Riedel Wine Bar & Cellar ร่วมกับบริษัทผู้นำเข้าไวน์ “it’s Riesling” เชิญชวนคนรักไวน์สัมผัสประสบการณ์งานไวน์เทสต์ฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยความสนุก “แบ๊งค๊อกซัมเมอร์ออฟริสริ่ง” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2559 โดยภายในงานนำเสนอไวน์ Riesling ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดแห่งไวน์ขาวที่เหมาะกับการดื่มในช่วงฤดูร้อน ให้ชิมกว่า 20 เลเบิ้ล จาก 5 แคว้นที่มีชื่อเสียงในประเทศเยอรมันและแคว้นอัลซาสในประเทศฝรั่งเศส อาทิ Van Volxem, St.Urbanshof, Diel, Dönnhoff, Leitz, Dreissigacker, Friedrich Becker, Pauly, Egon Müller and Keller ซึ่งเสิร์ฟในแก้ว ‘Veritas’ จาก Riedel ชนิดพิเศษเหมาะกับไวน์ Riesling โดยเฉพาะที่จะช่วยเพิ่มสุนทรียรสของไวน์ นอกจากนั้นยังเพลิดเพลินกับคานาเป้ในไสตล์อาร์ทิซาน ร่วมลุ้นรางวัลกับกิจกรรม “ริสริ่งชาเลนจ์” และดื่มด่ำบรรยากาศการตกแต่งสุดคลาสสิคแต่แฝงความร่วมสมัยของ Riedel Wine Bar and Cellar บัตรราคา 1,800 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Riedel Wine Bar & Cellar ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษร โทร. 02-656-1133 Riesling ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดแห่งไวน์ขาวที่เหมาะกับการดื่มในช่วงฤดูร้อนด้วยรสชาติที่ช่วยสร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกลิ่นอโรมาอ่อนโยนหอมหวาน ซึ่งทำให้ไวน์ Riesling เสิร์ฟได้ดีทีสุดในอุณหภูมิที่เย็นจัด (0-3 องศาเซลเซียส) ในขณะที่ไวน์ขาวชนิดอื่นๆเสิร์ฟที่อุณหภูมิดีที่สุดที่ประมาณ 8-10 องศาเซลเวียส ไวน์ Riesling จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับอุณหภูมิที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย และยังเหมาะทานคู่กับอาหารไทยรสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อนเป็นอย่างยิ่ง แคมเปญ “แบ๊งค๊อกซัมเมอร์ออฟริสริ่ง” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2559 และยังมีการจัดงานไวน์ทอล์คอีก 4 ครั้ง คือวันที่ 4, 19, 23,31 พฤษภาคม…
Author: sorawich
On Friday May 27, Diplomat Bar launches its brand new martini trolley with a bang. Join us for our very first Caviar Martini night, showcasing many of the finest martinis in the world and some great live music. Enjoy free flow Beluga Vodka and G’Vine Gin martinis at your leisure whilst indulging your appetite with our premium olive bar, the sweet taste of Sicilian lemons or delicious caviar. Brought to you in partnership with Beluga Vodka, G’Vine Gin, La Quniityne Vermouth, Aqua Panna and VIVIN Caviar, this is a night not to be missed. But if you can’t make…
Inspiration leads to creation. เมื่อแรงบันดาลใจนำไปสู่การสร้างสรรค์สุดยอดอาหาร วันนี้ Kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว ขอนำเสนอ รีวิวที่ The House on Sathorn ตึกสไตล์โคโลเนียลสวยงามที่ตั้งเด่นท่ามกลามย่านธุรกิจกลางสาทร ในโรงแรม W BangkokSathorn ตัวตึกของ The House นั้นมีอายุถึง 127 ปี และเคยถูกใช้เป็นสถานทูตรัสเซีย และเป็นบูทีคโฮเทลแห่งแรกในไทย มาก่อน ด้านในมีการตกแต่งที่สวยงาม มีสวนกลางบ้านที่สวยมาก ทั้งยังมีการแต่งรายละเอียดเสา หน้าต่างประตูต่างๆ บรรยากาศสวยงามมากครับ ในการคิดเมนูของที่นี่นั้น เชฟ Fatih Tutak นำเอาแรงบันดาลใจที่ได้จากประสบการณ์ชีวิต หรือ การเดินทางต่างๆที่เชฟเดินทางไปทั่วทั้งเอเชีย มาสร้างเป็น สูตรอาหารใหม่ๆ ที่มีทั้งความอร่อย ความสวยงาม และมีเรื่องราวของแรงบันดาลใจ ทำให้การกินอาหารไม่ใช่แค่การกิน แต่เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และน่าจดจำครับ เซ็ตอาหารที่ผมได้ รีวิว วันนี้จะเป็น 9 course tasting menu (3,800 ++) ซึ่งจะเหมือนเป็นการเดินทางผ่านเรื่องราวประสบการณ์และแรงบันดาลใจของเชฟ ซึ่งนอกจาก อาหาร 9 คอร์ส แล้ว ยังมี อมูสบูช (amouse-bouche) ที่เป็นเหมือนอาหารพิเศษที่เชฟเตรียมให้ (อาจแตกต่างไปแต่ละวัน) ทำให้มีความพิเศษเพิ่มขึ้นดีครับ เริ่มต้นในส่วนของขนมปัง ขนมปังที่ให้จะเป็นขนมปัง sour dough เสิร์ฟพร้อมกับเนย ตัวขนมปังทำได้ดีมาก มีความกรอบที่เปลือกและแป้งด้านในเหนียวนุ่ม มีรสชาติในตัว มีความอุ่นกำลังดี ทากับเนยที่มีความหอมของกระเทียม เป็นหนึ่งในขนมปังที่ผมเรียกได้ว่าอร่อยมาก เรียกความประทับใจก่อนเข้ามื้ออาหารจริงได้ดีครับ ถัดมาเป็น อมูสบูช ที่จานแรกจะเป็น ข้าวเกรียบสาหร่ายกับมายองเนสยูสุกับไข่ปลาแซลมอน เมื่อกัดเข้าไปจะมีกลิ่นสาหร่ายหอมๆ กับกลิ่นที่หอมสดชื่นของยูสุ มีรสสัมผัสกรอบๆกับความหยุ่นของไข่ปลา เรียกน้ำย่อยได้ดีมาก ถัดมาเป็น…
สวัดดีครับ วันนี้ Kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว จะมาแนะนำร้านอาหารอิตาลี ใจกลางเมืองที่ให้บรรยากาศวิวตึกระฟ้าของกรุงเทพมหานคร กับเซ็ทอาหารที่เรียกได้ว่า คุ้มค่ามาก ที่ Medinii ที่ชั้น 37th Fl Continent Hotel ไม่ไกลจากแยกอโศกในร้านนั้นแบ่งออกเป็นหลายส่วนมีทั้งห้องส่วนตัวและ ส่วนที่เป็นบล๊อคส่วนตัวโดนเกือบทุกโซนจะได้ชมวิวเมือง ทัศนียภาพอันสวยงาม เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 37th ของโรงแรม ก่อนเดินเข้าร้านจะเห็นรางวัลต่างๆที่ทางร้านได้มา ทำให้เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับมื้ออาหารนี้ เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ก็จะพบกับการตกแต่งของร้านที่เรียบหรู มีวิวตึกระฟ้าของกรุงเทพ ที่สวยงาม เมื่อเทียบกับร้านอาหาร rooftop หรือ ร้านบนตึกสูงๆที่อื่น ผมคิดว่าที่นี่ให้บรรยากาศเป็นกันเองและเป็นทางการน้อยกว่า ทำให้สามารถปล่อยตัวได้ตามสบาย ไปกับมื้ออาหารไม่ว่ากับเพื่อน ครอบครัว หรือ คนพิเศษครับ ในส่วนของเซ็ทอาหารที่จะแนะนำวันนี้ เป็น Free flow pasta and pizza (999++ baht) ที่จะสามารถเลือกเมนู พาสต้า และ พิซซ่าได้ไม่อั้น ตามด้วย เมนคอร์ส และของหวาน ซึ่งคุ้มมากในบรรยากาศร้านระดับนี้ครับ อาหารที่นี้ปรุงโดยครัวเปิด ซึ่งท่านๆทั้งหลายสามารถเพลิดเพลิน และชมการปรุงอาหารไปด้วย ไม่ว่าจะผัด ลวกเส้น ตกแต่งจาน ซึ่งเราจะเริ่มกันด้วยสลัด ต่อด้วยซุปเด่นประจำวัน ซึ่งจะเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันแต่ละวัน โดยในวันนี้เป็นซุปฟักทองครับ ซุปฟักทองที่นี่ รส หวาน มัน นุ่มละมุน อร่อยรสชาติลงตัวกำลังดีไม่ข้นหรือใส่จนเกินไปครับ เริ่มจากพาสต้า ที่แนะนำวันนี้คือ พาสต้าที่ทุกคนคงรู้จักดี Fettuccine Carbonara แต่จุดเด่นของพาสต้าจานนี้คือ มีการให้แฮมและเบคอนที่่ใจดีมาก ทำให้หอมแฮม และเบคอนมาก และเชฟยังมีการใส่เปลือกเลมอนนิดหน่อย เพื่อให้กลิ่นที่สดชื่น และลดความเลี่ยนได้อย่างดี…
กลับมาอีกครั้ง ตามคำเรียกร้องกับมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว เชฟสเตฟาน บูคง เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยมและเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์เมนูอาหารกับรสชาติที่สมบูรณ์ซึ่งมักจะถูกขนานนามว่าเป็น “สุดยอดเชฟแห่งเทือกเขาแอลป์ประเทศฝรั่งเศส” เชฟสเตฟาน บูคง ได้รางวัลการันตีจาก M.O.F. (Meilleurs Ouvriers de France) เป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดสำหรับเชฟผู้รักษา เผยแพร่ และสนับสนุนอาหารฝรั่งเศสให้คงอยู่และเป็นที่รู้จัก นับเป็นผู้ที่มีฝีมือเท่านั้นที่ควรค่าแก่การได้รับรางวัลนี้ เชฟสเตฟาน เป็นเชฟใหญ่ของภัตตาคารที่มีชื่อเสียงในโรงแรม เลอ ชาบิชู (Hotel Le Chabichou) ตั้งอยู่ใน กูร์เชอเวล (Courchevel) ซึ่งเป็นสกีรีสอร์ทที่หรูหรา เก่าแก่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ประเทศฝรั่งเศส และเป็นสถานที่พักผ่อนต่างอากาศของระดับเชื้อพระวงศ์ วีไอพี และ เหล่าคนดังมากมาย เชฟสเตฟาน กำลังจะบินตรงมาโชว์ฝีมือการทำอาหารชั้นเลิศกับ 7 ซิกเนเจอร์เมนูเด่น (เฉพาะแค่ 4 วันเท่านั้น) ที่ โรงแรม วี กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 25 – 28 พฤษภาคม 2559 นี้!! ค่ำคืนสุดพิเศษ ที่ ห้องอาหารฝรั่งเศส La VIE – Creative French Cuisine ในโรงแรม วี กรุงเทพฯ ราคา 6,000 บาท (สุทธิ) สำหรับอาหารแบบเซต 7 คอร์ส ราคา 8,000 บาท (สุทธิ) สำหรับอาหารแบบเซต 7 คอร์สจับคู่กับไวน์ **อาหารเริ่มเสิร์ฟเวลา 19:00 น. เป็นต้นไป** KIn Promo&Event KinlakeStars.com —————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A…
29 เมษายน 2559, กรุงเทพฯ: โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ขอเชิญชวนท่านที่ชื่นชอบอาหารจีน มาลิ้มรสความอร่อยในสไตล์กวางตุ้งแท้ๆ โดยฝีมือระดับมาสเตอร์เชฟผู้มีชื่อเสียงระดับโลก “ปีเตอร์ ซาง” ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจีนชั้นสูง ซึ่งจะมาโชว์ฝีมือการปรุงอาหารสไตล์กวางตุ้งแท้ๆ ให้ลิ้มรสกันระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคมนี้ ที่ห้องอาหารจีน เดอะ เมย์ฟลาวเวอร์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ มาสเตอร์เชฟปีเตอร์ ซาง ชาวฮ่องกง อายุ 60 ปี ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารจีนมาทั้งชีวิตของเขา จนทำให้เขาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก จนกระทั่งล่าสุด ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 20 เชฟแห่งเอเชียหรือ Asian Top 20 Chef โดย favorable impression media ซึ่งเป็นนิตยสารไลฟ์สไตล์ ที่มียอดจำหน่ายสูงในหลายประเทศแถบเอเชียอย่าง มาเก๊า ฮ่องกง สิงคโปร์ จีนและมาเลเซีย อีกด้วย นอกจากนี้ มาสเตอร์เชฟ ปีเตอร์ ซาง ยังได้มีโอกาสโชว์ศิลปะการปรุงอาหารของเขา ในงานพิธีสำคัญๆ ที่มีผู้นำระดับสูงของหลายประเทศเข้าร่วม และ ได้ลิ้มรสฝีมือของเขามาแล้ว อาทิ มาร์กาเร็ต แทชเชอร์, เนลสัน แมนเดลา, อดีตประธานาธิบดี บุช แห่งสหรัฐอเมริกา และอีกมากมาย และที่นี่ ณ ห้องอาหารจีน เดอะ เมย์ฟลาวเวอร์ เชฟซาง มีความตั้งใจและภูมิใจที่จะนำเสนอเมนูที่แสนอร่อยและยั่วยวนชวนให้น้ำลายสอ ไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศเชอร์รี่ในซอสบ๊วย, ซุปสี่กษัตริย์, กุ้งผัดไข่ขาวและหอยเชลล์แห้ง, หมูอบจักรพรรดิ์ (สั่งล่วงหน้า 1 วัน), เต้าหู้ผักโขมทรงเครื่อง, ปูไข่ผัดข้าวห้าสี, เนื้อแก้มวัวตุ๋น และอื่นๆ อีกมาก รวมทั้งของหวานอย่าง รังนกลอยแก้ว และ บัวลอยคลุกงา เพื่อปิดท้ายมื้ออร่อยของทุกท่าน กวางตุ้งเป็นหนึ่งในแปดชนิดของอาหารจีนต้นตำรับ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนในการเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่รวมทั้งวัตถุดิบแบบแห้งหรือหมักดอง เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งบางครั้ง ในอาหารหนึ่งจานอาจจะใช้วัตถุดิบชนิดเดียวกันแต่เป็นแบบทั้งสดและแห้งก็ได้ นอกจากนี้อาหารจีนสไตล์กวางตุ้งมักไม่นิยมใช้ประเภท ในวันที่ 11 พฤษภาคม…
“Details make differences. Details make perfection. Details make legend.” 5 Stars วันนี้ทาง kinlakestars ขอเสนอ Afternoon tea ณ Author’s Lounge ที่ตั้งอยู่ใน Mandarin Oriental โรงแรมที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานของประเทศไทย ที่ได้รับการกล่าวขาน โด่งดังระดับโลก Author’s Lounge เป็นส่วนที่ตั้งอยู่ในตึก Author’s Wing ซึ่งเป็นอาคารประวัติศาสตร์กว่า 140 ปี เป็นอาคารที่เป็นตึกดั้งเดิมของโรงแรม ตัวสถาปัตยกรรมภายนอกนั้นเป็นตึกสไตล์โคโลเนียล มีความสวยงามตามแบบตึกที่ได้รับอิทธิพลการออกแบบจากทางยุโรป ด้านหน้าตึกหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเดินเข้ามาจากทางล็อบบี้ก็จะเห็นโถงทางเดินขึ้นที่สวยงาม เพื่อขึ้นไปยังระเบียงส่วนห้องพัก (เฉพาะแขกผู้พักอาศัยเท่านั้น) ตัวโถงกลางที่ถูกออกแบบเป็นสวนกลางบ้าน (ปัจจุบันมีหลังคากระจก เพื่อให้อยู่ในเครื่องปรับอากาศ ให้มีความเย็นสบาย) มีความสวยงาม ด้วยการตกแต่งแบบลายฉลุ และการที่ให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา ประกอบกับการจัดที่นั่ง การใช้เฟอร์นิเจอร์ การประดับตกแต่งด้วยรูปภาพนักเขียนระดับโลก การใช้ดอกไม้สดและต้นไม้ ทำให้เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในอาคารและช่วงสมัยเวลายุคอาณานิคม นอกจากส่วนโถง ยังมีอีก 2 ห้องที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งเดิมมิได้เปิดให้นั่งจิบชา พึ่งเริ่มเปิดหลังการปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา สวย สง่า น่านั่ง โดยทั้งสองห้องนี้ใช้ชื่อจากนักเขียนชื่อดังที่เคยมาเยือนและมีส่วนร่วมกับอาคารแห่งนี้นั้นคือห้อง Joseph Conrad เป็นส่วน ที่ติดกับสวนที่เชื่อมต่อไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ในส่วนห้องนี้สามารถนั่งจิบชาไปพร้อมกับชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ และอีกห้อง ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม จากกระจกบานใหญ่กรอบสีทองที่แกะสลักจากไม้ได้วิจิตรงดงาม บรรยากาศโดยรวมห้องนี้ ให้ความรู้สึกสงบที่สุดในบรรดาห้องทุกห้อง ยิ่งเมื่อได้ฟังการเล่นดนตรีของนักแสดงในช่วง บ่าย 2 ลงไป ยิ่งทำให้บรรยากาศการจิบชายามบ่ายกับเพื่อนๆ หรือ ครอบครัวเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมไปได้เลยครับ ในส่วนของชุด Afternoon tea (1450++ บาทต่อคน) ที่จะมารีวิววันนี้ เราจะสามารถเลือกชนิดของชาได้ 1 อย่างและ มีของว่าง 2 แบบคือแบบไทย หรือแบบตะวันตก ซึ่งจะสามารถเติมได้ตลอด แต่ไม่สามารถเปลี่ยนชนิดของชาได้ ในส่วนของชาที่ได้ รีวิว ครั้งนี้คือ Le Grande Dame…
การกลับมาอีกครั้งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯกับความสำเร็จในการแนะนำเมนูอาหารเลิศรส โดยครั้งนี้ทางโรงแรมได้เตรียมต้อนรับเชฟเท็ตสึยะ ฟูจิวาระ เชฟญี่ปุ่นมือหนึ่ง การันตีโดยรางวัลมิชลิน 3 ดาว จากร้านอาหาร “ฟูจิยะ1935” ที่จะมาสร้างสีสันความหลากหลายของเมนู ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ ในวันที่ 3 – 5 พฤษภาคม 2559 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Italasia, Jagota และ San Pellegrino นับเป็นอีกครั้งที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการอาหารในกรุงเทพฯ เพราะนี่คือครั้งแรกที่ร้านอาหารระดับมิชลิน 3 ดาวในประเทศญี่ปุ่น ได้ปิดร้าน 3-4 วัน เพื่อเชฟระดับสามดาวอย่าง เชฟเท็ตสึยะ และลูกทีมทั้งหมด 7 คน จะได้บินมากรุงเทพฯ พร้อมทั้งนำวัตถุดิบจากญี่ปุ่น เพื่อมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นแนวร่วมสมัยที่สอดแทรกกลิ่นอายสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ให้ได้ลิ้มรสกันอย่างเต็มอิ่มตลอด 3 วันนี้เท่านั้น อาหารญี่ปุ่นเซ็ตพิเศษที่น่าลิ้มลอง อาทิ Udo หรือผักนานาชนิดตามฤดูกาลที่ขึ้นอยู่บนภูเขา, ขนมปังเนียนนุ่มจากแป้งถั่วลันเตา, ปูขนจากฮาโกดาเตะเสิร์ฟพร้อมถั่วปากอ้า (ถั่วในฤดูใบไม้ผลิ) และ ผักกาดก้านขาว (ผักในฤดูใบไม้ผลิ), ปลาอะมาได เสิร์ฟพร้อมถั่วลันเตาและเห็ดชิตาเกะ, เนื้อวากิวทาจิมะหวานละมุนลิ้น, ปลาหมึกโฮตารุสด ๆ และอื่น ๆ อีกมาก รวมทั้งขนมหวานที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น เยลลี่ชาเขียวต้นตำรับหวานหอม, เค้กรสน้ำผึ้งตกแต่งด้วยดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ และไอศกรีม (เจลาโต้) ชีสมาสคาโปเน หอมกลิ่นคาโมไมล์ ซึ่งเมนูเหล่านี้จะถูกนำมาจับคู่กับไวน์ชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากเชฟเท็ตสึยะ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ จะงดให้บริการเมนูปกติเป็นเวลาสามวัน คือตั้งแต่วันที่ 3-5 พฤษภาคมนี้เพื่อต้อนรับการปรากฏตัวของเชฟเท็ตสึยะ ระดับมิชลิน 3 ดาว พร้อมนำเสนออาหารเซ็ตชุดพิเศษเสิร์ฟพร้อมไวน์รสเลิศ ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ โต๊ะมีจำนวนจำกัดเพียง เซ็ตเมนูมื้อกลางวันพร้อมไวน์ ท่านละ 8,000 บาท++ เซ็ตเมนูมื้อค่ำพร้อมไวน์ ท่านละ 12,000 บาท++ Kin Promo & Event KinlakeStars.com AA BB AA BB AA…
เมื่อพูดถึงอาหารไทย เมนูที่ถือว่าโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเป็นการแสดงถึงความล้ำลึกในวัฒนธรรมอาหารไทยก็คือ อาหารประเภทแกง ที่เกิดจากการนำเครื่องเทศ สมุนไพร และวัตถุดิบต่างๆมาผสมกันจนเกิด อาหารแสนอร่อยหลายเมนู แต่ในปัจจุบัน การหาร้านอาหารไทยที่สามารถทำรสชาติได้ถึงรสชาติของเครื่องแกงได้เข้มข้น มีส่วนผสมที่ครบเต็มรสชาติทุกรส กับให้กลิ่นหอมของเครื่องแกง กับกะทิเข้มข้นหอมมัน กลับหาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ รสชาติ และยิ่งเป็นการนำเครื่องแกงที่เข้มข้นนี้ มาใช้กับวัตถุดิบอย่างดี ยิ่งเป็นเรื่องที่หายากไปอีก วันนี้ทางกินแหลกแจกดาวจะขอแนะนำ ร้าน Smooth Curry ที่สามารถทำให้ผมประหลาดใจในความถึงรสชาติของอาหารไทยชาววังที่มาพร้อมกับวัตถุดิบชั้นดี และยังเป็นอาหารออแกนิคส่งตรงจากไร่มาเสริฟถึงจานเลย ที่ชั้น 3 ของโรงแรม Plaza Athenee Bangkok, A Royal Meridien บนถนนวิทยุ เมื่อเดินเข้ามาทางด้านหลัง จะพบ ร้าน Smooth curry ที่ตกแต่งแนวไทยดั้งเดิมด้วยงานไม้แกะสลัก อาจให้บรรยากาศแบบทางการนิดหน่อย แต่ก็ดูเงียบและเป็นส่วนตัวดี เมนูแรกที่ขอแนะนำ และเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ของทางร้านคือ แกงมัสมั่นแก้มวัว โดยปกติแก้มวัวจะเป็นส่วนของเนื้อที่จะเก็บไว้สำหรับทำอาหารชั้นสูงเท่านั้น เพราะเป็นเนื้อที่มีความนุ่มมากและมีปริมาณไม่เยอะ และเนื้อที่ใช้จะเป็นเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย ในส่วนของเครื่องแกงมัสมั่นที่ทางเชฟ Jasvir Sangkhera ได้ปรุงขึ้น มีความเข้มข้น เมื่อนำไปปรุงกับ มันฝรั่ง และเนื้อแก้มวัว เคียวกว่า 5 ชั่วโมง จนรสเครื่องแกงเข้าไปถึงเนื้อ เมื่อทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติทุกอย่าง ความเข้มข้น ความหอม กับเนื้อที่ละลายในปาก อร่อยมากครับ ที่สำคัญข้าวสวยที่นี่ ก็เป็นข้าวออร์แกนิคอย่างดีหุงกับน้ำใบเตยให้กลิ่นหอม ไม่เหมือนที่อื่น จานถัดมา คือพล่ากุ้งแม่น้ำย่าง (690++) จานนี้อาจฟังดูเหมือนเมนูธรรมดา แต่ความพิเศษอยู่ที่น้ำพริกเผาที่ทำขึ้นมาเอง มีความหอมเข้มข้นและอร่อยมาก เข้ากับน้ำยำและเนื้อกุ้งแม่น้ำย่าง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วย ดอกไม้ที่สามารถทานได้ ให้ทั้งความสวยงาม และยังอร่อยอีกด้วย ความเปรี้ยวกลมกล่อมของน้ำยำกับความเข้มข้มหอมหวานของน้ำพริกเผาทำให้ทานได้หมดไม่รู้ตัวเลย เมนูที่แนะนำต่อคือ แกงคั่วซี่โครงหมูย่างยอดมะพร้าว (450++) ส่วนตัวแล้วจานนี้เป็นเมนูที่ผมชอบที่สุดในมื้อ กระดูกหมูชิ้นโตย่างจนหอม เมื่อนำมาเคี่ยวกับแกงคั่ว จนเนื้อนุ่มร่อนออกมาหอมมัน กับรสชาติที่ครบรสของแกงคั่วที่หอมนำด้วยกลิ่นใบมะกรูดเบาๆ ทานกับข้าวสวยใบเตย อร่อยมากๆ ส่วนตัวผมว่ารสชาติไม่ซ้ำกับมัสมั่น ผมสามารถทานได้ทั้งสองเมนูพร้อมกัน และชอบทั้งคู่เลย ถัดมาคือ ซุปไก่บ้านออร์แกนิค ย่างซุปหางวัว (350++) จานนี้จะเป็นไก่บ้านที่เลี้ยงแบบปล่อย…
ลอร์ดจิมส์มีความยินดีที่จะต้อนรับเชฟ José Avillez เชฟระดับมิชลิน 2 ดาว ร้านของเชฟ Jose AVILLEZ ได้รับการเลือกให้เป็นหนึ่งในร้านที่ดีที่สุด 100 ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในโปรตุเกส José Avillez เชฟอันเต็มไปด้วยพลังและจิตวิญญาณแห่งการปรุงของเขา เฉลิมฉลองกับอาหารโปรตุเกสของเขาที่มีความซับซ้อน Avillez จะทำงานร่วมกันกับทีมการทำอาหารห้องอาหาร ลอร์ดจิมส์ เพื่อสร้างชุดอาหารและประสบการณ์การรับประทานอาหารอันแสนพิเศษจากเชฟมิชลินสองดาว Belcanto โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 24 จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2016 และในวันที่ 27 พฤษภาคม ผู้ผลิตไวน์จากเจ้าของ E.Guigal โรงกลั่นเหล้าองุ่น Mr. Guigal จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับไวน์เจ็ดแน่นอน การจับคู่ไวน์ที่มีชื่อเสียงของเขากับอาหารพิเศษเชฟโฮเซ่ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ รายการอาหาร :: 7 COURSE MENU :: THB 5400 :: SNACKS :: Roasted chicken Spherified lupin bean Smoked eel and nasturtium :: AMUSE BOUCHE :: Pork terrine with garlic purée, green apple and cilantro :: STARTERS :: Cherry gazpacho with spider crab and runner beans tempura Cured Atlantic chub mackerel, cod liver, and citric “Escabeche” with vegetables Smoked egg yolk with pea and bacon stew…