โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกคู่รักเติมเต็มความรักและความอบอุ่น พร้อมแต่งแต้มวันแห่งความสุขกับคนพิเศษด้วยอาหารจานอร่อยหลากสไตล์ในช่วงวันวาเลนไทน์กับ 2 ห้องอาหารสุดหรู ที่จะอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติกทั้ง สไตล์เฟรนช์บิสโทร ณ ห้องอาหารบลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง และ สไตล์อิตาเลี่ยนต้นตำรับ ณ ห้องอาหาร ดอน จิโอวานนี ที่พร้อมจะทำให้คุณและคนที่คุณรักประทับใจไม่รู้ลืม ห้องอาหารบลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง ห้องอาหารวิวระฟ้าบลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง เชิญคุณฉลองค่ำคืนสุดแสนโรแมนติกบนรูฟท็อปชั้น 24 ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่โอบล้อมไปด้วยแสงจันทร์และดวงดาว พร้อมอิ่มอร่อยกับดินเนอร์สุดหรู 4 คอร์สที่รังสรรค์ขึ้นโดย เชฟคริสเตียน เวอเด็นเบิร์ก เฉพาะวันที่ 10 – 17 กุมภาพันธ์ 2561 นี้เท่านั้น ในราคา 4,900++บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมรับอภินันทนาการสปาร์คกลิ้งไวน์ ท่านละ 1 แก้ว ห้องอาหารวิวระฟ้าบลูสกายบาร์แอนด์ไดนิ่ง : ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เปิดบริการเฉพาะมื้อค่ำทุกวันจันทร์ – อาทิตย์: เวลา 18:00 – 22:30 น. ######################## ห้องอาหาร ดอน จิโอวานนี ห้องอาหารอิตาเลี่ยน ดอน จิโอวานนี ร่วมสร้างความประทับในเทศกาลรักแสนหวานให้ท่านดื่มด่ำกับค่ำคืนสุดพิเศษ พร้อมอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนรสเลิศ 5 คอร์ส ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก โดยเชฟสเตฟาโน ซานีเนลลิ หัวหน้าเชฟชาวอิตาลี ซึ่งบรรจงรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความรักความใส่ใจ เฉพาะวันที่ 12 – 17 กุมภาพันธ์ 2561 นี้เท่านั้น ในราคา 4,999++บาท สำหรับ 2 ท่าน…
Author: Kittin Assavavichai
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกคู่รักเติมเต็มความรักและความอบอุ่น พร้อมแต่งแต้มวันแห่งความสุขกับคนพิเศษด้วยอาหารจานอร่อยหลากสไตล์ในช่วงวันวาเลนไทน์กับ 2 ห้องอาหารสุดหรู ที่จะอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติกทั้ง สไตล์เฟรนช์บิสโทร ณ ห้องอาหารบลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง และ สไตล์อิตาเลี่ยนต้นตำรับ ณ ห้องอาหาร ดอน จิโอวานนี ที่พร้อมจะทำให้คุณและคนที่คุณรักประทับใจไม่รู้ลืม ห้องอาหารบลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง ห้องอาหารวิวระฟ้าบลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง เชิญคุณฉลองค่ำคืนสุดแสนโรแมนติกบนรูฟท็อปชั้น 24 ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่โอบล้อมไปด้วยแสงจันทร์และดวงดาว พร้อมอิ่มอร่อยกับดินเนอร์สุดหรู 4 คอร์สที่รังสรรค์ขึ้นโดย เชฟคริสเตียน เวอเด็นเบิร์ก เฉพาะวันที่ 10 – 17 กุมภาพันธ์ 2561 นี้เท่านั้น ในราคา 4,900++บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมรับอภินันทนาการสปาร์คกลิ้งไวน์ ท่านละ 1 แก้ว ห้องอาหารวิวระฟ้าบลูสกายบาร์แอนด์ไดนิ่ง : ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เปิดบริการเฉพาะมื้อค่ำทุกวันจันทร์ – อาทิตย์: เวลา 18:00 – 22:30 น. ######################## ห้องอาหาร ดอน จิโอวานนี ห้องอาหารอิตาเลี่ยน ดอน จิโอวานนี ร่วมสร้างความประทับในเทศกาลรักแสนหวานให้ท่านดื่มด่ำกับค่ำคืนสุดพิเศษ พร้อมอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนรสเลิศ 5 คอร์ส ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก โดยเชฟสเตฟาโน ซานีเนลลิ หัวหน้าเชฟชาวอิตาลี ซึ่งบรรจงรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความรักความใส่ใจ เฉพาะวันที่ 12 – 17 กุมภาพันธ์ 2561 นี้เท่านั้น ในราคา 4,999++บาท สำหรับ 2 ท่าน…
Valentine นี้ไปฉลองไหนดี เรารวมให้ไว้แล้วทั้ง ไทย จีน ฝรั่งเศส อิตาเลียน บุฟเฟ่ต์ เบอเกอร์ ริมน้ำยันยอดตึก มีอะไรไปดูกันเลย !!!! 1. ฉลองวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ กับมื้อหรูแสนโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ คู่รักสามารถเติมสีสันให้กับคืนวาเลนไทน์ที่แสนโรแมนติก ด้วยอาหารมื้อพิเศษที่สร้างสรรค์เพื่อฉลองวันแห่งความรัก วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เน็กซ์ทู คาเฟ่: พาคนรักมาฉลองด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ประกอบด้วยเนื้อคุณภาพนำเข้าจากต่างประเทศและอาหารทะเลแสนอร่อย พร้อมชมการแสดงดนตรีสดและขนมหวานหลากหลายในธีมแห่งความรัก หากแขกเลือกฉลองมื้อค่ำภายในห้องอาหารจะได้รับเค้กมาการองสีชมพูหวานกลับไปรับประทานที่บ้าน โต๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยา ราคาท่านละ 3,500 บาทถ้วน โต๊ะปกติ ราคาท่านละ 2,988 บาทถ้วน ศาลาทิพย์: คู่รักสามารถเฉลิมฉลองค่ำคืนอันน่าจดจำด้วยอาหารชุดไทย 5 คอร์ส ภายใต้ซุ้มสีขาวสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยาหรือภายในศาลาเรือนไทย โวลติ: อิงแอบกับคนรู้ใจและเอร็ดอร่อยกับอาหารชุดอิตาเลียนเมนูพิเศษในคืนวันวาเลนไทน์ ฟังเพลงรักโรแมนติกจากมิสลิลลี่เบธ นักร้องสาวที่ขับร้องเพลงหวานซึ้งด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง เรือฮอไรซัน: ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาในค่ำคืนที่บรรยากาศโรแมนติกกว่าคืนไหนๆสำหรับคู่รัก ลิ้มรสบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติมื้อหรูและเพลิดเพลินกับดนตรีแสนหวานแนวอะคูสติกบรรเลงสด ราคาทุกแพคเกจท่านละ 3,500 บาทถ้วน แขกที่มาเฉลิมฉลองมื้อค่ำในคืนวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ที่เน็กซ์ทู คาเฟ่ ศาลาทิพย์ โวลติและเรือฮฮไรซัน จะได้รับไวน์สปาร์คกลิ้ง 1 แก้วฟรี ขณะที่สุภาพสตรีทุกท่านจะได้รับดอกกุหลาบ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองโต๊ะได้ที่ แผนกสำรองที่นั่งห้องอาหาร โทร. 0 2236 9952 หรือ 0 2236 7777 หรืออีเมล [email protected] หรือ จองโต๊ะออนไลน์ที่ https://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/dining/restaurants/shang-palace/book-a-table/ 2. ร่วมฉลองวันแห่งความรักแด่กามเทพน้อยด้วยอาหารมื้อพิเศษ กับคนพิเศษ ตามสไตล์พิเศษของคุณ ที่โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เมื่อ cherub การจับคู่อ้วนที่บิดลูกศรของเขาเข้าสู่หัวใจที่สุกในการประกาศความรักนิรันดร์หรือความรักใหม่ระหว่างคู่รักที่หายไปนาน ๆ แล้วการตั้งค่าที่หรูหราและสวยงามที่สุดจะทำได้ โรงแรมบันยันทรีกรุงเทพฯมีโต๊ะที่น่าลิ้มลองในเมืองสำหรับการฉลองวันวาเลนไทน์ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความโรแมนติคที่สวยงาม จากการรับประทานอาหารรสเลิศภายใต้ดวงดาวและวิวท้องฟ้าอันตระการตาของเมืองไปจนถึงการล่องเรือในยามค่ำคืนริมแม่น้ำที่มีแม่น้ำอันยิ่งใหญ่คู่รักจะได้รับแชมเปญไวน์หรือ “ค๊อกเทลรัก” ฟรี 1 แก้ว stemmed เพิ่มขึ้น…
เปิดตัว ‘ดับเบิ้ลยู ดาส ซัปเปอร์’ บุฟเฟ่ต์เกรดพรีเมี่ยมมื้อเย็นวันเสาร์ พร้อมโปรโมชั่นดีๆ กับส่วนลด 40% เมื่อรับประทาน 4 ท่านขึ้นไป สำหรับวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561 ที่ห้องอาหารเดอะคิทเช่นเทเบิ้ล โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ เริ่มอุ่นเครื่องด้วยชีสและโคลด์คัทต่างๆ ต่อกันด้วยโซนเนื้อสัตว์ย่างและซีฟู้ดเผา ขาดไม่ได้กับสเตชั่นอาหารทะเลสดๆ เช่น หอยนางรม ขาปูอลาสก้า และกุ้งใหญ่ พร้อมเครื่องเคียงและสลัดหลากหลายเมนู นอกจากนี้ยังมีปลาดิบเกรดพรีเมี่ยม และซูชิ พิซซ่า วาฟเฟิลกับไก่ทอด ติ่มซำ และอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมอีกมากมาย และขนมหวานแบบจัดเต็ม ที่รับรองว่าคุณจะต้องติดใจ ดับเบิ้ลยู ดาส ซัปเปอร์ แตกต่างแบบมีเอกลักษณ์ ด้วยสเตชั่นเครื่องดื่มมากมาย และบีทส์จังหวะสนุกๆจากดีเจ ที่จะมาสร้างบรรยากาศให้คุณเสมือนคุณมีปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อนหรือครอบครัวก็ว่าได้ บุฟเฟ่ต์ ดับเบิ้ลยู ดาส ซัปเปอร์ มี 2 แพ็กเกจให้เลือก ได้แก่ แพ็กเกจ จัส ฟอร์ ฟู๊ด (Just for food) สำหรับอาหาร และเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้ง น้ำผลไม้ ชา และกาแฟแบบไม่อั้น ราคาปกติ 2,942.50 บาทสุทธิ เหลือเพียง 1,872.50 บาทสุทธิ แพ็กเกจ ดิ เอ็กซ์พีเรียนส์ (The Experience) สำหรับอาหาร และเครื่องดื่มค็อกเทล ไวน์ เบียร์ และสปาร์คคลิ่งไวน์แบบไม่อั้น ราคาปกติ 4,237 บาทสุทธิ เหลือเพียง 2,671 บาทสุทธิ *หมายเหตุ: ส่วนลด 40% สำหรับการจองตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป ดับเบิ้ลยู ดาส ซัปเปอร์ มีทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน ตั้งแต่เวลา 18.30 – 22.00…
พบกับความอร่อยของเมนูอาหาร คัดสรรวัตถุดิบจากมหาสมุทรและดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 22 ถึง 27 มกราคม 2561 ณ ห้องอาหารโจโจ Kinlakestars.com ขอพาทุกท่านไปพบกับประสบการณ์แห่งความอร่อยของเมนูอาหารโดยเชฟมิชลินสตาร์อย่างต่อเนื่อง พบกับเชฟเอ็ดวิน วิงเกอ (Edwin Vinke) จาก De Kromme Watergang ห้องอาหารหรูระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ของ Slijkplaat ในภูมิภาค Zeeland อันงดงามทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เชฟเอ็ดวินพร้อมรังสรรค์มื้ออาหารกลางวันและมื้อค่ำอันน่าจดจำ ภายใต้บรรยากาศที่หรูหราในสไตล์ห้องอาหารโจโจ ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 27 มกราคม 2561 เอ็ดวิน เชฟผู้ประสบความสำเร็จ และเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้ค้นพบและรู้จักหมู่บ้านเล็กๆที่ห่างไกลและมีโอกาสลิ้มลองอาหารของเขา การมาเยือนเมืองไทยในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เชฟเอ็ดวินได้แสดงฝีมือการทำอาหารและมุมมองการนำเสนอของเขากับนักชิมอาหารในกรุงเทพฯ ภายใต้คำจำกัดความของเขาคือ “ความสุข ความหลงใหล และความสมบูรณ์แบบ” และสโลแกนที่ว่า ปล่อยให้หัวใจของคุณบอก สมองและมือของคุณทำงาน ยิ่งกว่านั้นคือการใส่ทุกความรู้สึกของคุณ จงเปิดประสาทสัมผัสรับกลิ่นและรสชาติใหม่ๆ ” เชฟเอ็ดวินกล่าว จุดเด่นของอาหารของเขาอยู่บนพื้นฐานของรสชาติอันอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทรและดินแดนแห่งเนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารของเขาและได้แรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์อันน่าทึ่งของภูมิภาค Zeeland อันเป็นแหล่งทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มีคุณค่าด้านนิเวศวิทยาและแหล่งอาหารทะเล เขาและทีมพ่อครัวของเขาเน้นค้นหาวัตถุดิบที่สดใหม่และเป็นมิตรกับโลกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงการคัดสรรผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่ใช้เวลาขนส่งสู่ห้องครัวของเขาอย่างรวดเร็วที่สุด ส่วนวัตถุดิบทางทะเลและเกลือปรุงอาหารมาจากแหล่งน้ำสมบูรณ์ใกล้ๆ ผัก ผลไม้และสมุนไพรต่างๆมาจากสวนที่อยู่ใกล้กับร้านอาหารของเขา เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้มากที่สุดจนถึงเวลาเสิร์ฟ เชฟเอ็ดวิน นำเสนอเมนูอาหาร 6 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน และ 8 คอร์สเมนูมื้อค่ำสำหรับนักชิม เสิร์ฟควบคู่กับไวน์ที่คัดสรรโดยซอมเมอลิเยร์ในแต่ละมื้อโดยเฉพาะ ด้วยความท้าทายและความคิดสร้างสรรค์ของเชฟเอ็ดวินเขาจึงเลือกผลิตผลที่ดีที่สุดและสดใหม่ที่สุดเพื่อให้ได้อรรถรสอันโดดเด่นสำหรับนักชิมชาวไทยในครั้งนี้ Edwin Vinke January 22 27, 2018 มาเริ่มต้นด้วย Amuses กันเลย ซึ่งก็มีหลายชิ้นพอสมควร Mojito ginger shot อันนี้ต้องดื่มทั้งชอต รสเปรี้ยวนิดๆ หอมขิง สดชื่น กระปรี้กระเปร่าดีมาก เหมาะแก่การเริ่มมื้ออาหารเป็นอย่างดี Linseed & tapioca crisps with pickles dip ตามต่อกันมาด้วย…
แจก !!! บัตรรางวัลกินดื่มเที่ยวสุดหรูอย่างมีระดับกว่า 50,000 บาท เพียง LIKE FB : กินแหลกแจกดาว – KinlakeStars.com อ่านคำถามในโพสนี้ของรางวัลที่อยากได้ ADD Line@ Kinlakestars >>> https://line.me/R/ti/p/%40ccv2339h และส่งคำตอบไปยัง line นี้ SHARE โพสนี้และตอบคำถามลงใน facebook แบบ สาธารณะพร้อม tag คนที่อยากไปด้วย *ติดดาว/See First เพื่อไม่พลาดรางวัลและบทความดีๆ 1 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/anantara-siam-sunday-brunch-review716/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 2 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/longest-sunday-brunch-siam-kempinski-review/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 3 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/sunday-brunch-buffet-up-above-okura-prestige-review/#prettyPhoto แล้วมาบอกกันเลย !!! 4 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/loong-foong_หล่งฟ่ง-review/แล้วมาบอกกันเลย !!! 5 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/hamilton-review-lunch-set/แล้วมาบอกกันเลย !!! 6 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/suan-bua-centara-grand-ladprao-review/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 7 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/feast-sheratons-sunday-brunch-buffet-review/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 8 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/review-vertigo-moonbar/แล้วมาบอกกันเลย !!! 9 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/the-square-novotel-siam-buffet-seafood-review/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 10 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/tsubohachi-review/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 11 อยากกินอะไรในนี้ที่สุด ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/dean-and-deluca-review-valentine/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 12 ดีวาน่ามีอะไรดี ค้นหาคำตอบใน http://www.kinlakestars.com/divana-nurture-royal-silk-review-spa/ แล้วมาบอกกันเลย !!! 14 KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ…
หลังจากกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องถึง 4 ปีกับ ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ (W Does Brunch) บรั้นช์บุฟเฟ่ต์ที่ฉีกกฎและกล้าที่จะแตกต่างจากบุฟเฟ่ต์อื่นๆ ปีนี้ เดอะคิทเช่นเทเบิ้ล (The Kitchen Table) ห้องอาหารซิกเนเจอร์ของ โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) นำดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ มาแปลงโฉมให้แตกต่าง และไม่เหมือนใครยิ่งขึ้นไปอีก พร้อมเอาใจนักชิมด้วยอาหารในคอนเซปต์สตรีทฟู้ดที่ไม่ว่าใครก็จะต้องติดใจ เดอะคิทเช่นเทเบิ้ล รวบรวมอาหารรสชาติดั้งเดิมทั่วทวีปเอเชียมาให้คุณได้ลิ้มลองใน ‘ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ – สตรีทฟู้ด (W Does Brunch – Street Food)’ ทุกวันเสาร์ที่สามของเดือน ผลัดเปลี่ยนแนวอาหารทุกๆ 3 เดือน ให้คุณเสมือนท่องไปตามสตรีทฟู้ดโลเคชั่นจากทั่วทุกมุมโลก ยังคงจัดเต็มด้วยอาหารหลากหลายเมนู ปรุงจากวัตถุดิบเกรด พรีเมี่ยม และเครื่องดื่มนานาชนิดจากมิกส์โซโลจิสต์ เมื่อพูดถึงประเทศไทย คงขาดไม่ได้กับอาหารหลากหลายที่ตั้งขายตามท้องถนนที่ไม่ว่าคนไทย หรือชาวต่างชาติต่างชื่นชอบ สำหรับเดือนมกราคม – มีนาคมนี้ ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ – สตรีทฟู้ด นำอาหารสตรีทฟู้ดของกรุงเทพฯ มาปรุงแต่งด้วยวัตถุเกรดพรีเมี่ยม เพิ่มความพิเศษไปในความอร่อยดั้งเดิม สเตชั่นอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากย่านสตรีทฟู้ดชื่อดังต่างๆของกรุงเทพฯ เริ่มต้นด้วย สเตชั่นเยาวราช ที่มีก๋วยจั๊บรสเด็ด, ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา และติ่มซำนานาชนิด ต่อด้วย สเตชั่นเจริญกรุง และบางรัก กับเมนูข้าวขาหมู, ข้าวหน้าเป็ด และข้าวมันไก่ สเตชั่นราชเทวี ห้ามพลาดเมนูส้มตำ และเมนูยำรสจัดจ้าน รวมถึงหมูย่าง และไก่ย่าง ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว และสเตชั่นพระนคร กับผัดไทย, ราดหน้า, แกงเขียวหวาน และมัสมั่น ที่รสชาติถึงเครื่องแกง ตำรับอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม ปิดท้ายด้วย เมนูขนมไทยนานาชนิด เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง, สาคูน้ำกระทิ และอื่นๆอีกมากมาย ‘ดับเบิ้ลยู ดาส บรั้นช์ – สตรีทฟู้ด’ มีให้เลือก 2…
การจิบชาที่ The House on Sathorn แห่ง W Bangkok ย่าน สาทร เป็น หนึ่งใน afternoon tea ที่ขึ้นชื่อ และที่ๆผู้คนไปสั่ง ชิม สัมผัสประสบการณ์เพื่อการถ่ายรูปที่แสนเก๋ไก๋ ชิคสุดๆแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และในคอลัมน์นี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับรีวิว ชุดชา ณ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร ชุดใหม่ล่าสุด ซึ่งจะชวนคุณหลีกหนีจากเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่งและมาผ่อนคลายไปกับชุดน้ำชายามบ่ายเมนูใหม่ล่าสุด จากเดอะคอร์ทยาร์ด เดอะเฮ้าส์ออนสาทร (The House on Sathorn) อาคารสไตล์โคโลเนียลสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2432 ที่ตั้งสง่าโดดเด่นให้เห็นความแตกต่างระหว่างความเก่าแก่และอิทธิพลของโลกปัจจุบันของอาคารโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) ได้เป็นสถานที่แฮงค์เอ้าท์ของกรุงเทพมหานคร ที่เป็นศูนย์รวมความบันเทิงให้กับเหล่าเทรนด์เซ็ทเตอร์ เดอะคอร์ทยาร์ด (The Courtyard) อีกหนึ่งที่โปรดของใครหลายๆคน สวนสวยกลางบ้านที่สามารถให้คุณนั่งพักผ่อนและหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองกรุงเทพมหานครได้ตลอดวัน พร้อมอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดที่ทานง่ายหลากหลายเมนู และชุดน้ำชายามบ่ายให้คุณเลือกสรร ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดอะคอร์ทยาร์ด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการนั่งผ่อนคลายและจิบชายามบ่ายไปพร้อมๆกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นใจกลางเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่งของกรุงเทพมหานคร ครั้งนี้ เชฟฟาทีห์ ทูทัค และทีม ได้หยิบยกเรื่องราวของเดอะเฮ้าส์ออนสาทรที่มีประวัติมายาวนานมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายเซ็ทใหม่ในชื่อ ‘เฮอร์ริเทจ อาฟเตอร์นูนที (Heritage Afternoon Tea)’ ย้อนเวลากลับไปในอดีต และดึงเอาเมนูสุดคลาสสิคสำหรับการจิบน้ำชายามบ่าย มาเป็นอาหารคาว-หวานสำหรับชุดน้ำชายามบ่าย โดยเลือกใช้วัตุดิบเกรดพรีเมี่ยม นำเสนอออกมาในรูปแบบเฉพาะตัว ให้คุณลิ้มลองไปพร้อมชาเกรดพรีเมี่ยมจาก TWG HERITAGE AFTERNOON TEA ในชุดนี้ประกอบไปด้วย เริ่มต้นชุดกันด้วย ซอร์เบทโฮมเม้ดประจำวัน – รสเบอร์รี่รวม มาต่อกันที่ส่วนของสโคน สโคน (Scone) เนื้อนุ่มไม่ร่วนเละกินเป็นสิ่งแรกในขณะยังอุ่นๆกำลังดี กินควบคู่ไปกับ มาร์มาเลด (Marmalade) – แยมชนิดต่างๆ ได้แก่ แยมมะพร้าว แยมเบอร์รี่รวม และแยมมะม่วง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็น Homemade ทางห้องอาหารสร้างสรรค์บรรจงทำกันขึ้นมาเองจากครัว ทางเราแนะนำตัวแยมมะพร้าว ซึ่งหอมหวานมะพร้าวไม่เหมือนใคร และเข้ากันได้ดีทีเดียว นอกจากแยมก็ยังมี คล็อทเท็ดครีม (Clotted Cream) ให้เลือกป้ายเติมเพิ่มความอร่อย ส่วนของขนมคาว…
ในครั้งนี้ kinlakestars.com ขอพาทุกท่านไปลิ้มรสหนึ่งในสุดยอดเมนูยอดฮิต ณ ยามาซาโตะ นั่นก็คือ ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น うな重(香の物 野菜椀) (Unajyu : Rice bowl with grilled eel served with pickles and vegetables soup) และล่าสุดห้องอาหารยามาซาโตะ (Yamazato) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ หรือ MICHELIN Guide Bangkok สำหรับปลาไหลญี่ปุ่นนั้นเป็นสิ่งที่คนไทยเองก็คุ้ยเคยกันมากมาย แต่ทุกท่านรู้หรือไม่ว่าปลาไหลญี่ปุ่นมีอยู่ 2 ชนิดหลักๆ นั่นก็คือ อุนางิ (Unagi うなぎ) กับ อะนาโกะ (Anago アナゴ) อุ นางิเป็นปลาไหลน้ำจืดนิยมทำเป็นข้าวหน้าปลาไหล ส่วนอะนาโกะเป็นปลาไหลทะเลนิยมนำมาทำเป็นหน้าซูชิหรือเท็มปุระ นั้นเอง และทำไมปลาไหลญี่ปุ่นจึงมีมูลค่าสูงล่ะ? ปลาไหลย่าง อาหารเลิศรสของญี่ปุ่นที่ปรุงด้วยซอสเปรี้ยว และโรยด้วยพริกไทย ได้กลายเป็นคำถามว่า ขณะนี้สัตว์น้ำอย่างปลาไหลที่อพยพเข้ามาในน่านน้ำของแดนอาทิตย์อุทัยกำลังมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์อย่างมาก เนื่องจากความต้องการบริโภคปลาไหลญี่ปุ่น หรือชื่อในทางวิทยาศาสตร์ว่า Anguilla japonica เพิ่มมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาเจ้าปลาชนิดนี้มีราคาที่สูงขึ้น แม้ปลาไหลญี่ปุ่นได้ถูกขึ้นบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่ปี 2557 แต่นายคัตสึมิ สึคาโมโตะหรือดร. ปลาไหลแห่งมหาวิทยาลัยนิฮอนในญี่ปุ่น บอกว่า เขาคิดว่าสามารถเพาะเลี้ยงปลาไหลที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “อุนะงิ” ได้อย่างยั่งยืนและได้ผลประโยชน์ หลังจากที่เขาพบบริเวณที่วางไข่ของปลาไหล และช่วยให้นักวิจัยได้ศึกษาสภาวะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเพาะเลี้ยงปลาไหล ตั้งแต่วางไข่ไปจนถึงปลาไหลโตเต็มวัย แม้การเพาะปลาไหลในปัจจุบันจะทำกันมากมาย แต่ราคาก็ยังคงสูงอยู่ดี และราคาของปลาไหลญี่ปุ่นแต่ละที่เองนั้นก็ราคาไม่เท่ากันด้วย แล้วแต่แหล่งเลี้ยง เพราะมีผลต่อรสชาติและสัมผัสของเนื้อ และในครั้งนี้เราจาพาไปพบกับชุดข้าวหน้าปลาไหลเลิศรสสุดๆแห่งยามาซาโตะนั่นเอง ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจขั้นตอนการปรุง ที่มาของรสชาติกันก่อนดีกว่าครับ ปลาไหลญี่ปุ่นย่างซอส Kabayaki คือ วิธีปรุงอาหารโดยการปรุงด้วยโชยุ สาเก น้ำตาล ฯลฯ แล้วนำไปย่าง ซึ่งนอกจากปลาไหลญี่ปุ่นแล้วก็สามารถนำปลาซัมมะและปลาซาดีน มาย่างด้วยซอสKabayakiได้เช่นกัน ตั้งแต่สมัยเอโดะ มีปลาไหลญี่ปุ่นอาศัยอยู่จำนวนมากจึงกลายเป็นอาหารท้องถิ่นที่ได้รับความนิยม…
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศขยายระยะเวลาการเปิดให้บริการของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ไปตลอดปี 2561 โดยจะให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. เลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 16 เมษายน 2561 ระบุเพื่อให้บริษัทฯ สามารถให้เวลากับการลงรายละเอียดของการออกแบบและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมได้อย่างเต็มที่ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ตามที่ ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประกาศยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2561 เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม หรือมิกซ์-ยู (Mixed-Use Development) นั้น หลังจากได้พิจารณาปัจจัยแวดล้อม และพิจารณาถึงความสำคัญในการให้เวลากับการลงรายละเอียดทั้งการออกแบบและการพัฒนาโครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จึงตัดสินใจเลื่อนการปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ออกไปจากกำหนดเดิม เป็นให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. ดังนั้น ในปี 2561 นี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะยังคงเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมโครงการนี้ เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มดุสิตธานี ที่ต้องการจะพัฒนาและยกระดับพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ให้กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมที่ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า โดยในส่วนของโรงแรม คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่นั่นเอง ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล วางแผนที่จะสร้างโครงการนี้ ให้มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ เหมือนดังเช่นที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เคยสร้างประวัติศาสตร์ไว้เมื่อ…