สำหรับเดือนนี้ คนที่ชอบจิบชา ทานขนม ขอแนะนำชุดน้ำชาล่าสุด Lavender Delight Afternoon tea ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ซึ่งเดินทางมาได้สะดวกมากๆเลยครับ เพียงนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่ สถานีเพลินจิต แล้วเดินทะลุเข้ามาทางอาคารปาร์คเวนเชอร์ จะมีทางเชื่อมมายังส่วนของโรงแรมฯ จากนั้นขึ้นมาชั้น 24 ของโรงแรม เดินเข้ามาในส่วนของ Up & Above Bar ได้เลยครับ จุดเด่นของที่นี่คือ จะมีกระจกใสโดยรอบ ซึ่งเขาจะจัดที่นั่งให้แขก ติดริมหน้าต่างเลย เพื่อจะได้สัมผัสกับวิวโดยรอบได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามากันหลายๆคน ก็สามารถเลือกนั่งมุมที่เป็นโซฟาได้เช่นกันครับ นอกจากพื้นที่ด้านในแล้ว ก็ยังมีส่วนด้านนอกด้วย สำหรับวันนี้ เราขอนั่งในส่วนข้างในแล้วกันครับ เห็นวิวชัดสุดๆ รู้สึกฟินไปอีก ชุดน้ำชา Lavender Delight ของเรามาแล้ว ซึ่งในส่วนของชุดน้ำชานี้ ก็สามารถสั่งเครื่องดื่ม อย่างชา หรือ กาแฟ ได้ถึงสองอย่างต่อชุดเลยด้วย ซึ่งชาของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะใช้เป็นชาฝรั่งเศสแบรนด์ดัง อย่าง Mariage Frères เชฟ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) Executive Pastry Chef ของที่นี่ ผู้สร้างสรรค์ชุดน้ำชา Lavender Delight ของปีนี้ คือ ต้องบอกก่อนว่าเท่าที่ดู ถือว่า ของหวานทำออกมาได้สีคลุมธีมมากๆ สวยดีครับ น่าทานสุดๆ วันนี้ไหนๆ ก็เป็นชุดลาเวนเดอร์แล้ว อย่างนั้นเราขอสั่งเป็น Vert Provence แล้วกัน เป็นชาเขียว ผสมกับ พวกเบอรี่ กุหลาบ และ ที่สำคัญมีดอกลาเวนเดอร์ผสมอยู่ด้วย ชุดน้ำชาของที่นี่ก็มีเอกลักษณ์ คือ จะเสิร์ฟมาเป็นกล่อง มีลิ้นชักสองข้าง อัดแน่นด้วยของหวาน ของคาว เต็มเลย มากันอีกฝั่งบ้าง งั้นเรามาเริ่มกันในลิ้นชักก่อนเลยแล้วกัน จะเป็นพวกของคาว ข้างหน้าสุดก่อน เป็นแครมบรูเล่เนื้อนุ่มๆ หอมกลิ่นไข่ รสจะออกหวานๆนิดหน่อย และ ข้างบนเป็นแอสพารากัสขาว ส่วนชิ้นตรงกลาง คือ…
Author: Kreingkrai
ห้องอาหาร VIU ตั้งอยู่ชั้นที่ 12 ของโรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางมาได้สะดวกมากๆ เลยครับ เพราะตัวโรงแรมติดกับ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ราชดำริ เลยครับ ห้องอาหารถึงจะไม่ใหญ่มาก แต่ให้ความรู้สึกโปร่ง สบาย ด้วยความที่ด้านข้างของห้องอาหารเป็นกระจกใสทั้งหมด ซึ่งเราสามารถจะเห็นวิวในมุมที่กว้างเลยทีเดียว ในห้องอาหารก็จะมีหลายมุมเลย มุมนี้จะดูเป็นส่วนตัวนิดหนึ่ง ส่วนของห้องอาหารเอง ก็มีมุม Outdoor เช่นกัน เราสามารถเห็นวิวได้ในแบบพาโนรามาเลยทีเดียว วิวดีมาก เห็นวิวเมือง และ สนามกอล์ฟสีเขียวขจี ดูรมรื่นมากๆ ทีนี้ เรามาเดินดูไลน์บุฟเฟต์กันเลย ว่าจะมีอะไรบ้าง เริ่มกันที่ Gravlax (แซลมอนที่นำมาถนอมอาหารด้วย เกลือ และ น้ำตาล บางสูตรอาจจะใช้สมุนไพรเพื่อเพิ่มกลิ่น อย่างผักชีลาว ) และก็มี Cold cuts ต่างๆ มีทั้งหมู และ ไก่ ถัดมาก็เป็น ชีสต่างๆ มีของทานคู่ อย่างผลไม้แห้ง ผลไม้สด และแครกเกอร์ ซึ่งชีสก็มีหลายตัวเลย อาทิเช่น Brie, Blue cheese เป็นต้น เขยิบมาอีกนิด ก็จะเป็นมุมญี่ปุ่น มี ซูชิ ซาชิมิ เลยจากมุมญี่ปุ่นไป ก็จะเป็น ซีฟู๊ดบนถาดน้ำแข็ง ก็จะมี กุ้งตัวโต และ หอยตลับ มาต่อกันที่มุมนี้เลย จะเป็นพวกสลัด กับ ยำต่างๆ มีหลากหลายยำให้เลือกทานเลย ไม่ว่าจะเป็น ยำสามกรอบ ยำส้มโอ ส้มตำ ลาบ สลัดที่คลุกมาให้แล้วก็มีนะครับ นอกจากสลัดที่พร้อมทานแล้ว เราก็สามารถเลือกผักสลัดต่างๆ มาทานกับ น้ำสลัดที่เตรียมไว้ก็ได้เช่นกัน มีน้ำสลัดหลายอย่างเลย มี อิตาเลี่ยนเดรซซิ่ง บัลซามิกเดรซซิ่ง เป็นต้น ข้างๆ มีซุ้มของซีซาร์สลัดด้วย อันนี้เป็น Bruschetta เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของอิตาลี ซึ่งส่วนประกอบ ก็จะมีขนมปัง…
ห้องอาหาร The Reflexions ตั้งอยู่บนโรงแรมพลาซ่า แอทธีนี ซึ่งตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนวิทยุ นี่เอง โดยเดินทางมาได้ง่ายๆ เพียงนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส มาลงที่สถานีเพลินจิต และ เดินมาทางถนนวิทยุ จากแยกเพลินจิต เดินมาไม่ไกลก็ถึงโรงแรมแล้วครับ เชฟผู้ดูแลห้องอาหารแห่งนี้ Chef Roxanne Lange เชฟสาวชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตัวเชฟเอง ได้มีประสบการณ์ในการทำงานในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายแห่ง ทั้งในเนเธอร์แลนด์ และ ในไทย อย่างล่าสุดก่อนมาประจำที่นี่ เชฟก็เป็น Chef de cuisine หรือ เชฟประจำห้องอาหาร ที่ร้าน Savelberg ร้านอาหารฝรั่งเศสของเชฟมิชลินสตาร์ Chef Henk Savelberg นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ The Reflexions ก็เพิ่งเปิดให้บริการเซ็ตอาหารกลางวัน โดยจะมีให้เลือก คือ แบบ 2 คอร์ส (อาหารเรียกน้ำย่อย + อาหารจานหลัก) และ 3 คอร์ส (อาหารเรียกน้ำย่อย + อาหารจานหลัก + ของหวาน) จะมีเมนู3ชนิดให้คุณเลือกในแต่ละคอร์ส เริ่มกันด้วยขนมปังซาวโดว์ร้อนๆ กันก่อน เสิร์ฟมากับเนยเค็ม กรอบนอกนุ่มใน มีรสเปรี้ยวนิดๆ อร่อยดี นอกจากนี้ ก็จะมี แครกเกอร์ และ ขนมปังขาไก่ ซึ่งจะมีซอสมาให้จิ้มด้วย เป็นซอสพริกหวาน แครกเกอร์กรอบๆ มีถั่วพิสตาชิโอโรยทั่วทั้งแผ่น ส่วนขนมปังขาไก่ จะกรอบร่วนๆ หน่อย มีรสเค็มๆ และมีกลิ่นหอมของขนมปัง จิ้มกับซอสรสเปรี้ยวๆ เค็มนิดๆ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของพริกหวาน นั่งทานขนมปังไปซักพัก ก็มี Amuse bouche มาเสิร์ฟ ซึ่งถูกเสิร์ฟมาอยู่ในเปลือกหอย คือ ตรงก้นฝา จะเป็นครีมหวานๆ รสนุ่มมาก มีกลิ่นผลไม้ๆ ส่วนข้างบน จะมีปลาแซลมอนหั่นเต๋า ไข่ปลา เบคอนกรอบๆ และ ไมโครกรีน คาดว่าน่าจะเป็นต้นอ่อนของผักร๊อคเกต…
วันนี้ Kinlakestars ได้มาร่วมชมการสาธิตทำอาหารจาก เชฟมิชลินชาวเดนมาร์ก อย่างเชฟเฮนริค Chef Henrik Yde Anderson ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นที่ ห้องอาหารสระบัว by Kiin Kiin แห่งโรงแรมสยามเคมปินสกี้นี่เอง บรรยากาศโดยรอบ มาทำรู้จักกับเชฟดีกว่า Chef Henrik Yde Anderson เชฟมิชลินชาวเดนิช ที่หลงใหลในอาหารไทย และ เป็นหนึ่งในเจ้าของร้านอาหารไทย ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่มีชื่อว่า ” Kiin Kiin” วันนี้เชฟมานำเสนออาหารไทยในเบบสไตล์ของเชฟเอง 2 เมนู ด้วยกัน นั่นก็คือ แกงแดงล๊อบสเตอร์ และเนื้อผัดน้ำมันหอย พอมาถึงก็จะเห็นสเตชั่นที่เชฟจะสาธิตการทำอาหารด้านใน วัตถุดิบต่างๆ สำหรับวันนี้ มาเริ่มที่จานแรกกันเลย นั่นก็คื อแกงแดงล๊อบสเตอร์ เชฟได้พูดถึงเครื่องแกงที่ใช้ ซึ่งที่ใช้วันนี้ ก็คือ เครื่องแกงพะแนง ซึ่งเชฟก็บอกถึงส่วนผสมพิเศษ ที่เชฟ จะใส่เข้าไปด้วย นั่นก็คือ นมข้มหวานทั่วๆไป เชฟบอกว่าให้ความหวานแทนน้ำตาล นอกจากนี้ยังได้ความมันจากตัวนมข้นหวานเองด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าวันนี้แกงพะแนงของเชฟไม่ธรรมดาแน่ๆ เพราะ แกงไม่ได้มาเป็นของเหลว แต่แกงจะมาในรูปแบบไอศกรีม โดยขั้นแรก เริ่มจากการผัดเครื่องแกงก่อน จากนั้นเติมกะทิลงไป และตามด้วย น้ำปลา ใบมะกรูด และ นมข้นหวาน เป็นอันเสร็จ ได้ออกมาประมาณนี้ จากนั้นนำมากรอง แกงที่เราใช้ไม่ใช่แบบนี้ เราจะนำแกงที่ได้นี้ไปใส่ในไนโตรเจนเหลว เพื่อให้แกงของเรา กลายเป็นไอศกรีมนั่นเอง จากนนั้นเราก็นำแกงที่ได้ มาใส่ในกระบอกเอสปูมา และอัดแก๊สเข้าไป เพื่อเพิ่มฟองอากาศเข้าไปภายในแกงของเรา หรือพูดง่ายๆ คือ ทำให้แกงของเรามีเนื้อที่ฟูขึ้นขณะที่เราฉีดแกงของเราลงไนโตรเจนเหลว นั่นเอง แกงที่ได้ออกมาเป็นแบบนี้ ต่อมาก็เริ่มจัดจานกันเลยครับ โดยส่วนประกอบที่เป็นพระเอกของจานนี้เลย ก็คือ กุ้งล็อบสเตอร์ที่เอาไปซูวีด ที่อุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด นอกจากนี้ก็มี ลำไย ลิ้นจี่โฟม ไอศกรีมรสแกงพะแนง ผักชี ดอกแพนซี และปิดท้ายด้วยการโรยใบมะกรูดหั่นฝอยซักเล็กน้อย สำหรับจานนี้ เป็นจานที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ในการทานแกง เพราะด้วยการที่เสิร์ฟแบบเย็น…
เดือนเมษายนนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด ซึ่งถ้าจะให้พูดถึง อาหารที่เหมาะกับช่วงนี้ ก็คงไม่พ้น ‘ข้าวแช่ ‘ แน่ๆ วันนี้เลยได้มีโอกาสมาลิ้มลอง ข้าวแช่ ในแบบฉบับของห้องอาหาร เบญจรงค์ โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเดินทางมาได้ง่ายมากๆ คือ สามารถมาได้ทั้ง รถไฟฟ้าบีทีเอส และ รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง และ สถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสีลม ร้านจะเปิดบริการ ช่วงมื้อกลางวัน เวลา 11.30 น. – 14.30 น. วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ และ มื้อเย็น เวลา 18.00 น. – 22.00 น. ทุกวัน แต่สำหรับข้าวแช่ จะมีเสิร์ฟแค่เฉพาะ มื้อกลางวัน เท่านั้น เดินเข้ามาก็พบกับจิตรกรรมฝาผนัง และ รูปปั้นต่างๆ เราเข้ามาภายในห้องอาหารกัน ห้องอาหารถูกตกแต่งให้มีความรู้สึกที่หรูหรา มีความโมเดิร์นเล็กๆ แต่ยังคงความเป็นไทย ด้วยลวดลายบนเสา ลวดลายแกะสลักของไม้ หรือ ของตกแต่งต่างๆภายใน มีมุมที่เป็นโซฟาด้วย พอมาถึงที่โต๊ะซักครู่ เขาก็มาเสิร์ฟของว่าง ซึ่งเป็น ป๊อบคอร์นรสพริกแกง เครื่องดื่มคลายร้อน สดชื่นอย่าง butterfly vergin mojito tobachala ชุดข้าวแช่ ของเรา มาแล้ว ราคาเพียงชุดละ 348 THB++ เท่านั้น ซึ่งในชุด จะประกอบด้วยเครื่องเคียงทั้งหมด 6 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ลูกกะปิ หอมแดงสอดไส้ หมูฝอยหวาน หัวไชโป้วผัดหวาน ปลาแก้ว และ พริกหยวกสอดไส้ นั่นเอง ส่วนสำคัญของข้าวแช่ นอกจากเครื่องเคียง ก็ต้องเป็น ข้าว และ น้ำลอยดอกไม้อบควันเทียน ซึ่งข้าวที่ใช้ จะเป็นข้าวเสาไห้ นำไปหุง จากนั้นนำไปนึ่งต่อ…
” กะปิเด็ด ปลายี่สนหอมน้ำตาลมะพร้าว น้ำอบกลิ่นตราตรึง ” ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ วันนี้ Kinlakestars ก็เลยขอชวนมาลิ้มลอง ‘ข้าวแช่ ‘ กัน ที่ห้องอาหาร Spice Market แห่งโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ซึ่งตัวห้องอาหารตั้งอยู่ชั้นเดียวกับล๊อบบี้ของโรงแรมฯ อยู่บริเวณปาริชาติ คอร์ท พอเดินออกจากส่วนของล๊อบบี้ ก็เลี๊ยวขวา เดินตรงมาจนสุด ก็จะพบกับห้องอาหารแล้ว เดินเข้ามาในส่วนหน้าภายในร้าน ก็จะพบกับ บุ้งกี๋หวาย ที่ถูกตกแต่งอยู่ข้างผนัง พอเราเดินผ่านส่วนหน้าเข้ามา ก็จะพบกับโต๊ะอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่ โดยบรรยากาศรอบๆ ตกแต่งให้ดูมีความย้อนยุคเล็กน้อย เคล้าคลอกับเสียงเพลงไทยเดิม คือ ทำให้รู้สึกอินกับบรรยากาศได้ไม่น้อย อีกทั้งบริเวณผนังทุกด้าน มีการจัดวางวัตถุดิบต่างๆ เสมือนยกตลาดมาไว้ภายในห้องอาหาร ซึ่งก็ตรงคอนเซปท์ของชื่อร้านที่ว่า Spice Market นั่นเอง เหล่าวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะตูม พริกแห้ง เห็ดหอม เป็นต้น ข้างๆ ก็มีไหเหล้า ตั้งโชว์ไว้ด้วย ส่วนมุมนี้ เป็นมุมของบาร์ จะมีน้ำต่างๆ ให้บริการ ซึ่งมุมนี้มีการใช้ประตูเหล็กพับมาเป็นฉากข้างหลัง นอกจากนี้ เพิ่งจะสังเกตเห็นว่า บริเวณบนเพดาน มีการตกแต่งด้วย สายไฟฟ้า บนเสาไฟฟ้าด้วย ซึ่งการตกแต่งภายในร้าน ให้ความรู้สึกว่ารายละเอียดต่างๆในร้าน มีความเก๋อยู่ในตัวดี มาพบกับ ชุดข้าวแช่ ของเรากันเลยดีกว่า คือ ทุกอย่างที่ทำ มีความพิถีพิถันอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวข้าวแช่ เครื่องกับข้าวต่างๆ หรือแม้กระทั่งผักแนม ที่ถูกแกะสลักมาอย่างสวยงาม ข้าวที่ใช้ จะเป็น ข้าวเสาไห้ โดยเชฟวรินธร เชฟประจำห้องอาหาร Spice Market มีเคล็ดลับต่างๆ เกี่ยวกับข้าวแช่ มาบอกด้วย คือ สำหรับข้าวนั้น ควรจะหุงข้าวให้เป็นตากบ จากนั้นนำไปล้างน้ำ โดยต้องล้างเบาๆ ล้างจนน้ำที่ล้างข้าวไม่ขุ่น แล้วนำไปนึ่งซักเล็กน้อย จากนั้นนำไปอบควันเทียน และ ดอกไม้ต่างๆ ข้ามคืน 1 คืน…
จริงๆ แล้วราคาเที่ยวบินและที่พักบน Traveloka นั้นเป็นราคาพิเศษที่ถูกกว่าที่อื่นๆ เพื่อให้คุณได้ท่องเที่ยวในราคาประหยัด และเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการเดินทาง เราจึงนำเสนอวิธีดีๆ เพื่อไม่ให้คุณพลาดโปรโมชั่นทั้งการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักใหม่ๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถวางแผนการเที่ยวได้ตลอด ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บริการกับ สายการบินแอร์เอเชีย นกแอร์ การบินไทย ไทยไลออนแอร์ บางกอกแอร์เวย์ และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงส่วนลดโรงแรมต่างๆ รายละเอียดส่วนลดที่พัก และสายการบินต่างๆ ในแต่ละดีลพิเศษของ Traveloka จะมีรายละเอียด ข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งเรามีส่วนลดให้ในหลายรูปแบบ เช่น คูปองส่วนลด โปรโมชั่นเที่ยวบินหรือที่พัก ที่เรารวบรวมมาให้แล้วพร้อมราคาพิเศษที่สามารถกดจองได้ทันที และโปรบัตรเครดิตซึ่งจะหักออกจากยอดชำระอัตโนมัติหลังจากกรอกรายละเอียดบัตรเสร็จสิ้น สำหรับการใช้คูปองรหัสส่วนลดในการจองเที่ยวบินและที่พักทำได้นั้น เพียงนำรหัสคูปองไปกรอกขณะยืนยันการชำระเงินในช่อง Add coupon ราคาสุทธิก็จะลดลงโดยอัตโนมัติ โปรดีๆของ Traveloka จะครอบคลุมทั้งการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักยอดนิยม ทำให้ได้คุณสามารถเที่ยวบ่อยขึ้นในราคาย่อมเยาว์ ไม่ว่าจะวางแผนล่วงหน้า หรือกระชั้นชิด เพราะโปรที่นำเสนอสามารถตอบโจทย์การเดินทางได้ทุกเวลา อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบราคา เพราะข้อเสนอสุดคุ้มที่คุณได้รับนั้นจะคุ้มค่าจริงๆ ถ้าคุณไม่อยากพลาดโปรสุดคุ้ม ติดตามข่าวสารดีลดีๆและข้อเสนอพิเศษใหม่ๆได้ทางช่องทางต่อไปนี้ หน้าเว็บโปรโมชั่น อ่านข้อมูลดีลต่างๆปัจจุบันทั้งหมดได้ที่นี่ >> คลิก<< หรือค้นหาได้ง่ายขึ้นโดยการกดเครื่องหมายถูกในช่องสี่เหลี่ยมหน้าประเภทโปรโมชั่นที่ต้องการบนแท็ปบาร์ทางซ้ายมือ แอป Traveloka เมื่อเข้าไปที่แอปพลิเคชั่น คุณสามารถกดที่คำว่า ‘Ongoing promo’ บนหน้าแรกของแอพเพื่อดูดีลราคาถูกปัจจุบันทั้งหมด และอย่าลืมตั้งค่าการแจ้งเตือน เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ สมัครรับจดหมายข่าว (Newsletter) หรือถ้าหากใครที่ต้องการให้เราแจ้งเตือนโปรโมชั่นอัตโนมัติ ก็สามารถกรอกที่อยู่อีเมลของคุณบนหน้าสมัครรับจดหมายข่าว เพื่อรับข่าวสารส่วนลดและดีลพิเศษมากมายได้จากทางอีเมล 4) ติดตามโปรโมชั่นจากทาง Facebook Page และ Line@ อีกหนึ่งช่องทางการติดตามที่สะดวก และง่ายที่สุด ก็คือการไปกด Like แฟนเพจเฟสบุ๊คของ Traveloka ตามลิ้งค์นี้ >> https://www.facebook.com/TravelokaTH ซึ่งนอกจากคุณจะได้รับการอัพเดตโค้ดโปรโมชั่นต่างๆ แล้ว ก็ยังมีสาระความรู้ และบทความดีๆ ให้ติดตามอ่านอีกด้วย หรือถ้าหากใครชอบเล่น Line ก็สามารถแอด Traveloka เป็นเพื่อน เพื่อติดตามข่าวสาร และโปรโมชั่นต่างๆ ได้ >ที่นี่<…
แนะนำอาหารกินง่ายๆ ออแกนิก และไวน์สำหรับฤดูร้อนกับบัตรในราคาเพียง 500 บาทกับไวน์ธรรมชาติ วันนี้เรามากันที่ร้าน ‘ About Eatery ‘ ร้านอาหารแนวอิตาเลี่ยน และ เมดิเตอเรเนียน ย่านอโศก ตั้งอยู่ ชั้น G ของตึก Ocean Tower II ซึ่งวันนี้ทีม Kinlakestars ได้มาร่วมชิม Natural Wine สำหรับงานนี้ Bangkok Natural Wine Festival ซึ่งงานนี้จัดขึ้น เพื่อรวมพลคนรักไวน์ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องไวน์ รวมไปถึงทำความรู้จัก ผู้ผลิต และ ผู้นำเข้า อีกด้วย โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน ที่กำลังจะถึงนี้นี่เอง เวลา 11.00 น. – 19.00 น. วันเดียวเท่านั้น บัตรสำหรับงานนี้ ใบละ 500 บาท จะสามารถลิ้มลองไวน์หลากหลายกว่า 50 ชนิด และ สามารถสั่งอาหาร เครื่องดื่มได้ในราคาพิเศษ เดินเข้ามาในร้านส่วนแรกจะเป็นมุมที่นั่งสบายๆ แบบนี้ครับ จากนั้นเราก็เดินผ่านเข้ามาอีกประตูเข้ามา ผ่านประตูเข้ามาก็พบกับชั้นวางเหล้าต่างๆ ส่วนทางขวาของเราก็พบกับเคาน์เตอร์บาร์ยาว ในส่วนของเคาน์เตอร์บาร์ ก็มีชื่อร้าน และ ชั้นวางที่เต็มไปด้วยเบียร์หลากหลายชนิด มีเบียร์สดเสิร์ฟด้วย เขยิบมาอีกหน่อยก็มีพวกวัตถุดิบต่างๆ บรรยากาศร้านข้างในก็ตกแต่งสีไปทางเอิร์ธโทน มีหลากหลายมุมให้นั่งกันเลยทีเดียว นอกจากที่เป็นโต๊ะๆแล้ว ก็ยังมีโต๊ะที่ล้อมรอบครัวอยู่ ซึ่งครัวเป็นแบบครัวเปิด เราจะสามารถมองเห็น ขณะที่เชฟกำลังปรุงอาหารอยู่ได้ ผนังข้างๆ ทั้งสองฝั่งก็เป็นชั้นสำหรับวางไวน์ต่างๆ ไว้เต็มไปหมดเลย บนผนังด้านบนมีกระดานดำขนาดใหญ่ แนะนำเหล้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ วิสกี้ เตกิล่า เป็นต้น มาถึงเราก็ได้ Welcome Drink มาเป็น Sparkling Brut Nature Cava, Parés Baltà – NV…
สารพัดการแสดง และอาหารปรุงสดๆ ชมลีลาต่อหน้า และสินค้ามากมาย พร้อมทัศนียภาพริมน้ำ ที่งดงามสุดๆ ‘Thursday Thai Night Market’ ดินเนอร์อาหารไทย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ศาลาทิพย์ วันนี้ Kinlakestars จะพาทุกท่านไปพบกับร้านอาหารไทยริมน้ำที่มีทัศนียภาพที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเจ้าพระยากันครับ ศาลาทิพย์ ร้านอาหารไทยรสฝรั่งกินได้ คนไทยชอบ การปรุงด้วยรสแบบดั้งเดิมผสานกับการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ ตั้งอยู่ชั้นล่างของ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ อยู่ท่ามกลางสวน จะพบกับศาลาเรือนไทยไม้สักทองตั้งตระหง่านอยู่ ทุกเย็นวันพฤหัสฯ ตั้งแต่เวลา 18.30 น. ถึง 22.30 น. ที่ศาลาทิพย์ จะมีดินเนอร์อาหารไทย ซึ่งจะจัดเป็นธีมตลาดริมแม่น้ำมาให้แขกได้ตื่นตาตื่นใจกับอาหารไทยปรุงสดต่อหน้าที่ศาลาทิพย์ ทั้งอาหาร ขนมหวาน รวมไปถึงมีผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษให้เลือกซื้อ จากซุ้มสินค้าพื้นบ้านต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามแนวทางเข้าห้องอาหารฯ เช่น สบู่โฮมเมด ผ้าทอไทย กระเป๋าผ้าไทย ผลิตภัณฑ์สปาออร์แกนิกจากภูมิปัญญาไทย เครื่องประดับเงิน เป็นต้น เข้ามาก็จะเจอกับโอ่งใส่น้ำ ต้อนรับอยู่ศาลาด้านหน้า เราเข้าไปดูบรรยากาศข้างในกันเลยดีกว่า ต้องบอกเลยว่า บรรยากาศดีมาก คือเราสามารถมองเห็นวิวสวยๆ โดยรอบทั่วแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นเรือสัญจรกันไปมา โดยโต๊ะอาหารจะมีทั้งอยู่ในตัวศาลาเรือนไทย และ อยู่บริเวณโดยรอบของศาลา พอกลางคืน ก็ให้ความรู้สึกสวยไปอีกแบบ เห็นไฟจากเรือ และ อาคารต่างๆ โรแมนติกดีมากๆ เยี่ยมชมบริเวณโดยรอบแล้ว เราไปดูในตลาดกันบ้างดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง ไล่มาจากซุ้มข้างหน้าสุดเลยแล้วกัน คือ ชาชัก กายอ มีคนมาแสดงการชงชาสดๆ ที่เป็นเอกลักษณ์แบบฉบับของชาชักด้วยครับ ชาชักสไตล์ทางใต้ ตื่นเต้น สนุกสนานไปกับ ลีลาการชงชา ชาไทย กลิ่นหอมๆ รสชาติชาเข้มข้น หวานกำลังดี ข้ามมาฝั่งตรงกันข้าม เป็นซุ้มส้มตำ ข้าวเหนียว สำหรับทานคู่กับส้มตำ มีพี่สาว มาตำส้มตำให้ กันครกต่อครกเลยครับ อยากได้รสชาติแบบไหนบอกได้เลยครับ ถัดมามีซุ้มผักพื้นบ้านไทยๆ เล็กๆ อยู่ข้างๆ ข้างๆ ซุ้มผัก ก็เป็น ซุ้มของว่างไทยๆ อย่าง สาคูไส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ และ…
มาร่วมเรียนรู้ ครบเครื่อง เรื่อง เครื่องแกง จากบรรดาเชฟผู้ได้รับรางวัล Asia’s 50 Restaurant 2017 ที่พร้อมใจกันบินมาจากหลากหลายประเทศ ทั้ง อินโด อินเดีย ไทย ฯลฯ พร้อมเรียนรู้การปรุงอาหารไทยแท้ๆ จาก เชฟ โบ วันนี้ Kinlakestars ได้รับเกียรติเชิญมางาน Asia’s 50 Best Restaurant 2017 ที่ศาลาริมน้ำ โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล และจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้างไปชมกันเลยคับ พอมาถึง เราก็มาที่จุดลงทะเบียนกันก่อนเลย โดยวันนี้มีการโชว์ทำอาหารแบบสดๆ จากเชฟที่เคยได้รับรางวัล 3 ท่าน ได้แก่ Chef May Chow (Asia’s Best Female Chef 2017) จาก ร้าน Little Bao Chef Bo Songvisava (Asia’s Best Female Chef 2013) จาก ร้าน Bo.Lan Chef Manish Mehrotra (Chef from Indian Accent, Best Restaurant in India 2016) จาก ร้าน Indian Accent ซึ่งตอนลงทะเบียน เขาก็จะให้เราเลือกว่าต้องการไปร่วมกับเชฟท่านไหน รอบนี้เราตัดสินใจ เลือก เชฟโบ เนื่องจากส่วนตัวไม่เคยทำอาหารไทยแบบไทยแท้ๆ เลย เลยอยากขอลองดู มองหันหลังกลับมา ก็จะเห็นบริเวณจุดข้ามเรือ ซึ่งแขกก็เริ่มทยอยมากันเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยนั่งเรือข้ามมาจากฝั่ง โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล ฝั่งเจริญกรุง ส่วนบริเวณสนามหญ้าด้านหน้า เขาก็มีจัดซุ้มอาหาร เล็กๆน้อยๆ ไว้ให้บริการกัน เราลองมาดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรกันบ้าง เริ่มจากซุ้มแรกเลย เป็น…