Author: Nopmanee

การทำขนมไหว้พระจันทร์นั้นถือเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่าพันปี ทำขึ้นเพื่อเป็นของเส้นไหว้พระจันทร์และเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงของจีน ซึ่งเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ชาวจีนเฉลิมฉลองกันมากที่สุด ขนมไหว้พระจันทร์นั้นจะใช้มอบเป็นของขวัญเพื่ออวยพรให้ผู้รับมีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์ เนื่องในโอกาสพิเศษนี้โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ได้เตรียมขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ นำเสนอหลากหลายรสชาติยอดนิยมอย่าง ทุเรียน เม็ดบัว โหง่วยิ้ง พุทราผสมวอลนัท คัสตาร์ด และ มอคค่าคาราเมล  เป็นต้น โดยปีนี้เชฟยังได้รังสรรค์ไส้ใหม่ไม่เหมือนที่ไหนคือ ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์ อีกด้วย ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุในกล่องรูปกระต่ายสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้ กับครอบครัวและคนพิเศษ รีวิวขนมไหว้พรจันทร์ 7 รสชาติ จากโรงแรม Banyan Tree Bangkok ที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ: ไส้ทุเรียน: ไส้ทุเรียนนี้เป็นทุเรียนที่สุกสีสวยงามและหอมหวานมาก ขนมนี้มีลักษณะที่อ่านว่านุ่มและเข้มข้น รสชาติทุเรียนที่หวานและครีมมากจับต้องได้ทันที คุณจะได้รับความสุขจากความหอมหวานและความอร่อยของทุเรียนนี้ รสชาติ 4.5/5 ไส้เม็ดบัวโหง่: ขนมไหว้พรจันทร์ที่มีไส้เม็ดบัวโหง่มีรสชาติหวานอ่อนจากเม็ดบัว และความนุ่มนวลจากไข่เดี่ยว ผิวขนมบางและกรอบ รสชาติเข้มข้นของเม็ดบัวนี่ให้ความพิเศษให้กับขนม รสชาติ 4/5 พุทราผสมวอลนัท: ขนมนี้มีรสชาติหวานจากพุทราและความหอมของวอลนัท รสชาติของไข่เดี่ยวที่นุ่มนวลเพิ่มความครีมให้กับขนม ขนมไหว้พรจันทร์แบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานและโรแมนติก รสชาติ 4.5/5 คัสตาร์ด: ขนมคัสตาร์ดนี้มีรสชาติหวานอ่อนจากคัสตาร์ดและไข่เดี่ยวที่นุ่มนวล ผิวขนมบางและกรอบ รสชาติที่ไม่เป็นที่น้อยของคัสตาร์ดนี่จะเป็นทางเลือกที่เยี่ยมในการจบมื้ออาหารแบบหวาน รสชาติ 4/5 มอคค่าคาราเมล: ขนมมอคค่าคาราเมลมีรสชาติหวานจากคาราเมลและความหอมของกาแฟ รสชาติของไข่เดี่ยวที่นุ่มนวลทำให้ขนมนี้เป็นอร่อยมาก รสชาติ 4.5/5 ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์: ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์นี้มีรสชาติหวานจากช็อกโกแลตเข้้าคู่กันเป็นอย่างดี ประดุจเบลและเจ้าชายอสูร หรืออาลดินและจัสมินประมาณนั้นเลยทีเดียว และความนุ่มนวลจากไข่เดี่ยว ผิวขนมบางและนุ่ม รสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลตให้ความเยิ้มที่อร่อยมาก รสชาติ 5/5 ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของความหลากหลายและความอร่อยของขนมไหว้พรจันทร์ในรูปแบบแฟนซี ขนมไหว้พรจันทร์จาก Banyan Tree Bangkok นี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานและอร่อยมาก แน่นอนว่าคุณจะต้องชอบ วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 29 กันยายน 2566 ที่ห้องอาหารไบยุน และห้องอาหารร่มไทร กล่องเดี่ยว ราคาชิ้นละ 248 บาท แบบกล่อง 2 ชิ้น ราคากล่องละ 788 บาท แบบกล่อง 4 ชิ้น ราคากล่องละ 1,188 บาท แบบกล่อง 8…

Read More

หนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผ่านประสบการณ์การทำงานจากห้องอาหารและโรงแรมชั้นนำระดับโลกมากมาย เชฟเอ็ดเวิร์ด ควอน (Edward Kwon) พร้อมแล้วที่จะนำเสนอ ‘เอ็ดเวิร์ด ควอน อิน แบงค็อก’ (Edward Kwon in Bangkok) ห้องอาหารเกาหลีสไตล์โมเดิร์น ส่งตรงจากเมืองปูซานสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม ถึง 7 ตุลาคม 2566 นี้เท่านั้น เชฟเอ็ดเวิร์ดและทีมเชฟมืออาชีพจากห้องอาหาร ‘LAB XXIV by KUmuda’ ห้องอาหารเกาหลีร่วมสมัย ที่สืบสานวัฒนธรรมการทำอาหารแบบตะวันตกควบคู่กัน พร้อมสร้างความตื่นเต้นผ่านเซ็ตเมนูอาหารเกาหลีแบบ 12 คอร์ส รังสรรค์ผ่านกรรมวิธีการทำอาหารแบบตะวันตกชั้นสูง หากรสชาติแบบเกาหลีคลาสสิกยังคงถูกรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ห้องอาหาร LAB XXIV by KUmuda ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก จากการจัดอันดับของ ‘La Liste 2023’ จากประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในความตั้งใจของเชฟเอ็ดเวิร์ดคือการยกระดับชื่อเสียงของอาหารประจำชาติให้กว้างขวางในระดับนานาชาติ รวมถึงประเทศไทย ผ่านความรักและความเชี่ยวชาญในการทำอาหารตะวันตก โดยให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการปรุงและการตกแต่ง เพื่อให้จานอาหารทุกจานออกมาสง่างามน่ารับประทาน และให้ความรู้สึกน่าสนใจเมื่อได้รสสัมผัสของรสชาติแบบเกาหลีคลาสสิกผ่านวัตถุดิบชั้นนำคุณภาพนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้และทั่วโลก สร้างความประทับใจให้กับแขกทุกท่านราวกับการได้ชื่นชมงานศิลปะชั้นสูงผ่านจานอาหาร เริ่มต้นความน่าประทับใจนี้กับเมนูเรียกน้ำย่อย 5 รายการ เริ่มจาก ‘แซวู จัง’ (Sae Woo Jang) เมนูทาร์ตเล็ทกุ้งหมักโชยุเกาหลีกับยูซุ ตกแต่งด้วยสาหร่ายคมบุขาวกรอบ ‘พุลโกกิ’ (Bulgogi) เมนูยอดนิยมในหมู่ชาวเกาหลีใต้ ส่วนผสมหลักได้แก่ ข้าว ชีสโปรโวโลเน (Provolone) เนื้อหมักซอสถั่วเหลืองเกรดพรีเมียมอายุ 10 ปี รังสรรค์ขึ้นในรูปแบบฟริทเทอร์บอล ประดับด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำ และเมนูยอดนิยมอย่าง ‘ทัคคาลบี้’ (Dakgalbi) ผัดกับซอสโคชูจังเข้มข้น นำเสนออย่างแปลกตาในแป้งครุสตาดสไตล์ฝรั่งเศส เมนู ‘ยู-คเว’ (Yukhoe) เมนูทาร์ทาร์เนื้อวากิวปรุงแบบเกาหลี ที่มีความหมายตรงตัวว่า ‘เนื้อดิบ’ เสิร์ฟบนบริยอชและยกระดับรสชาติด้วยไข่ปลาคาเวียร์และสาลี่จากแหล่งปลูกสาลี่ชั้นยอด และปิดท้ายเมนูเรียกน้ำย่อยด้วย ‘คิมมารี’ (Gimmari) หรือปอเปี๊ยะเกาหลี ประดับด้วยเนื้อปลาโอโทโร่ กิมจิ พันด้วยสาหร่ายทะเลกรอบ และเพิ่มความประณีตของรสสัมผัสด้วยหอยเม่นทะเลนำเข้าคุณภาพดี…

Read More

แค่เนยดีทำอะไรก็อร่อย หนึ่งเดียวในไทยที่ใช้เนยที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Echire อัญมณีแห่งโลกอาหาร Bijoux de Beurre Echire Chef : Hola : 05 2023 Story : Nopmanee P. , Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Kinandleisure อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัสกับขนมฝรั่งเศสสุดพรีเมี่ยมของร้าน Bijoux de Beurre Echire ร้านขนมฝรั่งเศสย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่มีเอกลักษณ์สุดพิเศษคือการใช้เนย Echire ที่ผลิตด้วยการปั่นแบบดั้งเดิมในถังไม้และส่งตรงจากประเทศฝรั่งเศส การันตีการเป็นเนยคุณภาพสูงที่ได้รับมาตรฐานระดับ AOP มีความหอมและละมุนลิ้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนจากยี่ห้ออื่น ซึ่งทางร้านได้ใช้เนยนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างไม่มีกั๊ก ร่วมกับฝีมือการรังสรรค์ขนมระดับคุณภาพจากฝีมือของเชฟแชมป์ (Patisserie Rosie) ที่ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ขนมทุกชนิด ทุกเมนู ให้เป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง จากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ร่วมกับความใส่ใจจากทางร้านที่ต้องการมอบประสบการณ์ทางอาหารที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ทำให้ Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านขนมที่น่าตราตรึงใจและพร้อมดึงดูดทุกท่านด้วยมนต์เสน่ห์แห่งเนยและขนมหวานแห่งดินแดนน้ำหอมอันเลื่องชื่อ Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านตั้งอยู่ในโครงการ Earth Ekkamai ในซอยสุขุมวิท 63 โดยสามารถขับรถมาได้ตาม Google Map ป้ายร้านสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากป้ายหน้าโครงการ มีที่จอดรถแบบมีค่าบริการพร้อมให้บริการอย่างเหลือเฟือ หรือสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีเอกมัย ซึ่งถ้ามองจากบันไดรถไฟฟ้า เป็นระยะที่มองเห็น เดินถึงได้ไม่ไกล เมื่อเปิดประตูร้านเข้าไป สัมผัสแรกที่ท่านจะได้รับ คือกลิ่นหอมอบอวลจากเนย Echire ความละลานตาของขนมเค้กหลากหลายรูปแบบในตู้ทางด้านซ้าย และด้านหลังยังเป็นครัวเปิดที่เราสามารถมองเห็นเชฟกำลังตั้งอกตั้งใจทำขนมกันอยู่ได้เช่นกัน มีขนมอบหลากหลายรูปแบบในตู้ทางด้านขวา ขณะที่การตกแต่งภายในร้านเรียบง่ายแต่มีความพิถึพิถัน หากแฝงไว้ด้วยความ cozy สบายๆ ในโซนที่นั่งทานขนมภายในร้าน คำอุทานแรกที่ออกมาจากปากคือคำว่า “สวยมาก” มีการจัดโซนที่นั่งได้อย่างสบายตา เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง แบบที่เราสามารถนั่งเม้ากับเพื่อนได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นได้อย่างไม่มีเบื่อ จากบรรยากาศสบายๆ ของร้าน และขนมหวานคุณภาพสูงที่น่าลิ้มลองทุกเมนู จึงทำให้เป็นร้านขนมในฝัน ทั้งสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน แม่บ้าน(ญี่ปุ่น) กลุ่มเพื่อน(จะได้มาช่วยกันทาน แต่ละชิ้นใหญ่ใช่เล่น…

Read More

Chef : penny nodana : 05 2023 Story : Nopmanee P. / Photo : Pol.Capt. Kittin A วันนี้โปรดแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศแล้วตาม Kinandleisure มาร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลส์แห่งอังกฤษกันกับชุดน้ำชา British Tea Party ที่จัดขึ้น ณ โรงแรม 137 Pillars Suites & Residences Bangkok อันอยู่ใจกลางซอยพร้อมพงษ์นั่นเอง มาถึงแล้วให้เดินเข้ามาที่ Bangkok Trading Post Bistro & Bar ที่มีธงยูเนียนแจ็ก กับธงสีสันต์ต่างๆประดับอยู่กลางร้านบ่งบอกถึงบรรยากาศเฉลิมฉลองนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งร้านนี้มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่โดยรอบทั้ง 3 ด้าน ทำให้ได้รับบรรยากาศของต้นไม้ภายนอกและแสงสว่าง แสงธรรมชาติตลอดวัน ที่โต๊ะของทุกท่าน ในแต่ละที่จะมีชุดจานผูกโบว์แดงน้ำเงินวางบนกระดาษรองจานลายธงยูเนียนแจ็ค เรียกได้ว่าก็ทานกันบนธงยูเนียนแจ็คกันไปเลยสิคะ กับการ์ดเมนูของชุดน้ำชานี้วางอยู่ เราพลิกมาเลือกชากันก่อน ชาแนะนำของที่นี่จะเป็น Mangosteen Anchan Oolong สีเขียวมิ้นท์อ่อนๆ และ Longan Mornga Green ที่เป็นรสผลไม้อ่อนๆ ไม่ตีกับขนม ชานี้ผลิตโดย Monsoon Tea ที่ขึ้นชื่อในด้านการปลูกชาอย่างยั่งยืนจากทางเหนือของประเทศไทย (เลือกชาได้ 1 รส/ท่าน) ในชุดมี Welcome drink เป็น Bramble Thyme Cordial อันซาบซ่านชื่นใจจาก ไซรัปไทม์ โซดา ลูกแครนเบอร์รี่และเจ้าหมีแพดดิงตันที่แปลงกายมาในรูป Jelly bear เกาะอยู่ที่ขอบแก้ว ก่อนดื่มขอแนะนำให้คนให้เข้ากันให้ดีก่อนค่ะ Savoury & Sweet นั้นถูกเสิร์ฟมาในจาน 3 ชั้นแบบดั้งเดิมขนานแท้ เริ่มทานจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน แต่ขณะนี้สโคน Signature ของเชฟเพนนีนั้นกำลังอุ่นๆอยู่ เราจึงขอย้ายไปชิมสโคนกันก่อน สโคน Original นั้นเนื้อแน่น ความชุ่มชื้นของแป้งกำลังดี…

Read More

หลีกหนีความวุ่นวายและเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณไปกับ เดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่รวบรวมไวน์คุณภาพหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150 ฉลาก มากถึง 500 ขวด ผ่านการคัดสรรของซอมเมอร์ลิเยร์ (Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำร้านชาวอิตาเลียน ที่ผ่านหลักสูตรไวน์และสั่งสมประสบการณ์ด้านไวน์กว่า 7 ปี อย่าง มร.แอนเดรีย บิสคาโร (Mr. Andrea Biscaro) และอีกหนึ่งความพิเศษเอาใจคอไวน์ ด้วยการเป็นไวน์บาร์ที่เสิร์ฟไวน์ด้วยแก้วและอุปกรณ์จาก “Riedel” ทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์แก้วและอุปกรณ์ไวน์ที่มีการออกแบบเหมาะสมกับลักษณะทางขีวภาพขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ ช่วยให้ขับรสชาติและอโรมาได้ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างดีเยี่ยม ยกระดับอรรถรสในการดื่มไวน์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ  ในด้านอาหารก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ผ่านฝีมือของเชฟหลักของร้าน ดีกรีผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย เชฟอิซาโอะ ชินมูระ (Chef Isao Shinmura) ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารจากเมืองนาโกย่ามากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารยุโรป และความเชี่ยวชาญทางด้านเนื้อ (Butchery) โดยเชฟอิซาโอะได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมรังสรรค์ออกมาเป็นอาหารฟิวชั่นญี่ปุ่น – อิตาเลียน หรือที่เรียกว่า “โยโชกุ” (Yoshoku) หรืออาหารตะวันตกที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยยึดหลักการปรุงตามแบบวิถีคนญี่ปุ่น คือปรุงแต่งรสน้อย เน้นรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบจากธรรมชาติ สำหรับเมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด อาทิ ตับไก่บดทานคู่กับขนมปังกรอบ คร็อกเก้เนื้อปูและตับปลาอังกิ สปาเก็ตตี้เมนไทโกะ ปลากินดาระย่างฟางเสิร์ฟกับยูซุซอส ข้าวอบหม้อดินเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น ลิ้นวัวดรายเอจย่างฟาง รวมไปถึงเนื้อสเต็กหลากหลายส่วนที่เชฟอิซาโอะดรายเอจด้วยตัวเอง และอีกหลากหลายเมนูที่เชฟอิซาโอะคัดสรรมาแล้วว่าเข้ากับไวน์หลากชนิดได้อย่างลงตัว  สำหรับภายในร้านได้แบ่งออกเป็น 3 โซน ด้านหน้าของร้านจะเป็น Wine Cellar ซึ่งจัดวางแสดงไวน์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกมากมายกว่า 500 ขวด พร้อมกับตู้วางขาย โคลด์คัทส์และเนื้อสเต็กดรายเอจที่ทำโดยเชฟอิซาโอะ เชฟหลักของร้าน ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกซื้อกลับไปทานที่บ้าน โซนที่สองจะเป็นโซนของร้านอาหารที่จำลองเอาบรรยากาศของ ‘Wine Cave’ เหมือนว่าคุณกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในโรงบ่มไวน์ใต้ดิน หากต้องการโซนส่วนตัว ที่ร้านมีส่วนของโซนส่วนตัวในลักษณะของ semi-private room เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงบรรยากาศความเป็นกันเองอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีบาร์เครื่องดื่ม สำหรับลูกค้าที่ต้องการนั่งดื่มทั้งไวน์และค็อกเทล ร้านเดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00…

Read More

นางสาวปริม ปัญญาเสรีพร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกเคทีซี เมื่อชำระค่าบัตรสมาชิกรายปีโรงแรม ดิ แอทธินี คลับ “The Athenee Club” ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าทุกประเภท สมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 ดังนี้ 1 ) ส่วนลดค่าสมาชิกฯ ทันที 700 บาท (บัตรสมาชิกฯ ราคา 8,000 บาท และ 12,000 บาท) 2 ) Hotel Credit มูลค่า 1,000 บาท​ 3 ) ส่วนลดเพิ่มอีก 5% จากสิทธิ์ส่วนลดสมาชิกฯที่ 8 ห้องอาหารของโรงแรม ส่วนลดสูงสุดรวม 55% เมื่อชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า (แสดงบัตรสมาชิก ดิ แอทธินี คลับ คู่กับบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า เพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้ง) สำหรับ 8 ห้องอาหารที่เข้าร่วมรายการ ประกอบด้วย เรนทรี คาเฟ่ (Rain Tree Café) / ดิ อัลเลียม แบงค็อก (The Allium Bangkok) / เดอะ ซิลค์โร้ด (The Silk Road) / คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ (Kintsugi Bangkok…

Read More

Chef :  Somlim : 04 2023 Story : Nutthawat J.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ท่ามกลางอากาศร้อนจัด ที่ปีนี้ค่อนข้างร้อนมากเป็นพิเศษ สำหรับท่านที่กำลังสนใจหรือมองหาห้องอาหารที่เสิร์ฟชุดเมนูข้าวแช่ พร้อมอาหารไทยดั้งเดิมหรืออาหารไทยร่วมสมัย ในราคาสบายกระเป๋า ทาง JT Café ณ Jim Thompson Art Center ได้จัดเทศกาลอาหารต้อนรับซัมเมอร์ที่ตอบโจทย์การคลายร้อนสู้แสงแดดและคลื่นความร้อนอันแสนระอุ ด้วยชุดเมนูยอดฮิต “ข้าวแช่ จิม ทอมป์สัน” ที่พร้อมให้บริการท่านที่สนใจมาลองลิ้มชิมรสสำรับอาหารไทยโบราณ พร้อมเมนูอาหารไทยอื่น ๆ พร้อมเครื่องดื่มที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้ท่านได้ไปทดลองสัมผัส การเดินทาง สำหรับ JT Café ตั้งอยู่ ณ Jim Thompson Art Center บริเวณซอยเกษมสันต์ 2 สามารถเดินทางมาด้วยรถยนต์ด้วยอย่างสะดวก โดยทาง Jim Thompson Art Center ได้มีที่จอดรถพร้อมให้บริการท่านที่มาเยี่ยมชม หรือสำหรับท่านที่เดินมาด้วยระบบขนสนสาธารณะ สามารถขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เดินเข้าซอยเกษมสันต์ 2 มานิดหน่อย ก็จะถึงที่หมาย แต่เนื่องจากช่วงนี้ เป็นช่วงที่อากาศร้อนมาก จึงขอแนะนำให้นำรถยนต์ส่วนตัวมาจะดีกว่า เพราะมีที่จอดรถพร้อมให้บริการมากพอสมควร บรรยากาศ JT Café ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของ Jim Thompson Art Center โดยมีทั้งโซนที่เป็นลักษณะคาเฟ่ และส่วนที่เป็นห้องอากาศ การตกแต่งสะอาดสบายตา หรือสำหรับท่านที่สนใจรับประทานอาหารและเครื่องดื่มพร้อมชมวิวทิวทัศน์ ทาง Art Center ก็ได้จัดโซนนั่งกลางแจ้งไว้บริเวณชั้น 3 เช่นกัน ซึ่งแสงสวยเหมาะสำหรับการถ่ายรูปลงสตอรี่เป็นอย่างยิ่ง เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับท่านที่พักรับประทานอาหารหลังจากเดินทางมาเยี่ยมชม เพลิดเพลินกับอาหารไทยรสเลิศ           JT Café พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารไทยรสเด็ด ที่ผ่านการรังสรรค์และออกแบบเมนูอย่างพิถีพิถัน ในราคาสบายกระเป๋า…

Read More

สการ์เล็ต ไวน์ บาร์ แอนด์เรสเตอรองท์ ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสสิ่งที่ดีที่ดีที่สุดในสไตล์อาหารฝรั่งเศสที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศอันหลากหลายจากภูมิภาคประเทศไทยกับคอนเซปต์ Harvest To Plate ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2566 Harvest to Plate – เลือกส่วนผสมที่ดีที่สุด คัดสรรและผสมผสานรสชาติ และประกอบลงบนจานอย่างลงตัว สัมผัสประสบการณ์ความสดใหม่ของวัตถุดิบชั้นดีส่งตรงจากฟาร์ม และผักที่ปลูกในท้องถิ่นปราศจากการดัดแปลงพันธุกรรม อาหารทะเลที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและ เนื้อสัตว์ซึ่งจัดหามาจากฟาร์มอินทรีย์ถือเป็นเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น สการ์เลตพร้อมให้ทุกท่านได้ลิ้มรสความอร่อยจากธรรมชาติกันอย่างเต็มอิ่มในความแตกต่างในรสชาติของแต่ละเมนูพิเศษเหล่านี้ …………………. Risotto | 440 บาท ข้าวเชียงใหม่ หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด *ข้าวจากเชียงใหม่ Kale & Hummus Salad | 480 บาท แคล ฮัมมูสงาดำ ทับทิม มะเขือเทศหวาน ชิมิชูริ *ผักจากปทุมธานี Duck Rillette | 580 บาท เป็ดคอนฟิตเสิร์ฟคู่กับ ผักดอง *เป็ดจากเขาใหญ่ Le Coquelet de Ferme Rôti aux Herbes de Provence | 880 บาท ไก่อบสมุนไพรโพรวองซ์ มันบดทรัฟเฟิล *ไก่จากเขาใหญ่ Grouper Papillote | 890 บาท ปลาเก๋า มันฝรั่ง มะเขือเทศ มะนาว ทาร์รากอน *ปลาเก๋าจากสุราษฎร์ธานี Slow-Cooked Pork Shoulder | 890 บาท หมูออร์แกนิก แครอท มะเขือเทศหวาน โหระพา โรสแมรี่ *เนื้อหมูจากฟาร์มแกนิกในจังหวัดปทุมธานี Grilled River Prawn | 1,900 บาท กุ้งแม่น้ำย่างเสิร์มคู่กับบรอคโคลี่ย่าง *กุ้งแม่น้ำจากแม่น้ำตาปีทางภาคใต้ของประเทศไทย ตบท้ายเมนูของหวานแสนอร่อยจากวัตถุดิบประจำฤดูกาลอย่าง มะยงชิด หรือจะเป็นมูสเชอร์เบตส้มเขียวหวาน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอีกหลากหลายรอให้ทุกคนได้มาลิ้มลองจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้เท่านั้น สามารถดาวน์โหลดภาพความละเอียดสูงได้จากลิงค์นี้…

Read More

ในจำนวนร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 441 ร้าน เป็นร้านรางวัล’2 ดาวมิชลิน’ 6 ร้าน, รางวัล 1 ดาวมิชลิน’ 29 ร้าน, รางวัล ‘บิบ กูร์มองค์’ 189 ร้าน และร้านแนะนำอื่น ๆ อีก 217 ร้านㆍ ร้านใหม่มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 111 ร้าน โดย 69 ร้าน ตั้งอยู่ใน นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุบลราชธานี และ อุดรธานี ซึ่งเป็น 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ “ภาคอีสาน” ที่ มิชลิน ไกด์’ ขยายขอบเขตเข้า ดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก ㆍ จำนวนร้านได้รับรางวัล “ดาวมิชลินรักษ์โลก” เพิ่มขึ้นอีก 2 ร้าน รวมเป็น 3 ร้าน ในงานเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2566 (The MICHELIN Guide Thailand 2023) ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับที่ 6 ของประเทศไทย มิชลินได้ประกาศ รายชื่อร้านอาหารที่คว้ารางวัล ‘ดาวมิชลิน’ (MICHELIN Star), รางวัล “ดาวมิชลินรักษ์โลก” (MICHELIN Green Star), รางวัล MICHELIN Young Chef Award และรางวัล MICHELIN Service Award พร้อมทั้งรางวัลพิเศษอีก 2 รางวัลที่มอบให้เป็นปีแรก ได้แก่ รางวัล MICHELIN Opening of the Year Award และรางวัล…

Read More

ความเป็นมาของเปรโก้เปรโก้ คือตัวตนซึ่งเป็นที่รู้จักมายาวนานของชายผู้อยู่เบื้องหลัง เชฟมาร์โค บอสกาอินี (Chef Marco Boscaini) วิสัยทัศน์ของเขากลายเป็นความจริงเมื่อเขาเปิดห้องอาหารเปรโก้สาขาแรกบนเกาะสมุย ณ โรงแรมอมารี เกาะสมุย เมื่อ 19 ปีก่อน นับแต่นั้นเป็นต้นมา เปรโก้กลายเป็นแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จัก ด้วยมาตรฐานระดับโรงแรมอมารี ภายหลังความสำเร็จที่สวยงามของห้องอาหารเปรโก้ เกาะสมุย ห้องอาหารเปรโก้ แบงคอก ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายนปี 2022เปรโก้ แบงคอก นำเสนออาหารอิตาเลียนร่วมสมัย โดยมีที่นั่งทั้งโซนนอกอาคาร และโซนห้องปรับอากาศ มีบาร์และเลานจ์เครื่องดื่มครบครัน และยังมีพิซซ่าเตาถ่านแบบต้นตำรับ ด้วยเมนูสุดพิเศษที่รังสรรค์โดยเชฟมาร์โค เปรโก้เสิร์ฟทั้งอาหารอิตาเลียนเมนูโปรด พร้อมเมนูปราศจากกลูเตน และเมนูพิเศษสำหรับเด็ก เมนูที่เปรโก้หลากหลายเมนูที่มีให้เลือกสรร สะท้อนประสบการณ์ที่เชฟมาร์โคสั่งสมมาตลอดระยะเวลาหลายปี โดยมีทั้งเมนูที่เชฟโปรดปราน ตั้งแต่พาสต้าเส้นสดใหม่ ไปจนถึงพิซซ่า และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาด คือ “ริซอตโต อัลลา มอนทานารา” (Risotto Alla Montanara) ริซอตโตรสชาติเข้มข้นด้วยครีมและส่วนผสมที่ลงตัว ปิดท้ายด้วยไข่ดิบยกระดับความอร่อยอีกขั้น ความพิเศษของเมนูนนี้การันตีด้วยรางวัล ‘100 ริซอตโตที่ดีที่สุด’ (100 Best Risottos) จากหนังสือ ‘i Risotti’ โดย Gribaudo Riso Gallo ที่รวบรวมริซอตโตรสเลิศจากทั่วทุกมุมโลก อีเวนท์ที่เปรโก้พบกับชิกเคติหลากหลายเมนูทุกค่ำคืนวันพฤหัสบดีและศุกร์กับ Cicchetti Night แขกที่มาจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารทานเล่นสไตล์อิตาเลียน พร้อมจิบเครื่องดื่มเมนูโปรดเพื่อผ่อนคลายช่วงท้ายวัน นอกจากนี้ เปรโก้ แบงคอกยังจัด Social Hour ช่วงพิเศษสำหรับการสังสรรค์ทุกวันอาทิตย์ – วันพุธ เวลา 17:00 – 19:00 พร้อมโปรโมชั่น 1 แถม 1 เหมาะเป็นสถานที่พักสมองหลังจากวันอันยุ่งเหยิง การฉลองที่เปรโก้เปรโก้คือห้องอาหารที่เหมาะกับการฉลองในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อค่ำสบายๆ หรืองานอีเวนท์ ด้วยสถานที่ตั้งสะดวกสบายใจกลางเมืองและที่นั่งกว้างขวางทั้งโซนภายในและภายนอกอาคาร สามารถรองรับงานเลี้ยงส่วนตัวและการฉลองได้หลากหลายรูปแบบ เปรโก้มุ่งสร้างประสบการณ์ให้แขกของทางร้านนึกถึงเมื่อต้องการอาหารอิตาเลียนชั้นเลิศ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย พรสวรรค์และความรักในอาหารของเชฟมาร์โค คือสิ่งที่ทำให้เปรโก้ แบงคอกไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินกับอาหารมื้อต่อไปกับเรา เพราะไม่มีอะไรสานสัมพันธ์ได้ดีเท่าอาหารอีกแล้วห้องอาหารเปิดให้บริการทุกวันเวลา…

Read More