ร้อนๆแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการกินอะไรเย็นๆ สำหรับของเย็นที่เป็นของหวานหลายคนมักคุ้นเคย ทั้งของหวานเย็นตะวันตกเช่นไอศครีม หรือของหวานเย็นแบบไทยๆใช่บรรดาผลไม้ลอยแก้วเย็นๆ ลอดช่อง ฯลฯ ทว่าของคาวอาหารเย็นอาจจะยังนึกกันไม่ออก ยิ่งคนรุ่นใหม่อาจไม่คุ้นเคย “ข้าวแช่” อาหารเย็นอย่างไทยที่สืบทอดมานานจะเป็นสิ่งที่เราอยากนำเสนอในวันนี้ครับ สำหรับห้องอาหาร Spice Market เป็นห้องอาหารไทยที่จำลองเอาตลาดเครื่องเทศ อันอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบไทยๆแสนคลาสิกและอบอุ่น ไม่ว่าคุณจะมาช่วงเที่ยงหรือช่วงเย็น ห้องอาหารแห่งนี้ก็เหมือนอยู่ในตลาดเครื่องเทศยามเย็นที่ชวนค้นหาและผ่อนคลาย หนึ่งในของอร่อยที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องได้ลิ้มลองนั้นก็คือ เมี่ยงคำ นั้นเอง ซึ่งทางห้องอาหารจะจัดเตรียมสำรับเมี่ยงคำโอชารส เครื่องครบ ใส่ไว้ในกล่องไม้แสนสวยน่ากินให้กับแขกทุกๆโต๊ะ เปรียบเสมือนอมูชบูชของห้องอาหารฝรั่ง ซัมเมอร์นี้ เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล เชฟครัวไทย โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ รอต้อนรับทุกท่านด้วยความเย็นฉ่ำชื่นใจกับเมนูคลายร้อน “ข้าวแช่” ณ ห้องอาหารไทย สไปซ์ มาร์เก็ต ตั้งแต่วันที่ 2 – 30 เมษายน 2561 ในครั้งนี้ Kinlakestars.com ชวนเพื่อนๆมาลิ้มลองรสชาติและกลิ่นหอมของข้าวแช่ ที่เชฟวรินธร บรรจงคัดสรรเอาข้าวเสาไห้อย่างดีนำไปปรุงอบควันเทียนกลิ่นดอกไม้ ทานคู่กับเครื่องเคียงหลากหลายชนิดที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับไทยโบราณ อาทิ ข้าวแช่ หุงข้าวเสาไห้ จนได้เป็นข้าวที่มีลักษณะเป็นตากบ นำมาขัดผ่านน้ำโดยนำข้าวใส่กระชอน แล้วเปิดน้ำไหลผ่าน ขัดข้าวอย่างเบามือ จนกระทั่งได้ข้าวเป็นเม็ดใส ตัวไม่ขุ่น นำใส่ผ้าขาวบางจึงนำไปนึ่ง ก่อนนำข้าวนั้นไปอบควันเทียน พร้อมกับ ดอกมะลิ และ กุหลาบ น้ำลอย น้ำลอยนั้นมาจากน้ำแร่ที่อบควันเทียน พร้อมกับ ดอกมะลิ และ กุหลาบ ลูกกะปิ ใช้กะปิอย่างดีจากระยอง นำไปผสมรวมกับเครื่องเทศ อาทิ กระชาย ตะไคร้ หอมแดง หัวกะทิ พริกแห้ง ปลาป่น นำไปผัดในกระทะทองเหลือง โดยค่อยๆ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าวจากอัมพวา และมะพร้าวคั่ว เพื่อให้ได้รสชาติที่หอมและกลมกล่อม ก่อนนำไปชุบกับไข่และแป้งสาลี ทอดจนได้สีเหลืองทองสวยงาม ไชโป้วผัดหวาน นำหัวไชโป้วไปผัดกับน้ำตาลมะพร้าว ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือ ผัดจนกระทั่งได้เส้นหัวไชโป้วที่มีความวาวใส สวยงาม กรุบกรึบ หอมสอดไส้ คว้านหอมแดงให้เป็นรู ยัดไส้ด้วยหมูหวาน ปรุงด้วยสามเกลอ ได้แก่พริกไทย รากผักชี และเกลือ…
Author: Kittin Assavavichai
โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ โรงแรมหรูบนถนนสุรวงศ์ เปิดประตูต้อนรับแขกครั้งแรก ในเดือนเมษายน 2561 ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นและคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของพื้นที่ย่านสุรวงศ์ผนวกวิถีชีวิตร่วมสมัยของคนในพื้นที่ทำให้สุรวงศ์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางหลักที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากสัมผัส ทางโรงแรมตระหนักถึงความต้องการนักเดินทางจากทั่วโลกดี จึงรับประกันได้ว่า นักเดินทางทุกท่านที่มาเยือนจะได้รับประสบการณ์การบริการระดับพรีเมี่ยมพร้อมการต้อนรับแบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์ เพียง 8 สัปดาห์หลังการเปิดตัว โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ได้ทะยานขึ้นเป็นโรงแรมอันดับหนึ่งบน TripAdvisor เวปไซต์การท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพที่เหนือระดับของบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก ในวันนี้ทางโรงแรมก็ยังคงครองอันดับ 1 ที่มีคะแนนรวมระดับ 5 ดาว และ 98% ของผู้เข้าพักที่รีวิวโรงแรมกล่าวว่าพวกเขาจะแนะนำที่โรงแรมแห่งนี้อย่างแน่นอน การบริหารทรัพยากรณ์บุคคลแบบมุ่งเน้นการดูแลพนักงานเป็นหลักของทางโรงแรมส่งผลให้โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ได้รับรางวัล “Thailand’s Best Employer 2019” หรือองค์กรที่ดีที่สุดของประเทศไทยปี 2562” จากรางวัล The Employer Branding Awards ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับโรงแรมเปิดใหม่ โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมชุมชนในพื้นที่ซึ่งสอดคล้องกับความคิดริเริ่ม“Spirit to Serve Our Communities” ของแมริออทอินเตอร์เนชั่นแนล โดยทางโรงแรมได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลายกิจกรรม เช่น เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันสำหรับเด็กที่ บ้านราชวิถีสำหรับผู้หญิงและเด็ก นอกจากนี้ โรงแรมยังมีส่วนร่วมในกิจกรรม “Run to Give 2018” กิจกรรมระดมทุนเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิศิริราชในการสร้างสถานบริการสาธารณสุขแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ หนึ่งในไฮไลท์ของปีที่ผ่านมาคือการเป็นพันธมิตร กับ Fox Networks Group Asia ในการถ่ายทำ Asia’s Next Top Model ซีซั่นที่ 6 ในหลายซีนสำคัญของซีซั่นนี้ได้ถ่ายทำที่โรงแรมรวมถึง 4 ตอนหลัก รวมถึงซีนเปิดและซีนเดินแบบฟินนาเล่จบฤดูกาล นอกจากนี้ทางโรงแรมยังได้จัดกิจกรรม “Wednesday Models Night” ทุกวันพุธเพื่อถ่ายทอดสดรายการตลอดระยะเวลา 10 สัปดาห์ของการออกอากาศ โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ได้ร่วมเป็นสถานที่จัดประชุม สัมนา งานแต่งงานและงานรื่นเริงต่างๆมากกว่า 300…
ดื่มด่ำอรรถรสเสน่ห์แห่งชุดน้ำชาบ่าย ‘Old New York – Modern Bangkok’ จากผลงานสร้างสรรค์ของเชฟคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ และ ธรณ ชัชวาลวงศ์ ดีไซเนอร์ และเจ้าของแบรนด์ TAWN C. ณ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 15 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม นี้ เมื่อพูดถึงการจิบชา เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ผู้ดีมีรสนิยมต้องพูดถึงและไปกัน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ทางทัศนียภาพและการรังสรรค์ขนมขึ้นมาเรื่อยๆอย่างแปลกใหม่ตลอด ในครั้งนี้ kinlakestars.com จะพาไปแนะนำอาฟเตอร์นูนทีเมนูใหม่ ‘Old New York – Modern Bangkok’ พร้อมเผยโฉมชุดน้ำชาลิมิเต็ด อิดิชั่น จากการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันของ มร. คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ หัวหน้าเชฟ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ และ ธรณ ชัชวาลวงศ์ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ TAWN C. เสื้อผ้าผู้หญิงชื่อดังระดับท็อปของเมืองไทย ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับห้อง เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ และเดอะ ดรอว์อิ้งรูม ทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ตั้งแต่ 15 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2562 ร่วมสัมผัสประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ และสืบสานประเพณีอันเก่าแก่ดั้งเดิมกับการจิบน้ำชายามบ่ายสะท้อนความหรูหราผ่านกาลเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ คุณธรณได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดน้ำชานี้มาจากตึกสูงระฟ้าและวิวสุดสวยของมหานครนิวยอร์ค ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เซนต์ รีจิส แห่งแรกในโลก ผนวกกับความสวยงามของวิวสวยของ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โดยนำเสนอความทันสมัยแต่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิคเหนือกาลเวลา โดยสอดคล้องกับแนวคิดและความเป็นตัวตนของ แบรนด์ TAWN C. ด้วยคำจำกัดความ…
ตั้งแต่วันที่ 22 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2562 นี้ ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ขอเชิญคนรักอาหารจีนทุกท่านมาร่วมเปิดประสบการณ์การลิ้มลอง “อาหารจีนหวยหยางโอชารสสูตรดั้งเดิม” หนึ่งในเมนูอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศจีน ที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงแบบสดใหม่เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด อันเป็นหัวใจสำคัญของการปรุงอาหารหวยหยาง รังสรรค์โดย เชฟแอนโธนี ต่ง หัวหน้าพ่อครัวอาหารจีนมืออาชีพ แห่งโรงแรมฝูเถียน แชงกรี-ลา เซินเจิ้น ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 25 ปีในวงการอาหารจีน และการันตีความสามารถ ด้วยตำแหน่งผู้ชนะการแข่งขันอาหารจีนระดับโลก ประจำปี พ.ศ. 2560 เชฟแอนโธนี ต่ง ผู้ซึ่งมีความรักในการปรุงอาหารจีนแบบเต็มเปี่ยม พร้อมนำพาทุกท่านให้เพลิดเพลินไปกับ อาหารหวยหยางรสชาติดั้งเดิมกว่า 17 รายการ อาทิ เมนูซุปเต้าหู้สองน้ำและเห็ดมัตสึทาเกะกลิ่นหอมละมุน ที่ล้ำลึกไปด้วยขั้นตอนมากมายในการปรุง, เนื้อวากิวหิมะทอดราดด้วยซอสกระเทียมดำ ที่ให้ความเป็นเอกลักษณ์จากเนื้อวากิวนำเข้าจากเมืองฮอกไกโด และกระเทียมดำที่อุดมไปด้วยประโยชน์, ข้าวผัดสไตล์หยางโจวอันแสนโด่งดัง,ซุปเห็ดเยื่อไผ่และหน่อไม้ฝรั่งตุ๋น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูมังสวิรัติ และเมนูข้าวต้มเคี่ยวในน้ำซุปเข้มข้น ใส่หอยเชลล์ เนื้อไก่ แฮม เห็ด และผักชนิดต่างๆ ปิดท้าย ความอร่อยด้วยเมนูอาหารหวานนานาชนิดที่เลือกใช้วัตถุดิบเพื่อความเป็นมงคลตามแบบฉบับอาหารจีนดั้งเดิม ได้แก่ เมนูซุปรังนกในอาโวคาโด และเมนูบัวลอยต้มน้ำชาดอกหอมหมื่นลี้ ในราคาเริ่มต้นที่จานละ 208 บาท++ เทศกาลอาหารจีนหวยหยาง พร้อมให้บริการทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 0 2236 7777 หรือ 0 2236 9952 หรือ อีเมล [email protected] หรือสำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ที่ http://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/dining/restaurants/shang-palace/ Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ…
จากความสำเร็จของงานดินเนอร์ “ไทย แกสโตรโนมี ซีรีส์ 1” ที่จัดขึ้นร่วมกับมาสเตอร์เชฟชื่อดังของเมืองไทย “เชฟเอียน กิตติชัย” เจ้าของร้านอาหารไทย อิษยา สยามมิส คลับ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ในปีนี้ห้องอาหารไทย ไฟน์ ไดนิ่งระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว สระบัว บาย กิน กิน ขอนำเสนอ ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ไทย แกสโตรโนมี ซีรีส์ 2” ที่รวบรวบสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์แห่งวงการอาหารไทย มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดครีเอทีฟที่เหล่าบรรดานักชิมทั่วประเทศไม่ควรพลาด ร่วมเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นจากสามเชฟผู้มีชื่อเสียง “เฮนริค อูล แอนเดอร์เซน” แห่งร้าน Kiin Kiin โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก “เชฟชุมพล แจ้งไพร” เชฟผู้โด่งดังแถวหน้าของประเทศไทย และหุ้นส่วนร้าน R-Haan Wisdom of Thai cuisine และ “เชฟเบิ้ม ชยวีร์ สุจริตจันทร์” หัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการได้รับดาวมิชลิน เชฟทั้งสามท่านร่วมกันเฉพาะกิจเพื่อโชว์ทักษะฝีมือการปรุงอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ที่ประยุกต์นำเอาเทคนิคต่างๆตามสไตล์ถนัดของแต่ละคนมาใช้ในการปรุงอาหาร โดยเชฟแต่ละท่านจะนำวัตถุดิบดั้งเดิมตามสูตรต้นตำรับอาหารไทยมาปรุงอย่างปราณีตและพิถีพิถัน พร้อมใส่ไอเดียและนวัตกรรมใหม่ๆ ช่วยเปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทย ที่ทุกท่านไม่สามารถหารับประทานที่ไหนได้ “ความพิเศษของดินเนอร์ ไทย แกสโตรโนมี ซีรีส์ 2 ณ ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน นี้ถือเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมอาหารไทย ถ่ายทอดโดยสามเชฟผู้มีความหลงใหล และตั้งใจที่จะยกระดับอาหารไทยให้ทันสมัยในระดับสากล มิชลินสตาร์เชฟทั้งสามท่านจะร่วมมือกันนำเอาความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคใหม่ๆในการทำอาหารมาประยุกต์ใช้ หากแต่ทุกเมนูยังคงไว้ซี่งรสชาติอันกลมกล่อมตามสูตรอาหารไทยแท้ดั้งเดิม และนำเสนอออกมาในรูปแบบที่ทันสมัยน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งนำคอนเซปต์ศิลปะกึ่งการแสดงของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ที่เน้นย้ำถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับเชฟและทีมงานทุกคน เสมือนดั่งลูกค้าทุกท่านคือผู้มานั่งชมโชว์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ มาดัดแปลงให้เข้ากับคอนเซปต์ของดินเนอร์มื้อพิเศษ ช่วยเปลี่ยนมื้ออาหารที่แสนธรรมดาให้เป็นอีกหนึ่งมื้อแห่งประสบการณ์ที่เหนือระดับ” กล่าวโดย มร. อเล็กซ์ พิเชล ผู้จัดการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปิน-สกี้ กรุงเทพฯ ภายในงานดินเนอร์ “ไทย แกสโตรโนมี…
– เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ แนะนาอาฟเตอร์นูนทีเมนูใหม่ ‘Old New York – Modern Bangkok’ พร้อมเผยโฉมชุดน้ำชาลิมิเต็ด อิดิชั่น จากการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันของ มร. คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ หัวหน้าเชฟ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ และ ธรณ ชัชวาลวงศ์ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ TAWN C. เสื้อผ้าผู้หญิงชื่อดังระดับท็อปของเมืองไทย ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับห้อง เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ และเดอะ ดรอว์อิ้งรูม ทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00น. ถึง 17.00น. ตั้งแต่ 15 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม นี้ ร่วมสัมผัสประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ และสืบสานประเพณีอันเก่าแก่ดั้งเดิมกับการจิบน้ำชายามบ่ายสะท้อนความหรูหราผ่านกาลเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ คุณธรณได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดน้ำชานี้มาจากตึกสูงระฟ้าและวิวสุดสวยของมหานครนิวยอร์ค ซึ่งเป็นที่ตั้งของ เซนต์ รีจิส แห่งแรกในโลก ผนวกกับความสวยงามของวิวสวยของ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โดยนำเสนอความทันสมัยแต่แฝงไว้ด้วยความคลาสสิคเหนือกาลเวลา โดยสอดคล้องกับแนวคิดและความเป็นตัวตนของ แบรนด์ TAWN C. ด้วยคำจำกัดความ “Modern take on classic silhouette” โดยมีเชฟ คริสโตเฟอร์ หัวหน้าเชฟ ของโรงแรมฯ รังสรรค์เมนูอาหารในชุดน้ำชานี้ทั้งของคาวและขนมหวาน ที่เน้นความแตกต่างของรสชาติแห่งความคลาสสิกของนิวยอร์คและอาหารไทยร่วมสมัย ยลสุนทรียศาสตร์ของประเพณีการจิบน้ำชายามบ่ายสไตล์เซนต์ รีจิส ผ่านชุดน้ำชารูปทรงสูงซึ่งทั้งสี่ด้านมีความลาดเอียงและมีปลายแหลมจรดกันทาให้นึกถึงเส้นขอบฟ้าของแมนฮัตตันจากลายเส้นอันประณีตของดีไซเนอร์ธรณ พร้อมชมผลงานเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุดในรูปแบบเรียบหรูแบบไร้กาลเวลาสร้างสมดุลระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย สวมใส่โดยพนักงานของ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ เสมือนว่าคุณนั่งจิบชาอยู่ในนิวยอร์ค “ผมภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับเชฟคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ และเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษจิบน้ำชายามบ่าย ‘Old New York – Modern…
เมื่อสายลมแห่งคิมหันต์นำไอร้อนมาเยือนกรุง เป็นสัญญาณว่าได้เวลา “ข้าวแช่ชาววัง” ที่จะช่วยคลายร้อนผ่อนอารมณ์ เติมเต็มความสุขให้กับทุกคน ด้วยข้าวแช่ในน้ำลอยดอกมะลิหอมกรุ่นพร้อมเครื่องเคียงปรุงพิเศษถึง 7 อย่าง ลิ้มรสโอชาได้ ณ ห้องอาหาร สยาม ที รูม และ โกจิ คิทเช่น + บาร์ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ตลอดทั้งเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2562 นี้ ห้องอาหารสยาม ที รูม (Siam Tea Room) โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โรงแรมสุดหรูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ บรรจงรังสรรค์ “ข้าวแช่ชาววัง” เมนูสดชื่นรับสายลมร้อน เป็นข้าวแช่สูตรดั้งเดิมจากจังหวัดราชบุรี ที่นิยมปรุงเพื่อบวงสรวงสังเวยเทพเทวดาและถวายพระสงฆ์ ในช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย โดยจะนำข้าวขาวพันธุ์เสาไห้มาหุงด้วยกรรมวิธีพิเศษพร้อมอบควันเทียน จนได้ข้าวเม็ดสวยและหอมกรุ่น เติมน้ำลอยดอกมะลิ ซึ่งอบน้ำให้มีกลิ่นหอมด้วยดอกไม้ 5 ชนิด ได้แก่ กระดังงา ชมนาด กุหลาบมอญ จำปี และมะลิ พร้อมทั้งอบควันเทียน ให้หอมกรุ่นในทุกคำที่รับประทาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเติมน้ำแข็งที่ทำจากน้ำลอยดอกมะลิ เพื่อกลิ่นและรสที่สมบูรณ์แบบ ในสำรับข้าวแช่หอมเย็นชื่นใจ เชฟได้บรรจงปรุงเครื่องเคียงรสเลิศถึง 7 อย่าง เริ่มจาก “ลูกกะปิทอด” ที่นำปลาและกุ้งมาบดผสมกับกะปิ พร้อมทั้งสารพัดสมุนไพรก่อนปั้นเป็นลูกพอดีคำ ชุบไข่และแป้งแล้วนำไปทอดจนเป็นสีเหลืองทอง “พริกหยวกสอดไส้” เป็นพริกหยวกคว้านเมล็ดออก ยัดไส้หมูและกุ้งสับปรุงรส ก่อนนึ่งให้สุกแล้วห่อด้วยไข่ตาข่าย “หอมแดงยัดไส้” โดยไส้ทำจากปลาช่อนย่างสับปรุงรส ก่อนจะชุบไข่และแป้งแล้วทอดให้กรอบ “หมูฝอย” หมูต้มฉีกเส้นเจียวกับหอมกรอบๆ คลุกเคล้าน้ำตาลรสหวานกลมกล่อม “ปลายี่สนผัดหวาน” เนื้อปลายี่สนฝอยนุ่ม ๆ ผัดให้รสออกหวาน เสริมทัพด้วย “ไชโป๊วผัดหวาน” และ “อัญชันไส้กุ้ง” ที่ทอดกรอบนอกนุ่มใน ลงตัวกับข้าวแช่หอมเย็นชื่นใจ ลิ้มลอง “ข้าวแช่ชาววัง” สูตรดั้งเดิมจากราชบุรี ที่ห้องอาหารสยาม ที รูม โรงแรม แบงค็อก แมริออท…
เจฟ แรมซีย์ เชฟหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ผู้ครองรางวัลมากมาย และยังเป็นผู้ก่อตั้งร้านอาหารชื่อดัง Babe ประเทศมาเลเซีย จะมาแสดงความสามารถในการปรุงอาหาร ณ ห้องอาหารฝรั่งเศส เดอะ รีเฟล็กซ์ชั่นส์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคมนี้ เชฟเจฟ จะนำเสนออาหารของเขาให้กับแขกแบบเป็นกันเอง แขกสามารถซักถามพูดคุยกับเชฟได้ตลอดมื้ออาหาร พร้อมรับชมการปรุงอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ที่มีส่วนประกอบของอาหารญี่ปุ่นมาผสมผสาน โดยแขกจะได้ที่นั่งหน้าบาร์เคาน์เตอร์ ซึ่งในวันนั้นจะถูกแปลงเป็นห้องครัวเล็ก ๆ เพื่อให้เชฟได้จัดเตรียมอาหารขึ้นเสิร์ฟ ไปพร้อม ๆ กับการบอกเล่าถึงเทคนิคและวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง ที่นั่งมีจำนวนจำกัดเพียง 12 ที่นั่งต่อรอบเท่านั้น โดยมื้อกลางวัน มี 1 รอบ ในราคา 2,980++ บาท และมื้อค่ำมี 2 รอบ เวลา 18:30 และ 20:30 น. ในราคา 4,800++ บาท แต่ละรอบจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไวน์ ทางห้องอาหารก็มีตัวเลือกของไวน์ที่จับคู่กับอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติอีกด้วย เมนูอาหารที่เชฟเจฟได้จัดเตรียมไว้ให้แขกทุกท่านลิ้มลอง อาทิ คามาสึ ซาชิมิ (Kamasu Sashimi), ซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นที่เสิร์ฟมาใน ทาร์ตชิ้นเล็ก ๆ (A Tartlette of Japanese Seafood), ปูยักษ์จากอลาสการาดคัสตาร์ดไข่นุ่ม (Alaskan King Crab with a Silky Egg Custard), แซนด์วิชตับห่านและคอนยัค มาร์แตล เรด บาร์เรล (A “Sandwich” of Martell Red Barrel and Foie Gras) และ สุกียากี้…
อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ได้รับเกียรติจากเชฟเฟรดเดอริค ฮาเเวคเกอร์ (Frédéric Hawecker) เชฟชื่อดังชาวฝรั่งเศส ผู้เชี่ยวชาญทางด้านช็อกโกแลตและครองตำแหน่งระดับชาติ Un des Meilleurs Ouvriers de France (MOF) เดินทางมารังสรรค์ขนมหวาน 4 ชนิด จัดวางเป็นขนมหวานรายการพิเศษในชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ”ให้บริการเฉพาะวันอังคารที่ 12 มีนาคม 2562 เวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. เท่านั้น ในประเทศฝรั่งเศส ผู้ที่สวมเสื้อที่มีคอปกประดับด้วยสีทั้งสามของธงชาติฝรั่งเศสนั้นถูกขนานนามว่าเป็นกรรมกรชั้นเยี่ยมแห่งประเทศฝรั่งเศส หรือ เรียกสั้น ๆ ได้อีกอย่างว่า มอฟ (MOF) หมายถึงช่างฝีมือในแขนงวิชาชีพต่างๆที่ผ่านการทดสอบระดับชาติที่มีชื่อว่า Un des Meilleurs Ouvriers de France หรือ กรรมกรชั้นเยี่ยมแห่งประเทศฝรั่งเศส โดยผู้ที่ได้ตำแหน่งมอฟมาครองจะได้รับความเคารพ และชื่นชมจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากตำแหน่งแห่งชาตินี้ไม่สามารถได้มาง่าย ๆ เชฟเฟรดเดอริค ได้รับตำแหน่งมอฟในฐานะช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญทางด้านช็อกโกแลตและได้ครองตำแหน่งระดับชาตินี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เชฟเฟรดเดอริค เคยเป็นผู้ฝึกอบรมประจำโรงเรียนสอนทำขนมเพื่อวิชาชีพชั้นสูงในเมืองอีแซงโชว์ (Yssingeaux) ประเทศฝรั่งเศส และยังดำรงตำแหน่งที่ปรึษาผู้เชี่ยวชาญด้านการทำช็อกโกแลตให้กับสถาบันต่างๆทั่วโลก เชฟเฟรดเดอริคมีร้านช็อกโกแลตและขนมปังตั้งอยู่ที่เมือง ชาโตเรอนาร์ (Chateaurenard) ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองอาวีญง (Avignon) ประเทศฝรั่งเศส เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 ขนมหวานชิ้นเล็กที่เชฟเฟรดเดอริค ได้ตระเตรียมมาให้บริการกับชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” ล้วนรังสรรค์ด้วยช็อกโกแลตคุณภาพดี Chocolaterie de l’Opéra จากประเทศฝรั่งเศส แต่งกลิ่นและรสชาติด้วยส่วนประกอบญี่ปุ่น อาทิ ชาเขียว จัดวางอย่างงดงามในชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ” โดยเชฟเฟรดเดอริคจะแนะนำขนมหวานแต่ละชนิดด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด ชุดน้ำชายามบ่าย “ซึบากิ”…
สัมผัสประสบการณ์อาหารฝรั่งเศสต้นตำรับหลากหลายเมนู ที่โดดเด่นด้วยรสชาติ ท่ามกลางทิวทัศน์สวนเขียวขจี ในบรรยากาศชิลๆ แสนสบาย ที่คาเฟ่ แคลร์ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ เชฟเอริค หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารคาเฟ่ แคลร์ ชาวฝรั่งเศส ที่มากประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านการปรุงอาหารฝรั่งเศสได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นยอด ส่งตรงจากนานาประเทศ นำมารังสรรค์เป็นเมนูเลิศรส และได้นำวัตถุดิบท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ เพื่อความสดใหม่และเพิ่มความอร่อยที่ลงตัวมากขึ้น ความสามารถทางด้านการรังสรรค์อาหารเข้าตากรรมการ จนได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันโจทย์อาหารฝรั่งเศส ในรายการ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (Iron Chef Thailand)” โดยแข่งกับเชฟไก่ ธนัญญา วิลคินซัน ที่เรียกว่าแกร่งในฝีไม้ลายมือ ทว่าแฝงด้วยความอ่อนหวานในรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเธอ ในการแข่งขันทำอาหารที่มีวัตถุดิบเป็นหอยนางรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นสุดยอดเมนูอาหารฝรั่งเศส และเป็นเชฟเอริคที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ สำหรับอาหารในค่ำคืนนี้ เชฟเอริคได้นำเสนอ 6 เมนู นำทัพโดย เมนูหอยสดชื่น เมนูเด็ดที่อยู่ในการแข่งขันเชฟกระทะเหล็ก ซึ่งครั้งนี้เชฟได้ดัดแปลงโดยเลือกใช้หอยนางรมฟิน เดอ แคลร์ เสิร์ฟแบบสดๆ แบบเย็นทานพร้อมกับไข่ปลาแซลมอนและซอสส้มยูซึ ส่วนแบบร้อน ทานคู่กับกระเทียมต้นที่นำไปย่างจนสุก ให้คุณได้สัมผัสความอร่อยกันแบบเต็มๆคำ (ราคา 550 บาท) ตามด้วย ทูน่าทาร์ทาร์ รสจัดจ้าน ที่ใช้ปลาทูน่าครีบเหลืองเนื้อแน่นมาปรุงรสด้วยผิวเลมอน มะเขือเทศตากแห้ง น้ำมันหอมระเหย ใบโหระพา และอะโวคาโด (ราคา 370 บาท) เมนูต่อมา ฟัวกราส์เทอร์รีน รสกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมลูกฟิก และขนมปังอาร์ทิซานร้อนๆ (ราคา 520 บาท) ฟินอย่างต่อเนื่อง ด้วยเมนูปลาโดเวอร์ โซล เนื้อนุ่มละมุน ทอดราดด้วยซอสเนยและเลมอน (ราคา 1,250 บาท) ตามมาด้วย สุดยอดแห่งเมนูที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาด นั่นก็คือ สเต็กเนื้อโทมาฮอว์ค ชิ้นโต เสิร์ฟพร้อมซอสไวน์แดงและเครื่องเคียงมากมาย (ขนาด 1500g ราคา 2,950 บาท) ปิดท้ายมื้ออาหารด้วย เมนูของหวานสุดคลาสสิค รสชาติต้นตำรับฝรั่งเศสแท้ๆ อย่าง บาบา โอ รัม (Baba au…