Chef : Z : 07 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A North Kinandleisure จะขอนำทุกท่านไปยังสถานที่สุดพิเศษ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ความฝัน แรงบันดาลใจ และ อาหารสุดแสนอร่อย ณ ใจกลางถนนสุขุมวิท นั่นคือ ร้านอาหารที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ North Gastronomy of Lanna The Vibes ร้าน North ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 33 ที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถให้จอดในตัวร้าน หรือจะมาทางรถไฟฟ้าเพื่อเลี่ยงรถติดในบางช่วงเวลา ลงที่ BTS พร้อมพงษ์ วันนี้ผมมาเร็วก่อนเวลานัดพอสมควร ก็สามารถแวะเดินชมสวนเบญจสิริ นั่งสักพัก ก่อนข้ามไปอีกฝั่งเพื่อไปซอย 33 และเดินเข้าไปอีกเล็กน้อยก็ถึงร้านอาหารสีเขียวสวยโดดเด่นกว่าตึกอื่น ๆ ในซอย นอกจากภายนอกที่จะมีสีเขียวสวยเด่นเย็นตา ภายในเองก็ยังใช้โทนสีเขียวเป็นสีหลักประจำร้าน ซึ่งให้ความรู้สึกสบายตา อบอุ่น อนุรักษ์ แต่ก็ให้ความหรูหราด้วยโทนสีเขียวที่เลือกมาเป็นอย่างดี ตัวร้าน North ถูกปรับมาจากบ้านไม้สักเก่าของครอบครัวพานิชพัฒน์ โดยภายในมีการตกแต่งอย่างสวยงามทั้งทางด้านโครงสร้างและจิตรกรรมภายใน มีการแสดงโครงสร้างไม้สัก ภาพวาด ภาพเขียนที่โด่งดังจากภาพเหนือของไทย และยังมีส่วนชานบ้านที่ปรับเป็นเรือนกระจกที่เพิ่มมาเพื่อเป็นร้านอาหาร ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยโคมไฟยี่เป็ง แสงไฟซ่อนจากกำแพงที่ทำให้ได้บรรยากาศสวยทุกมุมมอง ประดุจนั่งกินดื่มท่ามกลางบรรยากาศเทศกาลงานลอยโคม ทั้งจากภายนอกและภายใน ที่พิเศษอีกอย่างคือเรือนกระจกที่ต่อเติมเป็นโครงสร้างไม้กลมกลืนไปกับตัวบ้านเก่าเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ ความรักในตัวร้านอาหาร และวัฒนธรรมล้านนาอย่างแท้จริง ด้านบนของร้าน เมื่อเดินเยื้องกายขึ้นมาจะพบกับห้องส่วนตัวปลายทางและพื้นที่โถงสำหรับนั่งกินดื่ม โดยมีงานไม้เกะสลักที่สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์แห่งแผ่นดินถิ่นภาคเหมือ ภายในห้องโถงมีงานไม้แกะสลักเป็นปลาที่แหวกว่ายไปตามสายน้ำที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้่าว เมื่อเดินย้ายตัวไปทางระเบียงก็จะเห็นทัศนียภาพแสนสวยเหมือนชมบรรยากาศเทศกาลงานโคมลอยยี่เปง ด้วยร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามนี้จะทำให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ที่ดีอย่างไร้รอยต่อ โดย North ได้จัดโซนเพื่อให้เลือกรับประทานอาหารได้หลากหลาย รวมไปถึงมีห้องส่วนตัว ทำให้เป็นสถานที่ดีที่เหมาะสำหรับหลาย ๆ โอกาส The Menu สำหรับอาหารร้าน North ตามชื่อจะเสิร์ฟอาหารไทยสไตล์อาหารเหนือประยุกต์ ที่ยังคงความดั้งเดิมไว้ที่โด่งดัง…
Author: athiwat tripipitsiriwat
Chef : Gerard Villaret Horcajo : 07 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Elements Summer Menu เมนูในหน้าร้อนที่จะมาสร้างความสดชื่นและความอร่อยพร้อมเสิร์ฟให้ทุกทานไปลิ้มลองแล้วที่ Elements The Okura Prestige Bangkok ซึ่งวันนี้ kinandleisure.com จะขอนำทุกท่านไปพบกับเมนูฤดูร้อนอันแสนพิเศษนี้ครับ เพลิดเพลินไปกับสีสันของฤดูกาลอันสดใสที่เต็มไปด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับเซ็ตเมนูใหม่ ‘ซัมเมอร์ เกสท์โตรโนมิก เจอร์นี’ ณ ห้องอาหารเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ โดยเซ็ตเมนูฤดูร้อนนี้ จะเน้นย้ำถึงรสชาติของวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ถูกปรุงขึ้นอย่างประณีตมีการคัดสรรเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดของฤดูกาลเพื่อชูความเป็นฤดูร้อน พร้อมยกระดับรสชาติที่จะเคลิบเคลิ้มไปกับการเดินทางใหม่ครั้งนี้ The Vibes Elements, The Okura Prestige Bangkok เป็น ห้องอาหาร fine dining ประจำโรงแรม The Okura Prestige ที่ยังคงคุณภาพความสุดยอดต่อเนื่องการันตีด้วย รางวัลดาว Michelin star ทำให้ Elements เป็นหนึ่งในห้องอาหารในโรงแรมเพียงไม่กี่แห่ง ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกที่มีการให้ในไทยและยังได้ทุกปีต่อเนื่องจนถึงปัจจบันในกรุงเทพฯ The Menu สำหรับ Course Menu ประจำของร้านได้ถูกรังสรรค์ด้วยฝีมือของเชฟ Gerrard ผู้มากความสามารถ และ ประดับดาวมิชลิน Elements ตั้งแต่ปีแรกที่มีการให้ในประเทศไทย ซึ่งทุกฤดูกาลที่ผ่านไปอาหารของเชฟ Gerrad ได้สร้างความประทับใจมากขึ้น มากขึ้น ทำให้ความท้าทายในทุกครั้งที่เปลี่ยนฤดูกาลคือ เชฟจะทำให้ดีกว่าเดิมอย่างไร ซึ่งเราจะขอให้ทุกท่านมาร่วมพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันครับ ซึ่งในครั้งนี้ก่อนคอร์สจะเริ่มทางร้านได้เตรียม Sake Yuki no bosha จากโรงกลั่นคุณภาพในประเทศญี่ปุ่น สาเกจะใช้ sakamai ซึ่งเป็นข้าวชนิดพิเศษสำหรับการหมักสาเกโดยเฉพาะ และใช้น้ำที่ควบคุมคุณภาพอย่างดี บ่มด้วยวิธีการดั้งเดิม ตามแบบ…
Chef : Slawomir Kowalik : 07 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Bistrot De Lamer หลังจากเปิดประเทศเต็มขั้น Sindhorn Kempinski ได้สร้างเปิดห้องอาหาร และ สร้างปรากฏการณ์การบริการใหม่ ๆ หลากหลายในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารไทย Bakery Izakya หรือ Afternoon tea ซึ่งครั้งนี้ทางโรงแรมได้เนรมิตชั้น 19 ของโรงแรมเป็นห้องอาหารฝรั่งเศสสุดพิเศษ Bistrot De La Mer วันนี้ kinandleisure จะขอนำทุกท่านเดินทางไปพบกันห้องอาหารใหม่ล่าสุดนี้กันครับ ห้องอาหาร Bistrot De La Mer (บิสโทร เดอ ลา แมร์) พร้อมให้คุณสัมผัสความอร่อยของอาหารสไตล์ French Mediterranean ที่เชฟ Slawomir Kowalik เชฟประจำห้องอาหาร ผู้คร่ำหวอดในร้านอาหารชื่อดังในยุโรปหลายแห่งโรงแรมระดับ 5 ดาว และร้านอาหารมิชลินสตาร์ 2 ดาว ที่เมืองลูเซิร์น สวิตเซอร์แลนด์ ได้คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี มาปรุงเป็นอาหารเมนูโปรดสำหรับคุณ The Vibes Bistrot หรือ Bistro หมายถึงร้านอาหารเล็ก ๆ ทำให้บรรยากาศ Bistrot De La Mer ออกมาค่อนข้างเป็นกันเอง และ ครึกครื้นจากเสียงพูดคุย สนุกสนานสังสรรค์ และเสียงกระทบกันของจานชามและแก้วไวน์ แต่ space ก็ห่างพอไม่อึดอัด ภายในร้านตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมันสไตล์อิมเพรชั่นนิสหลากหลายชิ้นงานบนผืนผ้าใบแคนวาส และ interior สไตล์ French riviera ขาวน้ำเงิน หน้าต่างบานใหญ่รับแสง และ สะท้อนไฟ ทำให้มีความสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน กิมมิกและรายละเอียดบนโต๊ะอาหารเป๊ะมากสมกับแบรนด์ Kempinski นอกจากนั้นโต๊ะของร้านยังมีความพิเศษคือสามารถปรับเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมหรือโต๊ะกลมก็ได้แล้วแต่จำนวนแขกที่มาสังสรรค์ร่วมกัน…
Chef : Edward Kwon : 07 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A 7 ก.ค. – 7 ต.ค. 66 นี้เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ kinandleisur.com อยากจะพาทุกท่านไปพบกับ celebrity chef ชาวเกาหลีใต้ Edward Kwon ซึ่งเดินทางมาเปิดประสบการณ์อาหารมื้อพิเศษสำหรับเหล่าชาวไทยโดยเฉพาะในช่วงเวลาจำกัด 3 เดือน ที่โรงแรม Siam Kempinksi เชฟ Edward Kwon ได้นำทีมพิเศษจากเกาหลีใต้มารังสรรค์เมนู สไตล์ Modern Korean ผสมผสานกับ French fine dining ที่โรงแรม Siam Kempinski ตลอดสามเดือน โดยเชฟ Edward Kwon ได้ฝากฝีมือไว้ในโรงแรมหรู และ ประสบความสำเร็จในการปั้นร้านอาหารระดับทอปทั่วโลกทั้งฝั่งตะวันออกเช่น USA UAE และ Moscow นอกจากนั้นในบ้านเกิดของเขา Kwon ยังเป็นเซเลบริตี้ในวงการอาหารของเกาหลีใต้อีกด้วย ทำให้ตัว Kwon เองมีความเข้าใจว่าเหล่านักชิมต้องการอะไรอย่างท่องแท้ทีเดียว ทำให้ events ในเวลาสามเดือนนี้เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ วันนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านพบกับ 12-courses menu สุดพิเศษที่จัดเตรียมไว้ครับ The Vibes สำหรับเรื่องบรรยากาศของ popup ครั้งนี้หายห่วงด้วย บรรยากาศ Lobby สูงใหญ่โอ่โถงของ Siam Kempinski และโรงแรมได้ใช้พื้นที่ตรงข้ามร้าน Sra bua จัดสรรไว้เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับแขกทุกท่าน ซึ่งเมื่อเข้าไปก็จะพบกับแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ และ เหล่าสตาฟในชุดสไตล์เกาหลีเหมือนได้เดินทางไปรับประทานที่เกาหลีใต้ ซึ่งเมื่อจะมีพื้นที่ด้านหน้าจัดเป็นสถานที่พักผ่อนและ cooldown จิบ…
เพลิดเพลินไปกับหลากหลายเมนูไฮไลท์รสชาติกลมกล่อม อันแน่นด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบชั้นเลิศเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความสดใหม่Baiyun, Banyan tree bangkok Chef : Simon ma : 07 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ร้านอาหาร Baiyun เป็นห้องอาหารจีนอันโด่งดัง และ มีชื่อเสียงของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ ตั้งอยู่สูงเหนือตัวเมืองกรุงเทพฯ กลับมาพร้อมกับเชฟใหม่ที่พร้อมเชิญชวนให้แขกได้เริ่มต้นการเดินทางแห่งมื้ออาหารที่ยากจะลืมเลือน ด้วย concept สวรรค์แห่งการกินอาหารที่รวบรวมแก่นแท้ของอาหารกวางตุ้งในขณะที่ดูแลผู้รับประทานอาหารด้วยทัศนียภาพอันงดงามของเมืองสมชื่อ Baiyun ที่แปลว่า “เมฆสีขาว” ที่ประดับท้องฟ้าของไทย The Vibes การออกแบบร้านอาหารผสมผสานองค์ประกอบร่วมสมัยเข้ากับสัมผัสแบบจีนดั้งเดิม สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและเชิญชวน แสงไฟสลัวเน้นสีน้ำเงินขาว แต่การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์โอ่อ่าให้ความรู้สึกหรูหรา ผสมกลิ่นอายจีน ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทั้งโอกาสพิเศษเฉลิมฉลองตามแบบโต๊ะจีน หรือจะใช้เป็นสถานที่เดตรับประทานมื้อค่ำสุดโรแมนติกก็ได้เช่นเดียวกัน ออร์เดิร์ฟประจำวันตามเชฟ วันนี้เป็นยำเห็ดหูหนู รสชาติและความอร่อยของอาหารนั้นเป็นจานเรียกน้ำย่อยทำได้ดีมาก “ยำเห็ดหูหนู” นั้นมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเห็ดหูหนูจะมีความกรอบนอกและนุ่มภายใน รวมถึงรสชาติหอมจากเครื่องยำเช่นน้ำมันงาที่หอมมันเป็นเอกลักษณ์ และงาขาวที่ใส่ในสูตร ส่วนซอสของยำนั้นมีความเปรี้ยนวหวานกำลังดี ไม่เข้มข้นเกินไปแต่ก็ไม่น้อยเกินไป ทำให้รสชาติของเห็ดหูหนูและซูกินี่เติมเต็มกันอย่างลงตัว เมนูติ่มซำป๊อเปี๊ยะกุ้งทอด และ ซอสหอมหมื่นลี้ ปอเปี้ยกุ้งนั้นมีกุ้งขาวแชบ้วยเกรดเอปรุงรสอย่างลงตัว ซึ่งถูกห่อไว้ในแผ่นแป้งปอเปี้ยร รสชาติของกุ้งกินแล้วอบอุ่นใจ ผิวแป้งปอเปี้ยกรอบ และเนื้อกุ้งเด้งกรอบหวาน ส่วนที่น่าสนใจของเมนูนี้คือซอสดอกหอมหมื่นลี้ ซึ่งมาพร้อมกับปอเปี้ยกุ้ง ซอสหวาน หอมกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้อ่อนๆ และเปรี้ยว ซึ่งทำให้รสชาติมีความหวานที่น่าหลงใหลและเติมเต็มรสชาติของปอเปี้ยกุ้งอย่างลงตัว กุ้งฟองเต้าหู้ กุ้งฟองเต้าหู้คือเมนูติ่มซำอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด กุ้งขาวแชบ้วยเกรดเอแกะเปลือกปรุงรสซึ่งถูกห่อด้วยฟองเต้าหู้บางๆ เหมือนพระสนมกุ้ยเฟยในชุดแพรไหมขาวสไตล์ยุคราชวงค์ถัง สีสันสดใสและกลิ่นหอมเย้ายวน รับประทานพร้อมกับเต้าหู้ที่มีความหอมหวานนุ่มนิ่ม ซาลาเปาลาวาเผือก ซาลาเปาไส้เผือกลาวา เสิร์ฟร้อน ๆ ขนมปังสีน้ำตาลทองถูกจัดอย่างประณีตบนจาน เนื้อสัมผัสของซาลาเปากรอบด้านนอกในขณะที่ยังคงความนุ่มและฟูอยู่ด้านใน ไส้เผือกทำให้จานนี้โดดเด่นกว่าร้านอื่น ตัวไส้ลาวาที่หอมนุ่มครีมจะเติมความหวานที่น่าพึงพอใจซึ่งช่วยเสริมรสชาติโดยรวมของจาน เมื่อคุณบิซาลาเปา ความเข้มข้นและหลอมละลายของไส้เผืองสีม่วงนวลๆก็ไหลออกมาช่วยให้อยากอาหารมากขึ้น จานนี้สามารถสร้างความสมดุลที่สวยงามระหว่างติ่มซำแบบดั้งเดิมกับความคิดสร้างสรรค์สมัยใหม่ ในขณะที่รักษาแก่นแท้ของติ่มซำแบบคลาสสิก ขนมจีบกุ้ง โรยคาร์เวีย “ขนมจีบกุ้งโรยด้วยไข่ปลาคาเวียร์” อาจจะเป็นขนมจีบกุ้งที่พบได้ทั่วไปในร้านอาหารจีน fine dining ปัจจุบัน แต่ของเชฟที่ Baiyun ได้บรรจงทำอย่างละเอียดอ่อนและแป้งเกี้ยวที่บางเกือบจะโปร่งแสงถูกปรุงขึ้นอย่างมีฝีมือ แสดงให้เห็นถึงฝีมือของทีมงานทำอาหาร…
Chef : Shigeru hagiwara : 06 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A The Okura Prestige Bangkok Yamazato Teppanyaki – Sazanka Teppanyaki Sazanka เป็นชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Teppanyaki ของโรงแรมเครือ Okura ทั่วโลก เช่น Tokyo และ Amsterdam ก็ใช้ชื่อนี้เช่นเดียวกัน ซึ่ง Okura Prestige กรุงเทพก็มีให้บริการด้วยเช่น โดยอาหารจะเป็น Premium Teppanyaki (เทปันยากิ) ซึ่งเชฟจะมาทำอาหารแบบต่อหน้าลูกค้าแต่ละกลุ่ม รับประกันทั้งตัววัตถุดิบ กรรมวิธี และ การบริการอันเป็นเลิศ รับประกันผ่านชื่อ Sazanka The Ambient ตัวร้าน Sazanka จะตั้งอยู่ในส่วนของห้อง อาหาร Yamazato เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับ ชั้นโชว์วัตถุดิบสุด premium เช่น เนื้อ Satsuma ชิ้นโต อวดยั่วน้ำลายวางอยู่ ส่วนของ counter จะเน้นความเป็นส่วนตัว โดยรับได้ประมาณ 4 – 6 ที่นั่งต่อ counter พร้อมเตา Teppanyaki แบบ classics ตกแต่งแบบเรียบหรู โดยมีจุดเด่นเป็นวิวเมืองมุมสูงจากชั้น 24 ของ Okura Prestige ซึ่ง ถ่ายรูปสวยมาก ๆ The Menu: Sazanka Experience Menu สำหรับ Menu เทปันยากิ ของ…
Chef : Rossarin S : 06 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Full experience 9 dishes with wine pairing 5 glasses ตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามา ณ โรงแรมอันสวยงาม เดินผ่านสระบัว ต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงา โดยบรรยากาศแล้วช่างแสนสงบต่างกับภายนอกเสียเหลือเกิน เหมือนอยู่ๆก็ได้พบเพชรที่ถูกเจียระไนมาอย่างดี อยู่บนตัวเรือนอย่างเหมาะสม เปรียบเสมือนโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สำคัญยิ่ง อย่างย่านสาธร นั่นคือโรงแรมสุโขทัยนั่นเอง เมื่อคิดถึงร้านอาหารไทยดี ๆ สักแห่ง ร้านอาหารไทยในโรงแรมมักถูกมองข้ามเพราะเรามักคิดว่าร้านอาหารไทยในโรงแรมส่วนมากมักมีราคาสูงเกินคุณภาพและเน้นขายชาวต่างชาติมากกว่า แต่สำหรับ “ศิลาดล” (Celadon) ห้องอาหารไทยแห่งโรงแรมสุโขทัย (The Sukhothai Bangkok) นั้น มีอาหารไทยชั้นเลิศรอทุกท่านให้ไปลิ้มลอง สมศักดิ์ศรีกับตัวโรงแรมที่ชูความโดดเด่นของวัฒนธรรมไทยเป็นจุดขาย ภายใต้การนำของเชฟ รสริน ศรีประทุม ศิลาดล เสิร์ฟเมนูอาหารไทยชั้นเลิศหลากหลายตั้งแต่เมนูอาหารไทยต้นตำรับต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคย ไปจนถึงเมนูอาหารที่ไทยที่ผ่านการสร้างสรรค์ และ ตีความออกมาในรูปแบบ fine dining ซึ่งห้องอาหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนที่ชื่นชอบอาหารไทย แวะเวียนกลับมาสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองความโหยหาในรสชาติอาหารไทยต้นตำรับ และ ชิมเมนูใหม่ ๆ แม้แต่ชาวต่างชาติที่อยู่ต่างโรงแรมก็เลือกที่จะมารับประทานชุดอาหารไทยที่ ศิลาดล การันตีด้วยรางวัล Michelin Plate ห้องอาหารศิลาดล ห้องอาหารไทยระดับแนวหน้า การันตีด้วยรางวัลหลากหลายรวมถึงมิชลินไกด์ติดจ่อกันกว่า 5 ปี ยินดีนำเสนอเมนูอาหารใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติจัดจ้าน ตามตำรับไทยแท้ ชวนให้หลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์แห่งอาหารรสต้นตำรับ พร้อมบริการเมนูคาวหวานชุดใหม่ทั้งเมนูอาหารว่าง อาหารจานหลักและขนมหวานตลอดมื้อค่ำ วันนี้ Kinandleisure.com จะพามารับประทานอาหารไทยอันแสนอร่อย เทสติ้งเมนูใหม่ ณ ห้องอาหารศิลาดล ที่ตั้งอยู่ในเรือนไทยประยุกต์กลางสระบัว โดยเชฟรินผู้มากฝีมือ Welcome Drink กระชายน้ำผึ้งมะนาว สำหรับเครื่องดื่มชนิดนี้เชฟรังสรรค์นำขึ้นมาเองโดยเริ่มจากการที่นำกระชายมาแช่น้ำครึ่งทิ้งไว้หนึ่งคืนจากนั้นนำมาใส่ในกระป๋องเช็คและเขย่าผสมกับมะนาวเพื่อต้องการสื่อความรู้สึกสดชื่นขวางและได้กลิ่นของสมุนไพรไทย แม้ฤดูในประเทศไทยเรานั้นไม่ได้แบ่งเป็นสี่ฤดูเหมือนในประเทศเขตอบอุ่นและเขตหนาวอากาศของในแต่ละฤดูของประเทศไทยนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากแต่ก็ยังมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของความชื้นและอุณหภูมิในระดับหนึ่งที่พอที่จะทำให้เกิดผลผลิตทางการเกษตรที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงปี โดยในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูร้อนและฤดูฝนซึ่งทำให้เกิดผลไม้ประจำฤดูกาลมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งทุเรียนมังคุดขนุนซึ่งในครั้งนี้เชฟรสรินทร์และนำผลเม้ต่างๆเหล่านี้มาเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารที่จะให้บริการทุกท่าน โดยอาหารไทยแม้จะรสหนัก แต่รสจะไม่โดดจนเกินไป เพราะอาหารไทยแต่โบราณนานมาจะต้องรสกลมไม่โดดหนักเปรี้ยวหนักเค็มหนักหวาน โดยอาหารเซ็ทนี้เชฟรินเองก็ขุดเอาสูตรโบราณต่างๆมาประยุกต์นำเสนอให้น่าสนใจยิ่งขึ้นแต่คงแก่นของสูตรเดิมไว้ เมี่ยงมังคุดกุ้งนางย่างMANGOSTEEN, TOASTED COCONUT, PEANUT,…
Chef : Isao Shinmura : 05 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A หลีกหนีความวุ่นวายและเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณไปกับ เดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่รวบรวมไวน์คุณภาพหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150 ฉลาก มากถึง 500 ขวด ผ่านการคัดสรรของซอมเมอร์ลิเยร์ (Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำร้านชาวอิตาเลียน ที่ผ่านหลักสูตรไวน์และสั่งสมประสบการณ์ด้านไวน์กว่า 7 ปี อย่าง มร.แอนเดรีย บิสคาโร (Mr. Andrea Biscaro) และอีกหนึ่งความพิเศษเอาใจคอไวน์ ด้วยการเป็นไวน์บาร์ที่เสิร์ฟไวน์ด้วยแก้วและอุปกรณ์จาก “Riedel” ทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์แก้วและอุปกรณ์ไวน์ที่มีการออกแบบเหมาะสมกับลักษณะทางขีวภาพขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ ช่วยให้ขับรสชาติและอโรมาได้ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างดีเยี่ยม ยกระดับอรรถรสในการดื่มไวน์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ โดยชื่อของ Riddler ก็หมายถึงผู้ที่เชี่ยวชาญในกรรมวิธีในการกำจัดตะกอน (sediment) ของแชมเปญ หรือ Riddling เพื่อให้ได้รสชาติที่ perfect ที่สุด ซึ่งสะท้อนความต้องการของร้านนี้ที่จะเสิร์ฟไวน์คุณภาพสูงให้ลูกค้าผู้มาเยือน ในด้านอาหารก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ผ่านฝีมือของเชฟหลักของร้าน ดีกรีผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย เชฟอิซาโอะ ชินมูระ (Chef Isao Shinmura) ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารจากเมืองนาโกย่ามากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารยุโรป และความเชี่ยวชาญทางด้านเนื้อ (Butchery) โดยเชฟอิซาโอะได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมรังสรรค์ออกมาเป็นอาหารฟิวชั่นญี่ปุ่น – อิตาเลียน หรือที่เรียกว่า “โยโชกุ” (Yoshoku) หรืออาหารตะวันตกที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยยึดหลักการปรุงตามแบบวิถีคนญี่ปุ่น คือปรุงแต่งรสน้อย เน้นรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบจากธรรมชาติ สำหรับเมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด อาทิ ตับไก่บดทานคู่กับขนมปังกรอบ คร็อกเก้เนื้อปูและตับปลาอังกิ สปาเก็ตตี้เมนไทโกะ ปลากินดาระย่างฟางเสิร์ฟกับยูซุซอส ข้าวอบหม้อดินเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น ลิ้นวัวดรายเอจย่างฟาง รวมไปถึงเนื้อสเต็กหลากหลายส่วนที่เชฟอิซาโอะดรายเอจด้วยตัวเอง และอีกหลากหลายเมนูที่เชฟอิซาโอะคัดสรรมาแล้วว่าเข้ากับไวน์หลากชนิดได้อย่างลงตัว The Menu Chicken liver pate (260-) Chicken liver…
Chef : Makoto honazuma : 05 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A วันนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านไปแวะเวียนที่ห้องอาหาร Kisara ห้องอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสิคประจำโรงแรม Conran Bangkok ได้กลับมาจัดชุดอาหารเทปันยากินคอร์สสุดคุ้มให้ได้ลิ้มลองกันอีกครั้ง Kisara Kisara เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์ casual finedining แห่งหนึ่งที่มีแนวคิดการตกแต่งภายในที่น่าสนใจด้วยสไตล์ modern เน้นสีดำและไม้ มีของตกแต่งแบบรูปทรงเรขาคณิตที่ให้บรรยากาศแบบเรียบหรู และมีกิมมิกส่วนโค้ง รูปร่างต่าง ๆ ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจทำให้รู้สึกเพลินมากเวลาเข้ามาใช้บริการ เป็นหนึ่งในห้องอาหารญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่ามี interior ที่ให้บรรยากาศสวยหรูที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นอกจากนั้นยังมีสัดส่วนให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น sushi bar เทปันยากิ หรือ ห้องส่วนตัวก็มีให้บริการ ตัวห้องส่วนตัวเองก็มีเบาะนั่งแบบพนักพิงสูงที่ดูน่าสนใจและเป็นทางการ ทำให้ร้าน Kisara เหมาะกับการคุยธุรกิจ หรือ นัดพบสำคัญ The Menu สำหรับเมนูขึ้นชื่อของ Kisara จะเป็นเทปันยากิ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชม เทปันยากิน set Kisara ได้จัดไว้ให้เป็นแบบ full course เสิร์ฟทีละจานสไตล์ fine dining และ ala carte แนะนำครับ Tepanyaki Set สำหรับ tepanyaki set จะมีทั้งหมดห้าคอร์สตั้งแต่ amuse bouche ถึงของหวาน ในราคาเริ่มต้น 2288 ++ บาท จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 6PM เป็นต้นไปครับ เริ่มจาก crispy rice cracker ume sauce เป็นข้าวญี่ปุ่นทำเป็นขนม cracker รับประทานกับซอสบ๊วยหรือ ume ทอปบนสสาหร่าย เรียกน้ำย่อยก่อนระหว่างรอครับ…
Chef : Bruno Ferrari : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A หลังจากพักการให้บริการชั่วคราวเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ห้องอาหารโวลติ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ จะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566 ด้วยแนวคิดใหม่ “อาหารย่างในสไตล์ทัสคาน” ที่คุณพลาดไม่ได้ ห้องอาหาร “โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์” โฉมใหม่ นำเสนอความอร่อยจากเนื้อคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก นำมาปรุงในสไตล์ทัสคานแท้ด้วยการรมควันและย่างด้วยเตาถ่าน เริ่มจากเนื้อชั้นเยี่ยมอย่างเนื้อวากิวสายพันธุ์เลือดแท้ 100% (A5) ซึ่งเป็นเนื้อวากิวเกรดสูงสุดที่หายากที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเนื้อแองกัสออสเตรเลีย (MBS3+) ที่ได้รับคะแนนสูงสุดของเนื้อแองกัสจากเมืองดาร์ลิงดาวน์ รัฐควีนส์แลนด์ อีกทั้งยังเป็นเนื้อที่ได้รับรางวัลสเต็กเนื้อแองกัสที่ดีที่สุด โดยมีความโดดเด่นด้านเนื้อสัมผัสที่นุ่มและรสชาติเนื้อที่เข้มข้น อีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ได้แก่ F1 วากิว (MBS7+) ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดสำหรับเนื้อออสเตรเลียน F1 วากิว เนื้อที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมนำมาย่างบนเตาถ่านชาร์โคลที่ออกแบบโดยชาวออสเตรีย ราดด้วยไขมันวากิวหมักด้วยขิง และเสิร์ฟบนถาดเกลือหิมาลายัน เพื่อให้เนื้อสเต็กจะยังคงอุณหภูมิที่เหมาะสมไว้ในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในห้องอาหารที่มีการตกแต่งในสไตล์อิตาเลียนร่วมสมัย สุดชิคในขณะชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและสระว่ายน้ำอันแสนร่มรื่นของโรงแรมฯ พร้อมจิบหลากหลายเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ในบรรยากาศสบายๆ ของเลานจ์ และบาร์ที่ชั้น 1 และชั้น 3 ของห้องอาหาร ตื่นตาไปกับทักษะการปรุงอาหารของทีมพ่อครัวมืออาชีพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลในรสชาติของอาหารทุกจานที่ทุกท่านสามารถรับชมได้จากครัวเปิดขนาดใหญ่ที่ชั้น 2 ของห้องอาหาร ในขณะที่กำลัง อิ่มอร่อยไปกับอาหารจานโปรด ในครั้งนี้เราได้ชิมหลายๆตัวที่เชฟนำเสนอมามากพอสมควร ครบถ้วนตัวเด็ดๆ โดยเราจะแบ่งอาหารตามลำดับการกินสไตล์อิตาเลียนกันครับ มาเริ่มกันเลย !!! 1. ออเดิร์ฟ (antipasti) BEEF CARPACCIO (GF) ราคา 780Lemon, mustard, rocket leaves, pecorino cheese, black truffle, and…