ร่วมฉลองเทศกาล Oktoberfest กับไลน์บุฟเฟต์สุดพิเศษจากห้องอาหาร Goji Kitchen+ Bar มาอร่อยล้ำกับอาหารเยอรมันต้นตำหรับที่ห้องอาหาร โกจิ คิทเช่น + บาร์ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในช่วงเวลาสุดพิเศษของเทศกาล Oktoberfest ที่เป็นที่รู้จักในฐานะงานเฉลิมฉลองอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โกจิ คิทเช่น + บาร์ ได้ยกบรรยากาศแห่งความสนุกสนานและวัฒนธรรมอาหารเยอรมันมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยการเสริมเมนูพิเศษที่รวมเอาไอเท็มคลาสสิกจากเทศกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็น ขาหมูเยอรมัน เสิร์ฟพร้อมซอสเบียร์ดำเข้มข้น Bratwurst ไส้กรอกเยอรมันเนื้อนุ่ม หรือ Flammkuchen พิซซ่าสไตล์เยอรมัน ท่ามกลางเมนูอาหารนานาชาติอื่นๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี สร้างประสบการณ์การทานอาหารที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น Goji kitchen+ bar ตั้งอยู่ในโรงแรม Marriot Marquis Queen’s park กลางสุขุมวิท ที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาว ไทยและต่างประเทศ ปลายเดือน กันยายนถึง 6 ตุลาคม เป็นช่วงของเทศกาลอันโด่งดังของชาวเยอรมัน ห้องอาหารแห่งนี้ก็ตามเทรนด้วยการเพิ่มเมนูอาหารสัญชาติเยอรมัน มาให้คนไทยได้ลิ้มลองกัน สำหรับเมนูที่เพิ่มมาจากไลน์บุฟเฟต์ในช่วงนี้ คนไทยอาจจะรู้จักขาหมูเยอรมัน ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่โดดเด่นและได้รับความนิยมเสมอ ด้วยขาหมูชิ้นใหญ่ หนังกรอบ เนื้อนุ่มใน ซึ่งความอร่อยของเมนูนี้ยิ่งถูกยกระดับด้วย Dark Beer Gravy ซอสเข้มข้นที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มจากเบียร์ดำ รสชาติกลมกล่อมและลุ่มลึกช่วยเสริมให้ขาหมูมีความพิเศษยิ่งขึ้น การที่เบียร์ดำถูกนำมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำซอส ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและไม่หวานเกินไป ช่วยตัดเลี่ยนจากความมันของขาหมูได้ดี นอกจากนี้ยังมี Bratwurst หรือไส้กรอกเยอรมันเนื้อนุ่มขาวเนียน ที่ต่างจากไส้กรอกที่เราคุ้นเคย ไส้กรอกชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนและนุ่มมาก ทำให้เวลาทานจะให้ความรู้สึกที่ละมุนกว่าไส้กรอกทั่วไป รสชาติของ Bratwurst จะออกไปทางจืดนิดๆ ไม่เค็มมาก ซึ่งทำให้สามารถรับประทานได้เพลินๆ และไม่รู้สึกหนักเกินไป โดยปกติแล้ว Bratwurst จะถูกเสิร์ฟพร้อมกับมัสตาร์ดและเครื่องเคียงอย่าง Sauerkraut (กะหล่ำปลีดอง) ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมเค็มเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสดชื่นและตัดกับความมันของไส้กรอกได้เป็นอย่างดี บีฟลากูแบบเยอรมัน เป็นเมนูเนื้อวัวตุ๋นที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นของซอสและรสชาติที่ละมุนลิ้น ตัวเนื้อถูกเคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ รสสัมผัสนุ่มนวลแทบละลายในปาก ซอสที่ใช้ราดนั้นมีส่วนผสมของไวน์แดงและสมุนไพรท้องถิ่นของเยอรมัน ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมล้ำลึก เมื่อทานคู่กับมันบดเนื้อเนียนละเอียดหรือขนมปังโฮมเมดอุ่นๆ ที่เสิร์ฟมาคู่กัน ยิ่งเพิ่มมิติของรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว กลิ่นหอมของสมุนไพรและเครื่องเทศในบีฟลากูเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเข้มข้น เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องลองในไลน์อาหารเยอรมันช่วงเทศกาล…
Author: warn
Story : Dr.Kwankamol W. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. เมื่อความวุ่นวายและการจราจรยามเย็นและการทำงานตลอดวันกลืนกินพลังงานของคุณจนหมดเกลี้ยง การแอบหลีกหนีเข้าซอยสุขุมวิท 27 กลายเป็นเส้นทางสู่การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ที่ซ่อนตัวอยู่ข้างในคือ Enoteca ร้านอาหารอิตาเลียนที่เป็นดั่งอัญมณีที่ซ่อนเร้น ท่ามกลางความพลุกพล่านของกรุงเทพฯ แม้ว่าจะเป็นคืนธรรมดากลางสัปดาห์ แต่ร้านกลับคึกคักด้วยผู้คนที่แวะเวียนมาเพื่อลิ้มรสอาหารค่ำอย่างไม่ขาดสาย สิ่งแรกที่สะดุดตาเมื่อคุณก้าวผ่านประตูเข้าสู่ร้าน Enoteca คือสวนที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ ความเขียวขจีที่สวยงามเรียบหรูถูกจัดเรียงอย่างพิถีพิถัน ส่งเสริมบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในมุมพักผ่อนส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ ความใส่ใจในรายละเอียดของการตกแต่งสวนนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นที่น่าประทับใจ ก่อนที่จะนำไปสู่การพบปะกับเชฟคนใหม่ของร้าน เชฟ Federico Orrù ผู้ซึ่งเพิ่งเดินทางมาจากซูริคได้เพียงสองเดือน ได้นำพาความคิดสร้างสรรค์และพลังใหม่ๆ มาสู่ Enoteca เมนูคอร์สใหม่ล่าสุด Seven Sin นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมของอาหารอิตาเลียนกับการนำเสนอที่สนุกสนานและแปลกใหม่ อาหารทุกจานถูกปรุงด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี มีการจัดจานอย่างพิถีพิถันที่ทำให้คุณไม่อาจละสายตาได้ และแม้การตกแต่งจะดูทันสมัยและน่าตื่นตาตื่นใจ แต่รสชาติที่อยู่ภายในยังคงความเป็นอิตาเลียนแท้ๆ อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ผิดเพี้ยน Enoteca ยังคงเป็นที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือน ไม่เพียงเพราะประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเพราะบรรยากาศที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้สดชื่นและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการพักผ่อนในยามค่ำคืนที่เงียบสงบท่ามกลางกรุงเทพฯ ที่คึกคัก Amuse-bouche เสิร์ฟมาทันทีสามอย่าง ทานคู่กับ Prosecco สดชื่น เริ่มทานตั้งแต่ Spinach sponge with black olive เนื้อเค้กแบบสปันจ์สีเขียวเข้ม จาก ผักโขมเพิ่มรสชาติด้วยมะกอกดำเค็มปะแล่มๆ ประมาณว่าคุณท่านกำลังกินขนมปังจิ้มกับมะกอกดำดองน้ำเกลืออร่อยๆเริ่มมื้อสไตล์อิตาเลียนแท้ๆค่ะ deep fried dough แป้งโดว์ทอดกรอบร้อนๆสอดไส้เนื้อ เทอริยากิซอส ทำรูปร่างออกมาเป็นชิ้นสามเหลี่ยมคล้ายเซาโมซ่าเจ้าค่ะ และจบด้วย … คำที่ว้าวที่สุด หน้าตาคล้ายมาการอง แต่ด้านบนเป็น ชีสที่ทำให้เนื้อวาวใส คล้ายเจลลี่ แต่ด้านในเป็น Smoked cheese Scamorza เหลวๆพร้อมระเบิดตัวทันทีที่เรากัดเข้าไป Scamorza ชีสนี้ขึ้นชื่อทางใต้ของอิตาลี ชวนให้นึกถึงเวลาไปเดินเที่ยวอิตาลีแล้วแวะเข้าไปในร้านชีส ร้านขายพาร์มาแฮม เราจะเห็นScamorza ห้อยอยู่ด้านบนของร้านนั่นเอง ขนมปังที่เสิร์ฟในร้านเป็นความพิเศษที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์การชิมขนมปังอิตาเลียนแบบแท้จริง ร้านได้นำเสนอขนมปังสามชนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ Focaccia, Ciabatta, และ Wheat Bread ซึ่งแต่ละชนิดถูกเลือกสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะกับการรับประทานคู่กับน้ำมันมะกอกชั้นเลิศจากอิตาลี Focaccia เป็นขนมปังที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนา…
Chef : Jacky C : 07 2023 Story : Dr.Kwankamol W. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Hei Yin. ร้านอาหารจีน ที่ชั้นสาม ของห้างเกสร การแต่งร้านด้านนอกเน้นสีเขียวเข้ม ตัดกับการตกแต่งโทนสีทอง น้ำตาล ทำให้ดูหรู แต่ไม่ทำให้อึดอัดเกินไปนักมีมื้อพิเศษ ยามบ่าย (15-17.00)เป็นติ่มซำสีสันสวยสด หน้าตาน่ารัก มาให้เราได้รับประทานกัน “Dim Sum Afternoon Tea” ที่คัดสรรชาคุณภาพดี (เลือกได้ 1 รายการ) ได้แก่ ชาหลงจิ่ง ชาผู้เอ๋อร์สุกอายุ 10 ปี ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ ชาอู๋อี่เหยียนฉา ชาอู่หลงกุหลาบ ชาทิกวนอิม ชามะลิไข่มุก เก๊กฮวยขาวดอกตูมหังโจว ชาดอกไม้ ชาเขียวข้าวคั่ว ชาสุ่ยเซียน และชาอู่หลงคั่ว พร้อมด้วยติ่มซำซิกเนเจอร์สุดพรีเมียมที่สีสันหน้าตาน่ารับประทานและรสชาติอร่อย โดยมี 3 เซตให้เลือก แต่ละเซตประกอบด้วยติ่มซำ 8 ชิ้น พร้อมเครื่องดื่มชาร้อน 1 รายการ/ ท่าน ชุดติ่มซำยามบ่าย มีให้เลือก ด้วยกันสามแบบ เซต A pleasing, B Daydream และเซตC Enchanting ในชุด B ที่เราได้ลองนั้น ชั้นล่างจะเสิร์ฟร้อนๆ ประกอบด้วยซาลาเปาลาวา สีสันน่ารักลายมินเนี่ยน ขวัญใจคุณหนู ด้านในหอมไส้ไข่เค็ม และหวานกำลังดี ถุงเงินไส้กุ้งสีดำชาโคล และเกี๊ยวสีขาวด้านในเป็นปูและผักปวยเล้งหวานๆ ชั้นบนที่เด่นสีชมพูหงษ์ คือ พายไส้พุทราจีน แป้งพายสีชมพูกรอบร่วน ด้านในไส้พุทราเหนียวหนึบ และหวานกำลังดี เข้ากันอย่างลงตัวกับชาที่เราเลือกมาวันนี้ ตรงกลางถาดเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้งแน่นๆ แป้งสีเขียวสด ไม่ใช่ใส่สี แต่มาจากผักปวยเล้ง ด้านในเป็นแป้งยังกรอบอยู่เลย ทานคู่น้ำจิ้มบ๊วยเข้ากันได้ดี ส่วนขนมผักกาด…
ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ต่อยอดความสำเร็จในการให้บริการความอร่อย ด้วยการขยายพื้นที่ร้านโดยเปิดโซนใหม่บริเวณด้านหน้า เพิ่มเติมที่นั่งเพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และขยายเวลาการให้บริการติ่มซำ พร้อมเปิดตัว “Dim Sum Afternoon Tea” เมนูติ่มซำสไตล์กวางตุ้งที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศโดยฝีมือเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟชาวฮ่องกงที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี รับประทานคู่กับน้ำชาสุดพรีเมียมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ในราคาชุดละ 588++ บาท สำหรับ 1 ท่าน และ 1,088++ บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับเมนูติ่มซำและชุดน้ำชายามบ่ายที่ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ในช่วงเวลา 15.00 – 17.00 น. กับ “Dim Sum Afternoon Tea” ที่คัดสรรชาคุณภาพดี (เลือกได้ 1 รายการ) ได้แก่ ชาหลงจิ่ง ชาผู้เอ๋อร์สุกอายุ 10 ปี ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ ชาอู๋อี่เหยียนฉา ชาอู่หลงกุหลาบ ชาทิกวนอิม ชามะลิไข่มุก เก๊กฮวยขาวดอกตูมหังโจว ชาดอกไม้ ชาเขียวข้าวคั่ว ชาสุ่ยเซียน และชาอู่หลงคั่ว พร้อมด้วยติ่มซำซิกเนเจอร์สุดพรีเมียมที่สีสันหน้าตาน่ารับประทานและรสชาติอร่อย โดยมี 3 เซตให้เลือก แต่ละเซตประกอบด้วยติ่มซำ 8 ชิ้น พร้อมเครื่องดื่มชาร้อน 1 รายการ/ ท่าน เซต A “Pleasing” ประกอบด้วย ขนมอบเซี่ยงจาหมูแดงคุโรบูตะ เผือกทอดทะเล ถ้วยทองฟรุ๊ตสลัดทะเล ทาร์ตไข่โบราณ เกี๊ยวหอยเชลล์กุ้งซอส XO ฮะเก๋าปลาทองนำโชค ถุงเงินไส้กุ้งสีแดง และสาหร่ายม้วนกุ้งเนื้อปูเซต B “Daydream” ประกอบด้วย ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปอเปี๊ยะไส้กุ้ง ขนมผักกาดเจี๋ยน ห่ามสุ่ยเกาะ ขนมพายพุทราจีนลูกเกด ขนมจีบเนื้อปูกุ้ง ซาลาเปาลาวาทรายทอง ถุงเงินไส้กุ้งสีชาโคล และเกี๊ยวสอดไส้เนื้อปูผักป๋วยเล้งเซต C “Enchanting” ประกอบด้วย ซาลาเปาอบไส้หมูแดงคุโรบูตะ…
Chef: Marco Boscaini Date : Oct 2022 Story : Nuthawut J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. เปลี่ยนมื้ออาหารธรรมดาให้เป็นมื้ออาหารอิตาเลียนสุดพิเศษ กับ Prego @ Amari Watergate สำหรับท่านที่ชื่นชอบอาหารสไตล์อิตาเลียน พร้อมกับต้องการนั่งทานอาหารในบรรยากาศสบาย ๆ ร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว ในพื้นที่ใจกลางย่านเศรษฐกิจ ห้องอาหาร Prego Bangkok (เปรโก้ แบงค็อก) พร้อมต้อนรับท่านด้วยอาหารอิตาเลียนร่วมสมัยที่ยังคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิม เพื่อยกระดับประสบการณ์บนโต๊ะอาหารของท่าน ไม่ว่าจะเนื่องในโอกาสใดๆ ให้เต็มไปด้วยความสุขและเพลิดเพลิน ห้องอาหารเปรโก้ เดิมมีสาขาแรกที่โรงแรมอามารี เกาะสมุย และได้เริ่มต้นสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการตลอดมา และได้มีการเปิดห้องอาหารเปรโก้ แบงคอก เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ โดยตั้งอยู่ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งจากรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท หรือจากรถยนต์ส่วนตัว ที่ทางโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท มีการจัดเตรียมที่จอดรถไว้ให้ผู้ใช้บริการ ทั้งการเข้าพักที่โรงแรม หรือการเข้ามารับประทานอาหารในห้องอาหารของโรงแรมอย่างเหลือเฟือ บรรยากาศของร้าน การตกแต่งภายในห้องอาหาร หน้าร้านและทางเข้าร้านตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ห้องอาหารเปรโก้ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม อมารี วอเตอร์เกท โดยสามารถสังเกตได้ง่ายจากป้ายชื่อร้านที่สะดุดตา และทำเลที่ตั้ง ที่ผู้ที่เดินทางผ่านไปมาสามารถมองเห็นร้านได้ตั้งแต่การกวาดสายตามองครั้งแรก การจัดบริเวณที่นั่งของห้องอาหารเปรโก้ มีทั้งบริเวณที่นั่งด้านนอกอาคาร ที่สามารถเห็นการเตรียมพิซซ่าของเชฟได้อย่างถนัดตา เพราะมีการจัดวางเตาพิซซ่าแบบเตาถ่านไว้บริเวณด้านนอก และบริเวณภายในตัวอาคารที่เป็นห้องแอร์ มีลักษณะการจัดห้องอาหารอย่างเรียบง่าย สบายตา และเป็นระเบียบ ด้วยการจัดโซนนิ่งที่มีทั้งบริเวณภายในและภายนอกห้องอาหาร ทำให้ห้องอาหารเปรโก้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับงานจัดเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆในทุกบริบท รวมถึงยังเหมาะสำหรับการพาเพื่อน หรือคนครอบครัวเพื่อมาทานข้าว เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติของอาหารอิตาเลียน และความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายกับเมนูอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟมาร์โค บอสกาอินี (Chef Marco Boscaini) เชฟของห้องอาหารแห่งนี้ Starters & Salads ทางห้องอาหารมีการเสิร์ฟขนมปัง พร้อมซอสเปสโต้ (Pesto) ที่ทำจากใบโหระพาฝรั่ง เนย และน้ำมันมะกอก กับซอสอาราเบียตต้า (Arrabbiata) ที่ทำจากกระเทียม มะเขือเทศ น้ำมันมะกอก…
คิดถึงอาหารจีน วัตถุดิบเยี่ยม รสชาติเลิศ ต้องมาทางนี้เลยจ้า โรงแรม แชงกรีลา กรุงเทพฯ “work from home จนเบื่อ ห้างเปิดคนก็เยอะ ออกไปไหนดี” ใครที่กำลังคิดว่า อยากออกจากบ้านบ้าง work from home นานเป็นเดือน เบื่อแล้ว แต่ก็ไม่กล้าไปห้าง กลัวคนเยอะ เบียดเสียด check in ต่อคิวนาน ฯลฯ ใจเย็นๆค่าคุณณณณณ เรามีทางเลือกที่ดีกว่ามานำเสนอ ดีกว่ายังไง?? ติ่มซำบุฟเฟต์ ในโรงแรม บรรยากาศ ส่วนตัวมากๆ คนน้อย ไม่พลุกพล่าน การบริการดีเลิศ ไม่ต้องไปต่อคิวใดๆ เลย ในราคา ที่ ไม่แพงเกินไปอีกต่างหาก เกริ่นมาแบบนี้ เริ่มน่าสนใจรึยังคะ ถ้าสนใจแล้ว ไปต่อกันเลย All you can eat ติ่มซำ บุฟเฟต์มื้อกลางวัน พุธ- ศุกร์ ที่โรงแรม แชงกรีลา กรุงเทพ มีเมนูมากมายทั้งคาวหวาน รวม 46 เมนู ให้เลือกทาน ภายใต้มาตรการ social distancing เริ่มตั้งแต่เข้าโรงแรม ที่ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ จนมาถึงหน้าห้องอาหาร Next 2 Café อ่านไม่ผิดนะคะ จัดที่ห้องอาหาร Next 2 Café ค่ะ บุฟเฟต์ มื้อกลางวัน จะจัดที่ห้องอาหาร Next 2 Café ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดีๆ นั่ง ริมหน้าต่าง ดูวิวริมน้ำ พร้อมกับทานติ่มซำ แบบนี้ ฟินสุดๆ ไปเลยนะ แต่ละโต๊ะ ที่เค้าจัดไว้ ก็ห่างกัน มากๆ เพราะห้องอาหารเป็น บุฟเฟต์นานาชาติมาก่อน…
เข้าเดือนธันวาคมอย่างเป็นทางการ จะเห็นว่าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆเริ่มประดับตกแต่งไฟสวยงาม อลังการไปหมด หลายๆคนก็พากันมาถ่ายรูปดื่มด่ำบรรยากาศตอนเย็น ร้านอาหาร ร้านขนมก็มีการจัดเมนูพิเศษในช่วงเทศกาลนี้มากมาย สำหรับใครที่ชอบทานขนมและชายามบ่าย ก็คงตระเวนหาชุดชาเมนูพิเศษในช่วงนี้แน่ๆ สยามพารากอน ห้างหรูกลางสยาม ตกแต่งไฟคริสมาสต์อย่างสวยงาม เมื่อเราเดินผ่านร้าน ชา ชื่อดัง จึงอดไม่ได้ที่จะจะแวะเข้าไปลองชุดชาเมนูพิเศษ ในช่วงคริสมาสต์นี้ ในช่วงนี้ทางร้านก็ออกชาพิเศษ ในกล่องสวยหรู สีเขียวมิ้นต์พร้อมลวดลายสีทอง ชื่อ Magic Christmas Tea (2200 บาท) เป็นชาแดงที่เบลนเข้ากับ citrus กลิ่นสดชื่น และมีความหอมละมุนๆจากซินนามอน มีรสชาติของสมุนไพรจางๆเวลาดื่ม ไม่ใช่แค่ชาพิเศษนี้เท่านั้น ตอนนี้ทางร้านทำมาการองรส magic Christmas Tea ออกมาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน เป็นมาการองสีชมพูสดใสซึ่งพอลองทานชา และมาลองมาการอง จะรู้สึกว่าทำออกมาได้รสชาติเหมือนกันมากๆ แต่ขนมจะหวานขึ้น หอมมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วดิฉันชอบขนมมากค่ะ ซึ่งมาการองรสนี้มีในเซตขนมที่เราจะมาชิมวันนี้ด้วยเช่นกัน เซ็ตชาและขนมช่วงเทศกาล ( festive tea time set) afternoon tea set แสนน่ารัก ที่เสิร์ฟมาบนฐานที่ทำจากช็อกโกแลต เรียกได้ว่ากินได้ทั้งขนมและฐานวาง เสิร์ฟพร้อมชาชุดพิเศษ festive night tea เป็นชาที่หอมกุหลาบและพวกผลไม้แบบเบอร์รี่สุดๆ เข้ากันได้ดีมากๆกับชุดขนมที่นำมาเสิร์ฟ ต้องบอกก่อนว่า เมนูอาหารและขนมของที่นี่เค้าพิถีพิถันในการคัดเลือกชาชนิดต่างๆ นำมาเป็นส่วนผสมของขนม และอาหารคาวทุกเมนูจริงๆ เป็นความแปลกใหม่ และสร้างสรรค์ที่ลงตัวมาก คงไม่มีใครนึกว่าอาหารคาวที่มีชาผสมด้วยจะมีรสชาติอร่อยหรือ ขนมอะไรจะเอาชามาผสมได้เยอะขนาดนี้ วันนี้ทุกท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับความคิดสร้างสรรค์ของเชฟแน่นอนค่ะ ขนมในเซตเริ่มจากของคาว ที่ทำมาจาก duck confit duck confit ผสมดาร์คช็อกโกแลตและเบอร์รี่หลายชนิดที่ทำเป็นซอสผสมกับ Christmas Jewel tea ทำมาในแบบทาร์ต ด้านบนมีมูสพาร์เมซานชีสเหมือนกึ่งๆของคาวและของหวาน เค็มกำลังดี และก็มีรสเปรี้ยวจากเบอร์รี่มาตัดเลี่ยนได้ ต่อมาเป็นมะกอกดำและแองโชวี่บด มะกอกดำและแองโชวี่บด ผสมมากับ Red Christmas tea ทาบนขนมปังแข็งกรอบๆ พอดีคำ เค็มปะแล่มๆ ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว หลังจากนั้นเราก็มาต่อกันที่ของหวานรัวๆ จะเริ่มจากอะไรก่อนก็ได้ น่ารักไปหมดเลยค่ะ จากที่เห็นฐานด้านล่างสุด จะมีทาร์ตสตรอเบอร์รี่ และ…
เรียนรู้การชิมไวน์ขั้นพื้นฐาน กับนักชิมไวน์ระดับประเทศ คุณภารณี จิตรกร วันนี้ทาง Kinlakestars.com ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากคุณภารณี ในการเข้าร่วมงาน Wine tasting, Italian wine ณ โรงแรม ไฮแอทเพลส สุขุมวิท 24 งานนี้มีความเอกคลูซีฟอย่างยิ่งเนื่องจาก คุณภารณี เป็นนักชิมไวน์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย หลายๆคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาจากเวที เชฟกระทะเหล็ก เพราะคุณภารณี เป็นคณะกรรมการในนั้นด้วยค่ะ ก่อนอื่นขอเล่าคร่าวๆถึงประวัติคุณภารณี (พี่หน่อง) กันก่อน พี่หน่องนั้นมีประวัติยาวนาน ที่เกี่ยวเนื่องกับการสอนชิมไวน์เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ของวงการเลยก็ได้ เธอจบการศึกษาจากประเทศฝรั่งเศส และเริ่มการเรียนคอร์สเกี่ยวกับไวน์ ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 Advance Certificate in Wines, Spirits and other alcoholic beverages จากสถาบัน Wine & Spirit Education Trust จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นคุณภารณี ก่อตั้งบริษัท Winesmart 101 ที่สอนเรื่องการชิมไวน์ รับจัดเวิร์กช็อป เป็นที่ปรึกษาทางด้านไวน์ และเป็นคณะกรรมการในการตัดสินไวน์ในต่างประเทศมากมาย เช่นที่ ฮ่องกง สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ นอกจากนี้ พี่หน่องยังได้รับตำแหน่งเป็น International Bordeaux Wine Educator จากสถาบัน Ecole du Vin de Bordeaux (CIVB) ประเทศฝรั่งเศส นี่คือประวัติคร่าวๆของวิทยากรที่จะสอนพวกเราชิมไวน์วันนี้ จะเห็นได้ว่าประวัติเกี่ยวกับการทำงานด้านไวน์ของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ รู้ประวัติขนาดนี้แล้ว เราจะนำทุกท่านไปเรียนรู้การชิมไวน์ เบื้องต้นไปพร้อมๆกับเรากันค่ะ วันนี้ ไวน์ที่นำมาให้ชิม มาจากประเทศอิตาลี ทั้งหมด 6 ขวด เริ่มกันตั้งแต่ขวดแรก Dogliani DOCG IFILARI 2018 เหมาะกับการทานคู่กับอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารอิตาเลียนที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบ ปริมาณแอลกอฮอล์ไม่มากนัก ไวน์แดงระดับท๊อปของประเทศอิตาลี นิยมทานเป็น…
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ ห่างหายกันไปนาน วันนี้กลับมาพร้อมกับ รีวิวชุดน้ำชา ที่ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ ช่วงนี้กำลังจะเข้าหน้าหนาวของไทย แต่ทว่าที่ญี่ปุ่นนั้นเพิ่งเข้าฤดูใบไม้ร่วงค่ะ เป็นฤดูที่สวยงาม โรแมนติก และอากาศดีมาก ไม่หนาวไป และไม่ร้อนไป อีกทั้งความโดดเด่นจากใบไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสี เหลือง ส้ม และแดง ทำให้เกิดทัศนียภาพอันแสนจะสวยสด งดงาม ทางโรงแรมจึงมีชุดน้ำชา “ Autumn afternoon tea” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความงดงามของฤดูใบไม้ร่วง มาให้ลองชิมกันค่ะ หนึ่งในความโดดเด่นของชุดนี้ นอกจากสีสันที่สวยสด งดงาม สดใส จากสีแดง ส้ม เหลือง ซึ่งสื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้วนั้น ก็ยังเกิดจากการนำวัตถุดิบที่งอกงาม เติบโตดีตามฤดูกาลของ ฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น เมลอนสีส้ม รสหวานกลิ่นหอม ฟักทองญี่ปุ่นที่หวานนุ่ม มันละมุน แอปเปิลพันธุ์ดีหวานๆอมเปรี้ยวนิดๆ และอื่นๆอีกมากมาย บอกเลยว่าต้องชื่นชมเชฟค่ะ ชุดนี้ราคา 1190 สำหรับ 2 ท่าน เริ่มด้วย สโคน ช็อกโกแลต ส้ม ที่นุ่ม อร่อย รสช็อกโกแลตเด่นชัด โดยไม่จำเป็นต้องทาแยม หรือ clot cream เพิ่มเลยก็ได้ ต่อมาใครชอบทานชีส brie ต้องลอง Brie with Kumquat on Rye เพราะว่า กลิ่นชีสแรง รสชาติแรง ถูกใจคนรักชีสแน่นอน Marinated prawns with tomato and Blood orange jelly เป็นอีกเมนูที่นำกุ้งทั้งตัว มาเสิร์ฟ พร้อมซอส รสส้มและมะเขือเทศ รสหวาน ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น เกรปฟรุต และอะโวคาโด กุ้งปรุงรสเสิร์ฟกับเยลลี่บลัดออเรนจ์ ขนมปังบริยอชไส้เนื้อเป็ดตุ๋นและส้ม และแซนวิชขนมปังไรย์ไส้ชีสบรี(Brie)ตกแต่งด้วยส้มคัมควอทเชื่อม พร้อมสำหรับของหวานต่อไป มาถึงของหวาน เราเริ่มกันด้วย chocolate…
เทศกาลแห่งความสุขเริ่มใกล้เข้ามาทุกที ทาง Kinlakestars จึงอยากจะแนะนำทุกท่านมาร่วมฉลองความสุขวันคริสต์มาสและปีใหม่ ณ ห้องอาหาร 204 บิสโทร แอนด์ บาร์ (204 BISTRO & BAR) โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ เต็มอิ่มกับเมนูอาหารที่จัดเตรียมอย่างพิเศษสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ พร้อมกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานมากมาย เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อขนม และกระเช้าของขวัญเพื่อมอบให้แก่กันในโอกาสสุดพิเศษ คริสต์มาส สุดพิเศษเฉพาะเทศกาลนี้เท่านั้น (โปรโมชั่นวันที่ 24 ธ.ค. 2560 – 1 ม.ค. 2561) ในย่านรัชดา เป็นย่านที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากมาย มีอาคารสำนักงานรายล้อมตั้งเรียงตัวอยู่ตลอดตามแนวถนน ไปมาอย่างสะดวกได้ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ทว่าหากจะถามหาถึงอาหารอร่อย คุ้มราคาคุณภาพระดับห้าดาวคงหาได้ไม่ง่ายนักเพราะมักไปกระจุกตัวอยู่ย่านใจกลางเมือง ครั้งนี้ล่ะครับที่เราจะพาทุกท่านไปรีวิว Buffet สำหรับช่วง Festive ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการเฉลิมฉลอง ทั้งรูปแบบ การจัด ของตกแต่ง และตัวอาหาร ได้ฉลองแบบยูโรเปียนกันเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็น ไก่งวง ไวน์ร้อน ขาหมูสเปน สารพัดขนมคริสมาส ฯลฯ ก่อนจะไปที่เนื้อหารีวิวผมขอพาทุกท่านมาชมราคาอันแสนคุ้มกันในแต่ละวันกันก่อนเลย เพราะแต่ละวันราคาจะต่างกันไปตามของนะครับ วันคริสต์มาส อีฟ ดินเนอร์ 24 ธันวาคม 2560 ห้องอาหาร 204 บิสโทร ต้อนรับวันสำคัญนี้ ด้วย “คริสต์มาสอีฟ ดินเนอร์ บุฟเฟ่ต์” ที่ ห้องอาหาร 204 บิสโทร ลิ้มลองเมนูโฮมเมดต้อนรับคริสต์มาส และอาหารนานาชาติที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อาทิ ไก่งวงอบ เนิ้อไพร์มริป ขาหมูสเปน (Iberico ham) ปูยักษ์จากอลาสก้า หอยนางรม ฟินน์ เดอ แคลร์ กุ้งแม่น้ำสดๆ หอยเชลล์ และอีกมากมาย คุณหนูๆ จะได้สนุกสนานกับการตกแต่งคุ๊กกี้และคัพเค้ก และได้พบกับคุณลุงซานต้าที่มาพร้อมของขวัญสำหรับเด็กๆ ราคา: 1,290 บาท++ วันคริสต์มาส บรั้นช์ 25…