วันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวขอนำเสนอ สุดยอดชุดน้ำชายามบ่ายในตำนานสูตรต้นตำรับ โดยร้านขนมหวานชื่อดังของฝรั่งเศส รังสรรค์โดยเชฟขนมหวานมากประสบการณ์ที่ได้รับการฝึกฝนจากฝรั่งเศส ส่งตรงมายังใจกลางสยามพารากอน นั่นคือ “ชุดน้ำชายามบ่ายของร้านลาดูเร่ (Ladurée)” นั่นเอง ซึ่งถ้าใครเป็นสาวกขนมหวานจะต้องรู้จักร้านนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นร้านขนมหวานชื่อดังที่มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส (ก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ.1862) และมีสาขาไปทั่วโลก โดยทุกร้านจะคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และมาตรฐานของร้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งสไตล์โรโกโก, รูปลักษณ์ขนมหวานที่สวยงามประณีตและรสชาติที่หอมหวานสไตล์ฝรั่งเศสขนานแท้ รวมถึงชาที่เบลนด์เองของร้านลาดูเร่ ส่วนขนมหวานชื่อดังของร้านที่เราจะพลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ มาการอง นั่นเอง จะเป็นยังไงไปอ่านต่อกันเลยครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านที่อยู่ในส่วนกลางทางเดินของห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ชั้น M แต่ก็มีการจัดร้านโดยใช้ผนังไม้, กระจก และผ้าม่าน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาได้ดีทีเดียว ส่วนเพดานก็สูงโปร่งไม่อึดอัด บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ฝรั่งเศส โดยใช้สีพาสเทล (ชมพู,ฟ้าและเหลืองทองเป็นหลัก) ส่วนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่นๆก็สวยงามกลมกลืนกันเป็นอย่างดี แบบสไตล์ศิลปะโรโกโก (ยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 14) ซึ่งหากใครเคยไปร้านลาดูเร่ที่อื่นก็จะพบการตกแต่งสไตล์นี้เช่นกัน ถือเป็นเอกลักษณ์ของร้านเลยทีเดียว มีการตกแต่งโต๊ะอาหารด้วยมาการองซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์เมนูของที่นี่ วางในจานแก้วและครอบแก้วดูสวยงามครับ โต๊ะที่เราใช้รับประทานชุดน้ำชายามบ่ายในวันนี้ครับ ซึ่งจะเห็นว่าดูหรูหราและเน้นการใช้สีพาสเทล ไม่ว่าจะเป็นสีสันของจาน ช้อนส้อม ผ้าปูโต๊ะ และดอกกุหลาบตรงกลาง ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว วันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวได้มีโอกาสมารับประทานชุดน้ำชายามบ่ายของที่นี่ รวมถึงเครื่องดื่มบางชนิดด้วย ไปดูกันเลยครับ ความจริงแล้วทางร้านมีชุดน้ำชายามบ่ายให้เลือกหลายแบบ ซึ่งก็จะมีชนิดและจำนวนของขนมที่แตกต่างกันในแต่ละเซ็ตครับ แต่วันนี้ทางทีมงานได้มาลองรับประทานชุดนำชายามบ่ายชื่อดังของที่นี่ สำหรับ 2 ท่าน นั่นคือ Les afternoon tea set 1 (1200++) ซึ่งในเซ็ตประกอบด้วย มาการอง 2 ชิ้น (เลือกรสได้), Pastries 2 ชิ้น (เลือกได้จากเมนูที่กำหนด และเพิ่มเงิน 100 บาท สำหรับ Ispahan และ St. Honoré rose framboise), Club sandwich 1 ชิ้น (Club Ladurée หรือ Club salmon), Ladurée mini croissant 1 ชิ้น, Mini chocolate croissant 1 ชิ้น และ…
Author: satid chu
วันนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านมาชิม ลิ้มลอง ขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศในกล่องหนังสุดหรู พร้อมความหมายดีๆ ส่งความรู้สึกดีๆผ่านความอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์ จากโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ขนมไหว้พระจันทร์ สูตรต้นตำรับจากห้องอาหารจีนแมนโฮ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ บรรจุในกล่องหนังสีแดงสวยหรู ที่ออกแบบมาเฉพาะเทศกาลไหว้พระจันทร์ เสริมสิริมงคลด้วยลายก้อนเมฆจีนสีทอง ที่สื่อความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า เพื่อมอบให้บุคคลที่รักในเทศกาลอันเป็นมงคล และยังสามารถนำกลับมาใช้เป็นกล่องเก็บอัญมณีได้ ภายในพรั่งพร้อม บรรจุแน่นไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ ที่คัดสรรด้วยความปราณีต ผลิตจากส่วนผสมชั้นเลิศ จำนวน 4 ชิ้น 4 รสชาติ โดยมีรสพิเศษประจำปีนี้ คือ “ชาเขียวและถั่วแดง” รสใหม่ไฉไลที่เป็นความลงตัวระหว่าง ขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิม เปลือกอบ แต่ไส้ในเป็นรสแบบญี่ปุ่น พื้นฐานไส้เป็นไส้เมล็ดบัวผสมผงชาเขียว ไส้ตรงกลางเป็นไส้ถั่วแดง ทั้งนี้สามารถเลือกคละกับรสยอดนิยม ได้แก่ ลูกบัว ไส้เมล็ดบัวไข่ (Lotus seed with egg yolk) ไส้เนื้อเนียนคล้ายๆกับเนื้อไส้ทุเรียน แต่ด้านในจะมีเมล็ดบัวสีขาว บางๆ กรุบกรอบ หวานกำลังดี เคี้ยวเพลิน ไข่แดงทุเรียน ไส้ทุเรียนไข่ (Classic durian with egg yolk) เนื้อเนียนละเอียด กลิ่นทุเรียนหอม ทานง่าย รสหวานกำลังดี ไข่แดงพุทราจีน ไส้พุทราจีนไข่ (Date plum or Chinese jujube with egg yolk) ไส้เนื้อร่วนนิดๆ สีออกม่วงเข้ม รสชาติออกหวานนิดๆ ทานคู่กับชาร้อนจะเข้ากันยิ่งขึ้น เริ่มวางจำหน่ายระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 กันยายน 2561ในราคากล่องละ 1,188 บาทสุทธิต่อกล่อง หรือสามารถเลือกซื้อขนมไหว้พระจันทร์แบบแยกชิ้นได้ในราคาชิ้นละ 158 บาทสุทธิต่อชิ้น *พิเศษ! ส่วนลด 20% เมื่อสั่งจองชุดขนมไหว้พระจันทร์ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2561* สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อชุดขนมไหว้พระจันทร์จากห้องอาหารจีนแมนโฮโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โทร 026567700 หรือ อีเมล์ [email protected] ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติม www.facebook.com/JWMarriottBKK หรือ www.instagram.com/JWMarriottBKK ช่องทางพิเศษอย่างไลน์ที่@jwmarriottbkk หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์โรงแรมได้ที่http://jwmarriottbangkok.com/…
“เปิดประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่าย ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลหัวหิน ในอาคารหรูสไตล์โคโลเนียลเก่าแก่กว่า 95 ปี ที่ The Museum Coffee and Tea Corner โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน” สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาลองรับประทาน Afternoon tea set สุดแสนพิเศษ ท่ามกลางบรรยากาศชิวๆริมทะเล ในอาคารหรูสไตล์โคโลเนียลเก่าแก่กว่า 95 ปี เราขอแนะนำ Afternoon tea ที่ The Museum Coffee and Tea Corner (reception ของโรงแรมรถไฟเดิม) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Railway Wing (อาคารหลังแรกตั้งแต่สมัยที่เป็นโรงแรมรถไฟเดิม) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน เมื่อเข้ามาภายในโรงแรม ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวก็ต้องสะดุดตากับอาคารสูงโปร่ง สวยงามคลาสสิก ตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์โคโลเนียล ซึ่งใช้สถาปนิกคนเดียวกับที่ออกแบบพระราชวังมฤคทายวันเลยทีเดียว เนื่องจากตัวอาคารของที่นี่มีลักษณะสูงโปร่ง จึงมีอากาศถ่ายเทสะดวก และทำให้ผู้ที่มาใช้บริการได้ลมทะเลเย็นสบายตลอดทั้งวัน และเมื่อมองออกไปก็จะเห็นสวนสวยๆของโรงแรม โดยมีฉากหลังเป็นวิวทะเลอันสวยงามของหัวหิน การตกแต่งภายใน ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว แต่ยังคงความสง่างามคลาสสิก นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ, นาฬิกา, จานชาม และเครื่องแก้วต่างๆในตู้กระจกล้วนเป็นของดั้งเดิมทั้งสิ้น วันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวได้มีโอกาสได้ลองรับประทาน Afternoon tea set ของที่นี่ 2 แบบด้วยกัน คือ Huahin set (แบบไทย) และ Herritage set (แบบดั้งเดิมแนวตะวันตก) จะเป็นยังไงไปดูต่อกันเลยครับ ชุดแรก Huahin Set (450++บาท สำหรับ 1 ท่าน) สำรับอาหารคาวและหวานในชุดนี้จะเป็นแบบไทยๆ รวมชาหรือกาแฟ 1 ที่ ก่อนเริ่มรับประทานทางทีมงานก็ต้องสะดุดตกับภาชนะที่ใส่ขนม ซึ่งมีทั้งตะกร้าหวายรองด้วยใบตอง และจานชามหลายขนาดที่มีลวดลายไทยอย่างประณีต ซึ่งนอกจากจะจัดมาได้สวยงามเข้ากับตัวอาหารในชุดแล้ว ยังช่วยทำให้ชุดน้ำชายามบ่ายหัวหินนี้ดูมีคุณค่ามากขึ้นอีกด้วย ส่วนอาหารคาว ได้แก่ ข้าวตังหน้าตั้งซอสหมู, เปาะเปี๊ยะทอดทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย, Wrap สอดไส้สะเต๊ะไก่รสเข้มข้น และพานินีแกงไก่…
One of The best Japanese Cuisine in Huahin “กินอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศ เพลิดเพลินกับโชว์การทำเทปันยากิ ในบรรยากาศสบายๆ ได้กลิ่นอายของทะเล ณ ห้องอาหารญี่ปุ่น HAGI โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน” ห้องอาหารญี่ปุ่นสุดหรูใจกลางหัวหิน ที่คัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นเลิศ นำมารังสรรค์โดยเชฟอาหารญี่ปุ่นมากประสบการณ์ ทำให้ได้อาหารรสเลิศ ท่ามกลางบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งอย่างหรูหรา นอกจากนี้ ทุกท่านยังได้เพลิดเพลินกับการชมเชฟทำอาหารเทปันยากิให้ชมกันแบบสดๆอีกด้วย วันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวได้มีโอกาสมารับประทานอาหารที่นี่ จะเป็นยังไงไปติดตามชมกันเลยครับ ร้านอาหารตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์โมเดิร์น กว้างขวาง มีโต๊ะและที่นั่งหลายแบบให้เลือก ได้กลิ่นอายของทะเล ด้านหน้าสามารถนั่งชิวๆรับลมและดูผู้คนสัญจรไปมาได้ วันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวได้มีโอกาสนั่งโต๊ะเทปันยากิซึ่งเป็นโต๊ะรูปตัวยูขนาดใหญ่นั่งได้ถึง 8 คนด้วยกัน โดยมีกระทะเทปันยากิอยู่ตรงกลางไว้ให้เชฟมาปรุงอาหารให้เราดูกันครับ ทางไปห้องน้ำก็ตกแต่งอย่างสวยงามเก๋ไก๋ไม่เบา โดยนำหินรูปสี่เหลี่ยมมาวางเรียงกันบนน้ำ แต่ถ้าใครเมาๆก็ต้องระวังเรื่องการเดินด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจพลาดได้ ส่วนเมนูอาหารก็ค่อนข้างไฮเทค โดยสามารถดูรูปอาหารและ สั่งอาหารได้ผ่านไอแพตที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ เริ่มต้นด้วยสาเกคุณภาพดี เย็นๆ ใส่น้ำแข็งก้อนรูปลูกบาศก์ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดีทีเดียว Dragon roll (โรลไส้ปลาไหลกับอะโวคาโด) เริ่มต้นการรับประทานอาหารวันนี้ด้วย Dragon roll (280 บาท) เป็นโรลสอดไส้ปลาไหลกับอะโวคาโด เนื้อปลานุ่มๆกับซอสหอมหวานเข้ากันได้ดีกับอะโวคาโดและข้าวญี่ปุ่นชั้นดี วางอะโวคาโดชิ้นโตด้านบนอย่างจุใจคล้ายเกล็ดมังกร วางเรียงกันเป็นแถวคล้ายรูปร่างของตัวมังกร และตกแต่งจานแบบญี่ปุ่นอย่างสวยงามน่ารับประทาน ต่อมาก็ถึงไฮไลท์ของเราในวันนี้ นั่นคือชุดอาหารเทปันยากิครับ ซึ่งวันนี้เรามีโอกาสได้รับประทาน 2 ชุดด้วยกัน นั่นคือ Amori set teppanyaki และ Sakura set teppanyaki ซึ่งทุกชุด จะมีเชฟมาทำให้ดูกันอย่างสดๆให้ได้เพลิดเพลินและกระตุ้นความอยากอาหารอีกด้วย ขอบอกเลยว่าทางทีมงานกินแหลกแจกดาวทุกคนล้วนประทับใจมากจริงๆ Amori set teppanyaki (1050 บาท) ประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อยเป็น Sushi หรือ sashimi ซึ่งต้องบอกเลยว่า ทางร้านใช้วัตถุดิบตุณภาพดีและสดจริงๆ ในเซ็ตซาชิมิประกอบด้วยปลาทูน่า, ปลากระพง และปูอัด จัดวางบนจานอย่างสวยงาม ซุป มี 3 แบบให้เลือก เรียงจากขวามาซ้าย ได้แก่ ซุปมิโสะ…
วันนี้ทางทีมงาน Kinlakestars.com กินแหลกแจกดาว จะพาทุกท่านไปชมโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวใจกลางกรุงเทพ นั่นคือ โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งนำเสนอความหรูหราในสไตล์แบบฝรั่งเศส ในอาคารสูง 32 ชั้น กับการใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Hermès บนพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของกรุงเทพมหานครรายล้อมด้วยย่านธุรกิจและการเงิน อีกทั้งแหล่งศูนย์การค้าชั้นนำ + Lobby เมื่อเดินเข้ามาในโรงแรมจะเจอล็อบบี้อันกว้างขวางโอ่โถง เมื่อเดินเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความหรูหรา โดยจะมีพนักงานต้อนรับมาคอยต้อนรับอย่างอบอุ่น, มีพนักงานยกกระเป๋ามาคอยดูแลกระเป๋าของท่านและนำขึ้นไปบนห้องพัก และที่ reception ก็จะมีพนักงานมาบริการท่านด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ่งส่วน Lobby ชั้นล่างนี้จะให้บริการกับแขกโดยทั่วไป แต่ครั้งนี้ทางทีมงานเราได้มีโอกาสได้เข้าพักที่ห้องลักซ์ชัวรีคลับมิลเลซึม (Luxury Club Millesime Room) ซึ่งจะต้องไปเช็คอินที่คลับมิลเลซึมซึ่งเป็นคลับหรูบนชั้น 31 ของโรงแรม + ต้อนรับ – club คลับมิลเลซึม (Club Millesime) ตั้งอยู่บนชั้น 31 ของโรงแรม สามารถชมทัศนียภาพมุมสูงของกรุงเทพฯได้อย่างงดงาม ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนของแขกผู้มีเกียรติและนักธุรกิจที่ต้องการการบริการแบบเป็นส่วนตัวและหรูหราสมบูรณ์แบบ ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้บริการสำหรับแขกห้องสวีทและห้องลักซ์ชัวรีคลับเมเลซึม ซึ่งบรรยากาศของคลับมีความเป็นส่วนตัว สามารถใช้บริการได้หลากหลาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถจัดประชุมได้ มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและโทรศัพท์ภายในประเทศคอยให้บริการ — ค็อกเทลตอนเย็น ตั้งแต่ 17.30น.เป็นต้นไปของทุกวัน ทางคลับจะมีบริการขนมที่ทางโรงแรมตั้งใจรังสรรค์ขึ้นหลายชนิด, เครื่องดื่ม, ค็อกเทล และไวน์ชั้นเลิศนานาชนิดไว้ให้บริการภายในเล้าจน์อีกด้วย — afternoon tea ตั้งแต่14.30น.เป็นต้นไปของทุกวัน ทางคลับจะมีบริการ Afternoon tea ซึ่งท่านสามารถสั่งชา กาแฟ เครื่องดื่มชั้นเลิศกับพนักงาน และ สามารถเดินไปหยิบขนมอาทิเช่นพาย, เค้ก, คุ๊กกี้และมาการอง เป็นต้น มารับประทานกันได้อย่างจุใจ — breakfast ให้บริการตั้งแต่ 7.00-10.30น. ในวันธรรมดาและ 7.00-11.00น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะมีอาหารนานาชนิดให้ท่านเลือกรับประทาน ในบรรยากาศแบบส่วนตัวพร้อมชมวิวอันสวยงามของกรุงเทพมหานคร ซึ่งท่านสามารถเลือกที่จะไปรับประทานบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่ห้องอาหารวัวล่า (Voila) ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 2 ของโรงแรม ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานเลือกที่จะไปห้องอาหารแห่งนี้ ซึ่งจะให้ท่านได้ชมกันครับ + ห้องพัก โรงแรมมีห้องพักจำนวน 345…
” Anantara เชียงใหม่ นิยามของ Luxury และความบรรจบมาเจอกัน หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ห้ามพลาดของผู้รักความสงบและความหรูหรา สะดวกสบาย !!! ” บินสบายๆไปกับ Bangkok Airways ทั้ง Luxury และ Boutique ไม่เหมือนใคร ให้ทุกเที่ยวบินคุณ สะดวกสบายประทับใจ ตรงเวลา จะดีอย่างไรไปดูกันเลย ห้องรับรองทุกเที่ยวบิน : ไม่ว่าคุณจะจ่ายค่าตั๋วระดับไหน ทาง Bangkok Airways ก็มีห้องบริการให้คอยรับรองทุกเที่ยวบิน จากกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ให้บริการทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เครื่องดื่มมากมาย และอาหารที่หลากหลาย ที่ห้ามพลาดและเป็นซิกเนเจอร์ของเขาก็ข้าวต้มมัดนี้ล่ะ บริการจากลูกเรือด้วยความเป็นมิตรและใส่ใจ บริการอาหารบนเที่ยวบินกับบัตรโดยสารทุกระดับ ทุกเที่ยวบิน อร่อยอิ่มท้องอิ่มใจ ที่นั่งกว้างสบาย พบกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของเชียงใหม่จากความหรูหราริมน้ำ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เป็นที่พักหรูหราในสไตล์ร่วมสมัยที่ได้รับการตกแต่งแบบไทยและโคโลเนียล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิงในเมืองทางเหนืออันงดงามของประเทศไทย พบกับความสงบเงียบเป็นส่วนตัวได้ที่โรงแรมในเชียงใหม่ของเรา ผ่อนคลายอิริยาบถบนเตียงนอนเล่นนอกระเบียง ชื่นชมสวนบริเวณสนามหรือชีวิตริมน้ำอันสงบสุขของไทย นั่งเล่นที่สระว่ายน้ำริมแม่น้ำ ปล่อยกายปล่อยใจไปกับการทำสปาที่เป็นส่วนตัว ผู้เชี่ยวชาญของเราจะแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นชั้นเรียนมวยไทย การทำอาหาร และการนวดแผนไทย บรรยากาศเรียบหรูสไตล์ล้านนาประยุกต์ ให้ความรู้สึก สงบ และผ่อนคลายอย่างแท้จริง ก็ต้องที่นี่เลยครับ Anantara spa, Anantara Chiangmai Resort อ่านคอลัมน์เต็ม>>> ด้วยทำเลที่ตั้งในใจกลางเมืองของเชียงใหม่ ทำให้โรงแรมนี้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกอย่างยิ่งในการออกสำรวจสถานที่ต่างๆ ค้นพบวัดวาอารามที่มีนับไม่ถ้วนในเมืองเก่า ตลาดที่คึกคัก และซากปรักหักพังของอาณาจักรล้านนาในยุคโบราณ ดื่มด่ำกับบรรยากาศหลากหลายวัฒนธรรมได้ที่คาเฟ่ ร้านบูติค และแกลเลอรี่ที่ดูแปลกตา ออกผจญภัยไปกับประสบการณ์การนั่งบนหลังช้างและล่องแม่น้ำ เยือนอุทยานแห่งชาติและสวนดอกไม้งดงามอลังการ เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขาและงานฝีมือ สำหรับการมาพักผ่อนที่เชียงใหม่ในครั้งนี้ เราเลือก Anantara Chiangmai เพราะเราต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริงสไตล์ Leisure แต่ก็ยังคงที่จะออกไปไหว้พระและชิมอาหารพื้นถิ่นบ้าง ดังนั้น ที่แห่งนี้จึงเหมาะสมสุดๆ ด้วยแนวคิดการออกแบบนั้น ใช้แนวคิดการออกแบบจากความ Modern ผสมผสานเข้ากับความเป็นล้านนา สถาปนิกผู้ออกแบบเป็นชาวออสเตรเลีย จึงจะเห็นสถาปัตยกรรมที่ดูมีความผสมผสานระหว่างความเรียบหรู จากองค์ประกอบต่างๆ ผสานกับการเลือกใช้วัสดุเป็นไม้ กับผนังปูนสีขาวเยอะพอสมควรที่สื่อถึงความเป็นล้านนา สำหรับอาคารของฝั่งเดิม Anantara Chiangmai Resort ฝั่งที่ติดแม่น้ำ จะเป็นอาคาร…
Kinlakestars.com ชวนดับกระหายคลายร้อนท่ามกลางอุณหภูมิอันร้อนระอุ ด้วยชุดน้ำชายามบ่าย Lavender Delight สีม่วงที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมจรุงใจของดอกลาเวนเดอร์ สัญลักษณ์แห่งฤดูร้อน ซึ่งดอกลาเวนเดอร์มีน้ำมันหอมระเหยอันเป็นที่มาของรสหวานหอมละมุนละไมแบบเฉพาะตัว ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค หากคุณกำลังมองหาชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษรสชาติและคุณภาพระดับโรงแรม 5 ดาว ในบรรยากาศหรูหราระดับเวิลด์คลาสใจกลางกรุงเทพฯ ในวันนี้ทางทีมงาน กินแหลกแจกดาว ขอนำเสนอ “ชุดชายามบ่าย Lavender Delight” บริเวณล็อบบี้ เล้าจน์ ณ โรงแรม แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ ปาร์ค กรุงเทพฯ เพื่อให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินใจไปกับรสชาติแห่งฤดูร้อนสีม่วงสดใสในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมนี้ โดยเฉพาะ จิบชาไปพร้อมฟังบรรเลงเปียโนสดจากคุณ สมชาย ตรีโทเอก ที่นี่มีชาให้เลือกอย่างมากมายหลากหลายจากดิมาส ซึ่งนอกจากชาที่หลากหลายกลิ่นรส ทางโรงแรมยังสามารถสร้างสรรค์ชารสใหม่ กลิ่นใหม่ให้ท่านได้อีกด้วย ด้วยการผสมผสาน สารพัด สวนผสมจาก เครื่องเทศและดอกไม้นานาชนิด อาทิ กุหลาบ ลาเวนเดอร์ รอยบอทชั้นเลิศจากทวีปแอฟริกา เริ่มต้นกันที่ของคาวนะครับ ซึ่งในเมนูของคาวนั้นจะจัดวางอยู่ในจานชั้นล่างสุด Soda bread baguette, Iberian ham, Lavender butter เป็นขนมปังบาแก็ตขนาดเล็ก เสิร์ฟพร้อมไอบีเรียนแฮมคุณภาพดีจากสเปน และ เนยลาเวนเดอร์ ในส่วนเนยลาเวนเดอร์นั้น เชฟได้นำเนย semi-salt คุณภาพดีจากประเทศฝรั่งเศสมาผสมกับดอกลาเวนเดอร์และหมักทิ้งไว้ 2 คืน ทำให้ได้เนยที่มีกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์ Sweet potato custard smoked salmon and Aruga caviar ขนมปังธัญพืชเสิร์ฟพร้อมคัสตาร์ดมันม่วงรสหวานละมุนทรงเหลี่ยมดูเก๋ไก๋, วางด้านบนด้วยแซลมอนรมควันและไข่ปลาคาเวียร์ที่ช่วยเพิ่มรสเค็มและมันเล็กน้อย ทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น Purple potato brioche king crab cream cheese sandwich แซนวิชขนมปังมันม่วงสไตล์ฝรั่งเศส สอดไส้ด้วยปูอลาสก้าเนื้อแน่นและครีมชีส เมื่อกินเข้าไปรสชาติหวานมันเข้ากันอย่างลงตัว Blue cheese croquette คร็อกเก็ตกรอบนอกนุ่มใน อัดแน่นด้วยไส้บลูชีสเพิ่มรสสัมผัสกรุบๆมันๆด้วยถั่วพิสตาชิโอและ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และเพิ่มรสหวานด้วยแอปริคอตแห้งและน้ำผึ้ง ถือเป็นเมนูที่ได้รสสัมผัสหลากหลายมิติในคำเดียว ต่อจากของคาว จะขอรับประทานสโคนในขณะที่ยังร้อนๆนะครับ ซึ่งสโคนในเซตนี้จะมีสีม่วงดูแปลกตา จัดวางแยกออกมาต่างหากอีกจาน Lavender scone เป็นสโคนสีม่วงเนื้อแน่น ได้กลิ่นหอมของเนยคุณภาพเยี่ยมจากฝรั่งเศสและกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์…
ใหม่! เมนูใหม่ Station ใหม่ แชมเปญใหม่ กับ ซันเดย์บรันซ์ อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ Kinlakkestars.com ขอนำเสนอความอร่อยในรูปแบบใหม่ แชมเปญซันเดย์บรันช์ (Champagne Sunday Brunch) หรือบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นตำนานในเรื่องอาหารของโรงแรมแห่งนี้มาเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ ด้วยการเพิ่มแชมเปญระดับพรีเมียม และไวน์ที่คัดสรรอย่างดีโดย Sommelier พร้อมค็อกเทลรสชาติที่จะสร้างความประทับใจให้กับคนรุ่นใหม่ และเป็นการรวมเอาสุดยอดอาหารเลิศรสหลากหลายชนิดและบรรยากาศอันสวยงามเลิศหรูใจกลางเมืองเข้ามาไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ Sunday brunch ณ ห้องอาหารปาริชาต ของโรงแรมอนันตราสยาม กรุงเทพฯ นั่นเอง ซึ่งอาหารของที่นี่นั้นล้วนคัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมและ ได้รับการปรุงโดยทีมเชฟที่มีฝีมือระดับประเทศ จากสุดยอดห้องอาหารภายในโรงแรมเอง เช่น ห้องอาหาร Biscotti (ห้องอาหารอิตาเลียน), ห้องอาหาร Spice Market (ห้องอาหารไทย), ห้องอาหาร Shintaro (ห้องอาหารญี่ปุ่น) ดังนั้น นอกจากอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์แล้ว ท่านยังสามารถลิ้มรสอาหารจานเด่นของห้องอาหารต่างๆได้ที่นี่อย่างครบครันเลยทีเดียว เมื่อเดินเข้าไปในห้องอาหาร ท่านจะสัมผัสได้ถึงความสวยงาม หรูหรา ระดับตำนาน ซึ่งอยู่คู่กับกรุงเทพฯมาหลายสิบปีส่วนบรรยากาศภายในนั้น ก็ตกแต่งอย่างมีระดับ สามารถมองเห็นวิวสวนปาริชาต และบ่อปลาคาร์ฟได้ พร้อมกันนี้ยังมีวงดนตรี Jazz และนักร้องระดับคุณภาพมาขับกล่อมให้ท่านได้เพลิดเพลินขณะรับประทานอาหารอีกด้วย เชิญลิ้มรสอาหารนานาชาติ ที่คัดสรรให้ท่านได้สังสรรค์พร้อมครอบครัวและมิตรสหายที่รู้ใจ กับแชมเปญ ซันเดย์ บรันช์ ในวันอาทิตย์ สบายๆ ระหว่างเวลา 11:30 – 15:00 น. พร้อมฟังวงดนตรีเล่นสดในบรรยากาศสวนที่ร่มรื่น โดยท่านสามารถเลือกที่นั่งรับประทานอาหาร ทั้งในห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ สไปซ์มาร์เก็ต หรือ อควา บาร์ และเด็กๆยังสามารถสนุกกับของเล่นจากแปลนทอย (Plan Toys®) ได้ที่คิดส์คลับ ชั้น 2 บริเวณปาริชาติ คอร์ท ได้อีกด้วย ซันเดย์บรันช์ เป็นการรวมเมนูอาหารจานเด่นจากห้องอาหารต่างๆ ของทางโรงแรมฯ มารวมกันไว้ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับทุกเมนูภายในมื้อเดียว อาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารทะเลสดคุณภาพพรีเมี่ยมทั้งหอยนางรม ++ Lobster bisque ซุปล็อบสเตอร์รสเข้มข้น ++ Seafood on…
ภายใต้ความเก่าก็มีความเก๋า ห้องอาหารที่พาคุณตื่นตาไปกับห้องลับ การต้อนรับโดยโฮสเตส สารพัดอุปกรณ์สายลับทั้ง โซ่ แส้ กุญแจมือ ตรวน และอาหารสำหรับสายลับทั้งอาหาร ไทย จีนเสฉวน และเวียดนาม สนุกสนานไปกับห้องอาหารที่มากมายไปด้วยเรื่องราว !!! บ้านสวยสไตล์ยุคอาณานิคมในรีสอร์ทของเรานั้นสร้างขึ้นเมื่อปี 1921 และใช้เป็นสถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่ งานเลี้ยงฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระมหากษัตริย์หรือสมเด็จพระราชินีนาถแห่งราชอาณาจักรอังกฤษถือเป็นงานไฮไลท์ประจำปี ซึ่งทางห้องอาหารได้ต้อนรับผู้คนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาเยี่ยมชม เดอะเซอร์วิส 1921 ช่วยรำลึกภาพในยุคอาณานิคมด้วยการนำเอารูปแบบของหน่วยสืบราชการลับของรัฐบาลอังกฤษกลับมาทำใหม่และสร้างสรรค์ให้ดูแปลกตา สัมผัสประสบการณ์ทานอาหารที่ไม่เหมือนใครซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องลึกลับและกลอุบายตั้งแต่นาทีที่เดินทางมาถึงด้วยการให้ดูผ่านช่องแอบสอดแนมที่ประตูทางเข้า นั่งดูมิกโซโลจิสต์ผสมค๊อกเทลในแบบเอเชียจากเก้าอี้บาร์สตูลสูง หรือนั่งสบายๆ ในซาลอนแนววินเทจที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์พร้อมทานอาหารว่างสไตล์เอเชียและจิบเครื่องดื่มระหว่างรอทานอาหารเย็น เอร็ดอร่อยกับเมนูอาหารไทย จีนเสฉวน และเวียดนามแบบร่วมสมัย ที่ปรุงโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญจากห้องอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องรับประทานอาหารส่วนกลางในบรรยากาศเป็นกันเอง หรือจองห้องอาหารแบบส่วนตัวที่ซ่อนตัวอย่างลับๆ อยู่หลังชั้นหนังสือในผนังห้องสมุด ห้องเก็บไวน์เป็นที่รวบรวมทั้งไวน์โลกเก่าและไวน์โลกใหม่นานาชนิด และให้บริการสุดพิเศษอย่างผู้เชี่ยวชาญสำหรับการชิมไวน์และงานเลี้ยงอาหารเย็นแบบส่วนตัว ลิ้มรสชาติซิงเกิ้ลมอลต์ในห้องชิมวิสกี้แบบส่วนตัวและลองซิการ์คิวบาจากผู้ที่คลั่งไคล้ซิการ์ในท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน รอบๆ ระเบียงของเดอะเซอร์วิส 1921 ยังจัดสถานที่ไว้อย่างสวยงามสำหรับประเพณีอาฟเตอร์นูนทีที่มีชื่อของอนันตราซึ่งจัดขึ้นทุกๆ วันจันทร์-ศุกร์ ชั้น 2 เป็นร้านอาหารตกแต่งธีมสายลับอังกฤษมีทั้งส่วน indoor และ outdoor ส่วนของ indoor นั้นตกแต่งอย่างประณีต เรียบหรูสไตล์สายลับ ส่วนของห้องสมุดมีประตูลักษณะเป็นชั้นวางหนังสือเพื่อเชื่อมต่อไปอีกห้องหนึ่ง มีห้องขนาดเล็กเก็บสุราเก่าแก่ชั้นเยี่ยม อีกด้านตกแต่งให้มีโซ่ล่ามก็เข้าธีมสวยงาม ส่วนของ outdoor นั้นก็สามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำปิงและชมวิวของรีสอร์ท โดย concept อาหารของที่นี่เป็นแม่โขงคูซีน ซึ่งประกอบด้วยไทย, จีนเสฉวนและเวียดนาม โดยได้เชฟอาหารจีนเสฉวนมาจากเฉิงตูเพื่อให้แขกทุกท่านได้ลิ้มรสอาหารแบบดั้งเดิมและมีคุณภาพ ส่วนของเมนูนั้นจะใส่ซองกระดาษและจ่าหน้าซองว่า top secret ดูลึกลับน่าค้นหาเข้ากับธีม secret agent เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย ประกอบไปด้วยถั่ว ถั่ว และถั่ว ซึ่งมาในปิ่นโตสังกะสี ดูย้อนยุคกิ๊บเก๋ยูเรก้า แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าของในปิ่นโตเนี่ย ไม่ได้ตายตัวเปลี่ยนเวียนไปเรื่อยๆ – ปูนิ่มคลุกงาทอดกับน้ำจิ้มแจ่ว 290 บาท ปูนิ่มชิ้นโต ทอดจนกรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมัน คลุกกับงาขาวและงาดำ ซึ่งงานนั้นเป็นหนึ่งในอาหารที่ทรงคุณค่า ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ไม่เผ็ดไป เหมาะกับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เสิร์ฟมาบนตะแกรงเหล็ก และวางบนแผ่นหินสีดำ – กุ้งลายเสือย่างสไตล์เวียดนาม 499 บาท กุ้งลายเสือตัวโตราดซอสมะเขือเทศ รสชาติกลมกล่อมจานนี้…
เดอะเซอร์วิส 1921 เรสเตอรองท์แอนด์บาร์ บ้านสวยสไตล์ยุคอาณานิคมในรีสอร์ทของเรานั้นสร้างขึ้นเมื่อปี 1921 และใช้เป็นสถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่ งานเลี้ยงฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระมหากษัตริย์หรือสมเด็จพระราชินีนาถแห่งราชอาณาจักรอังกฤษถือเป็นงานไฮไลท์ประจำปี ซึ่งเราได้ต้อนรับผู้คนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาเยี่ยมชม เดอะเซอร์วิส 1921 ช่วยรำลึกภาพในยุคอาณานิคมด้วยการนำเอารูปแบบของหน่วยสืบราชการลับของรัฐบาลอังกฤษกลับมาทำใหม่และสร้างสรรค์ให้ดูแปลกตา ห้องอาหาร The service 1912 ตั้งอยู่ในส่วนที่เป็นอาคารของสถานทูตอังกฤษเก่า เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนา แบ่งเป็น 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นบาร์เครื่องดื่ม ส่วนชั้นบนเป็นร้านอาหาร โดยจะตกแต่งเป็นธีมสายลับอังกฤษ ดูเรียบหรู และลึกลับน่าค้นหา ชั้นล่างเป็น The bar โดยครื่องดื่มชั้นเลิศของที่นี่จะรังสรรค์โดย Dr.X ซึ่งเป็น mixologist ที่ได้รับการฝึกฝนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการแข่งขันและได้รับรางวัลมากมาย มีประสบการณ์ทำงานตามโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวมากว่า 10 ปี ทางทีมงานได้สังเกตเห็นว่าขวดบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และส่วนผสมต่างๆที่ใช้ผสมคอกเทลนั้นจะไม่มีชื่อระบุไว้ Dr.X จะอาศัยความชำนาญในการหยิบอย่างคล่องแคล่ว – Majesty gin, Cacao liqueur, Elder flower, Fresh lemon juice and Aromatic bitter foam เป็นเมนูค็อกเทล ที่ Dr.X คิดค้นขึ้นจนได้รับรางวัลจากการแข่งขัน บรรจุในแก้วทรงสูง ด้านบนเป็นโฟมไข่ขาวและมีการใส่ลวดลายเป็นรูปมงกุฏอย่างสวยงาม เครื่องดื่มนี้ใช้จินเป็นสวนผสมหลัก ได้รสเปรี้ยวจากน้ำมะนาว และได้รสหอมหวานดอกไม้จากเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ เมื่อรับประทานพร้อมกับโฟมด้านบนแล้วทำให้รสละมุนยิ่งขึ้น ส่วนองค์ประกอบอื่นๆนั้นล้วนเป็นความลับครับ (ตามธีมสายลับ) – Cocktail ต้อนรับฤดูร้อน เป็น Rasberry freeze เป็นเหล้าเปรู Pisco, lime juice syrup and raspberry sorbet รสชาติเปรี้ยวหวานของเชอเบทราสเบอรี่เข้ากันได้ดีกับเหล้าเปรู ให้ความรู้สึกสดชื่น อยากอาหาร ทางร้านยังมีกับแกล้มให้ด้วย นั่นคือ ถั่วลิสงรสต้มยำกับมันกัลยา ถั่วลิสงคลุกกับผงต้มยำเปรี้ยวๆเผ็ดๆอ่อนๆ กับมันกัลยากรอบแผ่นบาง กินกับเครื่องดื่มได้เพลิดเพลิน นอกจากนี้ Dr.X สามารถรังสรรค์เครื่องดื่มพิเศษนอกเหนือจากในเมนูได้ตามส่วนผสมที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งแต่ละเมนูนั้น Dr.X ตั้งใจทำอย่างพิถีพิถันโดยใช้เทคนิคขั้นสูง ทำให้ทีมงานของเราประทับใจมากเลยทีเดียว – โดยวันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวได้ลองรีเควสเครื่องดื่มโดยให้ใช้กุหลาบและลิ้นจี่เป็นส่วนผสม…