นับเป็นอีกหนึ่งในความน่าตื่นตะลึงเมื่อร้านอาหารที่ออกแนวสบายๆไม่เป็นทางการอย่างร้านเจ๊ไฝได้รับ Michelin Stars ไปครอง ทว่าหลายคนยังคงอาจตั้งคำถามว่าทำไมร้านอาหารในภาพลักษณ์ที่ไม่ได้ดูหรูหราถึงกล้าขายราคาที่ค่อนข้างสูง จนถึงขนาดนายกตู่ออกมาพูดถึง หลังจากได้มิชลินสตาร์แล้วนายกจะมากินหรือไม่ในฐานะร้านอาหารไทยธรรมดาที่ได้ดาว ? “นายกคงไม่มากินหรอก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง มีนักข่าวเขาถามนายกว่าร้านเจ๊ไฝขายแพงแบบนี้จะจัดการอย่างไร นายกบอกว่าก็อย่าไปกินสิ ของถูกก็มีนี่หละค่ะ เจ๊ไฝยังนั่งดูท่าน ถ้ามีมีโอกาส เรียนกราบเชิญท่านให้มาแวะทาน แต่ท่านคงไม่มา” คิดว่านายกจะกลับมาหลังจากได้ดาวหรือไม่ว่าคุ้มค่ากับราคาที่ตั้งไว้ ? “คิดว่าคนไทยคนไทยเรามีโอกาสที่จะขายของแพงได้ ถ้าเรากล้าทำ มีคนทานนะคะคุณขา ไม่ใช่ไม่มีคนทานนะคะ อย่างราดหน้าเป่าฮื้อจานละหมื่นทำไมเขามาทานกันหละ” ราคาแพงทุกจานหรือไม่ เริ่มต้นที่เท่าไหร่ ? ” ก็เริ่มต้นที่ 200 ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก้าวเข้ามาก็สั่งกัน 400-500 ขึ้น ” คิดว่าร้านมีจุดเด่นอะไรจึงได้ดาว ” หนึ่งในจุดเด่นหลักๆอยู่ที่วัตถุดิบค่ะ เพราะเราใช้วัตถุดิบอย่างดี ” และอีกหลากหลายทัศนคติที่เจ๊ไฝได้แบ่งบันกับเรา แต่สรุปกันคร่าวๆคือ เจ๊ไฝมองว่าราคาที่ตั้งในตัวเลขที่สูงนั้นก็สะท้อนถึงต้นทุนที่มาจากการใช้วัตถุดิบที่ดีและมีราคาสูง ราคาที่ตั้งจึงสมเหตุสมผลนั้นเอง เจ๊ไฝ, michelin stars, Bangkok Kin News KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน…
Author: Kittin Assavavichai
ห้องอาหารซาเวลเบิร์ก ห้องอาหารฝรั่งเศสโดยเชฟมิชลินสตาร์ ขอเชิญคุณ ๆ มาลิ้มรสความอร่อยของคอร์สเมนูมื้อกลางวันและมื้อค่ำสุดพิเศษสำหรับเทศกาลวันหยุดปีนี้ รังสรรค์โดย “เชฟเฮงค์ ซาเวลเบิร์ก” เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ดี ๆ ให้กับช่วงเวลาพิเศษเพื่อคุณ คุณจะได้ลิ้มลองอาหารคุณภาพเยี่ยมที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างสวยงาม และ พิถีพิถันแบบร่วมสมัย ในบรรยากาศสบาย ๆ แต่หรูหรามีระดับ ในราคาที่เป็นมิตร เมนูมีดังนี้ FABERGÉ EGG WITH CAVIAR (15 gr.) – Royal Oscietra Caviar | Blini | Crème Fraiche | Leek | potato cream LOBSTER – Lobster | Lemon grass | Ginger |Pomelo|Shimeij OYSTER – Sauerkraut | Pork TURBOT – Orange |Jerusalem artichoke | Hazelnut | Green herbs PASTRY – Black truffle | Foie grass | Green cabbage PIGEON – Carcass roasted pigeon | Beetroot | Liver | Pistachio | Parsley | Onion PRE-DESSERT Apple Pie RHUBARBE – White Chocolate |Vanilla | Tarragon …
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ “พ่อแห่งแผ่นดิน” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงแทพฯ ร่วมกับ มูลนิธิร่วมน้ำใจต้านภัยเอดส์ จะจัดงานการกุศลน้ำชายามบ่าย “ส่งความสุข พ่อลูกผูกพัน” ณ ห้องบอลรูม ในวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2560 เวลา 14.00 – 16.00 น. บัตรราคา 2,000 และ 1,500 บาท รายได้จากการจัดงาน การประมูลภาพและจำหน่ายภาพเขียน จะมอบให้โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี น้ำชายามบ่ายนี้ มร. เคลาส์ โอลเซ็น หัวหน้าพ่อครัวขนมอบและขนมหวานของโรงแรมฯ จะเตรียมอาหารว่างและขนมหวานนานาชนิด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานอดิเรกและพระปรีชาสามารถของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาให้แขกได้ลิ้มรส พร้อมชมการแสดงพิเศษโดย หรั่ง ร็อคเคสตร้า และวินัย พันธุรักษ์ และแฟชั่นโชว์จากคู่พ่อ-ลูกดารา-เซเลป-นางงาม-นางแบบ อาทิ อาจารย์คฑา ชินบัญชร “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์ “แทค” ภรัญยู โรจนวุฒิธรรม “เต๋า” สมชาย เข็มกลัด “บ๊อบ” ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ และ “พัตเตอร์” เตชธร จามิกรณ์ รัศมี ทองศิริไพรศรี ญาดา เทพนม (มิสแกรนด์ไทนแลนด์ปี 2013) และชวน งามสมชาติ-มิสเตอร์ ท๊อป โมเดล ออฟ ไทยแลนด์ 2017 เป็นต้น มีการประมูลภาพวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 จำนวน 2 องค์ ชื่อ “หัวใจของแผ่นดิน ภัทรมหาราช” ขนาด 120 x 90 เซ็นติเมตร ซึ่งใช้เทคนิคสีอะคิริคเกรียงบนผ้าใบ…
Mugaritz มาสเตอร์คลาส โดยเชฟ Andoni Luis Aduriz จาก Mugaritz ประเทศสเปน ร้านอาหารระดับมิชลิน 2 ดาว และอันดับที่ 9 จากร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก เชฟ Andoni Luis Aduriz จะมาสาธิตการปรุงอาหารด้วยเทคนิคสุดทันสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Techno-Emotional โดยเชฟจะเลือกสาธิตอาหารจานเด่นของเขาให้คุณได้ชม และชิมอาหารร่วมกันอีกด้วย หลังจากนั้น คุณจะได้พบปะพูดคุยกับเชฟ Andoni Luis Aduriz อย่างใกล้ชิด ในช่วงค๊อกเทล รีเซฟชั่น วันที่ 7 ธันวาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 14.30-18.30 น (ลงทะเบียนเวลา 14.00 น) ที่ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ บัตรราคา 2,900 บาท ต่อท่าน (ที่นั่งมีจำนวนจำกัด) สอบถามหรือสำรองที่นั่งทางออนไลน์ได้ที่ www.eventpop.me/e/2435-mugaritz หรือจองโดยตรงกับเดอะเฮ้าส์ออนสาทร ที่ [email protected] หรือโทร 02-344-4025 นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศ โดยเชฟ Andoni Luis Aduriz เชฟชาวสเปนระดับมิชลิน 2 ดาว จากร้านอาหาร Mugaritz ที่จะมาแสดงฝีมือการปรุงอาหารร่วมกับ เชฟฟาทีห์ ทูทัค (Chef Fatih) ในบรรยากาศครัวเปิดผ่านดินเนอร์สุดพิเศษ 13 คอร์สให้นักชิมชาวไทยได้ลิ้มลอง ที่เดอะไดน์นิ่งรูม และเดอะบาร์ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร (The Dining Room & The Bar, The House on Sathorn) เพียง 2 คืนเท่านั้น ในวันที่ 8 และ 9 ธันวาคม 2560 นี้…
31 ธันวาคม 2560 ฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยดินเนอร์สุดหรู 7 คอร์ส ท่ามกลางวิวหรูระฟ้า ณ ห้องอาหารรูฟท็อปบลูสกายบาร์แอนด์ไดนิ่ง โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ทัศนียภาพมุมสูงที่งดงามที่สุดแห่งลาดพร้าว แน่นอนว่าอาจไม่เป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่างดงามมากทั้งวิวและ อาหาร ห้องอาหารที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 15 บาร์วิวระฟ้าที่น่าตื่นตาที่สุดในโลก จากการสำรวจของเว็บไซต์ “อาคิเทคเจอร์ อาร์ต ดีไซน์” (Architecture Art Design Website) โดยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ได้ปรับปรุงขยายพื้นที่โดยเพิ่มโซนไดนิ่งระดับพรีเมี่ยมโฉมใหม่ทั้งหมด ท่ามกลางบรรยากาศเส้นขอบฟ้าที่สวยงามยามค่ำคืนของเมืองกรุงเทพฯ บลูสกาย บาร์ แอนด์ ไดนิ่ง นำเสนอความงดงามในมุมมองใหม่ของทัศนียภาพอันตราตรึงใจท่ามกลางวิวระฟ้า บนชั้น 24 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ห้องอาหารบลูสกาย ได้รับการออกแบบให้มีความหรูหราและทันสมัย ตกแต่งอย่างปราณีตด้วยวัสดุคุณภาพดี อาทิ มุมรับประทานอาหารส่วนตัวที่ใช้ดีไซน์เก๋ ๆ ของม่านห่วงโซ่สีทองกั้นพื้นที่ความเป็นส่วนตัว โดยผสมผสานเข้ากับความสวยงามของพื้นพรมสีน้ำเงินที่เด่นสะดุดตา รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หรูที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะสำหรับห้องอาหารบลูสกาย ทำให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วมีดีไซน์ที่ทันสมัย สวยงาม ลงตัว สร้างบรรยากาศเชิญชวนและเป็นกันเอง ทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับการเลือกที่นั่งในการรับประทานอาหารได้จากทุกมุม บลูสกาย ยังมีบริการเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยมนานาชนิด อาทิ ค็อกเทล แชมเปญ หรือไวน์ชั้นดีที่ได้รับรางวัลการันตีจาก “ไวน์สเปกเตเตอร์” (Wine Spectator) นิตยสารทรงอิทธิพลระดับโลกของวงการไวน์ ที่มอบรางวัลเพื่อเป็นการตอกย้ำว่า บลูสกายมีรายการไวน์ชั้นเลิศจากแหล่งผลิตไวน์คุณภาพดีให้เลือกสรรมากมาย อีกทั้งรายการไวน์และแชมเปญที่บลูสกาย ยังมีความโดดเด่นทั้งในด้านรสชาติและแหล่งผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความรื่นรมย์ไปกับการนั่งจิบเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยม ที่คัดสรรมาจากทั้งประเทศโลกเก่าและประเทศโลกใหม่ รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์นานาชนิดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบลูสกาย ค็อกเทลรสนุ่ม วอดก้า เบียร์ เหล้า ฯลฯ ที่พร้อมให้บริการจากบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ ทุกค่ำคืน เชฟคริสเตียน เวอเด็นเบิร์ก หัวหน้าพ่อครัวฝ่ายบริหารประจำโรงแรมฯ และทีมเชฟ พร้อมรังสรรค์รสชาติความอร่อยจากเมนูอาหารฝรั่งเศส ในสไตล์ เฟรนช์ บิสโทร ซึ่งอาหารแต่ละเมนูล้วนสร้างสรรค์มาจากวัตถุดิบชั้นดี และนำเข้าจากต่างประเทศ ปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันเป็นนานาเมนูอาหารจานพิเศษให้คุณได้ลิ้มลอง ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ที่รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามของเมืองกรุงเทพฯ และความเขียวชอุ่มของสวนจตุจักร ในครั้งนี้เรา…
หลายคนอาจได้เคยไปเที่ยวชมทะเลทรายกันมาแล้ว ทะเลทรายนั้นก็มีและกระจายตัวกันอยู่แทบทุกจุดทั่วโลก ไม่ว่าจะในจีน เวียดนาม แอฟริกา ตะวันออกกลาง แต่ทว่า Wadi rum นั้นไม่เหมือนกับทะเลทรายในหลายๆที่ที่ทุกท่านได้ไปมาอย่างแน่นอน เพราะทะเลทรายแห่งนี้มิได้มีเพียงแค่เนินทราย แต่ประกอบไปด้วยภูเขาแปลกๆ แหล่งอารยธรรม และที่พักกลางทะเลทรายที่ไม่พักไม่ได้เลยทีเดียว นั้นคือเต็นท์ใสทรงกลมที่สามารถนอนดูดาวที่พริ้งพราวไปทั่วท้องฟ้าได้อย่างน่าตื่นตา ก่อนจะพาไปเที่ยวทะเลทราย Wadi rum ผมขอเกริ่นและแนะนำข้อมูลเบื้องต้นของทะเลทรายแห่งนี้กันก่อนแล้วกันนะครับ Wadi Rum (อาหรับ: واديرم) หรืออีกชื่อว่า Valley of the Moon (อาหรับ: واديالقمر) เป็นหุบเขาหินทรายและหินแกรนิตหินซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจอร์แดน ห่างไปทางตะวันออกของเมือง Aqaba ราวๆ 60 กม. (37 ไมล์) เป็นหุบเขาที่ใหญ่ที่สุดในจอร์แดน Wadi Rum เป็นภาษาอาหรับหมายถึง “Roman Valley” หรือ “Valley of the Rûm” ในยุคต้นไบเซนไทน์โดยชาวอาหรับอาจหมายถึงชุมชนคริสเตียนไบแซนไทน์นิกายกรีกออโธดอกซ์ Wadi Rum เป็นที่อาศัยของมนุษย์มาแต่ในอดีต มีวัฒนธรรมมากมายตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่ชาว Nabateans ซึ่งเป็นชนพื้นถิ่นเร่ร่อน ทิ้งไว้ในรูปของภาพวาดบนหิน และหากใครเคยดูหนังเรื่อง Lawrence of Arabia อาจเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับเจ้าหน้าที่อังกฤษ T. E. Lawrence หรือชื่อที่หลายคนรู้จักกัน “Lawrence of Arabia” นั้นเองที่สร้างวีรกรรมในช่วงการจลาจลอาหรับ พ.ศ. 2460 หนึ่งในภูเขาหินขึ้นชื่อใน Wadi Rum ได้รับการตั้งชื่อว่า “The Seven Fils of Wisdom” ซึ่งถูกนำมาเป็นภาพหน้าปกของ Lawrence เรามาเข้าเรื่องเที่ยวของเรากันเลยดีกว่า ! หลังจากเดินทางถึงประเทศจอร์แดนในช่วงเช้ามืด ผมก็เริ่มเดินทางจากทางเหนือลงสู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดนเพื่อไปยังทะเลทราย Wadi Rum ระหว่างเดินทางลงสู่ทางใต้ก็ยังพอได้เห็นต้นไม้บ้างจึงนำสมุดมาวาดบันทึกภาพต้นไม้และอาคารบ้านเรือนต่างๆเก็บเอาไว้ หลังจากนั่งไปเรื่อยๆก็ได้มาถึงทางเข้าสู่ทะเลทราย Wadirum ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางนักท่องเที่ยว ในจุดนี้เราจะได้ชมภูเขา “The Seven Fils of Wisdom” ซึ่งมีความสวยงามและเป็นภาพหน้าปกของหนังสือ T.…
อัพแอนด์อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) บาร์บนชั้น 24 ของ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) สถานที่จิบน้ำชายามบ่าย พร้อมชมวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูง ขอแนะนำชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ให้บริการตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2560 เท่านั้น เชฟ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Chef Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวขนมหวาน (Executive Pastry Chef) รังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข มีทั้งอาหารคาวและหวานน่ารับประทานมากมาย อาทิ เค้กเรดเวลเวท โมจิไส้ครีมรสเรดเวลเวท ทาร์ทสตรอว์เบอร์รี่ มาการองพิมพ์ลายต้นคริสต์มาส แยมโรลครีมและเชอร์รี่ คัสตาร์ดเชอร์รี่ สโคนแครนเบอร์รี่หอมกรุ่น ส่วนอาหารคาวประกอบไปด้วย แซนวิชไก่งวงรมควันครีมชีสและแครนเบอร์รี่ ชีสมอสซาเรลลาสดและมะกอกเขียวรับประทานกับแฮมกรอบปลาแซลมอนรมควันและผักฮอสแรดิช (ฮอสแรดิช คือ พืชตระกูลกะหล่ำ มีไขมันต่ำ เส้นใยสูง พบในแถบชายฝั่งทะเลยุโรป) พิเศษ อภินันทนาการเครื่องดื่มประจำเทศกาลคริสต์มาส ได้แก่ มอลด์ไวน์ (Mulled wine) ไวน์ต้มกับเครื่องเทศ และ เอ้ก น็อค (Egg Nog) ซึ่งมีส่วนผสมของ นม ครีมและไข่ ให้บริการเป็นพิเศษสำหรับทุกท่านที่มารับประทาน ชุดน้ำชายามบ่ายสำหรับเทศกาลแห่งความสุข เชฟ ฮูแกแวร์ฟ แนะนำให้ดื่มชาโนเอล (Noël tea) ซึ่งเป็นชาดำของ มาคิยาจ แฟรส์ (Mariage Frères) ชาฝรั่งเศสชั้นดีที่มีกลิ่นของส้มแมนดาริน อบเชย อัลมอนด์ และวานิลลา คู่กับชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษนี้ ชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษสำหรับเทศกาลแห่งความสุขราคาชุดละ 1,190++ บาท ราคารวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน ส่วนท่านที่ชื่นชอบสาเกหรือไวน์ สามารถเลือกรับประทานชุดน้ำชายามบ่ายคู่กับ สปาร์คกลิ้งสาเก…
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ร่วมกับกลุ่มโรงแรมปริ๊นซ์ โฮเต็ล ประเทศญี่ปุ่น ภูมิใจเสนอ “เทศกาลอาหาร ฮอกไกโด” ระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2560 ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี โดย 3 มาสเตอร์เชฟ จะบินตรงจากญี่ปุ่นมารังสรรค์เมนูอาหารชุดพิเศษรสชาติต้นตำรับฉบับฮอกไกโดแท้ๆ มาให้ชาวกรุงได้ลิ้มรสกันอย่างเต็มอิ่ม เชฟท่านแรก เชฟฟุมิฮิโระ คะบะซาวะ จากซับโปโร ปริ้นซ์ โฮเต็ล ผู้มีพรสวรรค์และมากประสบการณ์ซึ่งจะมารังสรรค์อาหารชุดที่เสิร์ฟเป็นลำดับตามธรรมเนียมญี่ปุ่น หรือที่รียกว่า “ไคเซกิ” โดยเน้นวัตถุดิบ ในท้องถิ่นตามฤดูกาล นอกจากนี้ เชฟฟุมิฮิโร ยังมีความชำนาญในศิลปะการปั้นซูชิโชว์อีกด้วย อาหารญี่ปุ่น นอกจากรสชาติที่อร่อยล้ำแล้ว การนำเสนอบนจานอาหารก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ในครั้งนี้เราได้เชฟชินอิจิ ฮานะบุสะ จากฟูราโนะ ปริ้นซ์ โฮเต็ล ในฮอกไกโด ที่จะมาร่วมสรรสร้างเมนูพิเศษ โดยหยิบยกความดั้งเดิมและความทันสมัยมาผสานกันอย่างลงตัว จนได้รสสัมผัสของทั้งความอร่อยและสุขภาพดี โดยทั้งหมดนี้เขาได้รับแรงบันดาลใจจากเชฟโระคุซาบุโระ มิจิบะ ซึ่งเป็นเชฟกระทะเหล็กชาวญี่ปุ่นคนแรก จึงนำมาซึ่งการรังสรรค์ความสวยงามบนจานอาหาร เชฟท่านสุดท้ายที่จะมาโชว์ฝีมือในเทศกาลอาหารครั้งนี้ คือ เชฟทาคุยะ ชิบาตะ จากฮาโกดาเตะ โอมินูมะ ปริ้นซ์ โฮเต็ล ซึ่งเป็นบุตรชายของเชฟผู้เชี่ยวชาญการทำซูชิ เขามีความสามรถพิเศษในการเลือกใช้วัตถุดิบของฮอกไกโด นำมาปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน โดยใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหาร หรือการบริการที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด “เทศกาลอาหารฮอกไกโด” เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมจะให้ลิ้มรสกันทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตั้งแต่วันที่ 24-26 พฤศจิกายนศกนี้ ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ วันศุกร์ที่ 24 และเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560: อาหารชุดมื้อกลางวัน ท่านละ 1,800 บาท++ และ ชุดมื้อเย็นท่านละ 3,200 บาท++ วันอาทิตย์ที่…
สัมผัสความอร่อยแบบเต็มคำพร้อมบรรยากาศแบบผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ ณ เดอะ เลานจ์ นำเสนอ The Lobster and Burger Lounge เบอร์เกอร์อเมริกันสไตล์เซนต์ รีจิส พบกับความกลมกล่อมและอร่อยเต็มคำของเบอร์เกอร์ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบพรีเมียม เสิร์ฟทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 22.00 น. ราคาเริ่มต้นเพียง 450++ บาท เพลิดเพลินกับนานาเมนูเบอร์เกอร์รังสรรค์พิเศษ อาทิ The St. Regis Classic Burger The Cheese & Onion Burger The Rossini Burger The Surf ‘n Turf Burger และ The Lobster Roll ที่ยังคงรสชาติดั้งเดิมสุดคลาสสิคแต่แฝงความเป็นเอกลักษณ์ของเซนต์ รีจิสได้อย่างลงตัว ผ่านการปรุงอย่างใส่ใจผสานกับวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีทั้งล็อบสเตอร์และเนื้อวากิวออสเตรเลีย สำหรับเมนูที่เสิร์ฟเนื้อบดวากิวจะได้รับเครื่องเคียง ซอสพาร์เมซานชีส ทรัฟเฟิลฟรายและสลัด เพิ่มความสดชื่นด้วยคราฟต์เบียร์แบรนด์อิตาลีและพรีเมี่ยมของไทย อิตาเลี่ยนไวน์ หรือจะเป็นชาเย็นผลไม้พรีเมี่ยม ในครั้งนี้เราขอพาทุกท่านไปพบกับสองเมนูแสนอร่อยจากหลายเมนูที่มีให้เลือกกันมากมาย The Surf ‘n Turf Burger เบอร์เกอร์สำหรับผู้ชื่นชอบทั้งเนื้อวากิวและบอสตันล็อบสเตอร์ เสิร์ฟในขนมปังเกล็ดงาดำทาด้วยมายองเนสรสกระเทียม และจะได้รับเครื่องเคียง ซอสพาร์เมซานชีส ทรัฟเฟิลฟรายที่กรอบ หอมกลิ่นทรัฟเฟิลและสลัด ที่กินรวมๆกันแล้วสุดแสนจะเข้ากันเป็นที่สุด ราคา 650++บาท The Lobster Roll สำหรับท่านที่ชื่นชอบและรับประทานเนื้อล็อบเตอร์ เน้นเสิร์ฟแบบเต็มคำกับบอสตันล็อบสเตอร์ทั้งชิ้น ซอสมายองเนสวาซาบิ ที่มีกลิ่นฉุนขึ้นจมูกเฉพาะตัว หอมกลิ่นกระเทียมนิดๆและรสมันเค็มอ่อนๆจากซอสเนยพาร์สลีย์ เสิร์ฟในขนมปังโรลบิยอร์ช และจะได้รับเครื่องเคียง ซอสพาร์เมซานชีส ทรัฟเฟิลฟรายที่กรอบ หอมกลิ่นทรัฟเฟิลและสลัด ที่กินรวมๆกันแล้วสุดแสนจะเข้ากันเป็นที่สุด ราคา 850++บาท นอกจากนี้ยังมีชุดสุดคุ้มสำหรับแขกที่มากันหลายๆคน ชวนคุณและเพื่อนๆอิ่มอร่อยจุใจกับ Lobster and Burger Tower เสิร์ฟเบอร์เกอร์ทั้งสี่เมนู ล็อบสเตอร์โรล และกริลล็อบเตอร์ถึงสองตัว ซอสพาร์เมซานชีส ทรัฟเฟิลฟรายและสลัด ราคา 4,999++บาทต่อเช็ต (สามารถเปลี่ยนเป็นเมนูล็อบเตอร์โรลแทนเบอร์เกอร์ได้ในราคา…
Eathai (อีทไทย) ศูนย์รวมสตรีทฟู้ดและครัวไทย 4 ภาค ชั้น LG ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ FoodLoft (ฟู้ดลอฟท์) ชั้น 7 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม เนรมิตรมหัศจรรย์พรรณไม้ กับสารพัดเมนูดอกไม้รับประทานได้ ในเทศกาล “Floral Flavour ชิมความมหัศจรรย์ของดอกไม้… สู่ความหอมหวานละมุนลิ้น” คัดสรรเมนูสุดพิเศษที่คุณจะต้องหลงใหลในภูมิปัญญาไทย จัดเต็มความอร่อยที่น่ารับประทานได้ที่นี่เท่านั้น ระหว่าง วันที่ 16-20 พ.ย. นี้ พร้อมบริการเดลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้านคุณ ! เริ่มที่ อีทไทย เนรมิตอุทยานดอกไม้หลากสีสันงดงามสุดตื่นตา ชวนชิมหลากหลายเมนูดอกไม้ โดย พูลทรัพย์ เจตลีลา หรือ “ป้าจาย แม่มดดอกไม้” ที่จะมาสร้างสรรค์เมนูห้ามพลาด ผ่านขั้นตอนการปรุงที่พิถีพิถัน อาทิ ข้าวยำดอกไม้ ซึ่งข้าวหอมมะลิอินทรีย์ หุงสีสวยด้วยสมุนไพรไม้ดอก เช่น อัญชัน ขมิ้น ฟักข้าว โรยด้วยปลาป่น กุ้งแห้งป่น มะพร้าวขูดคั่ว ถั่วทอง พริกป่น พร้อมสารพัดผักสด เช่น แตงกวา ตะไคร้ซอย ใบมะกรูด ใบชะพลู ยอดกระถิน ถั่วงอก เป็นต้น พร้อมด้วยสารพันดอกไม้สด ไม่ว่าจะเป็น ดอกแค เฟื่องฟ้า ดาวกระจาย เล็บมือนาง กลีบบัวหลวง ขจร โสน เคล้าเครื่องให้เข้ากับข้าว ด้วยน้ำข้าวยำ น้ำบูดูจากเกาะพงัน รสชาติดั้งเดิม, ขนมจีนน้ำพริก สูตรมังสวิรัติ หน้าตาชวนรับประทานด้วยเส้นขนมจีนสีหวานจากสมุนไพร และไม้ดอก เช่น อัญชัน ขมิ้น แก้วมังกรแดง และฟักข้าว เป็นต้น เสริฟ์คู่กับแกงน้ำพริกสูตรมังสวิรัติ ที่เข้มข้นและหอมมันด้วยถั่ว เครื่องแกงโขลกเอง กระเทียมเจียว และมะกรูด กลิ่นหอมชวนรับประทาน นอกจากนี้ยังมีรสชาติความหวานของกะทิกับน้ำตาลโตนด ทั้งยังตัดรสเปรี้ยวด้วยมะขามเปียก และรสเค็มด้วยดอกเกลือและซีอิ๊วขาว…