วันนี้ kinlakestars.com ขอโอกาสนำเสนอข่าวดี สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอาหารดี ๆ สำหรับช่วงการกักตัวอยู่บ้านอันยาวนาน ด้วยเมนูสุดพิเศษ จากวัตถุดิบชั้นเลิศ และศิลปะการปรุงอาหารไทยประยุกต์ที่จะดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้อย่างเต็มรสชาติ จากห้องอาหารธาน (TAAN) ประจำโรงแรมบูติคสุดหรู สยามแอ็ทสยามนั่นเอง ครั้งนี้ห้องอาหารธานได้คัดเลือกเมนูสุดพิเศษ ที่ปรุงจากวัตถุดิบชั้นเลิศทั่วประเทศไทย มาจัดเป็นเมนู delivery พร้อมส่งถึงบ้าน ที่จะช่วยให้โต๊ะอาหารของ และต่อมรับรสของทุกคนได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง ซึ่งทั้งสี่เมนูนี้เป็นระดับเมนูอาหารชูโรงของห้องอาหารธานแห่งนี้ TAAH Special Delivery Menu Tapaothong Chicken (280 บาท) Organic chicken massaman curry / Vietnamese coriander Ajard / Roti ไก่ตะเภาทอง/โรตี / มัสมั่น / อาจั๊ดผักแพ้ว เริ่มต้นจากเมนูพิเศษจากเนื้อไก่ตะเภาทอง เนื้อไก่ที่เชฟประจำร้านอาหารทั่วไทยต่างแย่งชิงกันเพื่อนำมาใช้ประกอบอาหารของตนเอง ถือเป็นวัตถุดิบขึ้นโต๊ะอาหารไทยระดับ fine dining หลายแห่ง ด้วยรสชาติของเนื้อหวานนุ่ม เนียนละเอียด มาปรุงเป็นแกงมัสมั่น ให้รับประทานคู่กับอาจั๊ด เมื่อเนื้อไก่ตะเภาะทอง คลุกเคล้าแกงมัสมั่นรสชาติร้อนแรง กับ อาจั๊ดหวานอมเปรี้ยว พร้อมแป้งโรตีหอมกรุ่น เป็นจานที่จะช่วยสลายความน่าเบื่อ และ ความจืดชืดของอาหารในช่วงเวลากักตัวได้เป็นอย่างดี ———– Phupan Black Chicken (290 บาท) Royal Project organic black chicken, crab paste, bitter beans chili dip, pickled yolk, organic jasmine ข้าวหน้าไก่ดำภูพาน ผักน้ำปู๋ยอดมะพร้าวอ่อน และ น้ำพริกสะตอสดพวงไข่อ่อน เนื้อไก่ดำรสดี เมื่อชิมครั้งแรกอาจจะรู้สึกแห้งเล็กน้อย เนื่องจากเป็นเนื้อไก่ดำออร์แกนิค แต่เนื้อไก่ดำภูพานนี้เมื่อรับประทานไปเรื่อยๆ จะรู้สึกเพลินเพลิน และไม่หนักท้อง สมศักดิ์ศรีความเป็นสายพันธุ์พระราชทานที่ได้วิจัยปรับปรุงสายพันธุ์มาอย่างดี ซึ่งถูกปรุงให้เข้ากันได้ดีกับยอดมะพร้าวอ่อนเด้งสู้ฟัน พร้อมปรุงรสชาติได้กลิ่นสมุนไพรไทยสดชื่น เต็มรสอาหาร จานนี้เสิร์ฟคู่กับข้าวหอมมะลิพันธุ์ดี พร้อมน้ำพริกทำจากวัตถุดิบพิเศษไม่เหมือนใคร หากินยากอย่างพวงไข่อ่อนทำเป็นน้ำพริกสะตอ ให้ได้รสชาติมันและหอมกลมกล่อม ———– Suratthani Blue Swimmer Crab (350 บาท) Yellow curry crab…
Author: athiwat tripipitsiriwat
หากพูดถึงติ่มซำ หลายคนคงนึกถึงการกินติ่มซำกับห้องอาหารจีนสว่างๆ พลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย ในช่วงกลางวันและช่วงบ่าย แต่ทว่า ใครจะคิดถึงการกินติ่มซำในบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ภายใต้แสงจันทร์ แสงเทียน เคียงเคล้าไปด้วยเมฆสีขาว และในวันนี้ทาง กินแหลกแจกดาว – KinlakeStars.com จะพาทุกท่านมาพบกับ การกินติ่มซำ ภายใต้แสงจันทร์ แสงเทียน โอบล้อมไปด้วยเมฆขาว ตามชื่อห้องอาหาร Bai yun ซึ่งแปลว่า เมฆขาว กับทัศนียภาพกรุงเทพมหานคร อันสุดลูกหูลูกตา จรดเส้นขอบฟ้า ด้วยความสูงจากชั้นที่ 59 สำหรับห้องอาหาร ไบยุนแห่งนี้ บรรยากาศในช่วงตอนกลางวันและตอนกลางคืน ค่อนข้างจะแตกต่างกัน ให้ความรู้สึกคนละเรื่องกันเลยทีเดียว ในช่วงกลางคืนเรียกได้ว่า บรรยากาศค่อนข้างจะโรแมนติกเลยทีเดียว ด้วยการใช้โทนสีเข้ม โดยผ้าปูโต๊ะสีน้ำเงินเข้ม เก้าอี้สีดำ เพดานสีดำ พื้นสีดำ และให้แสงเป็นจุดๆ ลงตรงไปที่อาหารบนโต๊ะเป็นหลัก ทำให้แทบไม่มีแสงบาดตา หรือ ภาพสะท้อนบนกระจกและรบกวนการชมทัศนียภาพเลยทีเดียว นับว่าหาห้องอาหารจีนที่มีบรรยากาศเช่นนี้ได้ยากทีเดียว ถึงขนาดที่ว่า ผู้ร่วมโต๊ะของผู้เขียน เอ่ยปากอยากเชิญชวนคนรักมาสร้างความประทับใจเป็นมื้อพิเศษ Amuse bouce โดยก่อนจะเริ่มต้นติ่มซำ เราขอแนะนำออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกัน โดยในจานนี้ประกอบด้วย Baiyun cracker plain กับ Baiyun cracker พริกเกลือ สีสวยขาวอมเหลืองทอง สีไม่เข้มไม่อ่อนไป ไม่อมน้ำมัน อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เวลาก่อนเริ่มกินอาหารจีนเพื่อเปิดต่อมรับรสนั้นคือ เกียมฉ่าย โดย เกียมฉ่ายที่นี้ไม่ได้มีเพียงรสเค็มและเปรี้ยวแต่มีรสหวานให้น้ำลายสอ ต่อมาเรามาเริ่มเข้าสู่เมนูติ่มซำกันเลยครับ ฟองเต้าหู้ทอด Crisp Tofu Sheet, Seafood Combination แผ่นฟองเต้าหู้ที่ถูกทอดมากรอบๆ สอดไส้ด้วยเครื่องต่างๆ อาทิเช่น กุ้ง เห็ดหอม ซึ่งตัวไส้ก็ได้ถูกปรุงรสมาอย่างดี กุ้งหอยเชลล์เห็ดหอม ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้ง Steamed Shrimp Noodle Roll, X.O Sauce มาถึงอีกตัวที่หลายคนติดใจและเป็นที่นิยม ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดหนานุ่มเหนียวหนึบไม่ฉีกขาดง่าย ห่อกุ้งกรุบกรึบ โดยกุ้งขาวเกรดดีที่ปรุงรสได้เยี่ยมสัมผัสยอด รสชาติลงตัวกำลังดี เพิ่มความอูมามิให้กับเมนูนี้เป็นอย่างดีโดย ซอส xo เกรดดีคุณภาพสูง ก้ามปูม้าผงกะหรี่ Crab…
“เส้นทางสายไหม (The Silk Road)” เส้นทางการค้าอันโด่งดังในอดีต ได้เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือวัฒนธรรมการกินติ่มซำ ซึ่งเริ่มแพร่หลายในฐานะอาหารว่าง ระหว่างการเดินทางที่รับประทานคู่กับน้ำชา ในยุคสมัยแห่งการเดินทาง ด้วยรสชาติที่อร่อยโดนใจรับประทานง่าย ทำให้ติ่มซำเป็นหนึ่งในอาหารจีนที่ครองใจคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของชื่อ ห้องอาหารจีน “Silk Road” ณ The Athenee มีติ่มซำเซ็ตใหม่ที่ดีงาม สมชื่อสถานที่ต้นกำเนิดของติ่มซำ Silk Road ห้องอาหารจีนแห่งนี้ ตั้งอยู่บนชั้นสามของโรงแรม The Athenee Bangkok เคียงคู่กับร้านอาหารชั้นนำอีกหลายร้าน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ ร้านแห่งนี้เพิ่งได้รับการปรับปรุงตกแต่งใหม่ ในเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมาให้สวยงามและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยสีดำทอง ประดับด้วยฉากกั้นลวดลายที่เพ้นดู้สีทองจากปลายพู่กันสวยงาม สไตล์ Art Deco ให้บรรยากาศเรียบหรู เหมือนอยู่ในภัตตาคารหรูใจกลางเซี่ยงไฮ้ เหมาะแก่การมาลิ้มลองอาหารมื้อพิเศษ พร้อมถ่ายรูปสวยๆ ถูกใจทุกเพศทุกวัย ซึ่งนอกจากบรรยากาศจะสวยงามแล้ว ยังมีการปรับเมนูติ่มซำครั้งใหญ่อีกด้วย วันนี้ kinlakestars.com จะขอนำทุกท่านไปพบกับเมนูติ่มซำเซ็ตใหม่ ฝีมือเชฟจีนกวางตุ้ง ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานจากโรงแรมห้าดาวทั้งจากฮ่องกง มาเก๊า มาเนรมิตติ่มซำใหม่ที่สวยงาม พร้อมคอนเซปที่เข้าใจง่ายว่า ติ่มซำของ silk road นั้นต้อง “ลูกใหญ่ ทำสดใหม่ทุกวัน และ ไม่ใช้ผงชูรส” สารพัดเครื่องเคียงเรียกน้ำย่อย แน่นอน ก่อนจะเริ่มเข้าสู่มื้ออาหาร การมีอะไรเปิดเพดานรับรสในปากเรา กระตุ้นเรียกน้ำย่อยย่อมดีแน่ และที่นี้ก็มีของเรียกน้ำย่อยเล็กน้อยที่อร่อยดีไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็น ถั่ววาซาบิ กระเจี๊ยบเขียว และ หัวไชเท้าทองสูตรพิเศษ Silk Road Dim Sum ฮะเก๋าคาร์เวียร์ ฮะเก๋า คือ หนึ่งในไฮไลต์ของเมนูติ่มซำของแต่ละภัตตาคาร เป็นเมนูที่ใช้บอกฝีมือของเชฟได้เป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอน Silk Road ไม่ทำให้เราผิดหวัง ฮะเก๋ากุ้งลูกโตแป้งบาง สีขาวนวลใส ออนท๊อปด้วยคาร์เวียร์ ตัวกุ้งนุ่มเด้งปรุงรสมาอย่างดี กินคู่กับซอสจิ๊กโฉ่ว เป็นความเพลิดเพลินอย่างที่สุด ฮะเก๋าแป้งบาง…
ใครว่าซูชิต้องสด ปลาต้องสดถึงจะอร่อย วันนี้ Kimura Don Tokyo by Sushi Kimura จะมาทำให้รู้ว่าไม่จำเป็น ร้านที่เสิร์ฟเนื้อปลาและของทะเลผ่านการบ่มหมัก โดย Father of Aged Sushi ระดับ 2 ดาวจากโตเกียว หลายครั้งการกินอาหารระดับมิชลินสตาร์ อาจจะต้องใช้การจองล่วงหน้าเป็นเดือน และอาจจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปลองถึงต่างประเทศ ซึ่งร้าน “ซูชิ คิมูระ” ของเชฟโคจิ คิมูระ เป็นหนึ่งในจุดหมายของนักชิมทั่วโลก ร้านคิมูระด้ง (Kimura Don) แห่งนี้ เป็นร้านแห่งเดียวในโลกที่ได้นำเทคนิคการทำซูชิบ่มหมักอันเลื่องชื่อของเขามาทำเป็นเมนูพิเศษ ซึ่งตัวเชฟโคจิ คิมูระเอง เป็นเชฟผู้ได้รับขนามนามว่าเป็น “เจ้าพ่อวงการอาหารซูชิด้วยการบ่มหมัก” (Father of Aged Sushi) เพราะเขาเป็นผู้นำวงการอาหารซูชิด้วยการพยายามแสดงให้เห็นว่า ซูชิที่อร่อยไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่เน้นความสดใหม่เท่านั้น แต่ซูชิ ที่ได้รับการบ่มหมักอย่างเหมาะสมจนถึงเวลาที่พอเหมาะ พอดีจะสามารถดึงรสชาติที่สมบูรณ์แบบออกมาได้ดีกว่า จนได้รับมิชลินสตาร์สองดาวมาถึงห้าปีซ้อน ไปจนถึงรางวัลยอดเยี่ยมจากเวปไซต์ Tabelog ซึ่งเป็นเวปไซต์แนะแนวการกินดื่มของญี่ปุ่นระดับทอง และระดับเงินมาอย่างต่อเนื่อง หากใครอยากรู้ว่าการบ่มหมักซูชิมันเป็นการปรุงที่มีมาแต่ดั้งเดิมขนาดไหน อ่านได้ที่นี่ >>> (คลิก) เชฟโคจิ ได้นำซูชิหมักอันเลื่องชื่อของเข้ามาทำเป็นเมนูประเภท “ดงบูริ” หรือ ข้าวหน้าต่างสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การรับประทานข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของไทย และ สามารถบริหารจัดการในสาขาภายนอกประเทศได้โดยไม่เสียมาตรฐานของรสชาติ เชฟได้คิดค้นเมนูดงบูริโดยจับคู่ซูชิหมักของเขากับข้าวสูตรพิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โอโทโระ ฮามาจิ ไข่หอยเม่น ปลาแซลมอน ปลาหมึก หอยอาซาริ ปลาไหลอานาโกะ และเครื่องเคียงสูตรพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ร้านคิมูระด้ง ร้านคิมูระด้ง ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 หน้าโซน Food Passage ศูนย์การค้า สยามพารากอน ตกแต่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น แบบนั่งสบาย กินได้ในหลายโอกาส ซึ่งมีทั้งเมนูของว่างเรียกน้ำย่อย และ ตัวเอก คือ ดงบุริ นั่นเอง วันนี้…
หากท่านเป็นอีกหนึ่งนักชิมที่หลงใหลในเสน่ห์ของบรรยากาศเยาวราชยามค่ำคืน เตรียมชวนเพื่อนและครอบครัวไปได้เลย ! ทุกมื้อค่ำวันพฤหัสบดี โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ จะยกเยาวราชมาไว้ในไลน์บุฟเฟ่ต์ ที่ห้องอาหาร พระยา คิทเช่น รวมเมนูเด็ดทั้งไทยและจีนไม่ว่าจะเป็นอาหารเหลา หรือสตรีทฟู้ดแบบจีน และอาหารทะเลสด มาให้ทานแบบไม่อั้น ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม 2563 ขนมหวานไทยทมากมายหลากหลาย อร่อยละมุน เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ สารพัดของหวานมากมายที่ตกแต่งธีมเยาวราช พลาดไม่ได้กับของหวานไทยเน้นกะทิที่ไม่ใช้กะทิสำเร็จ มุมอาหารไทยก็หยิบชิมได้ทุกไอเทม อร่อยทุกอัน BBQ ย่างกันใหม่ๆร้อนๆ Phraya Kitchen Yaowarat night buffet เยาวราช แหล่งรวมของอร่อยที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อน่าจะเป็นจุดหมายในใจใครหลายๆคน แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถทานหลากหลายเมนูไทย จีนได้ในที่เดียว พระยา คิทเช่นรวบยอดจานเด็ดเยาวราชมาเสริ์ฟแบบไม่อั้นในไลน์บุฟเฟ่ต์ พร้อมอาหารทะเลสดๆและน้ำจิ้มแซ่บ Seafood Wall ทางด้าน Seafood มีอาหารทะล วัตถุดิบท้องถิ่น ให้เลือกสรรกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุ้งลายเสือ กุ้งแม่น้ำ หอยตลับ หอยหวาน หอยแมลงภู่ ก้ามกุ้งล็อบสเตอร์ ความพิเศษของห้องอาหารที่นี่คือ คุณสามารถ เลือกวัตถุดิบใส่ตะกร้า และนำไปให้เชฟปรุงเป็นเมนู A La Carte ได้ ไม่ว่าจะเป็น ทอดกระเทียม ผัดซอสผงกะหรี่ หรือ ย่างก็ได้ กุ้งแม่น้ำ กั้งกระดาน กุ้งลายเสือ ปูม้า หอยแมงภู่ หอยตลับ หอยหวาน หอยหลอดตัวโตน่าอร่อย และปลาหมึกที่มีมาให้เลือกเพื่อนำไปให้เชฟปรุงสดไม่ว่าจะเป็น ผัดผงกระหรี่ ผัดพริกไทยดำ ผัดกระเทียม หรือเผาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจี๊ด Seafood on ice อาหารญี่ปุ่น ซาชิมิ ซูชิปลาไหล ไข่หวาน ปูอัด ปลาทูน่า อาหารไทยตามสั่ง เจ๊คิท: แกงที่นี่เด็ดจริงๆครับ !!! ทั้งกะทิและพริกแกงที่โขลกกันในครัว ผัดน้ำพริกเผา ผัดกระเพรา ผัดน้ำมันหอย ข้าวยำปักใต้…
การนำอาหารฝรั่งเศสและญี่ปุ่นมาผสมผสานกัน ก็เปรียบเสมือนความปราณีตและวัตถุดิบชั้นเลิศมาเจอกันนั่นเอง วันนี้ Kinlakestars.com ขอเสนอหนึ่งใน Fine dining ที่คุณต้องไป Elements เป็นหนึ่งในห้องอาหารในโรงแรม ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนแค่นับได้ด้วยนิ้วมือเดียวเท่านั้น และห้องอาหารแห่งนี้ยังคงการันตีคุณภาพของอาหารและบริการด้วยการได้รับรางวัลติดต่อกันต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 – 2563 เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศส ซึ่งพิเศษกว่าร้านอื่น ๆ ด้วยการผสมผสานวัตถุดิบและเทคนิคการทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ลงไปทำให้ได้รสชาติความอร่อยที่แปลกใหม่ เป็นที่ชื่นชอบของทั้งแฟนอาหารฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่น ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 25 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ตกแต่งร้านด้วยสไตล์โมเดิร์นโทนสีน้ำเงิน ตัดกับสีคอปเปอร์ มีให้เลือกบริการทั้งโซน indoor ที่มีมุมโต๊ะพร้อมกระจกสูงสุดโรแมนติก หรือ outdoor ที่สามารถชมบรรยากาศยามค่ำคืนของถนนที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯได้ เมนูที่เราจะขอแนะนำครั้งนี้ชื่อว่า “Takumi” จากฝีมือของ เชฟฮันส์ ซาห์เนอร์ (Hans Zahner) เชฟได้คิดค้นเมนูที่น่าสนใจหลากหลายจากวัตถุดิบประจำฤดูกาลมาเช่นเคย จัดเป็นอาหารสองคอร์ส คือ Take 竹 (6 courses) และ Matsu 松 (7 courses) โดยมีวัตถุดิบที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น คริสตัลคาเวียร์ Kristal Caviar, กุ้งคาราบิเนอรอส Carabineros, หมูมิยาซากิ Miyazaki, เนื้อวากิว Wagyu ไปจนถึง นกพิราบฝรั่งเศส และอื่น ๆ อีกมากมาย Takumi Courses (Take 竹 and Matsu 松 ) ก่อนเริ่มคอร์สก็จะมีการเสิร์ฟ welcome drink คือ Kombucha หรือ ชาหมักบำรุงสุขภาพแบบญี่ปุ่น รสข้าวหวานพร้อมรสเปรี้ยวให้ได้ประโยชน์จาก probiotics หรือ จุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกาย Kombucha Amuse Bouche Amuse Bouche…
เมื่อคิดถึงร้านอาหารไทยดี ๆ สักแห่ง ร้านอาหารไทยในโรงแรมมักถูกมองข้ามเพราะเรามักคิดว่าร้านอาหารไทยในโรงแรมส่วนมากมักมีราคาสูงเกินคุณภาพและเน้นขายชาวต่างชาติมากกว่า แต่สำหรับ “ศิลาดล” (Celadon) ห้องอาหารไทยแห่งโรงแรมสุโขทัย (The Sukhothai Bangkok) นั้น มีอาหารไทยชั้นเลิศรอทุกท่านให้ไปลิ้มลอง สมศักดิ์ศรีกับตัวโรงแรมที่ชูความโดดเด่นของวัฒนธรรมไทยเป็นจุดขาย ภายใต้การนำของเชฟ รสริน ศรีประทุม ศิลาดล เสิร์ฟเมนูอาหารไทยชั้นเลิศหลากหลายตั้งแต่เมนูอาหารไทยต้นตำรับต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคย ไปจนถึงเมนูอาหารที่ไทยที่ผ่านการสร้างสรรค์ และ ตีความออกมาในรูปแบบ fine dining ซึ่งห้องอาหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนที่ชื่นชอบอาหารไทย แวะเวียนกลับมาสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองความโหยหาในรสชาติอาหารไทยต้นตำรับ และ ชิมเมนูใหม่ ๆ แม้แต่ชาวต่างชาติที่อยู่ต่างโรงแรมก็เลือกที่จะมารับประทานชุดอาหารไทยที่ ศิลาดล การันตีด้วยรางวัล Michelin Plate ตัวห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณสวนด้านหน้าอันเงียบสงบ ภายในตัวโรงแรมสุโขทัย ตกแต่งด้วยโทนสีขาว-น้ำตาล ไม้มะฮอกกานี ผ้าย้อมสีโทนหม่น และ ดอกบัวขาว พร้อมแสงไฟสีส้มนวลเน้นความสบายตา ร้านอาหารจะค่อนข้างเต็ม ทำให้บรรยากาศคึกคักเหมือนเรากำลังรับประทานในร้านอาหารดัง ที่ผู้คนมารวมตัวกันในจังหวัดสุโขทัย แต่ไม่วุ่นวาย และวันนี้ kinlakestars.com จะนำ tasting menu ล่าสุดของศิลาดล มาแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านครับ The New Tasting Menu เมนูใหม่ประจำต้นปีนี้ของห้องอาหารศิลาดล เชฟรสริน ได้คิดขึ้นจากคอนเซป สำนึกรักบ้านเกิด ซึ่งเชฟรสริน เห็นว่าลูกทีมของเชฟ มาจากหลากหลายจังหวัดจากทั้งสี่ภูมิภาคของประเทศไทย เลยให้แต่ละคนช่วยกินคิดเมนูที่ทำจากของดีประจำบ้านเกิดของตนเอง มาสร้างสรรค์ให้เป็นเมนูอาหารใหม่ และรวมกับเป็นคอร์สอาหารสุดพิเศษนี้ขึ้น เริ่มจาก Amuse Bouche ลูกหม่อนข้าวแต๋นสันป่าตอง Rice Cracker, Mulberry Jam เชฟนำข้าวสันป่าตอง หนึ่งในพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดของไทยมาใช้ทำเป็นข้าวแต๋น รัปประทานคู่กับแยมที่ทำจากลูกหม่อนแท้ เม็ดแตงโม มะพร้าว น้ำพริก เสิร์ฟในกล่องไม้ ตัวแยมมีรสหวานหอมเปรี้ยวเล็กน้อย และมีรสแทรกเป็นรสชาติของน้ำพริกศรีราชา ตัวแยมลูกหม่อนเข้ากันได้ดีกับความหอมของข้าวแต๋น เป็น amuse bouche แบบไทยที่ให้ความสุข และเรียกน้ำย่อยเป็นอย่างดี Welcome drink…
ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดใหม่มากมาย โดยเฉพาะในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีร้านอาหารญี่ปุ่นระดับโอมากะเสะ เปิดขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าร้านไหนก็มีคอนเซป และวัตถุดิบที่คล้ายๆกันไปหมด ต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่วันนี้ kinlakestars.com จะขอแนะนำร้านอาหารแห่งใหม่ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การกินอาหารญี่ปุ่น ที่ไม่เหมือนใคร ที่ “Kintsugi by Jeff Ramsey” แห่งโรงแรม The Athenee Bangkok ครับ Kinlakestars.com Chef Jeff Ramsey Kintsugi by Jeff Ramsey เมนูและคอนเซปของร้าน คินสุกิ (Kinstugi) แห่งนี้ได้ เซเลบริตี้เชฟ ลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-อเมริกัน คนดัง คือ เจฟ แรมซีย์ (Jeff Ramsey) ซึ่งสั่งสมประสบการณ์การทำอาหารมามากกว่า 20 ปี ได้เรียนรู้อาหารทั้งตะวันตก และตะวันออก เคยบริหารร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จจนได้ดาวมิชลินมาอย่าง Babe ที่ Malaysia ทำให้รับประกันได้ถึงความสามารถการสร้างสรรค์เมนู ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ และการดำเนินการภายในร้านอาหาร ชื่อของร้าน Kinstugi นั้นได้มากจากชื่อของศิลปะโบราณของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการซ่อมแซม ตกแต่งรอยร้าวของเครื่องเคลือบที่เกิดขึ้นด้วยสีทอง เพื่อให้เกิดลวดลายใหม่ ที่สวยงามและโดดเด่น และมีโลโก้เป็นใบแปะก๊วย โดยตัวความหมายของใบแปะก๊วยจะสื่อความหมายถึงความทนทานและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เนื่องจากต้นแปะก๊วยเป็นต้นไม้ที่มี อายุเก่าแก่ ที่สุดที่หลงเหลืออยู่หลังสงครามโลก จากตำนานของต้นแปะก๊วย 4 ต้นที่เติบโตในเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูในปี พ.ศ. 2488 ยังคงยืนหยัดอยู่จนได้จนถึงทุกวันนี้ (ซึ่งปี พ.ศ. 2488 เป็นปีเกิดของมารดาของเชฟแรมซีย์อีกด้วย) The Menu เมนูที่เสิร์ฟในร้าน Kintsugi นี้จะเป็นเมนูที่ตั้งต้นมาจากอาหารญี่ปุ่นแบบ ไคเซกิ หรือ ชุดอาหารญี่ปุ่นแบบ full course ที่เราพบตามเรียวกังหรูๆ เวลาไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นนั่นเอง โดยทั่วไปไคเซกิ อาจจะเสิร์ฟมาทีเดียวเต็มโต๊ะ หรือค่อยๆเสิร์ฟทีละจานแบบที่เราคุ้นเคยกับอาหารตะวันตกก็ได้ ในส่วนของวัตถุดิบเชฟจะทำวัตถุดิบจากภูมิภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เชฟถนัดมากเนื่องจากเติบโตที่นั่นมาใช้เป็นหลัก ผสมผสานเชื่อมวัตถุดิบในประเทศไทยบางส่วน…
ในเดือน ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมาพบว่ามีการระบาดของโรคปอดอักเสบปริศนาในเขตเมือง อู่ฮั่นประเทศจีน ที่ผ่านมาซึ่ง ขณะนี้เป็นที่ทราบกันแล้วว่าเกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสกลุ่ม โคโรน่าไวรัส ซึ่งเรียกกันในสื่อขณะนี้ว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ novel coronavirus 2019 ซึ่งสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ควรมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จากการติดตามการดำเนินโรค และ ลักษณะอาการของผู้ป่วยมาระยะหนึ่งทำให้ แพทย์เริ่มมีข้อมูลของโรคนี้มากขึ้นครับ ล่าสุดวารสารทางการแพทย์ระดับโลกนั่นคือ Lancet Journal ได้ตีพิมพ์ลักษณะ อาการของผู้ป่วย 41 รายที่ติดเชื้อปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาตัวนี้ทำให้เราได้ข้อมูลที่สำคัญหลายประการสำหรับการวินิจฉัยการติดเชื้อ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ครับ ซึ่งเราจะนำข้อมูลสรุปสำคัญจากบทความดังกล่าวมาสรุปให้ผู้อ่านทุกท่านครับ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยอยู่ที่ 41 ปีอาการพบว่ามีไข้ (>37.3 องศาเซลเซียส) 98%, ไอ 76% , ไอแบบมีเสมหะ 28% และมีอาการหอบเหนื่อยทั้งหมด 55% โดยระยะเวลาตั้งแต่เจ็บป่วยจนถึงมีอาการหอบเหนื่อย เฉลี่ยอยู่ที่ 8 วันไม่พบว่ามีอาการเจ็บคอในผู้ป่วยทั้ง 41 รายมีอาการรุนแรง 20% และ อัตราตายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 15% ทั้งๆที่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ข้อมูลการสืบจากวิเคราะห์สารพันธุกรรมพบว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่พบอยู่ในค้างคาว หรือ ตัวอีเห็น (ซึ่งตลาดอู่ฮั่นก็ขายตัวพวกนี้ !) จากข้อมูลจะเห็นว่าการดำเนินโรคของเชื้อไวรัสตัวนี้ในปัจจุบันค่อนข้างคล้าย SARS และ MERS ที่มีการระบาดในช่วงปี 2003 และ 2014 ตามลำดับ อัตราการเสียชีวิตสูงกว่า SARS (อัตราเสียชีวิต 10%) แต่ยังน้อยกว่า MERS (อัตราเสียชีวิต 30%) โดยอาการที่น่าเป็นห่วงสำหรับการติดเชื้อตัวนี้คือ อาการที่เป็นไข้ ไอ และมีหอบเหนื่อยตามมา โดยที่อาการน้ำมูกเจ็บคอไม่เด่น ซึ่ง ตรงจุดนี้จะเป็นอาการที่แยกได้กับไวรัสหวัดทั่วไปครับ เพราะ ไวรัสหวัดทั่วไปนั้น จะมีอาการไข้เพียง 2-3 วันแรก ไม่มีอาการหอบเหนื่อยตามมา และ มักมีน้ำมูกเจ็บคอเด่น เนื่องจากโรคนี้มีจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการสัมผัสเท่านั้น ดังนั้น วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การไม่เดินทางไปยังบริเวณที่มีการระบาด สถานที่ชุมชนครับ นอกจากนั้นควรมีการดูแลตัวเอง…
เมื่อพูดถึง ร้านอาหารระดับ Fine dining ในกรุงเทพฯ ขณะนี้ Sra Bua by Kiin Kiin แห่งโรงแรมสยามเคมปินสกี้ น่าจะเป็นชื่อต้นๆ ที่ทุกคนต่างนึกถึง การันตีด้วยรางวัล michelin star 1 ดาว ตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มมีการแจกรางวัลในประเทศไทย วันนี้ kinlakestars.com ได้นำอัพเดต course menu dinner ล่าสุดของร้านคือ The Winter Journey มาให้ทุกท่านชมกันครับ ซึ่งนอกจากจะอัพเดตเมนูใหม่ๆ แล้ว ตัว course menu ของ Sra bua นั้นยังปรับเวลาให้เหมาะสม และยืดหยุ่นมากขึ้น โดยใช้เวลาทั้งคอร์สอยู่ที่ 2 ชม. ครึ่ง และ รับ last order จนถึงเวลา 21.00 น. เพื่อให้สามารถต้อนรับผู้สนใจทุกท่านได้มากขึ้นครับ The Winter Journey Dinner ตัว course menu นี้ได้ออกแบบโดยเน้นเรื่องราวในฤดูหนาว (อิงตามฤดูกาลในเวลานี้ตามประเทศต้นกำเนิดของร้าน Kiin Kiin คือที่ Copenhagen, Denmark) โดยจะเป็นเมนู fine dining อาหารไทยที่มีการผสมผสานอาหารที่มีรูปลักษณ์ และสัญลักษณ์ของหิมะ ควัน เปลวไฟ ให้ความรู้สึกอบอุ่น และอิ่มเอม ด้วยเทคนิคแบบ Molecular ตาม expertise ของเชฟ เฮนริค และ เชฟ ชยวีร์ ตัว course menu ครั้งนี้จะประกอบด้วยอาหารทั้งหมด 8 courses พร้อมด้วย complimentary เป็น snack & street food เอกลักษณ์หนึ่งของร้าน Sra…