Chef : Chef Fernando Corona / Chef Franco Aldana Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับ ท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่าน ในค่ำคืนสุดพิเศษนี้ ทางทีมงาน Kinandleisure ขออนุญาตมาบอกเล่าประสบการณ์ทางอาหารเพื่อเรียกน้ำย่อยของทุกท่าน และเป็นการนำเสนอว่าอาหารไม่ได้เป็นแค่สิ่งบริโภค แต่คือศิลปะที่บรรจงรังสรรค์มาอย่างงดงาม ซึ่งในคราวนี้ เราได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมแห่งดินแดนละติน ผ่านงาน “4 Hands Dinner Mexico Meets Peru” ที่ได้นำพาเรามาสู่การค้นพบรสชาติที่สร้างความประทับใจ ตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย รังสรรค์จากฝีมือเชฟเฟอร์นันโด ผู้มากประสบการณ์การปรุงอาหารเม็กซิกันแห่งโรงแรมบันยันทรี โคจรมาพบกับเชฟฟรังโก เชฟผู้เชี่ยวชาญจากเปรู โดยเชฟจากสองชาติได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์เมนูที่ผสานความเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองชาติ เพราะวาดลวดลายให้เข้มข้นขึ้นจาก Inspirador ที่นำเสนอเครื่องดื่มสุดร้อนแรงจาก อะกาเว (Agave) ที่ให้พวกเราได้มาสัมผัสกันครับ ประสบการณ์ใหม่ ในที่แห่งเดิมสุดประทับใจ กับ Vertigo TOO ห้องอาหาร Vertigo TOO ตั้งอยู่ที่ชั้น 59 ของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ และมีชั้นดาดฟ้าเป็น Vertigo ซึ่งด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองของโรงแรมบันยันทรี ทำให้วิวดาดฟ้าของที่นี่มีมูลค่าดั่งทอง คือท่านจะได้สัมผัสและรับลมยามค่ำคืน ชื่นชมทัศนียภาพยามสนธยาถึงในคืนที่มีหมู่ดาวเป็นฟ้า ซึ่งทั้งสองส่วนเป็นหนึ่งในตัวชูโรงของโรงแรมที่อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัส Welcome Drink และเมนูเรียกน้ำย่อย เริ่มต้นด้วย “Tiradito Nikkei” ซึ่งเป็นจานที่สะท้อนถึงการผสมผสานของอาหารญี่ปุ่นและเปรู ด้วยการใส่เนื้อปลาฮามาจิหั่นบางๆ จัดวางอย่างประณีตและราดด้วยซอสเปรี้ยวอมหวานที่มีกลิ่นหอมของเลมอนและพริกอาฮี (aji Amarillo) ซึ่งเป็นพริกเหลืองจากอเมริกาใต้ ให้สีเหลืองส้มสวยงาม รสชาติสดชื่น เข้มข้น แต่ละมุนไม่เผ็ดในคำเดียว ทานคู่กับข้าวเกรียบ และ Pairing กับ AQARÁ Destilado de Agave ที่ทำจากพืชตระกูลอะกาเว (Agave) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มประเภทเตกีลาหรือเมซคาลที่มีชื่อเสียงในเม็กซิโก โดย AQARÁ เป็นแบรนด์เฉพาะที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่เน้นความประณีตและความพรีเมียม ช่วยเติมเต็มมิติของจานนี้ได้เป็นอย่างดีจากความเผ็ดร้อนด้วย 38%…
Author: nutthawat jaruwat
Chef : Massimiliano Scotti Story : Nuttawat J.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่าน วันนี้ทางพวกเรา Kinandleisure มีประสบการณ์ทางอาหารอันน่ามหัศจรรย์จะมาเล่าสู่กันฟัง คือ ก่อนที่ได้รับประสบการณ์นี้ ใครจะไปเชื่อว่าเจลลาโต ที่เราเข้าใจว่าเป็นไอศกรีมของหวาน จะถูกนำมาตีความใหม่และใส่ความคิดสร้างสรรค์จนกลายมาเป็นอาหารจานหลักได้ ตอนแรกผมก็ยังแปลกใจ ว่าเอ๊ะยังไง ใครจะเชื่อ และทำได้อย่างไร แต่ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ มันได้เกิดขึ้นแล้ว แล้วเป็นประสบการณ์ทางอาหารที่น่ามหัศจรรย์ครั้งหนึ่งในชีวิตเลย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ทางพวกเรา Kinandleisure จะขอบอกเล่าความเป็นมาอย่างละเอียดดังนี้เลยครับ พ่อมดแห่งเจลลาโต้ เชฟมาสซิมิเลียโน สก็อตติ (Massimiliano Scotti) เชฟ Massimiliano Scotti ได้นำเสนอประสบการณ์การทางอาหารจากเจลาโตระดับโลกในงานพิเศษที่ห้องอาหาร Vertigo TOO โรงแรม Banyan Tree Bangkok ซึ่งเชฟมาสซิมิเลียโนฯ ได้รับการจัดอันดับเป็นเชฟเจลาโตอันดับ 4 ของโลกจาก Gelato Festival World Ranking 2024 โดยงานนี้ต้องขอขอบพระคุณทางสถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ที่ได้กรุณาจัดงานนี้ขึ้น และเชิญเชฟมากฝีมือท่านนี้มาวาดฝีไม้ลายมือ ณ แดนสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ ซึ่งงานนี้เต็มไปด้วยเมนูเจลาโตที่หลากหลายและสร้างสรรค์ และสัมผัสความลงตัวของรสชาติที่เชฟออกแบบคิดค้นมาอย่างดี เพื่อมาให้เข้ากับเครื่องดื่มค็อกเทลต่างๆ ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่น่าจดจำและแสนวิเศษ เข้าสู่มื้ออาหารอันน่าประทับใจ เริ่มต้นด้วยการต้อนรับด้วยแก้วสปาร์คกลิ้งไวน์ จากแบรนด์ “Bottega”ที่มีความหอมหวานและความซ่าเพิ่มความสดชื่นก่อนเข้าสู่คอร์สเมนูพิเศษ ซึ่งแบรนด์จากอิตาลีนี้ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตไวน์และเหล้าในระดับพรีเมียม รวมถึงไวน์สปาร์คกลิ้งชื่อดังที่มีเอกลักษณ์คือขวดที่หรูหราสะดุดตา มีการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับ ISO 9001 Fishermen’s Bread Crumble ครัมเบิลของขนมปังกรุบกรอบ มีความเข้ากันได้ดีกับไอศกรีมมะเขือเทศที่มีทั้งความหวาน เปรี้ยว และรสชื่น รวมถึงกุ้งตัวมหึมา และใส่มอสซาเรลล่ารสชาตินุ่มนวล ซึ่งรสชาติของไอศกรีมมะเขือเทศทำออกมาได้เป็นธรรมชาติมาก เพิ่มความสดชื่นและเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี โดยจานนี้จับคู่กับค็อกเทล “Garden in Paradise” ที่มีส่วนผสมของรัม พีชทีคอร์เดียล มะเขือเทศเชอร์รี่ โหระพา มะนาว และโทนิกที่เพิ่มความเป็นสมดุลได้อย่างลงตัว มีความหวานสดชื่น ดื่มได้อย่างคล่องคอ Fried Pizza…
Chef : L : 11 2024 Story : Nuttawat J.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ราตรีสุดวิจิตร ธาราสุดตระการตา ล่องเรือสุดหรูพร้อมชมบรรยากาศความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน กับ เรืออัปสรา (Apsara Cruise) สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารอีกครั้งครับ วันนี้ ทางทีมงาน Kinandleisure ขอมานำเสนอประสบการณ์ดินเนอร์ยามค่ำคืน พร้อมล่องเรือสุดหรู ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งมหานครยามค่ำคืน ซึ่งสำหรับท่านที่กำลังมองหาประสบการณ์อันแสนวิเศษนี้ ทางเครือโรงแรมบันยันทรีพร้อมภูมิใจเสนอ เรืออัปสรา (Apsara) ที่ปรับปรุงมาในโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม และพร้อมอย่างยิ่งที่จะทำให้ค่ำคืนอันธรรมดา กลายเป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ ด้วยองค์ประกอบทุกอย่างอันวิจิตรตระการตา ตั้งแต่ยามนั่งบนเรือ ยามชมวิว และยามรับประทานอาหารชั้นเลิศจากฝีมือเชฟยอดฝีมือ ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้ท่านและผู้มาเยือนต่าง ๆ แน่นอน จะเป็นอย่างไรเรามารับชมไปพร้อมกันครับ ว่าด้วยเรืออัปสรา ยานนาวาอันเป็นงานศิลป์แห่งราตรี เรืออัปสรา เป็นเรือไม้สักแบบไทยที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการอาหารชั้นเลิศ ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์อันแสนวิเศษ ในบรรยากาศแห่งความหรูหราและสงบงดงาม เรือมีการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทั้งภายนอกและภายใน โดยมีคอนเซปที่น่าสนใจ คือ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ซึ่งนอกจากการล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรียกได้ว่าเป็นมหาธาราแห่งกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว เรืออัปสรา ยังพร้อมนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมไทยแบบโมเดิร์นด้วย ซึ่งประวัติของเรือ แรกเริ่มเดิมทีเป็นเรือบรรทุกข้าวสาร โดยได้นำเรือมาบูรณะใหม่ได้กลายมาเป็นสถานที่รับประทานอาหารที่หรูหราและสวยงาม ท่ามกลางวิวของแม่น้ำที่ไหลผ่านสถานที่สำคัญเช่น วัดอรุณฯ พระบรมมหาราชวัง ทำให้ทุกคนที่มารับประทานอาหารบนเรือสามารถสัมผัสประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างลึกซึ้งไปพร้อมกับมื้ออาหารชั้นเลิศ เส้นทางเรือ จะมุ่งหน้าจากท่าเรือ River City ซึ่งท่านผู้โดยสารสามารถเอารถมาจอดที่ห้าง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นเรือ โดยเรือจะแล่นไปจนถึงสะพานพระราม 8 ซึ่งระหว่างการเดินทาง ผู้โดยสารจะได้สัมผัสทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกับชมสถานที่สำคัญและแลนด์มาร์คที่สำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ ทั้ง ICONSIAM ท่ามหาราช ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โบสถ์ Santa Cruz วัดอรุณราชวรารามที่มีพระปรางค์ที่งดงามและเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ และยังผ่านวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว โดยการเดินทางจะจบที่ สะพานพระราม 8 ที่เป็นสะพานขึงรูปทรงทันสมัยที่สวยงาม ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี ซึ่งการล่องเรือผ่านเส้นทางนี้ไม่เพียงแต่ให้ผู้โดยสารได้ชมความงดงามของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืนอีกด้วย การตกแต่งภายใน สำหรับการตกแต่งภายในเรือนั้น เรียกได้ว่ามีความใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งภายในห้องอาหารจะตกแต่งด้วยวัสดุไม้…
สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารเลิศรสอีกครั้งครับ ในเดือนตุลาคม ทางทีมงาน Kinandleisure ขอนำเสนอการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีนของร้านขนมฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Bijoux de Beurre Echire ที่มีอยู่สองสาขา ทั้งที่ Earth Ekamai และ The Emsphere ที่ได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มาเล่น ๆ แต่มาพร้อมการนำเสนอขนมใหม่ในธีมฮาโลวีน ซึ่งผ่านการประดิษฐ์คิดค้นเมนูด้วยความคิดสร้างสรรค์โดยเชฟขนมผู้มากฝีมือ พร้อมการสร้างสรรค์เมนูขนมหวานด้วยเนย Echire สุดยอดเนยมาตรฐาน AOP จากฝรั่งเศสที่ผลิตจากนมวัวสดใหม่ทุกเช้าของวันที่ผลิต และใช้เฉพาะนมจากวัวที่เลี้ยงปล่อยในธรรมชาติ ปั่นเนยในถังไม้แบบดั้งเดิมทำให้หอมกลิ่นไม้โอ๊กและได้รสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งขนมเหล่านี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาสวยงามชวนให้ลิ้มลอง แต่ยังเต็มไปด้วยรสชาติที่น่าตื่นเต้นและน่าประทับใจ Special Menu เริ่มต้นด้วย Spooky Croissant ครัวซองต์ที่ได้รับการปรับโฉมให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลฮาโลวีน โดยครัวซองต์ตัวนี้ทำจากช็อกโกแลตชั้นดีที่ให้ความเข้มข้นในทุกคำที่สัมผัส ด้านในมีไส้ช็อกโกแลตครีมและ Raspberry Compote ที่ทำให้เกิดรสชาติหวานมันจากตัวแป้งครัวซองต์และเนย รวมถึงได้ความเปรี้ยวเล็กน้อยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งความพิเศษของครัวซองต์นี้ คือกลิ่นหอมของเนย Echire ที่ทำให้ Spooky Croissant เป็นขนมที่ไม่ได้มีเพียงแต่รสชาติที่น่าประทับใจ แต่ยังประกอบด้วยความหอมจนยากจะลืม ต่อมาเป็น Mango Passion Jack เป็นขนมที่มีหน้าตาโดดเด่นด้วยการตกแต่งเป็นฟักทองฮาโลวีน ภายในเค้กชิ้นนี้เต็มไปด้วยไส้มูสผลไม้มะม่วงเสาวรสที่สดชื่น เข้ากับเนื้อเค้กที่นุ่มละมุนได้อย่างดี กลิ่นและรสของมะม่วงและเสาวรสที่เปรี้ยวหอม รวมถึงการแต่งกลิ่นด้วยยูซุแบบเบาๆ แต่สัมผัสได้ ทำให้ Mango Passion Jack เป็นขนมที่ให้ความรู้สึกสดชื่นในทุกคำ ที่สำคัญที่สวยงามมากจนถ่ายรูปเก็บไว้แบบรัว ๆ เพลิดเพลินกับของหวานระดับคุณภาพอื่น ๆ จากผลิตภัณฑ์เนย Echire นอกจากของหวานประจำเทศกาลที่สร้างความตราตรึงใจและรูปที่ออกมาสวยงามจนต้องถ่ายเซฟเก็บไว้ในโทรศัพท์รัว ๆ แล้ว ทางร้าน ยังมีขนมหวานเปี่ยมคุณภาพต่าง ๆ อีกหลายเมนูที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับทุกท่าน อาทิ Pandan Coco Delight เมนูขนมหวานที่นำเสนอความเป็นไทยผสมผสานกับความร่วมสมัยอย่างลงตัว Pandan Coco Delight เป็นการผสมผสานของกลิ่นและรสชาติที่อบอวลจากวัตถุดิบหลักของไทยอย่างใบเตยและน้ำนมมะพร้าว โดยใบเตยนั้นเป็นตัวชูโรง ให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งสีเขียวที่สวยงามสะท้อนถึงธรรมชาติในทุกคำที่ลิ้มลอง เนื้อสัมผัสของขนม นั้นนุ่มละมุน จากน้ำนมมะพร้าวที่มีความเข้มข้นและหอมมัน กลิ่นมะพร้าวที่แทรกซึมไปในทุกชั้นของขนมทำให้ได้ความรู้สึกสดชื่น และเมื่อผสานกับใบเตยที่ให้ความหอมหวานอันละเอียดอ่อน ยิ่งทำให้เมนูนี้เป็นขนมที่สามารถนำเสนอรสชาติที่กลมกล่อมได้อย่างลงตัว สิ่งที่เพิ่มความพิเศษให้กับ Pandan Coco Delight…
Story : Nattawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. สวัสดีทุกท่านผู้ชื่นชอบในอาหารเลิศรสและบรรยากาศอันงดงามอีกเช่นเคยครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure ก็มีร้านดี ๆ มานำเสนออีกเช่นเคย ในคราวนี้เป็นคิวของห้องอาหารใจกลางกรุง ดื่มด่ำกับบรรยากาศและรสชาติอาหารอันน่าตราตรึง และบทบรรเลงเพลงแจ๊สในยามค่ำคืน ที่ Fireplace Grill and Bar Fireplace Grill and Bar ตั้งอยู่ในโรงแรม InterContinental Bangkok ชั้น G ถ้ามาทางล็อบบี้โรงแรม สามารถเดินทางผ่านทางเชื่อมมาได้เลย สำหรับการเดินทาง สามารถเดินทางมาโดยสะดวกด้วยรถยนต์และรถไฟฟ้า BTS ซึ่งห้องอาหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการรับประทานสเต็กคุณภาพดีจากเนื้อคุณภาพสูง และอาหารฝรั่งเศสที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ห้องอาหารแห่งนี้ได้นำเสนออาหารที่โดดเด่น การบริการที่เป็นเลิศ ในขณะที่ยังคงความคลาสสิกและอัตลักษณ์ของอาหารไว้ได้อย่างน่าประทับใจ Decorations Fireplace Grill and Bar มีบรรยากาศที่หรูหราในขณะที่ยังคงความคลาสสิก การตกแต่งภายในใช้วัสดุที่มีความเหมาะสมกับธีม ให้ความรู้สึก Exclusive และเรียบหรู มีการจัดไฟที่ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง ซึ่งทั้งสุดเด่นจากการที่ห้องอาหารนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุง คุณภาพของอาหารที่น่าประทับใจ และดนตรีสุดไพเราะที่ขับกล่อมโดยคุณ Coco ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารค่ำและการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและน่าประทับใจกับคนรัก ครอบครัว เพื่อนฝูง ตลอดจนการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานในบรรยากาศที่เป็นกันเอง Menu เมนูของ Fireplace Grill and Bar มีทั้งสเต็กคุณภาพเยี่ยมและอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่ปรับการนำเสนอให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น วัตถุดิบที่ใช้ในเมนูถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน มีหลายเกรดให้เลือกสรร ประกอบกับการปรุงเนื้อของที่นี่เป็นไปอย่างละเอียดอ่อนและตั้งใจเพื่อให้ได้ความสมบูรณ์แบบของรสชาติและความนุ่มนวล นอกจากนี้ ทาง Fireplace Grill and Bar ยังมีเมนูไวน์ที่หลากหลาย ผู้มารับประทานอาหารสามารถเลือกจับคู่ไวน์กับอาหารจานโปรดของตนได้อย่างลงตัว แน่นอนว่าหากเลือกไม่ออกบอกไม่ถูก สามารถสอบถามทางพนักงานได้เช่นกันครับ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Fireplace Grill and Bar น่าประทับใจไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริการที่เป็นมิตรและเอาใจใส่ด้วย พนักงานของร้านได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี มีความรู้และให้คำแนะนำเกี่ยวกับเมนูและไวน์ได้ เมนู Fire…
สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่านอีกเช่นเคยครับ ในช่วงยามบ่ายอันร้อนระอุแห่งเมืองกรุงนี้ หากได้มาพักกายหย่อนใจด้วยสถานที่บรรยากาศดี ๆ ชวนให้ชื่นใจเสียคงจะดี ซึ่งวันนี้ ทาง Kinandleisure ก็มีสิ่งที่น่าสนใจมาเรียนเสนออีกเช่นเคย ในครานี้ เป็นเลาจน์ในบรรยากาศสุดสบายตา ด้วยทัศนียภาพของกรุงเทพฯ อันแสนงดงามทั้งสนามม้าสีเขียวสดใสกว้างขวามทอดยาวพื้นหลังด้วยตึกระฟ้ามากมาย อีกด้านเป็นสวนลุมพินีสีเขียวเข้มสบายตา ท่ามกลางกลิ่นอายแห่งหนังสือ พร้อมเพลิดเพลินกับกลิ่นชาในบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟ ที่ Maa-Lai Library แห่งโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุง Location เลาจน์ Maa-Lai Library ตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรม พร้อมวิวทิวทัศน์สุดขอบฟ้าแห่งเมืองกรุงสุดตระการตา ซึ่งโรงแรม Kimpton Maa-Lai สามารถเดินทางมาโดยสะดวกด้วยรถยนต์ ที่จอดรถพร้อมบริการเหลือเฟือ โดยสำหรับเลาจน์ Maa-Lai Library มีการจัดโซนที่นั่งหลากหลายรูปแบบที่พร้อมตอบโจทย์การนั่งชิลล์ของทุกท่าน ทั่งบริเวณส่วนกลางที่จัดแต่งคล้ายกับห้องนั่งเล่น บรรยากาศสุดสบายตาเหมือนนั่งอยู่บ้าน หรือบริเวณเคาท์เตอร์ที่พร้อมให้บริการ ชา กาแฟ เครื่องดื่ม ตลอดจนขนมชนิดต่างๆ ครบครัน หรือลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นโซนที่ค่อนข้างส่วนตัว พร้อมโต๊ะใหญ่สำหรับนั่งกันหลายท่าน หรือแม้กระทั่งบริเวณด้านนอกที่เป็นโซนเปิด ให้ท่านได้ซึมซับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมนั่งจิบชากินขนมอย่างสำราญใจ บริเวณเคาท์เตอร์ ยังมีชาสูตรเป็นพิเศษของทาง Maa-lai Library พร้อมให้ท่านได้จับจอง ซึ่งถือเป็นอีกจุดหนึ่งของที่นี่ ซึ่งทางโรงแรมได้นำชาชนิดต่างๆ ที่เสิร์ฟจริง นำมาขายสำหรับท่านที่อยากนำกลับบ้านไปลองลิ้มชิมรสเองด้วย ทั้งหมดนี้มาในแพคเกจที่มีสีสดใสสวยงาม พร้อมคุณภาพที่การันตีด้วยการเลือกเฟ้นอย่างพิถีพิถันจากทีมงานคุณภาพ นอกจากขนมที่จะปรากฏให้ยลโฉมในคอร์สชุดนำชายามบ่ายแล้ว ทางเลาจน์ก็พร้อมเสิร์ฟขนมชนิดต่าง ๆ ที่น่ารับประทานเช่นกัน ทั้ง ครัวซองชิ้นใหญ่ โดนัท มัฟฟิน ฯลฯ Afternoon Tea at the Library ทาง Kinandleisure ขอนำเสนอชุดเซ็ตน้ำชายามบ่ายสุดแฟนซี จากการออกแบบอย่างประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งรูปลักษณ์ กลิ่นหอม และรสชาติ ที่สร้างความประทับใจต่อทุกท่านที่ได้สัมผัส โดยมีนำเสนอ 2 เซ็ตให้เลือกสรรชุดเซ็ต Signature และชุดเซ็ต Vegetarian Signature สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อ ซึ่งทั้งสองเซ็ตนี้ล้วนเป็นชุดน้ำชาคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ และเข้ากับการเป็น “ชุดน้ำชาประจำห้องสมุด” ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้จริง…
สวัสดียามบ่ายที่สดใส พร้อมกับสายลมแสงแดดที่เป็นใจในยามพักผ่อนครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure พร้อมใจนำเสนอมนต์เสน่ห์สุดพิเศษ ที่จะช่วยในการชุบชีวิตยามบ่ายของท่านให้กลายเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจ ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งชุดน้ำชายามบ่าย Mariage Freres Tea cellar ที่มาในธีมแห่งท้องทะเล หาดทราย และแสงแดด ที่พร้อมจะสร้างสีสรรค์ให้กับยามบ่ายของท่าน ด้วยขนมเลิศรสหลากชนิด พร้อมบรรยากาศอันเรียบหรู และเครื่องดื่มคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อความเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบของชุดน้ำชายามบ่ายอันน่าประทับใจนี้ Location & Decoration เล้าจ์ Peacock Alley ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Waldorf Astoria โรงแรมสุดหรู วิวสวย บรรยากาศดีใจกลางกรุงเทพฯ สามารถเดินทางมาได้โดยสะดวก ทั้งจากรถยนต์ หรือผ่านระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ เนื่องจากทางโรงแรม ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เดินไม่ไกลก็ถึงโรงแรม รวมถึงที่ตั้งก็อยู่ใกล้กับแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในหลายจุด ทำให้สามารถใช้เวลาเต็มวัน ในการท่องเที่ยว เพลิดเพลิน และการสร้างความประทับใจได้ โดยหากเหน็ดเหนื่อย ก็สามารถมาพักจิบชายามบ่าย ท่ามกลางบรรยากาศเรียบหรูสุดชิล พร้อมชมวิวสุดสบายตาได้ภายในโรงแรมเช่นกันครับ อังเดร ฟู และดีไซน์สตูดิโอ AFSO ของเขา เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายในของโรงแรมฯ ตั้งแต่ชั้น Lower Lobby และที่ชั้น 6-16 โดยสอดแทรกการถ่ายทอดความหมายของความเป็น วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย สมัยใหม่เข้ากับตัวอาคารที่มีความร่วมสมัย สร้างความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลายในขณะเดียวกัน จากชั้นล่างบริเวณทางเข้าโรงแรมซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม (Front Room) สู่ พีค็อก อัลเลย์ (Peacock Alley) และ เดอะ บราซเซอรี่ (The Brasserie) ที่ตั้งอยู่ล็อบบี้ชั้นบน ทุกสถานที่ได้ถูกออกแบบและตกแต่งสื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนของตำนานแห่งแบรนด์วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ที่ถูกหลอมรวมกับวัฒนธรรมความหรูหราชั้นสูงที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกช่วงเวลาสำคัญ ชื่อ “พีค็อก อัลเลย์” ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสะท้อนภาพของทางเดินเชื่อมระหว่างโรงแรมวอลดอร์ฟและโรงแรมแอสโทเรีย ในมหานครนิวยอร์คสมัยก่อน ที่โดดเด่นสวยงามด้วยต้นไม้ร่มรื่นสองข้างทาง พีค็อก อัลเลย์ คือสถานที่ที่คุณจะได้มาพบปะสังสรรค์กับผู้คน การตกแต่งภายในนั้นงดงาม หรูหรา แต่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ดีไซน์การตกแต่งนั้นมีการใช้ทองแดง ไม้สีอ่อน และเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส การตกแต่งภายใน เป็นการผสนผสานของศาสตร์และศิลป์ที่สามารถดูได้เท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ มาเยือนเท่าใดก็ล้วนรู้สึกสบายตา ทั้งองค์ประกอบของสีที่ออกโทนขาว…
สวัสดีท่านผู้ชื่นชอบและมีรสนิยมในการรับประทานอาหารอร่อยอีกครั้งครับ วันนี้ทางทีมงาน Kineandleisure ก็มีร้านอาหารเด็ดดังมาแนะนำอีกเช่นเคย โดยสำหรับวันนี้จะเป็นห้องอาหารเทปันยากิชื่อดัง Chisana Nami ที่ตอนนี้ประจำอยู่ที่ Erawan Bangkok ซึ่งพร้อมสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน ไม่ว่าจะมาท่านเดียว มากับเพื่อน กับคนรัก หรือกับครอบครัว ทางห้องอาหารก็พร้อมที่จะสร้างความประทับใจ ด้วยบริการที่เป็นเลิศ โชว์แสดงทำอาหารจากเชฟมากฝีมือ ด้วยลีลาสุดเร้าใจ รวมถึงมีเกมส์สนุก ๆ หลายอย่างให้ได้ทดลองเล่นกัน ที่มาของ Chisana Nami ห้องอาหาร จิซานะ นามิ โดยชื่อห้องอาหาร มีความหมายตามภาษาญี่ปุ่นคือคำว่า คลื่นลูกเล็ก แต่ทั้งนี้ต้องขอบอกว่า ประสบการณ์ที่ได้จากห้องอาหารแห่งนี้นั้นไม่เล็กเลย ด้วยทั้งเมนู และฝีมือลีลาของเชฟเทปันที่ผ่านการฝึกฝนจนชำนาญ ล้วนบันดาลให้ห้องอาหารแห่งนี้มีทั้งความสวยงามของอาหารและลีลาบนถาดเทปันดุจเกลียวคลื่น รวมถึงได้ทั้งความสงบและความสุขจากการมาเปิดประสบการณ์ทางอาหารอย่างน่าประทับใจนี้ โดยภายในห้องอาหารทำการตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูเรียบหรู จากแนวคิดแบบเซน ที่แสวงความความสงบ ซึ่งห้องอาหารนี้ได้ผ่านการตกแต่งจากใส่ใจ ด้วยการใช้สีน้ำตาลเข้มเพื่อตัดกันกับสีเหล็ก โต๊ะไม้ และเคาท์เตอร์ลายหินอ่อน แม้กระทั่งถ้วยจานชามช้อน ทั้งหมดทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นความหรูหราที่ลงตัว ที่พร้อมสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจไปกับมื้ออาหารแห่งค่ำคืนนี้ โดยห้องอาหาร มีทั้งบริเวณสเตชันที่เป็นพื้นที่เปิด แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ด้วยการมีกำแพงกั้นการมองเห็นระหว่างสเตชันในบางส่วน ทำให้ได้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว และในขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกถึงความกว้างและเปิดจากตัวกระจกในห้องอาหาร หรือสำหรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือมาทานอาหารร่วมกันเป็นจำนวนมาก ทางห้องอาหารก็มีห้องส่วนตัวพร้อมให้บริการเช่นกัน โดยหากมากัน 8 คนขึ้นไป สามารถเข้าใช้บริการห้องส่วนตัวได้โดยไม่คิดค่าห้องเพิ่ม Sushi Sashimi & Maki roll ทางห้องอาหารได้จัดเตรียมเมนูซูชิหน้าต่าง ๆ ชุดซาชิมิที่มีความสด รวมถึง ข้าวปั้นข้าวห่อแบบญี่ปุ่นหน้าต่าง ๆ เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ โดยเมนูต่อไปนี้คือเมนูตัวอย่างที่ทางทีมงาน Kineandleisure ได้สัมผัสและขอแนะนำครับ Sashimi selection เซ็ตซาชิมิที่แล่อย่างสวยงาม ประกอบด้วยปลาดิบชนิดต่าง ๆ เช่น แซลมอน ทูน่า หรือแม้กระทั่งหอยเชลล์ โดยมีให้เลือกระหว่างเซ็ต 5 ชิ้น และเซ็ต 10 ชิ้น ตามความชอบครับ โดยในชุดนี้เราเป็นแบบ 10 ชุด เมื่อซาซิมิรวมถูกเสิร์ฟมา สิ่งแรกที่สะดุดตาคือความสวยงามและความสดของวัตถุดิบต่างๆ ที่ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถัน ปลาคัทสึโอะ ปลากระพงขาว ปลาแซลมอน…
ท่ามกลางตึกระฟ้ากลางเมืองกรุง ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ และท่ามกลางมหานครอันวุ่นวาย เมื่ออยากหาห้องอาหารที่บรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมกินลมชมวิวทิวทัศน์ท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราและอาหารเลิศรส ทางทีมงาน Kinandleisure ขอพร้อมใจนำเสนอ ห้องอาหารนิมิต แห่งโรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของท่าน ด้วยบริการอันน่าประทับใจ บรรยากาศอันหรูหราเป็นเอกลักษณ์ พร้อมวิวทิวทัศน์ใจกลางมหานคร ประกอบด้วยอาหารไทยอันวิจิตร ที่ปรุงแต่งด้วยความตั้งใจ นำเสนอแบบร่วมสมัยจากวัตถุดิบคุณภาพดีที่ประกอบสร้างกันอย่างพิถีพิถัน ที่พร้อมจะผสมผสานทุกองค์ประกอบอย่างกลมเกลียว ที่จะสร้างความน่าประทับใจไม่รู้ลืมให้กับท่าน ไม่ว่าจะมากับเพื่อนพ้อง ครอบครัว หรือคนรู้ใจ Design & View ห้องอาหารนิมิต ตามชื่อ พร้อมที่จะนิมิตภาพวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่สุดใจกลางเมืองกรุงให้ท่านได้ยลโฉม จากจุดตั้งของโรงแรมที่สามารถเห็นความคึกคักของเมืองกรุงได้อย่างชัดเจน และการออกแบบด้วยดีไซน์ที่ร่วมสมัยและใส่ใจ ทำให้ท่านสามารถเดินชมทิวทัศน์เมืองกรุงเทพได้ในทุกมุมมอง รวมถึงในชั้นยังมีสระว่ายน้ำ ที่พร้อมสร้างประสบการณ์สุดหรู ที่เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจอีกด้วย ห้องอาหารมีการตกแต่งพื้นและกำแพงด้วยสีน้ำทะเลอันสดใส และสร้างเอกลักษณ์ด้วยการที่ตัวสีและกระจกที่เปิดรับมุมแสงมีการสะท้อนและเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อท่านมาทานอาหารในยามกลางวัน ยามสนธยา หรือยามค่ำคืน ทางห้องอาหารนิมิตร ก็พร้อมนิรมิตความวิจิตรตระการตาจากองค์ประกอบอันเรียบง่ายแต่เรียบหรู ซึ่งก็คือศิลปะจากแสง ไม่ว่าจะจากแสงอาทิตย์ หรือจากแสงไฟที่ประดับในร้าน ซึ่งผมขอยืนยันว่า เรื่องวิวทิวทัศน์ และเรื่ององค์ประกอบการตกแต่ง ที่นี่สวยงามไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ ทางห้องอาหารมีการจัดโซนที่นั่งไว้สองส่วน คือ ส่วนพื้นที่ภายในห้อง และส่วนพื้นที่ด้านนอก ซึ่งจะมีจุดเด่นที่ต่างกัน ในพื้นที่บริเวณเปิดกว้างด้านนอกจะทำให้ท่านสามารถรับชมวิวได้อย่างเต็มที่ และซึมซับกับบรรยากาศ โดยเฉพาะเมื่อยามอาทิตย์อัสดง ที่จะสร้างความโรแมนติกอันน่าประทับใจ หรือยามกลางคืน ด้วยการประดับแสงไฟ และความครึกครื้นยามค่ำคืนแห่งเมืองกรุง ท่านก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องฟ้ายามราตรีอันมีเสน่ห์น่าหลงใหล ในขณะเดียวกัน หากท่านชอบการนั่งในห้องแอร์มากกว่ากลางแจ้ง ก็สามารถนั่งในพื้นที่ด้านในที่ห้องอาหารจัดสรรไว้ได้ ซึ่งก็จะได้บรรยากาศโรแมนติกและเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าท่านจะนั่งด้านในหรือด้านนอก ทั้งหมดล้วนเป็น Strategic location สำหรับการดินเนอร์ใต้แสงเทียนด้วยบรรยากาศอันน่าหลงไหล มื้ออาหารอันน่าตื่นใจ ห้องอาหารนิมิต นำเสนออาหารไทย ด้วยการนำเสนอในรูปแบบโมเดิร์น แต่เอกลักษณ์ทางด้านรสชาติ ยังสามารถคงไว้ซึ่งความเป็นไทยได้อย่างเต็มเปี่ยม และพร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้รับประทานด้วยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมประเทศไทย การจัดเสิร์ฟอย่างสวยงาม และรสชาติที่พร้อมสร้างความหลงใหลให้กับผู้เข้ามารับประทาน ทั้งจากการทานเฉพาะกับ หรือการทานพร้อมกับข้าวสวย โดยลักษณะการเสิร์ฟจะเป็นแบบ Sharing ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมอันแสนอบอุ่นของไทยได้เป็นอย่างดี ข้าวเกรียบกุ้งผงสมุนไพร เริ่มต้นด้วยออเดิร์ฟรองท้อง คือข้าวเกรียบกุ้งที่อยู่คู่มื้ออาหารไทยมาอย่างช้านาน แต่ข้าวเกรียบกุ้งของห้องอาหารนิมิต ก็มีความพิเศษซุกซ่อนอยู่ คือการใช้ผงสมุนไพรและพริกเผาเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความหอมและความเผ็ดร้อนอย่างอ่อน ๆ…
สวัสดีทุกท่านอีกครั้งครับ แน่นอนว่าวันนี้ทาง Kinandleisure ก็มีห้องอาหารพร้อมโปรโมชั่นสุดประทับใจมานำเสนออีกเช่นเคย โดยห้องอาหารที่ทางเราพร้อมใจนำเสนอในวันนี้ คือ ห้องหลิว แห่งโรงแรมคอนราด กรุงเทพ การันตีคุณภาพด้วยการเป็นห้องอาหารที่เปิดมาอย่างยาวนาน และรสชาติอาหารกวางตุ้งที่ผ่านการประกอบอาหารอย่างพิถีพิถัน และนำเสนออย่างโมเดิร์นด้วยการจัดแต่งอาหารอย่างสร้างสรรค์ ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้ทุกท่านที่เข้ามารับประทานอาหารที่ห้องอาหารแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน Decoration ห้องอาหารหลิว แห่งโรงแรมคอนราด ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นร้านอาหารจีนคุณภาพ ตั้งแต่วินาทีที่ยืนอยู่หน้าร้าน จนกระทั่งเดินเข้าไปในร้าน โดยท่านจะพบกับการตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นจีนแท้ๆ ด้วยบรรยากาศแบบเรียบหรูสไตล์จีน การตกแต่งโทนสีด้วยสีแดง โต๊ะไม้และเก้าอี้ลายจีน และไฟในโทนสีเหลือง ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนดังเดินทางเข้าในภัตตาคารสุดหรูแห่งแดนมังกร เป็นมนต์ขลังที่สะกดให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจได้ไม่ยาก ในขณะที่แฝงไปด้วยความโมเดิร์นร่วมสมัยจากตัวสถาปัตยกรรมและการจัดเรียงแสงไฟ สำหรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องการคุยธุรกิจหรือการสังสรรค์ภายในครอบครัว ทางห้องอาหาร ก็ได้จัดเตรียมห้องส่วนตัวไว้พร้อมให้บริการเช่นกัน Food ห้องหลิว โรงแรมคอนราด มีจัดโปรโมชั่นน่าสนใจ คือ บุฟเฟ่ติ่มซำ All you Can eat ในช่วงกลางวัน ประกอบไปด้วยเมนูติ่มซำที่มีมากถึง 32 เมนู ซึ่งแต่ละเมนูล้วนมีเอกลักษณ์ในตัวเอง และแสดงออกถึงความพิถีพิถันของทีมเชฟที่จัดเตรียมอาหารอย่างใส่ใจได้เป็นอย่างดี ด้วยการตกแต่งอย่างร่วมสมัยและสร้างสรรค์ ในขณะที่รสชาติยังคงรสชาติยังเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ดั้งเดิมของอาหารกวางตุ้งที่ทุกท่านชื่นชอบอยู่ และเมนูต่อไปนี้ คือเมนูติ่มซำบางส่วน ที่ทาง Kinandleisure ขอนำเสนอเพื่อประกอบการพิจารณาครับ All-You-Can-Eat Dim Sum Lunch ซาลาเปาลาวาชาโค เนื้อแป้งซาลาเปาสีดำสวยงามจากตัวผงชาโคที่นำมาผสมแป้งสาลี และแต่งเติมด้วยทองคำฟู้ดเกรด มีจุดเด่นคือไส้ลาวา ที่เป็นไส้ลาวาไข่แดง มีรสชาติหวาน มัน เค็ม และที่สำคัญคือใส่มากเยอะมากแบบไม่มีกั๊ก ซาลาเปาเห็ดรวมมิตร ซาลาเปาสีขาวเนียน ทำออกมาในรูปทรงเม่นน้อย ตกแต่งด้วยการแต่งแต้มงาดำสองจุดอย่างน่ารัก กลายเป็นน้องที่น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง ส่วนข้างในของน้องเม่น สอดไส้เห็ดนานาชนิด อาทิเห็ดหอมชิทาเกะ เห็ดชิเมจิ มีกลิ่นหอมและไส้แน่นมาก เข้ากับตัวแป้งที่นึ่งได้อย่างกำลังดี สีขาวเนียน น่าถ่ายรูปและมีรสชาติที่น่าประทับใจมาก (เป็นเมนูมังสวิรัติ ไม่มีเนื้อสัตว์) พายเป็ดเห็ดหอม ปกติถ้าติ่มซำรูปทรงนี้เรามักจะพบว่าเป็มเมนูเผือกทอดแต่อันนี้ไม่ใช่เผือกทอด เมนูนี้เป็นพายเป็ดที่ตกแต่งให้กลายเป็นรูปทรงหงส์น้อยสีดำแก้มแดงอย่างสวยงาม พร้อมทำตัวแป้งให้ดูกรอบฟูฟ่อง ข้างในสอดใส้เห็ดหอมแน่น ๆ เป็นติ่มซำที่มีทั้งเอกลักษณ์ในตัวเอง และมีรสชาติที่น่าประทับใจ (สามารถทานได้ทั้งชิ้น) ขนมจีบกุ้งหอยเชลล์ เสิร์ฟพร้อมวาซาบิมายองเนส เป็นขนมจีบกุ้งสีสันเลืองสวยงามจากแป้งและสีส้มจากไข่ปลาบิน ประกอบด้วยกุ้งขาวแชบ้วยเกรดเอ และหอยเชลล์ชิ้นใหญ่ และมีจุดเด่นที่ช่วยชูรสชาติ คือวาซาบิมายองเนสที่มีรสชาติฉุนขึ้นจมูกแต่นุ่มนวลด้วยความครีมจากมายองเนสอย่างเป็นเอกลักษณ์ เป็นขนมจีบกุ้งแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว…