Author: Kittin Assavavichai

พบกับหนึ่งในเทคนิคการนวดที่ไม่เหมือนใครการนวดตามกรุ๊ปเลือด เพื่อการผ่อนคลาย บำบัด และปรับสมดุลร่างกายให้สุขภาพของคุณดียิ่งขึ้นกับคอร์สทรีดเมนท์ signature ประจำสปาแห่งนี้  Athenee Spa, The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok ในปัจจุบันสปาต่างๆได้มีเทคนิคต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามแต่ละที่จะคิดค้นและสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อให้เกิดอัตลักษณ์และความแตกต่างเพื่อแขกที่มาใช้บริการและเป็นจุดขาย ซึ่งในอดีตสปาทั่วไปจะมีแค่การนวดน้ำมัน นวดไทย นวดเท้า และการนวดด้วยลูกประคบ สำหรับสปาแห่งนี้ Athenee Spa ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นที่ 5 ของโรงแรม The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok ก็มีโปรแกรมทรีดเมนท์สุดพิเศษที่เป็นอัตลักษณ์ของตน และได้สร้างสรรค์เทคนิคการนวดที่ไม่เหมือนใครขึ้นมา นั่นคือการนวดตามกรุ๊ปเลือดซึ่งในแต่ละกรุ๊ปเลือดนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ตามศศาสตร์ที่ทางสปาได้คิดค้นขึ้นมา เพราะในแต่ละกรุ๊ปเลือดก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไปในแง่ของด้านสุขภาพและกายภาพดังนั้นตั้งแต่ชนิดของน้ำมันนวด รวมไปถึงท่าและการเน้นในการนวดก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งในครั้งนี้เราได้ทดได้ลองการนวดตามกรุ๊ปเลือดของกรุ๊ปเลือด b และกรุ๊ปเลือด o ซึ่งจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามกันได้เลยครับ เริ่มต้นกันด้วยการกรอกแบบฟอร์ม ซึ่งจะถามเกี่ยวกับข้อมูลเบื้อต้นทั่วไปก่อนการทำทรีดเมนต์ทั้งอาการแพ้ ระดับน้ำหนักการนวด อายุ รวมไปถึงอาการเจ็บป่วยต่างๆ เพื่อให้พนักงานนวดนั้นสามารถนวดได้อย่างตรงความต้องการ และไม่เกิดปัญหา เพราะแขกแต่ละท่านจะมีข้อจำกัดและความต้องการที่ไม่เหมือนกันนั้นเอง หลังจากที่กรอกแบบฟอร์มเรียบร้อย เรายังคงอยู่กันในส่วนต้อนรับด้านหน้าของทางสปา พนักงานจะนำผ้าเย็นกลั่นตะไคร้หอมสดชื่น ผ่อนคลาย แต่ก็ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า พร้อมทั้งน้ำมะตูมเย็นๆมีรสหวานนิดๆกำลังดี บริเวณด้านหน้าสปาจะมีการแสดงผลัตภัณฑ์ที่ทางสปาใช้ทำทรีดเมนต์ให้กับแขก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันนวดตัว ผลัตภัณฑ์นวดหน้า สครัปต่างๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆในสปา ซึ่งแขกเองสามารถชมและเลือกซื้อได้เช่นกัน จากนั้นเราจะเริ่มมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทำทรีดเมนต์กัน ซึ่งห้องทรีดเมนต์เองก็จะมีหลายขนาดหลายรูปแบบ แตกต่างกันออกไป โดยในครั้งนี้ ห้องทรีดเมนต์ที่เราใช้นั้น จะเป็นห้องเตียงคู่ สำหรับนวดพร้อมกันสองคน มีห้องน้ำในตัว ห้องอาบน้ำ รวมไปถึงอ่างจกุชชี่ด้วย สพหรับการตกแต่งภายในห้องเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม รูปแบบไทยๆ โดยรวมเป็นการตกแต่งภายในแบบไทยประยุกต์ มีการให้แสงที่ไม่สว่างจนเกินไป เพื่อให้แขกรู้สึกผ่อนคลาย แสงภายในห้องที่ใช้เป็นแสงเหลืองนวล ออกโทน Warm White ซึ่งเหมาะสมกับ spa โดยเริ่มต้นอันดับแรก หลังจากที่พนักงานพาแขกมายังห้องจะแนะนำถึงองค์ประกอบต่างๆของห้อง รวมทั้งตัวทรีดเมนต์ และให้แขกเปลี่ยนเสื้อผ้า และใส่เสื้อคลุมโดยแขกเองสามารถนำเสื้อผ้า สิ่งของต่างๆ เก็บในตู้เสื้อผ้า ระหว่างเปลี่ยนพนักงานจะออกไปรอด้านนอก เมื่อเราเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยก็สามารถเรียกพนักงานเข้ามา เพื่อให้เริ่มต้นการทำทรีดเมนต์กันได้เลย และนี่คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราจะใช้กันในการทำทรีเมนต์ครั้งนี้ ลูกประคบนั้นเอง…

Read More

สำหรับคนไทยแล้ว Buffet เป็นประเภทยอดฮิตที่ทำให้ใครก็ต่างตาลุกวาว ในปัจจุบันแทบไม่มีโรงแรมไหนที่ไม่ทำ Buffet แล้วเมื่อพูดถึง Buffet มื้อที่อลังการที่สุดก็ต้องเป็นมื้อสายวันอาทิตย์อย่าง Sunday Brunch แล้วที่ไหนเล่าที่สุดยอดขนาดไม่ลองไม่ได้ Kinlakestars.com ได้รวบรวม 12 สุดยอด Sunday brunch 2017 มาให้ทุกท่านเแล้ว จะเลือกกินเวียนกันไปเดือนละที่ก็ย่อมได้ สุดยอดบุฟเฟ่ต์ย่านริมน้ำ Next 2 café, Shangri-la Bangkok ตระการตาไปกับสุดยอด Buffet ที่หลากหลายที่สุดแห่งริมน้ำ sunday  ทุกอย่างไม่อั้นพร้อม jazz สด ณ Next2 café โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ Highlight : Wagyu Burger, Lobster, Risotto, เป็ดปักกิ่ง, Indian Food Price : 2,888 บาทถ้วน เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป – 12 ปี ครึ่งราคา View : Riverside อ่านต่อที่>>> Lord Jim, Mandarin Oriental Bangkok อิ่มเอมกับ Buffet Sunday brunch วิวเจ้าพระยามุมสูงบรรยากาศใต้ท้องทะเล ณ Lord Jim, Mandarin Oriental Bangkok Highlight : Foie gras mango sauce, dessert, ส้มตำ, ขาแกะ Price : adult 2500++    Child 1700++ View : Riverside อ่านต่อที่>>> Feast, Royal Orchid Sheraton พลิกโฉมครั้งใหญ่เอาใจสาวกซันเดย์ บรันช์ จัดเต็มอาหารนานาชาติ สารพันเมนูอาหารอบร้อนๆ…

Read More

อร่อยต้องลอง คนรุ่นใหม่ควรชิมให้รู้ และคนรุ่นคลาสิคควรชิมเพื่อรำลึก หนึ่งในเมนูยอดฮิตที่เคยหายไปได้กลับมาแล้ว! เป็นเวลากว่าหลายเดือนที่ทางทีมงานครัว เชฟ ทางดุสิตธานี ได้ทำการทดสอบ ทำ และชิม ให้ได้มาซึ่ง “พายสตูว์ไก่” หรือ “Chicken Pot Pie” หนึ่งในเมนูขายดี ยอดฮิตสุดๆในอดีต ให้กลับมาวางขายและอร่อยล้ำเลิศเฉิดฉายกันอีกครั้ง พบกับการกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องเพื่อตอกย้ำความอร่อยของ “พายสตูว์ไก่” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Chicken Pot Pie” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความอร่อยในตำนานของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ มีให้ลิ้มรสกันแล้ว ณ ดุสิต กูร์เม่ต์ พายสตูว์ไก่สูตรต้นตำรับของดุสิตธานี ที่เชฟได้คัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นแป้งพายที่ หอมกรุ่น ผ่านการอบจนเป็นสีเหลืองทอง กรอบนอก แต่ข้างในให้รสสัมผัสที่นุ่มหนึบชวนทานอย่างยิ่ง มัน หอม ทานคู่กับสตูว์ไก่ ที่หมักไก่จนเนื้อนุ่มผสมด้วยแครอท เห็ด มันฝรั่ง ต้มจนนิ่มกำลังดี และเมล็ดถั่วลันเตา คลุกเคล้ากับเกรวี่ซอสสูตรพิเศษ พายสูตว์ไก่ในถ้วยคลุมด้วยแผ่นแป้งพายอบร้อนๆ สดใหม่ทุกวัน พร้อมเสิร์ฟในราคาถ้วยละ 230 บาท ซึ่งแถมถ้วยกระเบื้องกลับไปด้วย ตั้งแต่เวลา 07:00 – 22:00 น. แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า หมดเร็วมาก! และขายดีมาก เพราะด้วยความอร่อยล้ำและหากินยากนั้นเอง ดังนั้นไม่อยากพลาดอาจต้องมากันเร็วหน่อย  ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร 02 200 9000 ต่อ 2345 อีเมลล์: [email protected] เว็บไซต์: www.dusit.com/dtbk, www.facebook.com/dusitthani เรื่อง / ภาพ : Pol.Cap. Kittin A. พายสตูว์ไก่, Chicken Pot Pie, dusit thani, review, ดุสิตธานี, รีวิว KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ…

Read More

แบรนด์ใหม่ในที่เดิมกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความหรูหราเหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมสะท้อนอัตตลักษณ์และคุณค่าของพื้นที่เดิม อดีตวังสู่โรงแรมสุดหรู The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ให้อยู่ภายใต้ แบรนด์ อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพร้อมให้บริการในชื่อ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล นั้นได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบและการตกแต่งมาจากสมเด็จพระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ผู้ซึ่งทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ห้า (ปี ค.ศ.1853 – ค.ศ.1910) และทรงเป็นราชปิตุจฉาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9 การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ล่าสุดของโรงแรมในครั้งนี้ทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันเป็นเอกลักษณ์ของนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เพียงในแง่ของสถานที่ตั้งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจุดเด่นในแง่ของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ของเมืองหลวงแห่งนี้อีกด้วย โรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ของวังคันธวาสอันเลื่องชื่อ วังแห่งนี้เคยเป็นตำหนักที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ และได้เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ อะ รอยัล เมอริเดียน ตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 ต่อมาได้ดำเนินการ ปรับปรุงพื้นที่ให้บริการในทุกส่วนของโรงแรมฯ ด้วยการออกแบบและการตกแต่งใหม่เพื่อให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมการให้บริการแบบเหนือระดับภายใต้แบรนด์ อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่นตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล จะพร้อมต้อนรับแขกที่มาเยือน เริ่มต้นจากบันไดอันสวยงามอลังการ อีกทั้งแชนเดอเลียร์ที่เผยความงดงามระยิบระยับจากเพดาน ทุกท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการตกแต่งภายในสไตล์ไทยและยุโรปที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ตราบนิจนิรันดร์ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ และในคอลัมน์นี้ เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์ที่ หรูหรา และมีเอกลักษณ์ พร้อมกลิ่นอายประวัติศาสตร์ที่ร่วมสมัยจากพื้นที่ ตั้งแต่เริ่มต้นเดินทางจนจบกันเลย เริ่มต้นเดินทาง สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราเดินทางด้วยรถ BMW S7 จากที่บ้าน พนักงานขับรถในชุดสูทดำพร้อมรถ เดินทางมาถึงตรงเวลาและลงมาต้อนรับอย่างสุภาพ พร้อมช่วยยกสัมภาระขึ้นรถ เมื่อขึ้นมาถึงบนรถ…

Read More

ห้องอาหารเกาหลี คองจู เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี ด้วยบรรยากาศที่สะดวกสบายเป็นกันเอง        และอบอุ่นเสมือนนั่งทานอยู่ที่บ้าน การตกแต่งที่ทันสมัยผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี แบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน ห้องอาหารเกาหลี คองจู ตั้งอยู่บนชั้น 2 โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส                    โซนอาหารเอเชีย ด้วยการดูแลต้อนรับ และการให้บริการโดยผู้ชำนาญด้านการทำอาหารจาก     ประเทศเกาหลี มาดามคิม ฮันนา ควบคุมการปรุงอาหารด้วยตนเอง เพื่อให้ได้รสชาติอาหารเกาหลี   ต้นตำรับ จึงทำให้ห้องอาหารเกาหลี คองจู ได้รับการยอมรับว่าเป็นห้องอาหารเกาหลี ที่ดีที่สุด           ของกรุงเทพฯ ก่อนอื่นที่จะไปดูเมนูเราไปดูร้านกันก่อนดีกว่าครับ ห้องอาหารเกาหลี คองจู เปิดให้บริการมากว่า 21 ปี ด้วยบรรยากาศที่สะดวกสบายเป็นกันเอง และอบอุ่นเสมือนนั่งทานอยู่ที่บ้าน การตกแต่งที่ทันสมัยผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี แบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน ห้องอาหารเกาหลี คองจู ตั้งอยู่บนชั้น 2 โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส  โซนอาหารเอเชีย ด้วยการดูแลต้อนรับ และการให้บริการโดยผู้ชำนาญด้านการทำอาหารจากประเทศเกาหลี มาดามคิม ฮันนา ควบคุมการปรุงอาหารด้วยตนเอง เพื่อให้ได้รสชาติอาหารเกาหลี   ต้นตำรับ จึงทำให้ห้องอาหารเกาหลี คองจู ได้รับการยอมรับว่าเป็นห้องอาหารเกาหลี ที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ห้องอาหารเกาหลี คองจู คัดสรรวัตถุดิบ และส่วนผสมที่มีคุณภาพ โดยนำเข้าจากประเทศเกาหลี รวมทั้งทางห้องอาหารยังทำเครื่องปรุงบางชนิดขึ้นเอง และใส่ใจพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง เพื่อให้ได้ความสดใหม่อยู่ตลอดเวลา และยังคงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกรับประทานในห้องอาหารแบบบรรยากาศที่เป็นกันเอง หรือเลือกห้องรับประทานอาหารที่เป็นแบบส่วนตัวสำหรับ ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 ห้อง 3 ขนาด ตั้งชื่อตามแคว้น รัฐ ของเกาหลีในอดีต ไม่ว่าจะเป็น แพกเจ, ชิลลา, โกกูริยอ ฯลฯ สำหรับแขกที่มีโอกาสพิเศษ หรือ ต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งทางห้องอาหารก็มีให้บริการ เริ่มต้นกันด้วยเมนูเด่นประจำห้องอาหาร ของเรียกน้ำย่อยอันเป็นเมนูเฉพาะของที่นี่อย่าง “เจ้าหญิงปทุมวัน” ซึ่งเมนูนี้จะเป็นเครื่องเคียงเกาหลีสารพัดอย่าง ปรุงอย่างลงตัวพร้อมกับซอสและห่อด้วยแป้ง รสชาติเบาละมุนกลมกล่อม เหมาะแก่การเริ่มมื้อเป็นอย่างดี ถัดมาจะเป็นเมนูกินเล่นที่ถูกอกถูกใจหลายท่านในเมนูที่มาร้านเกาหลีแล้วต้องสั่ง “ไก่ทอดพริก” เมื่อเราพูดถึงอาหารเกาหลีแล้ว สิ่งหนึ่งที่เรามักจะนึกถึงนั้นก็คือ ไก่ทอดนั่นเอง และแน่นอนว่าห้องอาหารเกาหลีคองจูอันเป็นห้องอาหารเกาหลีที่เน้นในความเป็นต้นตำหรับ อีกทั้งชุดฉลองครบรอบ…

Read More

เมื่อกล่าวถึงชื่อ Mandarin Oriental ไม่ว่าใครก็ต้องย่อมรู้จัก รวมทั้ง Lord Jim หนึ่งในห้องอาหารที่เป็นตำนานแห่งริมน้ำเจ้าพระยา สำหรับแนวคิดในการตกแต่งห้องอาหารนั้น Lord Jim ถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงินให้เหมือนดั่งอยู่ในท้องทะเลมหาสมุทร อันเต็มไปด้วยความสวยงาม สงบนิ่ง เรียบหรู น่าค้นหา แม้แต่ของตกแต่งบนโต๊ะที่ใช้ ก็จะสะท้อนถึงความเป็นโลกใต้ทะเลดังที่เห็นในภาพครับ ดึงดูดชวนเข้าตั้งแต่ในส่วนของทางเข้า เมื่อเข้ามาเราก็จะพบกับส่วนพักคอย และตู้ปลาที่วางตัวเป็นแนวยาว นำสายตาไปสู่พื้นที่ห้องอาหาร ซึ่งตู้ปลานั้นตกแต่งให้กลมกลืนไปกับผนังด้วยการออกแบบให้กระจกตู้ปลาอยู่ในระนาบระดับเดียวกับผนัง  ส่วนตราสัญลักษณ์ของร้านก็จะเป็นรูปปลา ซึ่งเชื่อมโยงแนวคิดของห้องอาหารได้เป็นอย่างดี ปลาและดอกไม้ทะเลในตู้เป็นปลาและพืชพรรณในทะเล ดูแล้วเพลิดเพลิน สวยงาม การออกแบบภายในพื้นที่ห้องอาหารนั้นเน้นการใช้เส้นโค้ง วัตถุทรงวงรี และสีน้ำเงิน สีฟ้า และสีขาว เพื่อทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ใต้ท้องทะเล เกลียวคลื่น ผ่อนคลาย และดูเรียบหรู มีระดับ แม้แต่โต๊ะและเก้าอี้ และแก้วเจียระย้าที่ห้อยและเรียงตัวจัดวางออกมาเหมือนฟองน้ำและเกลียวคลื่น สำหรับทัศนียภาพนั้น ห้องอาหาร Lord Jim ถูกจัดได้ว่าเป็นห้องอาหารริมเจ้าพระยาที่มีทัศนียภาพริมน้ำสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยทัศนียภาพทางสายตาจากแขกที่นั้่งอยู่ที่โต๊ะไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านผนังกระจกผืนใหญ่ ความสูงตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน และตัวผนังกระจกใสนี้ก็เรียงตัวยาวเป็นแนวเส้นโค้งไปสุดห้องอาหาร ทำให้แขกสามารถรับชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างรอบด้าน 360 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้ในส่วนของความสูงของห้องอาหารก็ไม่เตี้ยจนเกินไป เพราะอยู่ในระดับชั้นที่สอง สูงขึ้นมามากกว่าระดับพื้นดินเดิมปกติ มุมที่มองไปยังแม่น้ำจึงเป็นมุมกดเล็กน้อยไม่ใช่มุมระนาบเดียวกับผิวน้ำ ทำให้พ้นสิ่งกีดขวางทางสายตา และทำให้ได้มุมมองที่โล่งสบายสายตา ในส่วนของเครื่องดื่มของ Buffet Sunday Brunch ท่านสามารถเลือกสั่งเพิ่มเติมได้จากในรายการเครื่องดื่ม ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Mocktail Cocktail Champagne Wine หรือ Soft drink และแล้วเราก็มาเข้าสู่ในส่วนของอาหารใน Buffet Sunday brunch กันเลยดีกว่าครับ Sea food เริ่มต้นกันด้วยมุมยอดฮิตที่คนไทยให้ความนิยมกันมากที่สุดก็ว่าได้ Seafood on Ice นั่นเอง สำหรับ seafood on ice ของมื้อ sunday brunch  ที่ห้องอาหาร Lord Jim นั้นก็จะประกอบไปด้วย ปูทะเล กุ้ง และหอยนางรมสดๆ Japanese เรามาดูมุมยอดนิยมขวัญใจลูกค้าคนไทยอีกมุมกันต่อเลยดีกว่าครับ นั้นก็คือมุมอาหารญี่ปุ่น…

Read More

โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) ร่วมกับออลนิปปอนแอร์เวย์ส (All Nippon Airways – ANA) สายการบินยักษ์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นำสองเชฟญี่ปุ่นชื่อดังเดินทางมาสู่ร้าน โกจิ คิทเช่น + บาร์ (Goji Kitchen + Bar) ร่วมสร้างสรรค์การเดินทางสู่ประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นอันน่าตื่นเต้น พร้อมสัมผัสการบินชั้นธุรกิจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ แขกผู้มาเยือน ณ โกจิ คิทเช่น + บาร์ ห้องอาหารนานาชาติชื่อดังของโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค จะได้เพลิดเพลินไปกับเมนูคัดสรรของต้นตำรับอาหารญี่ปุ่น จากสองเชฟชั้นนำชาวญี่ปุ่นที่จะมาเยือน ณ โรงแรมแห่งนี้ และไม่เพียงเท่านั้น! ด้วยความร่วมมือของสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ส แขกผู้มาเยือน ณ โกจิ คิทเช่น + บาร์ ยังจะมีโอกาสได้ร่วมสัมผัสความหรูหราและความสะดวกสบายของประสบการณ์การบริการบนชั้นธุรกิจจากสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ส ด้วยที่นั่งบนชั้นธุรกิจอันแสนสะดวกสบาย พร้อมอุปกรณ์ภาพและเสียงเสมือนจริงที่จัดแสดงไว้ ณ โรงแรมแห่งนี้ เพื่อพาเหล่าแขกคนพิเศษออกเดินทางเหินฟ้าสู่ก้อนเมฆ พร้อมทัวร์การบินแบบ 360 องศาอันน่าทึ่ง  อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับการเสิร์ฟอาหารว่างรับรองโดยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของออลนิปปอนแอร์เวย์ส รวมถึงของที่ระลึกจากสายการบินจำนวนจำกัดที่เตรียมมอบให้กับแขกผู้มารับประทานอาหารที่ห้องอาหารโกจิ  คิทเช่น + บาร์ ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ในช่วงเวลาพิเศษนี้ โดยสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ http://charmofjapan.com เชฟผู้รับเชิญพิเศษสองท่าน ได้แก่ เชฟมาซาชิ ทาเคมูระ (Masashi Takemura) เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่น และมาซาโนริ อูสึชิ (Masanori Utsushi) เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านขนมอบ จากโรงแรมโอซาก้า แมริออท มิยาโกะ (Osaka Marriott Miyako Hotel) พวกเขาจะนำทักษะอันน่าทึ่งมาถ่ายทอดเมนูอันเป็นต้นตำรับขนานแท้จากประเทศญี่ปุ่น ที่ โกจิ คิทเช่น + บาร์ วันที่ 28 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม 2560  กับการจัดงาน…

Read More

อาหารสเปนเป็นหนึ่งในอาหารยุโรปที่ได้รับความนิยมมาก แต่อาจไม่ได้รู้จักกันมากในหมู่คนไทยเท่าไหร่ หากใครอยากลองอาหารสเปนรสดีๆ หรือใครที่เป็นคออาหารสเปน ครั้งนี้เราขอพาไปสัมผัสประสบการณ์อาหารสเปนต้นตำรับใจกลางย่านทองหล่อ ที่ Arroz Arroz (อารอซ) ร้านอาหารสเปนใหม่ในซอยสุขุมวิท 53 ในบ้านวินเทจสุดคลาสสิค ที่ตั้งใจมอบประสบการณ์อาหารสเปนต้นตำรับ ปรุงจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ส่งตรงจากประเทศสเปน และบรรยากาศผ่อนคลายสบายๆ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอาหารอันเก่าแก่ของประเทศสเปน พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้ คอนเซ็ปต์และเมนูต้นตำรับทุกรายการของ Arroz เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของเชฟ Victor Burgos (วิคเตอร์ เบอร์กอซ) ชาวสเปนที่มีประสบการณ์กว่า 14 ปีทำงานในร้านอาหารชั้นนำในประเทศสเปนและทั่วเอเชีย เช่น El Chaflan ร้านอาหารหนึ่งดาวมิชลินที่กรุงมาดริด Ramiro’s ร้านอาหารระดับหนึ่งดาวมิชลินที่กรุง Valladolid ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเอง และ The Principal ร้านอาหารสองดาวมิชลิน ที่ฮ่องกง นอกจากนั้น เชฟ Burgos ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหารในโรงแรมหรูชั้นนำมาหมาย เช่น โรงแรม Aman ในประเทศอินเดียและมอนเตนิโกร โดยหลังจากที่อาศัยและทำงานอยู่ทั่วเอเชียเป็นเวลาถึง 9 ปี เชฟ Burgos ก็ตัดสินใจนำประสบการณ์การทำอาหารทั้งหมด บวกกับวัฒนธรรมอาหารสเปนที่เรียนรู็ตั้งแต่กำเนิด เปิดร้านอาหารแห่งแรกของเขาเองที่กรุงเทพฯ เมืองที่เขาเรียกว่าบ้านในปัจจุบัน ในชื่อว่า Arroz Executive Chef Victor Burgos Arroz ตั้งอยู่ในบ้านสไตล์วินเทลสุดคลาสสิค ถูกตกแต่งใหม่ด้วยโทนสีอบอุ่น และรายละเอียดการตกแต่งสีสันสดใจ ที่สะท้อนวัฒนธรรมอาหารและการกินดั้งเดิมของชาวสเปน ไม่ว่าจะเป็นผนังสีส้ม กระจกสี เฟอร์นิเจอร์ไม้ และสิ่งของตกแต่งที่นำเข้าจากประเทศสเปน โดยทั้งหมดจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังรับประทานอาหารอยู่บ้านเพื่อนชาวสเปนอันอบอุ่น ร้านอาหารจะแบ่งเป็นสองชั้น ตรงกลางร้านจะเป็นโถงเอเทรียมที่เจาะทะลุเป็นพื้นที่เปิดสองชั้นถึงกัน ในส่วนของอาหาร เชฟ Burgos โฟกัสที่อาหารสเปนคลาสสิคดั้งเดิม โดยเริ่มที่ Iberico cold cuts platter (lomo chorizo and salchichon iberico) and spanish cheese selection 850++ (100 กรัม) Cold Cuts สุดออริจินัลที่ส่งตรงจากประเทศสเปน ไม่ว่าจะเป็นแฮม…

Read More

เชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักสุดหรู ด้วยบริการเหนือระดับไปกับ แพ็กเกจห้องพัก     “Transformative Journey” ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ให้อยู่ภายใต้ แบรนด์ อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพร้อมให้บริการในชื่อ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล     โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล นั้นได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบและการตกแต่งมาจากสมเด็จพระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ผู้ซึ่งทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ห้า (ปี ค.ศ.1853 – ค.ศ.1910) และทรงเป็นราชปิตุจฉาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่เก้า การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ล่าสุดของโรงแรมในครั้งนี้ทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันเป็นเอกลักษณ์ของนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เพียงในแง่ของสถานที่ตั้งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงถึงจุดเด่นในแง่ของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ของเมืองหลวงแห่งนี้อีกด้วย โรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ของวังคันธวาสอันเลื่องชื่อ วังแห่งนี้เคยเป็นตำหนักที่ประทับส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ และได้เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ อะ รอยัล เมอริเดียน ตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 ต่อมาได้ดำเนินการ ปรับปรุงพื้นที่ให้บริการในทุกส่วนของโรงแรมฯ ด้วยการออกแบบและการตกแต่งใหม่เพื่อให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมการให้บริการแบบเหนือระดับภายใต้แบรนด์ อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่นตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560     เป็นต้นไป โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล จะพร้อมต้อนรับแขกที่มาเยือน เริ่มต้นจากบันไดอันสวยงามอลังการ อีกทั้งแชนเดอเลียร์ที่เผยความงดงามระยิบระยับจากเพดาน ทุกท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการตกแต่งภายในสไตล์ไทยและยุโรปที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ตราบนิจ     นิรันดร์ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ “โรงแรม ดิ แอทธินี เป็นสถานที่ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แบบจาก   การออกแบบและตกแต่งในอดีต ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมอันเป็นที่ชื่นชอบที่สุดแห่งหนึ่งในแวดวงสังคมไทย เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์หรู อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น”…

Read More

ดื่มด่ำความเป็ฯญี่ปุ่นระดับพรีเมียมไปกับรสชาติเลิศรส ซูชิปั้นใหม่ๆกินทีละคำจากมือเชฟ คุณภาพชั้นสูงจากปลาสดๆส่งตรงจากตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji Market) ทัศนียภาพกรุงเทพแบบพาโนราม่าจากซูชิบาร์ ทั้งชุดกิโมโน และจานชามดินเผาในแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ ต้นตำรับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่บนชั้นที่ 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยคุณภาพที่สม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติ ด้วยการตระเตรียมอาหารอย่างพิถีพิถันโดยหัวหน้าพ่อครัวชาวญี่ปุ่น เชฟ ชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) ความพิเศษของห้องอาหาร ยามาซาโตะนั้น สามารถสัมผัสและมองเห็นได้ในทุกๆ รายละเอียด จากลวดลายบนเพดานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจีบพับคม ๆ ของออริกามิ (การพับกระดาษแบบญี่ปุ่น) การใช้ไม้สีอุ่นตามหน้าสัมผัสต่างๆ การแต่งกายด้วยชุดกิโมโนของพนักงาน และถ้วยชามดินเผาที่ดูดีแบบเรียบง่าย ห้องอาหาร ยามาซาโตะ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับหลากหลายรายการ รวมไปถึงอาหารชุดพิเศษสำหรับมื้อค่ำ “ไคเซกิ เรียวริ” (Kaiseki Ryōri) ซึ่งเป็นการบริการอาหารญี่ปุ่นในพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และต่อมาได้พัฒนาจนเป็นหนึ่งในรูปแบบการรับประทานอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ไคเซกิ เรียวริ ถือเป็นตำนานอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงอายุเก่าแก่หลายศตวรรษที่แต่เดิมจะจัดให้มีขึ้นตามงานเลี้ยงสำคัญๆ เท่านั้น ไคเซกิประกอบด้วยอาหารที่เสิร์ฟต่อเนื่องกันหลายรายการ โดยทุก ๆ จานได้รับการปรุงและจัดวางด้วยความบรรจง และคำนึงถึงทุกสีสันและรสสัมผัส ในครั้งนี้เราขอมาไฮไลท์กันที่ซูชิครับ ซึ่งเชฟด้านซูชิของยามาซาโตะ มีเทคนิคที่เหนือชั้นและใส่ใจในทุกรายละเอียดทุกขั้นตอนทั้งการเลือก ที่เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม โดยเฉพาะปลาสด ๆ นำเข้าจากตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji Market) ในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น การเตรียม และการหั่นเนื้อปลา เพื่อให้บริการซูชิคุณภาพเยี่ยมพร้อมวาซาบิขูดสดๆ และเครื่องเคียงตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ มุมซูชิบาร์ ชม แสงสุดท้ายของวัน และในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับ ชุดอาหาร โอมากาเซะ ซูชิ おまかせ 寿司 コース Omakase Sushi Course แบบ 9 คำกันครับ โอมากะเซะ ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง “แล้วแต่เชฟ” โดยเชฟจะเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวันและฤดูกาล มาทำ “ซูชิ” แบบพอดีคำ วางบนจานให้รับประทานทีละคำ โดยในระหว่างรับประทานสามารถพูดคุยกับเชฟถึงวัตถุดิบที่โปรดปราณ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเชฟ…

Read More