Story : Natthanai C. Boom / Photo : Pol.Capt. Kittin A Sun 🌟 7 Culinary Wonders – สุดยอดเมนูมหัศจรรย์ ที่พร้อมเสิร์ฟแบบจัดเต็ม! “วันนี้ Kin and Leisure ขอพาทุกท่านมาเปิดประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ระดับพรีเมียม ที่ไม่ได้มีดีแค่ความอลังการของสถานที่ แต่ยังจัดเต็มด้วยรสชาติละเมียดละไมแบบห้าดาว ณ ห้องอาหารจตุจักร คาเฟ่ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เชฟจะรังสรรค์ความอร่อยและเสิร์ฟอาหารแบบสดใหม่จานต่อจาน และรวมความอร่อยระดับพรีเมียมไว้มากกว่า 100+ เมนู ที่นี่ที่เดียว! ในราคาสุดคุ้มเพียง 1,290++ บาท / ต่อท่าน (รวมเครื่องดื่มไม่อั้น) โอ๊ยคุณ! นี่มันไม่ใช่แค่บุฟเฟ่ต์ธรรมดา แต่เป็น มหกรรมความอร่อย ที่ยกเมนูซิกเนเจอร์จากทุกห้องอาหารของโรงแรมมารวมไว้ให้เลือกสรรกันแบบไม่ต้องเกรงใจรอบเอว! ไม่ว่าคุณจะเป็นสายซีฟู้ดที่คลั่งไคล้กุ้งลายเสือ หอยนางรมตัวโต ๆ หรือชอบเนื้อพรีเมียมย่างสุกกำลังดีหอมฉุยจากครัวตะวันตก หรือถ้าใครหลงรักรสชาติตะวันออก ที่นี่ก็มีทั้งอาหารไทยต้นตำรับและซูชิซาชิมิสุดสดใหม่จากเชฟมากฝีมือ บรรยากาศภายในห้องอาหารก็ไม่ธรรมดา เพราะออกแบบมาให้หรูหราสบายตา แต่ก็ยังอบอุ่นเป็นกันเอง จะมานั่งชิล ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศ หรือมากับครอบครัวแบบพร้อมหน้า ที่นี่ก็ตอบโจทย์ได้หมด บริการก็ดี๊ดี ดูแลทุกระดับประทับใจ พนักงานเดินเสิร์ฟอาหารอย่างคล่องแคล่ว ออร่าโรงแรมห้าดาวจับแบบไม่ต้องสืบ ถ้าพร้อมแล้ว ล้างท้องแล้วตามมาลุยกันเถอะ! มื้อนี้รับรองว่าไม่มีคำว่าผิดหวัง!” 🌟 เมนูไฮไลต์พิเศษ!!! อลังเว่อร์วัง ฟินจนตัวลอย!!! 🌟 🤩✨ 3 จานนี้คือที่สุดของที่สุด!!! อาหารระดับชิมาโกนุราร่า!!! ใครได้กินมีสิทธิ์หลุดไปอีกมิติ ฟินจนลืมวันลืมคืน!!! 🔥🔥🔥 🦞 1. ล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ – กุ้งล้น ๆ ครีมเยิ้ม ๆ หอมมันทะลุฟ้า!!! โอ๊ยยยย ตาย ๆ ๆ อะไรจะอลังการขนาดนี้คะคุณณณ!! 🦞💥 ล็อบสเตอร์ตัวโต๊โต เนื้อเด้ง! สีแดงสวยฉ่ำ บอกเลยว่านี่มันคือความเลิศแห่งโลกนี้ที่แท้ทรู!!! 😍 💛 ไส้ครีมซอสสุดปัง…
Author: Natthanai Chunpleng
Story : Natthanai C.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Sukhothai Spa, The Sukhothai Bangkok สวรรค์แห่งความผ่อนคลายที่ผสมผสานศิลปะไทยและความหรูหราอย่างลงตัว สุโขทัย สปา แห่งใหม่ ตั้งอยู่ด้านข้างของโรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ ได้สร้างมาตรฐานใหม่แห่งการพักผ่อน ด้วยการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมเข้ากับความหรูหราทันสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ สุโขทัยสปา: สถาปัตยกรรมไทยในบริบทแห่งการพักผ่อนที่ผสมผสานความดั้งเดิมและสมัยใหม่ สุโขทัยสปาเป็นตัวอย่างอันงดงามของการฟื้นฟูสถาปัตยกรรมไทยในบริบทที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน โดยแนวคิดการออกแบบได้ดึงเอาคุณค่าและความงามของสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมมาประยุกต์ใช้อย่างละเอียดลออ ผ่านการจัดวางผังอาคาร การเลือกใช้วัสดุ การตกแต่ง รวมถึงการใช้สัญลักษณ์เชิงวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ไทยในทุกมิติ แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมไทยในสุโขทัยสปา 1. การวางผังอาคารแบบเรือนไทยหมู่สุโขทัยสปาใช้แนวคิดการจัดวางผังอาคารที่ล้อมรอบพื้นที่ว่างกลาง (Courtyard) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิม การล้อมรอบพื้นที่ว่างกลาง: ได้แรงบันดาลใจจากการจัดวางเรือนหมู่ในเรือนไทยแบบประเพณี โดยพื้นที่ตรงกลางเปรียบเสมือน “ลาน” ที่เป็นหัวใจของกิจกรรมทางสังคมและครอบครัว องค์ประกอบกลางลาน: น้ำพุพร้อมประติมากรรมเปลือกหอยลายไทย เป็นการผสานงานศิลปะไทยเข้ากับการออกแบบภูมิสถาปัตย์ เพื่อสะท้อนถึงความเป็นไทยและเสริมความสดชื่นให้พื้นที่ 2. การประยุกต์ใช้แนวคิด “ใต้ถุนสูง”เรือนไทยดั้งเดิมมีใต้ถุนสูงเพื่อรับลมเย็น ลดความชื้น และป้องกันน้ำท่วม ในสุโขทัยสปา ใต้ถุนโล่งเดิมถูกปรับเป็นพื้นที่ใช้งานโดยใช้โครงสร้างก่ออิฐถือปูน แต่ยังคงรักษาแนวคิดการใช้ลมธรรมชาติร่วมกับระบบปรับอากาศสมัยใหม่ เสายกพื้นที่ใช้ในโครงสร้างปูนยังคงมีอัตราส่วนความสูงที่สะท้อนความสง่างามแบบไทย 3. การใช้วัสดุธรรมชาติวัสดุไม้เนื้อแข็งจากเรือนไทยเก่าถูกนำมาใช้อย่างโดดเด่น การขัดเงาไม้เก่าทำให้เกิดความงามที่แฝงด้วยประวัติศาสตร์ ลายฉลุไม้ ฝาปะกน และจั่วหลังคาถูกนำกลับมาใช้โดยคงรายละเอียดดั้งเดิม เพื่อรักษาเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมไทย การออกแบบพื้นที่ชั้นล่าง ชั้นล่างของสุโขทัยสปาได้รับการออกแบบใหม่ให้ตอบโจทย์การใช้งานปัจจุบัน โดยยังยึดหลักการออกแบบแบบไทย 1. โถงต้อนรับและพื้นที่พักคอย การออกแบบเน้นความโปร่งโล่งและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ด้วยหน้าต่างบานเปิดกว้างที่ล้อมรอบด้วยพรรณไม้ไทย โต๊ะต้อนรับและเฟอร์นิเจอร์ใช้ไม้แกะสลักลายไทยที่สอดแทรกความร่วมสมัย เช่น การใช้เบาะสีเขียวใบบัว พื้นปูด้วยกระเบื้องลายไทยโบราณที่สั่งทำพิเศษ 2. พื้นที่ขายสินค้า ใช้แนวคิด “ตลาดในเรือนไทย” โดยจัดพื้นที่เป็นชั้นวางผลิตภัณฑ์ การตกแต่งเน้นลวดลายที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ไทย บ่อน้ำด้านบนสะท้อนลงไปถึงทางเข้าด้านล่างเพราะก้นของบ่อน้ำเป็นกระจกใสแล้วก็เป็นเพดานของทางเข้าชั้นแรกโดยเพดานจะมีการยื่นฝ้าทำรอบๆเป็นกรอบทรงย่อ 12 มุมไม้ การออกแบบพื้นที่ชั้นสอง: การฟื้นฟูเรือนไทยดั้งเดิม ชั้นสองของสุโขทัยสปาเป็นส่วนที่สะท้อนสถาปัตยกรรมไทยแบบดั้งเดิมได้อย่างสมบูรณ์ โดยเรือนไทยไม้แท้ถูกนำมาประกอบใหม่ตามหลักการดั้งเดิม 1. การจัดวางเรือนไทยหมู่ การจัดวางเรือนแต่ละหลังเชื่อมต่อด้วยชานและทางเดินไม้ ตามแบบฉบับเรือนไทยที่สร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ ชานและระเบียงยังช่วยให้ลมพัดผ่านได้สะดวก ทำให้พื้นที่เย็นสบายแม้ในฤดูร้อน 2. การตกแต่งภายใน ภายในแต่ละห้องยังคงฝาปะกน ลายฉลุไม้ และโครงสร้างเพดานแบบไทยดั้งเดิม สีเขียวใบบัวถูกนำมาใช้ในองค์ประกอบต่างๆ เช่น ผ้าม่าน หมอน…
Chef : ชฟชัชษร ประทุมมา เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ : 11 2024 Story : Natthanai C.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A “สัมผัสประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์กับมื้อค่ำสุดพิเศษ Six-Hand Dinner ที่ เฟลอริช ห้องอาหารระดับมิชลิน บิบ กูร์มองด์ ร่วมกับ แก่น ร้านอาหารอีสานรสเลิศระดับมิชลิน เพลท มอบประสบการณ์การลิ้มลองเมนูอาหารไทยร่วมสมัย 7 คอร์สสุดสร้างสรรค์ โดย 3 เชฟชื่อดังที่ผสานศาสตร์แห่งรสชาติอย่างลงตัว” ไม่ว่าจะเป็น เชฟชัชษร ประทุมมา เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสงที่สร้างสีสันเมนูอาหารอีสานในรสชาติที่กลมกล่อม ในรูปแบบ Fine dining ก็ยังลงตัว ว่าแล้วเราไปพบกับอาหารอีสานลีลาเด็ด กับ 7 เมนูพิเศษกันเลยครับ Dream Team Dream Dinner ลาบหมูหลุมโนนศิลาLaab Nonsila Deep Pit Bedding System Pork การเลี้ยงสมัยดั้งเดิม ตัวหมูหลุมที่เป็นการเลี้ยง ในรูปแบบธรรมชาติ นำมาทำเป็นหมูแบบเข้าถึงง่ายรูปแบบลาบหมู ไส้ภายเป็นไข่นกกระทามีความฉ่ำนุ่มภายใน รองด้วยหมี่กรอบที่จัดเรียง แบบรังนก และ โรยด้วยผงปรุง ที่มีรสชาติออกเปรี้ยวเค็มเผ็ดแบบลาบอีสาน สำหรับเมนูนี้คงความรู้สึกของรสลาบ อาหารอีสานสุดนิยม พี่ยังโดดเด่นด้วยสไตล์ แต่รสชาติ กลมกล่อม ไม่มีรสชาติโดด หรือเผ็ดร้อนจนเกินไป คงรักษารูปแบบของความเป็น fine dining ไว้ได้เป็นอย่างดีโดยแท้ สำหรับวิธีการรับประทานทางเชฟแนะนำให้ทานแบบเปิบ โดยใช้มือ ในการหยิบรับประทานเลย แต่อย่าลืมเช็ดมือก่อนนะครับ ทอดมันปูกูผาม่านสอดไสCrab Cake Phuphamarn Kani Paste ทอดมันปูกูผาม่านสอดไส้ เป็นการผสานรสชาติและวัฒนธรรมการกินที่น่าสนใจ โดยเชฟได้นำปูในช่วงฤดูหนาวที่รสชาติหวานมันสมบูรณ์มาสร้างสรรค์เมนูนี้ โดยเนื้อปูและมันปูถูกนำมาทำเป็นซอสเข้มข้นที่มีความหอมของเครื่องเทศ เนื้อสัมผัสของทอดมันปูมีความกรอบด้านนอก แต่ด้านในยังคงความนุ่มและฉ่ำของเนื้อปูที่เข้ากันได้ดีกับซอสคลุกเคล้าเครื่องเทศ…
Chef : L : 11 2024 Story : Natthanai C.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A the Riddle JAPANESE GASTRONOMIC DINING & WINE BAR วันนี้ Kin and Leisure จะพาทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์ fine dining พี่ไม่จำเป็นต้องไปถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่อยู่ในพื้นที่ที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย เดินทางสะดวก อยู่ใจกลางเมือง กับร้าน Riddler ในซอยร่วมฤดี ถนนเพลินจิต ที่วันนี้รูปแบบการนำเสนอ เมนูอาหารสุดพิเศษ ด้วยวัตถุดิบชั้นดี ภาษากลิ่นอายความเป็นยุโรปและญี่ปุ่นเข้ากันแบบไม่น่าเชื่อ ด้วย The Riddler Tasting Course ซึ่งภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเองและนั่งสบายนี้ เชฟได้สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษไว้ให้กับทุกท่านเราไปดูกันเลยครับ หลีกหนีความวุ่นวายและเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณไปกับ เดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่รวบรวมไวน์คุณภาพหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150 ฉลาก มากถึง 500 ขวด ผ่านการคัดสรรของซอมเมอร์ลิเยร์ (Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำร้านชาวอิตาเลียน ที่ผ่านหลักสูตรไวน์และสั่งสมประสบการณ์ด้านไวน์ และอีกหนึ่งความพิเศษเอาใจคอไวน์ ด้วยการเป็นไวน์บาร์ที่เสิร์ฟไวน์ด้วยแก้วและอุปกรณ์จาก “Riedel” ทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์แก้วและอุปกรณ์ไวน์ที่มีการออกแบบเหมาะสมกับลักษณะทางขีวภาพขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ ช่วยให้ขับรสชาติและอโรมาได้ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างดีเยี่ยม ยกระดับอรรถรสในการดื่มไวน์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ โดยชื่อของ Riddler ก็หมายถึงผู้ที่เชี่ยวชาญในกรรมวิธีในการกำจัดตะกอน (sediment) ของแชมเปญ หรือ Riddling เพื่อให้ได้รสชาติที่ perfect ที่สุด ซึ่งสะท้อนความต้องการของร้านนี้ที่จะเสิร์ฟไวน์คุณภาพสูงให้ลูกค้าผู้มาเยือน ก่อนจะเริ่มต้นอาหาร เจ้าหน้าที่บริการจะเข็นรถเข็นที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบพรีเมียมแสนล้ำค่าสำหรับการปรุงออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคือวัตถุดิบที่ใช้สำหรับปรุงแต่ละจานแต่ละเมนูของเราในค่ำนนี้ โดยบนรถเข็นที่เท่าที่เข็นนั้นจะประกอบไปด้วย แบลคทรัฟเฟิลจากอิตาลี อูนิสายพันธุ์บาฟุน คาร์เวียร์ออเซสตร้าจากปลาสเตอเจียน กุ้งหวานจากอาเจนติน่า หอยนารมมุราซากิจากญี่ปุ่น และอีกสารพัดของดีทั้งจากทั่วโลกและในไทยที่นำมารวมไว้ให้คุณในมื้อเดียว UNI TOASTBafun Uni|Homemade Aged Beef Tartare…
วันนี้เราจะพาทุกท่านดื่มด่ำไปกับการสัมผัสรสชาติอาหารอินเดียระดับพรีเมียมที่ห้องอาหาร NILA ณ โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ ซึ่งได้ผสมผสานฝีมือการทำอาหารของเชฟชื่อดังสองท่าน ที่ต่างเป็นผู้ชนะจากรายการ Iron Chef Thailand มาอย่างไร้ที่ติ เริ่มต้นด้วยเชฟ Bharath ผู้คว้าชัยชนะจาก Iron Chef Thailand ปี 2017 ซึ่งเป็นทั้งเชฟใหญ่ที่ห้องอาหาร NILA กรุงเทพฯ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุด เขาสามารถนำเสนออาหารอินเดียชายฝั่งที่หายากและแท้จริงสู่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างลงตัวในทุกจาน อีกหนึ่งเชฟที่ร่วมรังสรรค์ในคอร์ส 4-Hand Dinner คือเชฟ Saurabh Sachdeva ผู้ชนะจากการแข่งขัน Iron Chef Thailand และเชฟใหญ่จาก TAMBU ภูเก็ต ด้วยศิลปะและทักษะในการทำอาหารที่โดดเด่น ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในด้านการประกอบอาหารอินเดียที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เมนูที่เขาสร้างสรรค์ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค Mughal ของอินเดีย ที่ทั้งสดใหม่และคงความดั้งเดิมไว้อย่างน่าประทับใจ ที่ห้องอาหาร NILA โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การลิ้มรสอาหารอินเดียระดับพรีเมียม ที่รวบรวมเทคนิคการทำอาหารดั้งเดิมและแรงบันดาลใจจากยุคสำคัญในประวัติศาสตร์อินเดีย นำเสนอโดยเชฟผู้มีความสามารถทั้งสองท่าน เชฟ Bharath และเชฟ Saurabh Sachdeva ซึ่งต่างเป็นผู้ชนะจากการแข่งขัน Iron Chef Thailand มาอย่างไร้ที่ติ การรังสรรค์อาหารในคอร์ส 4-Hand Dinner นี้ไม่เพียงแต่เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารอินเดียโบราณเข้ากับวิธีการทำอาหารสมัยใหม่ แต่ยังเป็นการนำเสนอเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังอาหารแต่ละจานอย่างละเอียดและน่าหลงใหล Amuse Bouche เปิดประสบการณ์ด้วยแป้งอินเดียที่ปรุงสุกเป็นรูปทรงนึกถึงขนมครกญี่ปุ่น เคล้ากับถั่วและเครื่องเทศ พร้อมด้วยซอสบีทรูทที่สร้างสัมผัสความสดชื่นและเย็นสบายในคำแรก อาหารคำเล็กๆ ที่เรียกว่า “Amuse Bouche” ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ทำให้ปากสนุก” มักเสิร์ฟก่อนอาหารหลักเพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร สำหรับเมนูนี้ เชฟ Bharath ได้นำเทคนิคการทำขนมครกจากญี่ปุ่นมาผสมผสานกับขนมขบเคี้ยวแบบอินเดีย เช่น “Pani Puri” ขนมปังกลวงที่กรอบและไส้ในเครื่องเทศ ส่วนบีทรูทที่ใช้ในซอสเป็นการนำเข้าจากภูมิภาค Punjab ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการปลูกผักผลไม้ที่คุณภาพสูง Phal Dhokla เนื้อเค้กนุ่มบางพร้อมครีมและผลไม้ ที่นำผลไม้มาในครีมได้อย่างลงตัว เป็นคำที่ดับความเผ็ดร้อนและเตรียมความพร้อมสำหรับคำต่อไปอย่างนุ่มนวล “Dhokla” เป็นอาหารว่างจากรัฐ Gujarat ซึ่งมีความเป็นที่นิยมในวัฒนธรรมอาหารอินเดีย ด้วยเนื้อเค้กที่ทำจากแป้งถั่วชิกพี และนิสัยการทานอาหารว่างระหว่างวันของชาว…
ในกรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตที่หลากหลาย มีสถานที่หนึ่งที่นำเสนอประสบการณ์อันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ในการจิบชายามบ่ายต้นตำหรับอังกฤษแท้ๆ นั่นก็คือ Iconic Café Wolseley ณ Anantara Siam Bangkok ซึ่งเป็นสถานที่ที่สามารถพาทุกคนเดินทางข้ามทวีปไปยังลอนดอน ผ่านการจิบชาสไตล์อังกฤษแท้ๆ ที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ชุดชายามบ่ายที่นี่ไม่เพียงแต่มีความหลากหลายในรสชาติ แต่ยังสะท้อนถึงความสง่างามและประณีตในทุกๆ รายละเอียดของอาหาร ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและพบปะสังสรรค์ในบรรยากาศที่หรูหราและเป็นกันเอง The Wolseley เจ้าของตำรับ เรื่องราวความเป็นมาตั้งแต่ปี 1921 จากลอนดอน ดึงความพิถีพิถันและใส่ใจรายละเอียด แบบต้นตำรับจากแบบอังกฤษ ประสานเข้ากับการนำเสนอความเป็นไทย ได้อย่างเรียบง่าย ผ่านลวดลายของ ผ้ากันเปื้อนและผืนรองจาน ซึ่งหลังจากที่เราเดินเข้ามาถึงล็อบบี้ของโรงแรมซึ่งในช่วงนี้ตกแต่งด้วยเป็นนายความเป็นไทยและใบไม้แห้งสีทอง ดึงเข้ากับความหรูหราของชุดน้ำชายามบ่ายและลายผ้าจึงเป็นความประสานกันระหว่างหรือไงของตะวันตกและความเป็นไทยตั้งแต่เราเดินเข้ามาถึง เราไปเริ่มที่บรรยากาศการดื่มชากันเลยครับ พนักงานต้อนรับเราอย่างอบอุ่นหลังจากที่เราจัดชุดน้ำชายามบ่าย โดยชุดน้ำชานี้ มีให้เลือกอยู่หลายตัวมากมายตั้งแต่แบบมาตรฐานจนถึงแบบที่ปรุงมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ในครั้งนี้บนรถชงชาที่นำมาเสิร์ฟมีให้เลือกอยู่ 3 ตัว จาก Mariage Frères Teas ครับนั่นคือ Lune Rouge, Eléphant Blanc และ Temple de l’Aube โดยวันนี้เราเลือก 2 ตัวแรกครับLune Rouge ชาเขียวรสนุ่ม ประสานเข้ากับกลิ่นกุหลาบ ที่มีไอติมหอมอวนตั้งแต่สัมผัสแรกเข้าไปในปาก เผื่อด้วยส่วนผสมของขิงซึ่งดีต่อสุขภาพแต่ไม่ได้ส่งกลิ่นตัดความหอมละมุนของตัวชาแต่อย่างใด ตลาดรถกลมกล่อมนี้ออกมาได้เป็นชาตัวเริ่มต้นของชุดน้ำชายยามบ่ายได้อย่างดี Eléphant Blanc ชาดำที่ผสานกลิ่นผลไม้ตามฤดูกาลและกลิ่นดอกไม้ที่ดื่มแล้วให้ความหอมละมุน เป็นชาที่ทางเราเลือกเกือบทุกครั้งที่ได้มีโอกาสจิบชา ที่นี่ครับ สำหรับเซตอาหารว่าง มาในรูปแบบ Tower แบบคลาสสิคของอังกฤษ ดูผ่านๆเหมือนไม่ได้มีการตกแต่งอะไรวุ่นวายหรือมาเป็นชุดขนาดใหญ่ แต่ในแต่ละชั้นและจานที่จัดนั้นอัดแน่นไปด้วยขนม คาวหวาน และสักคนแบบเขาเรียกว่ามีอิ่มกันเลยทีเดียวครับ เรามาเริ่มกันที่แซนด์วิชกันเลย ไม่มีให้เลือกทั้งหมด 5 ตัวครับ การสัมผัสประสบการณ์ชายามบ่ายแบบลอนดอนแท้ๆ ที่ Iconic Café Wolseley ณ Anantara Siam Bangkok นับเป็นการผจญภัยทางรสชาติที่สมบูรณ์แบบ ชุดชายามบ่ายของที่นี่นำเสนอความหลากหลายและคุณภาพสูงสุดด้วยเมนูที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีเพื่อสร้างความประทับใจให้กับทุกๆ ท่าน Assorted Finger Sandwiches Smoked Salmon: แซนด์วิชสโมคแซลมอนเป็นที่นิยมในชุดชายามบ่าย เนื้อปลาแซลมอนรมควันหอมกรุ่น ถูกวางบนขนมปังเนื้อเนียนบางๆทำจากขนมปังโฮลวีต ราดด้วยครีมชีสรสเลิศ ผักสลัดสดกรอบทำให้รสชาติเค็มๆ…
Chef : Hideaki Nagaya : 11 2023 Story : Natthanai C. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ดื่มด่ำบรรยากาศท้องฟ้ากลางเมืองพร้อมเพลิดเพลินกับรสชาติสุดแสนพิเศษจากเชฟระดับตำนาน จากเมืองปลาดิบ Taste of Chef Hideaki Nagaya เชฟผู้มากฝีมือจากรีสอร์ท Kanolly Resort Hakuba บรรยากาศสุดพรีเมี่ยมของประเทศญี่ปุ่น HAKUBA A GASTRONOMIC JOURNEY TO JAPAN จะมีรสชาติเป็นอย่างไร เดี๋ยวทาง Kin and Leisure จะมาเล่าให้ฟังครับ PROLOGUE 1 Craft Fish Burger I Vegetable Frappuccino เบอร์เกอร์ปลา อารมณ์แฮนด์เมด เนื้อปลารสธรรมชาติ ปลาฮามาจิ บดหยาบ เนื้อสดแน่น ยังคงรสสัมผัสแบบเนื้อปลาเสิร์ฟพร้อม เบอร์เกอร์แป้งสีชมพูแดงสดใส เนื้อนุ่ม ซุปผัก เปรี้ยวหวานเค็มมันลงตัว นำไปแช่แข็งจนเนื้อสัมผัส เหมือนเราทานไอศครีมซอร์เบต แต่ทานประสานกันลงตัว และเข้ากันมาก เป็นเมนูเริ่มต้นที่ลงตัว Jansz Tasmania Premium Brut Cuvée, South Australia กลิ่นชัด เบาๆ เมื่อดื่ม และ มีอารมณ์หวานสดชื่น EPISODE 2 Crustacean Bisque Royale I Lobster I Kaffir Lime Flavors เนื้อกุ้งลอบสเตอร์พร้อมซอส ลอบสเตอร์ รสชาติเข้มข้นที่ราดบนเนื้อกุ้งที่ปรุงสุกกำลังดีไม่กระด้างและซึมซับรสชาติซอสไว้อย่างเต็มที่ TATENOKAWA Junmai Daiginjo Phoenix Sake, Tohoku สาเกข้าวท้องถิ่น การนำเสนอที่แพร่กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น รสชาติเข้มแต่ดื่มง่ายความรู้สึกเฉพาะรสสัมผัสเหมือนดื่มน้ำเปล่าเบาๆ…
อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ อสังหาริมทรัพย์หลักในเครือโรงแรมและรีสอร์ทในเครืออมารีทั่วเอเชียฉลองครบรอบ 29 ปีพร้อมกับครบรอบ 1 ปีของพรีโก้ กรุงเทพ ในการเฉลิมฉลองนี้ในโอกาสสำคัญ ทางโรงแรมได้วางแผนจัดงานเย็นอันน่าตื่นเต้นเพื่อรำลึกถึงอีกบทหนึ่งที่เพิ่มเข้ามามรดก Amari Watergate Bangkok celebrates 29th Anniversary along with 1st Anniversary of Prego Bangkok and the launch of Bar Milano ในภาพจากซ้ายไปขวา คุณสุขมาล มอนดัล ผู้จัดการทั่วไปพื้นที่ อมารี วอเตอร์เกทกรุงเทพมหานคร ฯพณฯ Ms. Sibille de Cartier d’Yves เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทย มีมี่เต๋า นางแบบอินเตอร์ คุณศรัณยา วัฒนศิริสุข รองประธานอาวุโส Group Head of Humanทรัพยากร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป และเชฟมาร์โก บอสไคนี เชฟประจำองค์กร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ปพรีโก้ แบงค็อก (Prego Bangkok) เปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เป็นสถานที่แห่งใหม่ที่ลูกค้าชื่นชอบในอิตาลี ภายใต้ภายใต้การดูแลของเชฟมาร์โก พรีโก้ กรุงเทพฯ นำเสนอเมนูอาหารที่หลากหลายซึ่งรวมถึงอาหารอิตาเลียนคลาสสิกและตัวเลือกปลอดกลูเตนและเมนูสำหรับเด็กโดยเฉพาะ งานนี้ยังเป็นการเปิดตัว Bar Milano บาร์สุดเก๋ที่ล็อบบี้โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ บาร์มิลาโนมีค็อกเทลที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยนักผสมเครื่องดื่มประจำโรงแรมของเรา ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ของอิตาลีในเมืองหลวง บาร์มิลาโนเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพบปะและสังสรรค์ก่อนอาหารค่ำ “เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย” หรือเครื่องดื่มยามดึก ไม่ว่าจะเป็นโอกาสพิเศษหรือการนัดพบแบบใกล้ชิด Bar Milano เป็นสถานที่สำหรับสร้างความทรงจำตั้งแต่เวลา 17:30 น. การเปิดตัวครั้งใหญ่ของ Bar Milano และการเฉลิมฉลองวันครบรอบมีผู้เข้าร่วมดารา สื่อ และอื่นๆ หนึ่งในประเด็นพูดคุยที่ใหญ่ที่สุดในค่ำคืนนี้คือมินิแฟชั่นโชว์จัดโดยทีมงาน จัดแสดงเมืองมิลานในกรุงเทพฯ ทีมร่วมมือกับท้องถิ่นดีไซเนอร์ Shaka นำเสนอแฟชั่นใหม่ล่าสุด อีกหนึ่งความคิดริเริ่มจาก “Sustainably…
Chef : Somphong Hongku Date : 02 2023 Story : Nantthanai C. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Harvest To Plate : A Celebration of Thailand’s Terroirs and French Cuisine The Best of Both Worlds / The savoir-faire of French cuisine and the finest ingredients from Thailand’s terroirs หลังจากมิได้ย่างกายมาเยือนสถานแห่งนี้มาเป็นเวลาอันแสนนาน ณ ที่แห่งนี้ยังคงกลิ่นอายแห่งความ ชิค ชิว และยูนีค สกาเลทมีทั้งโซนอินเดอร์ และเอ้าดอร์ สำหรับโซนปรับอากาศ ตกแต่งด้วยโทนสีดำ แดง เทา แม้งจะนั่งอยู่ภายในแต่ก็สามารถชมทัศนียภาพได้อย่างสุดลูกหูลูกตามุมกว้างจากยอดตึกของโรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านสีบลม ด้วยทัศนียภาพเปิดกว้างจากการออกแบบที่ผนังเป็นกระจกใสสูงตั้งแต่พื้นจรดสุดระดับเพดาน อันมีเพียงเส้นโลหะบางๆเป็นกรอบยึดกระจก มิได้รบกวนสายตานัก พื้นมีการเล่นลวดลายผ่านการออกแบบด้วยพื้นกระเบื่องลวดลายโบราณตัดกับพื้นไม้สีเข้ม โต๊ะและเก้าอี้มีทั้งรูปแบบนั่งกินดื่มในสเกลและสัดส่วนโต๊ะกินข้าวทั่วไป ไปจนถึงแบบเก้าอี้และโต๊ะทรงสูงที่เหมาะสำหรับการมาแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ และโซนด้านนอที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร บนเพดานตกแต่งด้วยต้นไม้ปลอมสไตล์พืชพรรณแบบป่าดิบชื้น อาทิ เฟิร์นชนิดต่างๆ และพืชกลุ่มพลู เป็นต้น เปิดประสบการณ์ Chic and Chill ชมวิวเมือง ในช่วงเดือนนี้ ถึงจะชิวแต่ก็ชิวแบบดูแลสุขภาพได้ ด้วยอาหารเมนูพิเศษในเมนูสุดชิค แบบ Harvest To Plate เรียกว่าคัดอาหารจากกระบวนการปลูกและการเลี้ยงแบบธรรมชาติสุดๆ ให้ทุกท่านได้ลิ้มรสผ่านฝีมือจากเชฟชั้นเลิศ ในสไตล์ฟิวชั่น ผสานกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศส ได้อย่างลงตัว ว่าแล้วนอกจากการชมวิวเรามาเริ่มการลิ้มลองมื้ออาหารนี้ได้เลยครับ วันนี้มาลิ้มลองกันในแบบสื่อมวลชนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความน่ารักด้วยการที่ให้ลองได้หยิบผักที่เราชอบ จากที่ได้จัดเตรียมไว้เก็บกลับบ้านกันอีกด้วยซึ่งผักแต่ละชนิดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผักออแกนิค ที่คัดเลือกมาจากฟาร์มที่เขาใหญ่ และมาเป็นส่วนผสมในเมนูต่างๆในวันนี้ครับ สัมผัสประสบการณ์ความสดใหม่ของวัตถุดิบชั้นดีส่งตรงจากฟาร์ม และผักที่ปลูกในท้องถิ่นปราศจากการดัดแปลงพันธุกรรม อาหารทะเลที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและ เนื้อสัตว์ซึ่งจัดหามาจากฟาร์มอินทรีย์ถือเป็นเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ณ ห้องอาหารสการ์เลต เชฟที่นี่พร้อมให้ทุกท่านได้ลิ้มรสความอร่อยจากธรรมชาติกันอย่างเต็มอิ่มในความแตกต่างในรสชาติของแต่ละเมนูพิเศษเหล่านี้ …
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางห้องอาหาร Uno Mas ได้จัดงาน Cocktail Standing เนื่องในโอกาสที่ทางห้องอาหารได้รับ Certificated จากสถานทูตสเปน จากการที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางห้องอาหารได้เผยแพร่อาหารสเปนจนที่เป็นที่นิยม และห้องอาหารได้กลายเป็นหนึ่งในห้องอาหารสเปนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ทั้งจากอาหารสเปนที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และเครื่องดื่มอันหลากหลายที่พร้อมให้ผู้ที่สนใจมารับประทานอาหาร ณ Uno Mas ได้รับประสบการณ์อันน่าประทับใจ และพร้อมที่จะทำให้ค่ำคืนภายหลังจากการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย ให้กลายเป็นค่ำคืนอันสนุกสนานและเพลิดเพลิน ห้องอาหาร Uno Mas ตั้งอยู่ที่ชั้น 54 ของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยสามารถเดินทางมาได้โดยสะดวก ทั้งจากรถยนต์ส่วนตัว ที่ทางเครือเซ็นทรัลมีอาคารจอดรถที่พร้อมรองรับผู้ใช้บริการ หรือสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟฟ้าได้เช่นกัน และจากการที่โรงแรมตั้งอยู่ติดกับเซ็นทรัลเวิลด์ ทำให้กิจกรรมในบริเวณนั้นมีหลากหลายมาก ทำให้สามารถเดินข็อปปิ้งยามกลางวัน แล้วมาสังสรรค์ยามค่ำคืนที่ห้องอาหาร Uno Mas และพักผ่อนด้วยบริการอันมีคุณภาพของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ได้อย่างเพลิดเพลิน ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในช่วงเย็นและช่วงค่ำ ซึ่งจะได้ความสัมผัสกับสวยงามของทิวทัศน์สุดขอบฟ้าและกรุงเทพยามค่ำคืนอย่างเต็มที่ ประกอบกับบรรยากาศการตกแต่งร้าน ซึ่งมีทั้งโซนที่เป็นโต๊ะอาหารสำหรับดินเนอร์ หรือบาร์สำหรับท่านที่ชื่นชอบในบรรยากาศการนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อน พร้อมมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยแสงไฟอันเสริมสร้างบรรยายกาศอันเรียบหรู และการจัดพื้นที่ซึ่งมีการแยกส่วนอย่างชัดเจนและลงตัว ทำให้ห้องอาหาร Uno Mas ตอบโจทย์ทั้งผู้สนใจมาดินเนอร์ใต้แสงเทียน พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศอันค่ำคืน หรือการนั่งดื่มพร้อมสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ด้วยคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมการจัดแต่งและทิวทัศน์ที่สวยงามบนตึกระฟ้า ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัว ทำให้ห้องอาหาร Uno Mas เหมาะสำหรับการเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนด้วยประสบการณ์มื้ออาหารอันแสนประทับใจ ตัวอย่างอาหาร Smoked Salmon เริ่มต้นมื้ออาหารภายในงาน ด้วยเนื้อแซลมอนรมควัน บนผักกระหล่ำ เป็นการเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี Chorizo Croquettes Cured pork sausage Aioli sauce เป็นโครเกต์กรุบกรอบ เป็นหนึ่งในเมนูเรียกน้ำย่อยยอดนิยม มีกลิ่นหอม ด้านในสอดไส้ครีม รสออกเปรี้ยวเบาๆ โดยมีซอสอัลยอลีด้านบน ที่รสชาติหอมและออกมัน เข้ากับโครเกต์ได้ลงตัว Uno Mas Paella Bomba Rice with Free Range Chicken and Seafood…