สัมผัสมนต์เสน่ห์เมนูคลายร้อนแบบไทยด้วยเทศกาล “ข้าวแช่ จิม ทอมป์สัน” Kinlakestars.com ขอเสนอความอร่อยตำรับชาววังของ “ข้าวแช่ จิม ทอมป์สัน” เมนูยอดนิยมประจำฤดูร้อน ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศผสานความพิถีพิถันแห่งกรรมวิธีการปรุงสูตรเฉพาะ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยดับทุกองศาร้อนแล้ววันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ศกนี้เท่านั้น! “ข้าวเสาไห้ 2 สี” ทำมาจากข้าวเสาไห้เกรดคุณภาพ ซึ่งผ่านการขัดล้างยางอย่างพิถีพิถัน จนได้ข้าวเม็ดยาวเรียวสวย นำไปต้มจนมีลักษณะเป็นตากบ ก่อนจะนำไปล้างจนน้ำข้าวไม่มีสีขุ่น แล้วจึงนำน้ำปรุงอบร่ำควันเทียนกลิ่นดอกมะลิหอมกรุ่นพรมจนทั่วก่อนนำไปนึ่งจนเม็ดข้าวบานสวยงาม เสิร์ฟพร้อมน้ำปรุงอบร่ำควันเทียนกลิ่นดอกมะลิลอยด้วยดอกชมนาด เครื่องเคียงตำรับชาววัง ลูกกะปิทอด ขนาดพอดีคำที่บรรจงคัดสรรกะปิคุณภาพพิเศษ โขลกละเอียดเคล้าความหอมของกระชายและเครื่องปรุง กวนจนเข้าเนื้อ ก่อนชุบไข่แดงทอดในน้ำมันตั้งไฟปานกลางให้หอม พริกหยวกสอดไส้ รสชาติเผ็ดปานกลางที่อัดแน่นด้วยไส้กุ้งและไก่สับ ห่อด้วยแหไข่เป็ดแบบไม่อมน้ำมันอย่างประณีต หอมแดงสอดไส้ หอมแดงคว้านไส้ขนาดเต็มคำ สอดไส้ด้วยเนื้อปลาช่อนแดดเดียวโขลกละเอียดรสชาติกลมกล่อม ปลาเค็มชุบแป้งทอด เนื้อปลาอินทรีย์เค็มคัดพิเศษที่หมักเกลือและตากแดดจนไร้ความคาว ผสมไก่บดและไข่ขาว ยีให้ละเอียดแล้วนำไปทอด ไชโป๊วผัดหวาน รสชาติละมุนลิ้นจากหัวไชโป๊วดองผัดกับน้ำตาลมะพร้าว ให้ได้รสหวานเค็มแบบพอดี ปลายี่สนผัดหวาน เนื้อปลายี่สนตำละเอียดจนฟูก่อนเอาไปผัดกับหอมเจียวจนแห้งกำลังดี นอกจากนี้ยังครบเครื่องด้วยผักแนมและผลไม้สดที่แกะสลักอย่างสวยงาม ทั้งมะม่วงเขียวเสวย กระชาย แตงกวา ต้นหอม “ข้าวเหนียวมะม่วง” ก่อนปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน หนึ่งในเมนูยอดนิยมของ จิม ทอมป์สัน “ข้าวเหนียวมะม่วง” ชุดเมนู “ข้าวแช่ จิม ทอมป์สัน” จำหน่ายในราคาชุดละ 490 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้เท่านั้น สอบถามและสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ จิม ทอมป์สัน เรสเตอรองท์ แอนด์ ไวน์ บาร์ (Jim Thompson Restaurant and Wine bar) พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ซ.เกษมสันต์ 2 โทร. 02-612-3601 จิม ทอมป์สัน เรสเตอรองท์ แอนด์ เล้าจน์ (Jim Thompson Restaurant and Lounge)…
Author: Kittin Assavavichai
ณ ห้องอาหารไทย สวนบัว โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ห้องอาหารไทยสวนบัว โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เชิญคุณลิ้มลองโปรโมชั่น “ข้าวแช่สูตรเด็ดตำรับห้องอาหารสวนบัว” เมนูคลายร้อนยอดนิยมที่ทุกท่านรอคอยในช่วงฤดูร้อน โดย เชฟปอ (สันติภาพ เพชรว่าว) หัวหน้าเชฟห้องอาหารไทยสวนบัว ได้คัดสรรวัตถุดิบและสมุนไพรชั้นเลิศ พิถีพิถันในการปรุงรสชาติความอร่อยด้วยความรักและความใส่ใจในทุกขั้นตอนออกมาเป็นเมนูข้าวแช่สูตรลับตำรับสวนบัว สัมผัสรสชาติความอร่อยฉ่ำเย็นของข้าวหอมลอยน้ำดอกมะลิและกุหลาบ(ออร์แกนิค)พร้อมอบควันเทียนเพื่อให้มีกลิ่นหอมชื่นใจ รับประทานคู่กับเครื่องเคียงรสชาติต้นตำรับ อาทิ หมูฝอยผัดหวาน หรือ เนื้อฝอยผัดหวาน, ไชโป๊ผัดหวาน, ปลายี่สนผัดหวาน, พริกหยวกสอดไส้กุ้งสูตรโบราณ, หอมแดงทอดสอดไส้ปลาแซลมอน และ เครื่องเคียงสมุนไพรผักสดเช่น ดอกกระชาย มะม่วง ต้นหอม แตงกวา พริกชี้ฟ้า เป็นอันครบเครื่องกับจานอร่อยรับฤดูร้อน ในราคาเซ็ทละ 650 บาท++ / สำหรับ 1 ท่าน *พิเศษฉลองรับสงกรานต์กับเมนูหาทานยาก อาทิ ปลาร้าหลนทรงเครื่องกุ้งสด ในราคา 390 บาท++ และยำผิวส้มซ่าสูตรโบราณ ในราคา 390 บาท++ พร้อมเสิร์ฟความอร่อย ตลอดเดือนเมษายน 2561 นี้เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร: 02 541 1234 ต่อ 4151 / Email: [email protected] ห้องอาหารสวนบัว: ชั้น LL โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน: มื้อกลางวัน 11.30 – 14.30 น. / มื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น. #################################### KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว…
ห้องอาหารศิลาดล แห่งโรงแรมสุโขทัยกรุงเทพฯ ห้องอาหารซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วเมืองหลวงแห่งสยาม สำหรับอาหารไทยที่แสนอร่อย Kinlakestars.com ขอเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบการลิ้มลองอาหารฤดูร้อนของไทย “ข้าวแช่” มาลิ้มลองกัน ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่อยกันในช่วงเดือนเมษายน ข้าวแช่ในน้ำอบควันเทียนและดอกมะลิเย็นสดชื่น กับข้าวสวยร้อนๆในกรวยใบตอง ที่จะช่วยเติมเต็มความสดชื่นให้กับมื้ออาหารกลางวันที่ร้าน Celadon ที่จะเริ่มจำหน่ายจ่ายชิมให้กับแขกทุกท่าน ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายนเป็นต้นไปสำหรับการรับประทานอาหารในราคา 990 ++ ต่อชุดและ แบบเอากลับบ้านในราคา 1200 บาท ++ ต่อชุด ข้าวแช่เรียกได้ว่าเป็นข้าวที่แช่ในน้ำเย็น “ข้าว” หมายถึงข้าว และ “แช่” คือการเอาวัตถุนั้นๆใส่ลงไปในน้ำ ชื่อเมนูนี้จึงมีความหมายที่ตรงไปตรงมา ช่วงเวลาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 2 สูตรนี้ได้รับการดัดแปลงมาจากอาหารมอญและแปรสภาพไปตามกาลเวลา ในสมัยนั้นน้ำแข็งไม่มีอยู่ในสยามประเทศ ดังนั้นน้ำจึงถูกเก็บไว้ที่เย็นจัดโดยเก็บไว้ในภาชนะเครื่องปั้นดินเผาในที่ร่ม ข้าวแช่ที่รังสรรค์โดยเชฟ ริน ที่ Celadon ประกอบไปด้วยเครื่องปรุงรสมากมาย เรามาเริ่มต้นกันด้วยลูกกะปิ หนึ่งในเครื่องข้าวแช่ที่ต้องมีกันในทุกที่ ลูกกะปิที่นี่ใช้กะปิจากอำเภอคลองโคลน ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดัง อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดจากเชฟริน ในลูกกะปินี้ยังประกอบไปด้วยเนื้อปลาสำลี และกระชาย ซึ่งกระชายเองจะช่วยดับกลิ่นของเจ้าตัวกะปินี้ อีกทั้งยังทำให้หอมและละมุนชวนชิม พริกหวานยัดไส้ด้วยกุ้ง พริกหยวกยัดใส้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขาดมิได้เลยทีเดียว โดยสำหรับพริกหยวกยัดไส้ที่ห้องอาหารศิลาดลนั้น ไส้ที่ใช้ยัดนั้นจากไม่ใช้หมู แต่จะเป็นกุ้งล้วน ผสมผสานปรุงด้วยสามเกลอแห่งอาหารได้ นั้นก็คือ พริกไทย รากผักชี และเกลือ ห่อด้วยพริกที่คว้านไส้ออกทั้งหมดแล้วนำไปนึ่ง ห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นหลุ่มเป็นตะข่ายๆสีเหลืองนุ่มๆ ปลายี่สนผัดหวาน และหอมแดงยัดไส้ สำหรับปลายี่สนผัดหวานของที่นี่ทุกๆปีที่ผ่านมาจนปีนี้ก็ยังคงมีเอกลักษณ์ที่ไม่ต่างจากปีก่อนๆในส่วนของรูปร่าง นั้นคือการทำขึ้นรูปให้มีขนาดเท่ากับเหรียญสองบาท ส่วนสิ่งที่ต่างออกไปจากปีก่อนๆนั้นคือตัวนำ้ตาลที่ใช้ ในปีที่ผ่านๆมาเชฟรินจะใช้น้ำตาลปี๊ป หรือน้ำตาลมะพร้าว แต่ในปีนี้เชฟรินเปลี่ยนมาใช้น้ำตาลโตนด ซึ่งความแตกต่างที่ได้คือรสที่หวานนุ่มต่างจากรสที่หวานแหลมของน้ำตาลมะพร้าวนั้นเอง และตัวเจ้าน้ำตาลโตนดนี้นั้นก็จะมีกลิ่นที่หอมเฉพาะตัวอีกด้วย กับปลาดุกทอดกรอบหรือเนื้อหมูเส้นทอดกรอบ ไชโป้วผัดหวาน สำหรับไชโป้วผัดหวานนี้จะมีเทคเจอร์ความเหนียว หนึบ หวาน หนุบๆ ซึ่งเป็นการใส่สัมผัสที่ต่างออกไปจากเครื่องเคียงอื่นๆ จะกินคู่ไปกับเครื่องเคียงและกับรสเค็มก็ช่วยเบรครสกันได้เป็นอย่างดี แตงโมกับปลาสำลีผัดแห้ง สำหรับแตงโมปลาแห้งนั้นเป็นหนึ่งในอาหารและสำรับคลายร้อนยอดฮิตของไทยโบราณเลยทีเดียว คนไทยนิยมกินเมนูนี้กันมากในช่วงฤดูร้อน แตงโมที่นี่จะมีทั้งสีเหลือง และ แดง แล้วแต่ว่าแขกมาในช่วงที่ทางครัวเตรียมแตงโมสีอะไรเอาไว้ โดยที่ความแปลกคือ นอกจากแตงโมแล้ว เชฟรินยังเตรียมแก้วมังกรแกะสลักเป็นดอกบัวไว้ด้วย ซึ่งเชฟบอกกับทางเราว่าแก้วมังกรก็เอามากินกับปลาแห้งได้เช่นกันเพราะเป็นผลไม้เย็นเหมือนแตงโม ผักผลไม้เคียง ผักผลไม้สดมากมายหลากหลายชนิดที่ใช้กินคู่กับเครื่องเคียงและกับอื่นๆ สำหรับผักผลไม้สดในชุดข้าวแช่ของศิลาดลนั้นก็จะประกอบไปด้วยมะม่วง มะม่วงจะมีสองพันธุ์นั้นคือพัทธุ์แก้วขมิ้นและพันธุ์พระราชทาน…
อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งหนึ่งของ ชุดน้ำชายามบ่าย “ซากุระ” ชุดน้ำชาประจำฤดูใบไม้ผลิที่ถ่ายทอดความงดงามของดอกซากุระสีชมพูอ่อนหวาน เป็นขนมคาวหวานหลายชนิด ให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2561 (The Okura Prestige Bangkok, afternoon tea, sakura, จิบชา, ซากุระ) เชฟ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Chef Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวเบเกอร์รี่ (Executive Pastry Chef) บรรจงออกแบบขนมหวานอย่างพิถีพิถัน โดยเลือกใช้สีชมพูอ่อนหวานของดอกซากุระ ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าอันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ได้เป็นชุดน้ำชายามบ่าย “ซากุระ” ที่จัดวางอย่างงดงามในกล่องสีขาวดูเรียบหรู เพื่อให้บริการในช่วงดอกซากุระบานที่ประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ ขนมหวานชิ้นน่ารักน่ารับประทาน อาทิ คัสตาร์ดกลิ่นซากุระ แยมโรลรสยูซุกลิ่นดอกซากุระ เค้กราสเบอร์รี่ โมจิ มาการองพิมพ์ลายดอกซากุระและที่ขาดไม่ได้ สคอนอบสดใหม่แต่งหน้าด้วยดอกซากุระ นอกจากนั้น ในชุดยังมีของคาวให้บริการ อาทิ ทาร์ทาร์หอยเชลล์ย่างกับเห็ดใส่น้ำส้มสายชูบัลซามิก ปลาทูน่าตาตากิกับสลัดสาหร่ายวากาเมะโรยด้วยพริกไทยดำ แซนด์วิชขนมปังไรย์ไส้ปูอัดกับอะโวคาโดและอื่นๆอีกมากมาย ชุดน้ำชายามบ่าย “ซากุระ” มีให้บริการเป็นประจำทุกวันเวลา 14.00 น. – 17.00 น. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2561 เท่านั้น ราคาชุดละ 1,190++ บาท ราคารวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรับประทานชุดน้ำชายามบ่ายคู่กับ สปาร์คกลิ้งสาเก (250 มิลลิลิตร) หรือไวน์โพรเซคโค (2 แก้ว) ได้ในราคาชุดละ…
โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เชิญทุกท่านพบกับการมาเยือนของเชฟระดับมิชลินสตาร์ แพททริค เจฟฟรอย สุดยอดเชฟอาหารฝรั่งเศสจาก “L’Hôtel de Carantec Restaurant Patrick Jeffroy” ห้องอาหารหรูระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว เปิดประสบการณ์ด้านอาหารผ่านนานาเมนูสุดพิเศษจากเชฟ ซึ่งการันตีความสำเร็จด้วยรางวัล Three Gault Millau ‘toques’ รวมถึงการเป็นสมาชิกของ Grand Table of the World และชนะรางวัล The best sea book ในปี 2011 ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมจากทั่วทุกมุมโลกมายาวนานกว่า 45 ปี เชฟแพททริคพร้อมรังสรรค์มื้ออาหารกลางวันและมื้อค่ำอันน่าจดจำ ภายใต้บรรยากาศที่หรูหรา ณ ห้องอาหารโจโจ เพียง 6 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 24 มีนาคม 2561 ด้วยความหลงใหลในการปรุงอาหารผนวกกับความรักและผูกพันในแคว้นบริตทานีอันเป็นบ้านเกิดของเขา อาหารทุกจานของเชฟแพททริคจึงสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของท้องถิ่นรวมถึงดินแดนต่างๆที่เชฟได้เดินทางไปเยือน กว่า 30 ปีมาแล้วที่เชฟแพททริคได้ค้นพบ และสั่งสมประสบการณ์ด้านการปรุงอาหารจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการผสมผสานวัตถุดิบจากพื้นแผ่นดินและท้องทะเลเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างยอดเยี่ยม เขาได้รังสรรค์เมนูอาหารที่คงไว้ซึ่งอารยธรรมอาหาร บริตทานีอันยาวนาน และสอดแทรกประสบการ์ใหม่แห่งรสสัมผัสเมนูอาหารมาเสิร์ฟในจานเดียวกัน เช่นไส้กรอกหมูชื่อดังของบริตานี่ก็คือ Andouille de Guémené และ ปลากระบอก (red mullet) เชฟแพททริค เจฟฟรอย ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ครั้งแรกในปี 2527 ในฐานะเชฟของห้องอาหาร L’Europe ในเมือง Morlaix และด้วยความสามารถในการปรุงอาหารอันเปี่ยมไปด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ ทำให้ต่อมาเขามีโอกาสเปิดร้านอาหารของตัวเองที่ชื่อ Carantec ในปี 2544 ซึ่งเป็นที่ที่สร้างชื่อเสียงของเขาให้โด่งดังและเป็นรู้จัก ทุกคนต่างยอมรับในฝีมือการปรุงอาหาร จนทำให้เชฟแพททริคคว้ารางวัลมิชลินสตาร์ให้ตัวเองถึงสองปีติดต่อกัน เขาได้กล่าวถึงที่มาของการเป็นเชฟและทำในสิ่งที่เขารักนี้ว่า “ผมได้เก็บความทรงจำในวัยเด็กเกี่ยวกับแคว้นบริตทานีและการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในชนบทไว้อย่างมากมาย และนี่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมหลงใหลและเรียนรู้ศิลปะการปรุงอาหารด้วยการนำวัตถุดิบพื้นเมือง คุณภาพดี สดใหม่ มาปรุงอาหาร ซึ่งเมื่อผนวกเข้ากับสิ่งที่ได้พบเห็นเมื่อเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆแล้ว นั่นถือเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการปรุงอาหารของผม” สไตล์การปรุงอาหารของเชฟแพทริคนั้นสั่งสมจากประสบการณ์อันยาวนานและการเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบทางธรรมชาติอย่างชาญฉลาด เพื่อรังสรรค์อาหารในแบบเรียบง่ายพร้อมด้วยรสชาติอาหารที่เป็นธรรมชาติโดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของวัตถุดิบนั้นๆไว้ได้เป็นอย่างดี…
เชฟรับเชิญพิเศษ เฉิน เจียง หมิง จะมาแสดงฝีมือการปรุงอาหารเสฉวนรสชาติต้นตำรับในระหว่างวันที่ 19-28 มีนาคม 2561 ณ ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ในช่วงเวลา 10 วันดังกล่าว แขกจะได้ลิ้มรสอาหารเสฉวนที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นในเรื่อง รสชาติอันเข้มข้นและเผ็ดร้อน สร้างสรรค์โดยเชฟเฉิน เจียง หมิง ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ รอบรู้และประสบการณ์ในการทำอาหารเสฉวนอย่างช่ำชอง หนึ่งในอาหารจานเด่นที่แนะนำคือ ปลาต้มสไตล์เสฉวน ซึ่งให้รสสัมผัสของเนื้อปลาที่นุ่มชุ่มฉ่ำและหอมกลิ่นเครื่องเทศ จานเด่นอื่นๆที่เชฟคัดสรรมา เสิร์ฟที่แชงพาเลซ ได้แก่ ไก่ตุ๋นสไตล์เสฉวน เต้าหูผัดซอสเผ็ด ไก่กรอบผัดพริกแห้ง ผักกาดกรอบซอสงา ซี่โครงตุ๋นกับข้าวโพดหวานและแครอท และหมูเส้นกับซอสรสเด็ด เชฟเฉิน เจียง หมิง เข้ามาในแวดวงการทำอาหารเมื่ออายุ 14 ปี โดยเริ่มจากงานพื้นฐานในครัว เขาค้นพบพรสวรรค์ด้านอาหารของตนเองในขณะที่เรียนเรื่องอาหารเสฉวน เพื่อที่จะก้าวไปในสาขานี้ เชฟเฉินไม่เพียงมุ่งเน้นศึกษาด้านอาหารเสฉวนแต่ยังได้พัฒนาทักษะในอาหารจีนกวางตุ้ง ประสบการณ์ของเขายังมาจากการค้นคว้าวิธีการทำอาหาร และสร้างสรรค์รสชาติใหม่ๆด้วยการเรียนรู้จากอาหารแบบอื่นๆ เขาเคยได้รับรางวัลอินเตอร์เนชั่นแนลมาสเตอร์เชฟปี 2559 จากอินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล ควิซีน แอสโซซิเอชั่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารโทร. 0 2236 7777 หรือ 0 2236 9952 อีเมล [email protected] หรือจองโต๊ะออนไลน์ที่ https://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/dining/restaurants/shang-palace/book-a-table/. # # # KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น…
ตั้งแต่วันที่ 20 – 24 มีนาคม พ.ศ. 2561 นี้ เดอะ รีเฟล็กซ์ชั่นส์ ห้องอาหารฝรั่งเศสสไตล์โมเดิร์น โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล การันตีด้วยรางวัลล่าสุด “ห้องอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน (The Plate)” โดย หนังสือคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ ขอเชิญคนรักอาหารฝรั่งเศสทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารจากครัวฝรั่งเศสทางตอนใต้ที่ภูมิใจสร้างสรรค์โดย เชฟลูโดวิค ตูรัค (Ludovic Turac) เชฟหนุ่มสัญชาติฝรั่งเศสไฟแรงระดับหนึ่งดาวมิชลิน เชฟลูโดวิค รับหน้าที่เป็นเชฟประจำที่ ห้องอาหาร Une Table Aud Sud ในเมืองมาร์แซย์ (Marseille) เขาเป็นหนึ่งในเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลเชฟมิชลินสตาร์ ด้วยแนวคิดและปรัชญาการทำอาหารของเขา คือ “เปลี่ยนทุกสิ่งเพื่อให้ทุกสิ่งคงเดิม” (“Change everything so that nothing changes”). ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2013 เป็นวันที่เมืองมาร์แซย์ ได้กลายเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของชาวยุโรป ลูโดวิค และการีน (Karine) ภรรยาของเขาได้หน้าที่ผู้บริหารทีมของห้องอาหาร Une Table Au Sud ในขณะนั้นเชฟลูโดวิค เชฟหนุ่มวัย 27 ปี ได้เรียนรู้การทำธุรกิจห้องอาหารของเขาในหลากหลายห้องอาหารชั้นนำในกรุงปารีส อาทิ ห้องอาหาร Le Bristol และห้องอาหาร Guy Savoy นอกจากนี้เขายังได้ร่วมงานกับโรงแรม Hotel du Castelet และในช่วงเวลานั้น เขายังได้รับรางวัล “Top Chef” อีกด้วย ปัจจุบัน ลูโดวิค พร้อมด้วย การีน ภรรยาของเขาผู้ที่รับตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการโครงการซอมเมอลิเย่ร์และห้องอาหาร ได้ทำให้ห้องอาหาร Une Table…
กลุ่มโรงแรมอนันตราประกาศจัดงานการแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 16 ในวันที่ 8 – 11 มีนาคม 2561 กลุ่มโรงแรมอนันตรา ประกาศกำหนดการจัด การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 16 ในวันที่ 8 – 11 มีนาคม 2561 ณ สนามโปโลชั่วคราวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับโรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ โดยในระหว่าง 4 วันของการจัดงาน ผู้เข้าเยี่ยมชมงานจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย อาทิ เกมการแข่งขันโปโลช้าง ขบวนพาเหรดช้าง กิจกรรมวันช้างน้อยสำหรับเด็ก และ Ladies’ Day สำหรับคุณสุภาพสตรี กิจกรรมความรู้เกี่ยวกับช้างไทย ซุ้มอาหารจากร้านดัง พร้อมการแสดงดนตรีและความบันเทิงอีกมากมาย การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาเพื่อการกุศลรายการใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถระดมทุนจากการจัดงานตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งที่ผ่านมาได้กว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปใช้สนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของช้างป่าและช้างบ้านในประเทศไทย รายได้จากการจัดงานในปี 2561 นี้ จะนำไปสนับสนุนโครงการของ องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการสนับสนุนสัตวแพทย์และการศึกษาเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของช้างและควาญช้างในจังหวัดสุรินทร์ รายได้จากการจัดงานในปีที่ผ่านๆ มา ได้นำไปใช้ในการสนับสนุนโครงการต่างๆ มากมาย ทั้งการจัดอบรมควาญช้างและสัตวแพทย์ในเรื่องการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของช้าง การสร้างหอคอยดูช้างเพื่อเตือนภัยสำหรับหมู่บ้านที่ประสบปัญหาช้างป่าบุกเข้าทำลายพืชผลเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้าง สนับสนุนทริปเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเพื่อการเรียนรู้เชิงอนุรักษ์สำหรับเด็กนักเรียน การอบรมควาญช้างเพื่อให้เข้าใจความสำคัญของช้างป่า สนับสนุนสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมประชุมทางวิชาการในต่างประเทศ สนับสนุนรัฐบาลไทยในการอบรมควาญช้างให้มีทักษะเบื้องต้นในการปฐมพยาบาลช้างและสามารถให้การ ช่วยเหลือสัตวแพทย์ โครงการเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างกับคนทั้งในประเทศไทยและในประเทศแทนซาเนีย รวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อต่อต้านการรุกล้ำผืนป่าสำหรับผู้ดูแลอุทยานแห่งชาติในกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการช้างไทยบำบัดเด็กออทิสติก ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553 การอบรมการฝึกช้างบ้านโดยวิธีเชิงบวก (Positive Reinforcement Target Training) ครั้งแรกของเอเชียในประเทศไทย ซึ่งในปี 2560 ได้ขยายการอบรมไปยังเมียนมาร์ซึ่งมีช้างบ้านกว่า 200 เชือก สมทบทุนในการจัดทำขาเทียมสำหรับช้างให้กับศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และการปลูกต้นไม้กว่า 4,000 ต้นเพื่อสร้างแนวรั้วธรรมชาติที่ช่วยลดทอนความขัดแย้งระหว่างช้างกับเกษตรกรในอำเภอหัวหิน สำหรับการแข่งขันในปีนี้ จะมีช้างที่เคยเร่ร่อนตามท้องถนนเข้าร่วมงานจำนวน…
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ห้างเซ็นทรัล จัดงาน “กาดดอยตุง ที่เซ็นทรัลชิดลม” ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม วันนี้ ถึง 4 มี.ค. 61 เวลา 10.00-22.00 น. ภายใต้แนวคิด ส่งประสบการณ์จากดอยตุงสู่คนกรุงเทพฯ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้คนเมืองกรุงฯ มีโอกาสใกล้ชิดดอยตุงได้ง่ายขึ้น โดยมีการจำลอง “กาดดอยตุง” จากงาน “สีสันแห่งดอยตุง” ที่ จังหวัดเชียงราย มาให้คนเมืองได้เห็น ได้สัมผัสบรรยากาศตลาดสไตล์ดอยตุง ซึ่งมีการนำสินค้าและบริการจากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย มาออกร้านและจัดจำหน่าย หนึ่งในสิ่งไฮไลท์ที่เราต้องแนะนำ ไอศกรีม นั้นก็คือ อาทิ กาแฟดอยตุง แมคคาเดเมีย คุกกี้แมคคาเดเมีย พิเศษ! คุ๊กกี้โฮมเมด ครีมมี่ นำมาจำหน่ายเฉพาะงานนี้เท่านั้น งานหัตถกรรม ผ้าพันคอ เสื้อผ้า ปลอกหมอน พรม งานเซรามิก ของตกแต่งบ้านคุณภาพพรีเมี่ยม ชมนิทรรศการน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายในนิทรรศการดังกล่าวมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้เชิญพระบรมฉายาลักษณ์และพระฉายาลักษณ์ทั้งสองพระองค์มาจัดแสดง โดยหลายองค์ไม่เคยเชิญไปจัดแสดงที่ใดมาก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรักความผูกพัน พร้อมถ่ายทอดพระราชจริยวัตรในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ดอยตุง ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้คนในพื้นที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้มั่นคง และอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน ลิ้มรสเมนูอาหารพื้นเมืองทางเหนือขึ้นชื่อจากครัวตำหนัก อาทิ แกงฮังเลหมูสามชั้นเนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ยำภูแลเห็ดอ้อนดอย ที่หารับประทานได้ยาก ข้าวซอยไก่รสเข้มข้น ไส้อั่ว และสี่นำ้พริกขึ้นชื่อทั้งน้ำพริงปาลาซองที่กินง่ายไม่เผ็ด เด็กๆน่าจะชอบ น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่มสูตรเฉพาะจากครัวตำหนัก สินค้าเกษตร กล้วยไม้รองเท้านารี กล้วยไม้ฟาแลน ไม้ดอกไม้ประดับ ผักสดและผักสวนครัวสมุนไพรต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีเวิร์กช็อปงานฝีมือ (Hands of Doi Tung) ตกแต่งกระดาษสาด้วยการปักด้ายสีและดอกไม้แห้งจากสวนแม่ฟ้าหลวง งานเพ้นท์กระเป๋าผ้าลายชนเผ่า พร้อมพบกับ ป้าเครือ-เครือวัลย์ กาบุญก้ำ เชฟประจำ “ครัวตำหนัก” ที่จะมาแนะนำเคล็ดลับการยำภูแล หรือ เห็ดอ้อนดอย เมนูยอดฮิตของ…
ช่วงนี้อะไรจะดีไปกว่า สุดยอดรสชาติจากเมนูเนื้อ Dry Aged ณ ห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ซึ่งเริ่มขายมาตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป Kinlakestars.com ขอพาทุกท่านไปพบกับ สุดยอดรสชาติระดับพรีเมี่ยมจากเมนูเนื้อดรายเอจ (Dry Aged) จากโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ณ ห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ เนื้อดรายเอจ หรือ Dry Aged Beef คืออะไร ??? เนื้อดรายเอจ หรือ Dry Aged Beef คือกระบวนการบ่มเนื้อ โดยการนำชิ้นเนื้อไปแช่ไว้ในห้องเย็นที่มีการควบคุมทั้งความชื้น ความสะอาด และอุณภูมิที่ระหว่าง 1-3 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 4 – 7 สัปดาห์ เพื่อให้เอนไซม์ในเนื้อสัตว์ช่วยย่อยโปรตีนในเนื้อ ทำให้เนื้อมีความนุ่มและมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น โดยเชฟนิโค เมทเทิน (Nico Merten) หัวหน้าพ่อครัวเมดิสัน ได้ลงมือทำการดรายเอจอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ซึ่งอีกความพิเศษคือเนื้อที่นำมาใช้ในครั้งนี้เป็นเนื้อจากยุโรปมาใช้ด้วย ซึ่งอาจจะต่างออกไปจากหลายๆที่ ที่มีการนำเนื้อจากอเมริกา ออสเตรเลีย หรือญี่ปุ่น ซึ่งยุโรปเองเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลาย ประกอบไปด้วยหลากหลายประเทศที่มีวัฒนธรรมและการเลี้ยงที่ต่างกันออกไป ทำให้ได้เนื้อที่หลากหลายรูปแบบ ก่อนจะเข้าสู่สารพัดเมนูดรายเอจก็มาเริ่มต้นกันด้วยขนมปังเนื้อนุ่มแสนอร่อยเลิศ และเมนูเนื้อดรายเอจที่เชฟนิโคภูมิใจนำเสนอ คือ สลัดเนื้อดิบชาโรเลส์ดรายเอจ กับตับห่าน และไข่ปลาคาร์เวีย (Charolais Dry Aged Beef Tartar, Foie Gras, Caviar) ซึ่งทำจากเนื้อวัวสายพันธุ์ชาโรเลส์ จากฝรั่งเศสที่ผ่านการดรายเอจเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นของเนื้อ เนื้อหวานฉ่ำ นุ่ม และเพิ่มรสสัมผัสแบบฝรั่งเศสด้วยไข่ปลาคาร์เวีย ที่ให้รสมันเค็ม สวยเงางามเป็นประกาย รสที่ส่งเสริมกันนั้นเข้ากันมากเปรียบได้กับดั่งแหวนทองคำขาวเสริมความงามด้วยอัญมณีเม็ดงามเล็กๆ เกี๊ยวไส้เนื้อออสเตรเลียดรายเอจในซุปใส (Dry Aged Beef Ravioli Consommé) เกี๊ยวไส้เนื้อออสเตรเลียดรายเอจเสิร์ฟกับซุปรสชาติกลมกล่อมจากเนื้อวัวออสเตรเลียที่ใช้เวลาเคี่ยว 24 ชั่วโมงจนได้ซุปใสรสชาติชั้นเลิศ มีความหอมและกลมกล่อมจากตัวเห็ดชิเมจิ แป้งเกี้ยวโฮมเมดทำเอง เหนียวนุ่ม เจ้าตัวซุปนั้นมีรสที่ดีมาก ความอูมามิที่ได้ลิ้มรสไปจะทำให้คุณติดใจจนแทบต้องยกซด ตักกินจนถึงหยดสุดท้ายเลยทีเดียว เนื้อสันนอกดรายเอจ…