองตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคมศกนี้ เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร 02-079-7000 หรืออีเมล์ [email protected] 137 pillars, brunch, sunday, saturday, นิมิตร Kin…

Read More