วันนี้ทาง Kinlakestars อยากจะแนะนำบุฟเฟต์อาหารนานาชาติที่ห้องอาหาร อมาญา ฟู้ดแกลลอรี่ (Amaya Food Gallery) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพ (Amari Watergate Bangkok) โดยออกแบบในแนวร่วมสมัยมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถปรับใช้พื้นที่ได้ตามวัตถุประสงค์และรองรับแขกได้สูงสุดถึง 420 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีบริเวณไวน์ เซลลาร์และห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว 20 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไม่เป็นทางการหรือสถานที่รับประทานอาหารเพื่อการเจรจาทางธุรกิจในส่วนของบริเวณครัวเปิดและพื้นที่โดยรอบ ห้องอาหารยังเปิดรับจองเพื่อจัดงานส่วนตัวได้เช่นกัน พิเศษ! อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ขอมอบส่วนลดสูงสุด 40% ให้กับผู้ติดตามแฟนเพจของกินแหลกแจกดาว (Kinlakestars) สำหรับมารับประทานอาหารที่อมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2560 เมนูของอมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารพื้นเมืองของชาวเอเชียมาพร้อมกับครัวอิตาเลี่ยนด้วยห้องครัวแบบเปิดโดยแบ่งเป็นสเตชั่นต่างๆกันอย่างอมาญาไทยและเนเบอร์, อมาญามาร์เก็ต กริลล์, อมาญาอินเดีย, อมาญาเดลี่, อมาญาทรีท, และอมาญาอิตาเลียน ค่ำคืนนี้จะเป็น Friday Seafood Night เริ่มเวลา 18:00 – 22:30 ราคา 1,500++ บาทต่อคน (เฉพาะค่าอาหาร) โดยจะเน้นอาหารซีฟู้ด เสมือนยกมาทั้งทะเล อาทิเช่น กุ้งแม่น้ำ กั้ง ล็อบสเตอร์ หอยนางรม ปูอลาสก้า เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีอาหารนานาชาติทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และฝรั่ง จุดเด่นของที่นี่คือ เชฟจะปรุงอาหารกันสดๆ โดยเราสามารถมองเห็นเชฟปรุงอาหารกันเพื่อเพิ่มอรรถรสในการทานอีกด้วย ทุกท่านคงอยากรู้แล้วว่ามีอาหารอะไรบ้าง มาเริ่มดูไลน์บุฟเฟต์กันเลยดีกว่าครับ ไทย จีน เมื่อเดินเข้ามาในห้องอาหารจะพบกับสถานีแรกอยู่ทางด้านขวามือ เป็นอาหารไทย และจีน มีส้มตำอาหารพื้นบ้านของบ้านเรา ก๋วยเตี๋ยว โดยเราสามารถสั่งได้เลยว่าต้องการรสชาติแบบไหน ใส่อะไร ไม่ใส่อะไรได้ตามใจชอบ เชฟจะปรุงตามรสชาติที่เราต้องการครับ ถัดมาจะเป็นยำ และอาหารไทยต่างๆที่เป็นที่รู้จักของคนไทยทั้ง พะแนงไก่ ขาหมู ผัดเผ็ด ผัดฉ่า เป็นต้น ถัดจากอาหารไทยจะเป็นอาหารจีนครับ มีทั้งข้าวผัดหยางโจว…
Author: warn
วันแห่งความรักเริ่มใกล้เข้ามาขึ้นทุกที คู่รักต่างหาสถานที่เพื่อฉลองรับวันวาเลนไทน์กัน ทาง Kinlakestars จึงอยากจะแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ที่โรแมนติก บรรยากาศดี อาหารอร่อย เป็น Rooftop มองเห็นวิวสวยงาม 360 องศา ใจกลางเมืองที่ Zoom Sky Bar & Restaurant ชั้น 38 โรงแรม Anantara Sathorn ส่วนชั้นที่ 40 จะเป็นดาดฟ้าสัมผัสวิวใจกลางกรุง ในมุมมอง 360 องศา สูดอากาศสดชื่น สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งได้มาชมก่อนพระอาทิตย์ตกดินนั้นจะได้บรรยากาศ ได้อารมณ์เพิ่มอีกด้วย ยามค่ำคืนก็จะได้พบกับบรรยากาศสวยอีกแบบ มองเห็นวิวเมือง ได้เห็นแสงไฟจากทั่วกรุงเทพ ทางร้าน Zoom Sky Bar & Restaurant ก็ได้จัดเซตเมนูอาหารพิเศษสำหรับวันวาเลนไทน์ ย้ำว่าวันเดียวเท่านั้น! เป็น 5 Course East-West fusion journey with sensual jazz band and DJ tunes. ราคา 6,999++ บาทต่อคู่รัก พร้อมเครื่องดื่มคนละแก้ว และราคา 9,999++ บาทต่อคู่รัก พร้อมแชมเปญ 1 ขวด เรามาเริ่มดูเซ็ตเมนูอาหารสำหรับวันวาเลนไทน์กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจาก Amuse bouche – Japanese oyster with champagne zabaglione เป็น Miyagi oyster จากญี่ปุ่น หอยนางรมไซส์ใหญ่ สด หวาน แทบจะละลายในปาก พร้อมกลิ่นทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ของหอยนางรมด้วย ด้านบนจะเป็นเนื้อครีมสีเหลืองนวลคล้ายคัสตาร์ด เนียน ละมุน ท๊อปด้วยคาร์เวีย เป็นตัวเรียกน้ำย่อยของคอร์สต่อไปได้ดีเยี่ยม คอร์สต่อไปเป็น The sea No.3 – Dashi brine scallop /…
The Continent Hotel มีฝูงของแพคเกจโรแมนติกที่โดดเด่นในการใช้ประโยชน์จากนี้ 14 กุมภาพันธ์ทุกอย่างเริ่มต้นออกใน Medinii, ร้านอาหารอิตาเลียนที่ได้รับรางวัลท้องฟ้าแนวคิดการรับประทานอาหารบนชั้น 35 ที่ ที่นี่ด้วยเฉดสีของแพคเกจอิตาเลี่ยนที่นำเสนอรสชาติอาหารอิตาเลี่ยนสุดพิเศษที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารมื้อค่ำ 5 หลักสูตรโรแมนติกด้วยมุมมองที่สวยงามของเมืองที่มีขวดฟองสุทธิ 4,999 บาทต่อคู่ นั่งอยู่ข้างต้นทั้งเมืองและเพลิดเพลินกับอาหารที่ใกล้ชิดกับคนที่คุณรักจะเป็นคืนที่โรแมนติกสมบัติสำหรับทุกเพศทุกวัย ถ้าคุณตัดสินใจว่าคุณต้องการที่จะอยู่คืนทวีปแม้จะโยนในการติดตั้งห้องโรแมนติกกับแพคเกจอาหารค่ำในราคาเพียง 6,969 บาทต่อคู่ ห้องพักที่ The Continent ได้รับการออกแบบสำหรับการเดินทางไลฟ์สไตล์บูติกที่มีแกนรอบการเดินทางและตัวเลือกชั้นที่สูงขึ้นมีมุมมองที่ยอดเยี่ยมของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ สำหรับค่ำคืนพิเศษนี้ห้องพักจะถูกกำหนดขึ้นที่จะโอบกอดโรแมนติกในทั้งหมดของเรา หากคุณชอบที่จะรับประทานอาหารค่ำแสนโรแมนติกกลางแจ้งการจัดการเดียวกันจะถูกนำเสนอที่ H2O พูลบาร์บนชั้น 37 ที่มีเฉดสีโดยว่ายน้ำ, แพคเกจซึ่งรวมถึงอาหารมื้อค่ำใต้แสงเทียนสุดโรแมนติกกับ perks เดียวกันสำหรับการรับประทานอาหารและการเข้าพักเป็น กับแพคเกจ Medinii นอกจากนี้โรงแรมยังจะนำเสนอข้อตกลงนี้ยิ่งขึ้นในแกน & Spin Sky Lounge and Bar, บาร์ไลฟ์สไตล์บูติกที่ให้ทัศนียภาพแบบพาโนรามาอันยิ่งใหญ่ของไฟเมืองจากขึ้นไปบนชั้น 38 นี่คือโปรโมชั่นเป็นเฉดสีในท้องฟ้าที่ความรักและอาหารเย็นทไวไลท์เป็นรูปแบบของคืนอีกครั้งกับทุก perks ที่นำเสนอในโปรโมชั่นอื่น ๆ สำหรับการรับประทานอาหารและพักค้างคืน เมนูอาหารค่ำพิเศษตอนเย็นนี้มีเคลือบฟันของปลาแซลมอนสก็อต, แพนอ่อนตับห่านกับราสเบอร์รี่ตามด้วยครีมของมะเขือเทศและสตรอเบอร์รี่น้ำซุปเนื้อปู กุ้งก้ามกรามเมนกับเนยมะนาวซอสครีมเห็ดเป็นหลักการเข้าใกล้สุกช้าซี่โครงสั้น Wagyu กับเห็ดเห็ดชนิดหนึ่งตามด้วยช็อคโกแลตและสตรอเบอร์รี่ทาร์ตสตรอเบอร์รี่ไอศครีมของหวาน สำหรับสิ่งที่ฟุ่มเฟือยมากยิ่งขึ้นหัวไปด้านบนของทวีปไปอยู่ที่ใหม่ที่ได้รับรางวัลกรุงเทพฯ Heightz, ร้านอาหารร้านอาหารไทยแท้ที่มีการยกระดับอย่างแท้จริงอาหารให้สูงใหม่ ตั้งอยู่บนชั้น 39 กรุงเทพฯ Heightz มีทัศนียภาพเมืองที่ดีที่สุดในรอบที่ใกล้ชิด Atmos-phere สำหรับวันวาเลนไทน์คุณสามารถเพลิดเพลินกับโปรโมชั่นพิเศษของเราเข้มซึ่งมีดินเนอร์และปาร์ตี้มหกรรม EXCLU-sive กับแพคเกจอาหารค่ำ 5 หลักสูตรเดียวกับข้างต้นยกเว้นว่านี่เครื่องดื่มไม่ จำกัด จากเครื่องดื่มค็อกเทลไวน์, เบียร์, น้ำอัดลม , และอื่น ๆ. แพคเกจนี้ไปสำหรับสุทธิ 9,999 บาทต่อคู่แม้ว่ามันจะไม่ได้มาพร้อมกับข้อตกลงในชั่วข้ามคืน ทำการจองของคุณในขณะนี้สำหรับพิเศษตอนเย็นหนึ่งที่โรแมนติก KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่…
ทำไมต้องเลือกกินปลาอะยุ (ปลาไข่) จากกิฟุที่ Kisara ? Review Gifu Ayu fish จากคนที่เมินเฉยต่อปลาไข่ กลับกลายเป็นกินปลาไข่จนพุงกาง โดยน้ำหวานวันเดอร์สโตมั้กเกอร์ คนไทยส่วนใหญ่ ชอบทานอาหารญี่ปุ่น ยิ่งในยุคปัจจุบัน อาหารญี่ปุ่นผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ บางครั้งคุณภาพกับราคาไม่ค่อยไปด้วยกัน วันนี้ kinlakestars.com กินแหลกแจกดาว พามาทานอาหารญี่ปุ่นที่โรงเเรมคอนราด ในงาน Thai OOl Yamamoto วันนี้พระเอกของงานคือ ปลาอะยุ (Ayu) จากจังหวัด กิฟุ (Gifu) ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจเริ่มสงสัย ปลาอะยุหน้าตาเป็นยังไง เรามีภาพประกอบด้านล่างนะคะ คนไทยอาจรู้จักกันในนามปลาไข่ แต่ที่พิเศษคือ ที่จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่อง น้ำใสเป็นธรรมชาติเเห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทำให้เขาสามารถนำ น้ำจากแม่น้ำ มาเลี้ยงปลาอะยุ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ว่า มีประสิทธิภาพ นั้นคือ ปลาตัวแน่น เต็มไปด้วยไข่ตลอดปี ทั้งที่ปกติแล้วปลาไข่ จะมีไข่เฉพาะช่วงเดือน ตุลาคม ถึง มกราคม เท่านั้น แต่ที่นี่ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ปลาคิดว่าเป็นฤดูวางไข่ตลอด ทำให้ปลามีไข่ตลอดปี อีกทั้งยังเป็นปลาที่มีไข่ เยอะกว่าเนื้อมหาศาลเลยทีเดียว ถ้าทุกคนไม่เชื่อ ต้องลองดูจากรูปประกอบและไปชิมกันให้ได้นะคะ วันนี้ในงานจัดเป็นไลน์บุฟเฟต์ เน้นการนำปลาอะยุมาทำเมนูต่างๆที่หลากหลาย อาทิ ต้มยำ ที่รสชาติเผ็ดนิดๆ เปรี้ยวและเค็มตามแบบไทย , ซุปใส (ขอบอกว่าน้ำใสมากจริงๆค่ะ) เห็นแบบนี้อย่านึกว่าจืดนะ ทางเราจัดไปหลายถ้วยเพราะทานเเล้วเพลิน เปรี้ยวๆเค็มๆ กินกับปลาไข่แล้วอร่อยมากค่ะ highlight Menu ของงานที่ลูกค้าชื่นชอบคือเมนูที่คล้ายข้าวผัดปลาไข่ ชื่อว่า Risotto ayu ball (Gifu-ayu risotto ball) ใช้ข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม โรยหน้ามาด้วยไข่ปลา และเนื้อปลา ที่ให้ความเกรียมสุกนิดๆ นอกจากสัมผัสที่นุ่ม หนึบ มีความกรึบ รสชาติที่ชวนให้กินได้เรื่อยๆ ยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วยค่ะ และอีกเมนูที่ขาดไม่ได้ ดิฉันขอแนะนำให้กินคู่กับน้ำซุปใส ( Gifu-ayu clear bonito soup ) แค่เห็นก็น่ากินแล้วใช่ไหมคะ และน้ำซุปสไตล์ต้มยำ…
อาหารฝรั่งเศสรสดีเยี่ยม การผสมผสานที่ลงตัวของรสชาติจากเอเชีย ความงามดั่งงานศิลป์ กับ วิวที่สวยงาม บรรยากาศแสนโรแมนติก ณ Park Society หนึ่งใน Rooftop ใจกลางเมืองที่ทาง Kinlakestars อยากจะแนะนำทุกท่านที่ชื่นชอบในการชมวิวมุมสูงกลางกรุงเทพมหานคร บรรยากาศดี ชิคๆ ที่ Park Society Restaurant & Bar ตั้งอยู่บนชั้นที่ 29 ของโรงแรม SO Sofitel Bangkok พร้อมทั้งห้องอาหารและบาร์สุดหรูสามารถเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบของกรุงเทพได้ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ทันสมัยมาแฮงเอาท์กันอย่างยิ่ง เมื่อมาถึงชั้นที่ 29 ออกจากลิฟท์แล้วจะพบกับเคาน์เตอร์ต้อนรับ เมื่อหันหน้าเข้าเคาร์เตอร์ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องอาหาร เดินเข้าไปแล้วจะพบกับห้องครัวเป็นอย่างแรก ซึ่งเป็นครัวเปิด (Open Kitchen) โต๊ะตรงห้องครัวจะเป็นแบบ Chef Table เราจะเห็นเชฟทำอาหารกันอย่างสนุกสาน พูดคุยกับเชฟได้โดยตรง มีความสุขในการรับประทานอาหารกันเลยทีเดียว .เดินเข้ามาด้านในของห้องอาหารจะพบกับโต๊ะขนาดต่างๆ ซึ่งแต่ละโต๊ะของห้องอาหารนี้จะได้เห็นวิวของกรุงเทพได้ทุกโต๊ะ เพราะห้องอาหารจะเป็นกระจกใสซึ่งมองเห็นวิวของกรุงเทพได้ชัดเจน ส่วนโต๊ะที่ไม่ได้ติดกับมุมกระจกใส ก็สามารถเห็นวิวได้ทุกโต๊ะเช่นกันจากการสะท้อนของกระจกเงาซึ่งเป็น Concept ของทางสถาปนิกที่ได้ออกแบบมาอย่างนี้ ส่วนด้านขวามือของเคาน์เตอร์เป็นส่วนของบาร์ Outdoor เป็นโซนสำหรับนั่งดื่ม นั่งชิว รับลมสูดอากาศธรรมชาติ และจะมีบันไดขึ้นไปได้อีกชั้นเป็นส่วนของ Hi-SO Bar ด้านบนจะมองเห็นวิวจากมุมสูงใจกลางเมืองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น . มาดูส่วนของอาหารและเครื่องดื่มแนะนำของห้องอาหาร Park Society Restaurant & Bar กันบ้างครับ เริ่มจากเครื่องดื่มกันก่อนเลย แก้วซ้ายสุดจะเป็น Kaffirberry Fizz (320++ บาท) เครื่องดื่ม Cocktail มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หลักคือบรั่นดี Hennessey และเหล้า Cointreau ให้กลิ่นหอมของผิวเปลือกส้ม ส่วนผสมอื่นๆได้แก่ น้ำโซดามะนาว ใบมะกรูด และ สตรอเบอร์รี่สด Cocktail ตัวนี้ค่อนข้าง Creative ใช้ส่วนประกอบที่แปลกแต่รสชาติทำออกมาได้ดี หอม กลมกล่อม กลิ่นแอลกอฮอล์ไม่แรงนัก เปรี้ยวอมหวานกำลังดี แก้วกลางเป็น French Revolution (350++ บาท) เครื่องดื่ม…
หน้าหนาวเริ่มใกล้เข้ามาเต็มที หลายคนอาจจะกำลังมองหา Rooftop บรรยากาศดีๆ โรแมนติก วิวสวย อาหารอร่อยใจกลางเมือง ย่านสุขุมวิท ทาง Kinlakestars จึงขอแนะนำที่นี่ L’Appart (ลาพาร์ต) ตั้งอยู่ชั้น 32 คือชั้นบนสุดของโรงแรม Sofitel Bangkok Sukhumvit การเดินทางมาก็แสนสะดวก สามารถหลีกเลี่ยงรถติดโดยมาทางรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอโศก หรือ นานาก็ได้ เพราะโรงแรมจะตั้งอยู่ระหว่างสถานีอโศกและนานา ห้องอาหาร L’Appart เป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลว่า อพาร์ทเม้นท์ มีเรื่องราวความเป็นมาเหมือนกัน ผมจึงจะขอเล่าประวัติความเป็นมาของห้องอาหารคร่าวๆให้ทุกท่านฟังครับ มีคุณลุงคนหนึ่ง มีฐานะพอสมควร ชอบเดินทางไปเที่ยวรอบโลก แล้ววันหนึ่งแกได้มาเจอตึกๆนึง แล้วพอก็ขึ้นมาดูบนชั้นนี้ ก็รู้สึกถูกใจจึงได้ตัดสินใจซื้อชั้นนี้ไว้ แล้วก็ได้ตกแต่งชั้นนี้เป็นอพาร์ทเม้นท์ หลังจากนั้นคุณลุงก็ออกเดินทางท่องเที่ยวต่อ โดยคุณลุงจะฝากกุญแจของอพาร์ทเม้นท์ไว้กับหลาน ซึ่งหลานก็คือผู้จัดการร้านนั่นเอง หลานคนนี้เป็นคนที่มีเพื่อนฝูงเยอะ ชอบปาร์ตี้ ดังนั้นหลานจึงได้ดัดแปลงอพาร์ทเม้นท์ของคุณลุงให้กลายเป็นที่สำหรับให้เพื่อนฝูงมาพบปะสังสรรค์กัน โดยมีห้องอาหาร สามารถจัดปาร์ตี้ได้ ห้องอาหาร L’Appart จึงแบ่งออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรก คือ บาร์ (Bar) จะมีเครื่องดื่มต่างๆโดยคุณลุงเป็นคนซื้อมาจากทั่วทุกมุมโลก บาร์จะมีทั้งโซน Indoor จะมี DJ เปิดแผ่นเสียงด้วย และ Outdoor จะมองเห็นวิวใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างงดงาม ส่วนที่สอง คือ ห้องสมุด (Library) ซึ่งหนังสือในห้องสมุดทั้งหมดเป็นหนังสือที่คุณลุงซื้อมาตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ได้ไปเยือนมา ส่วนที่สาม คือ ห้องนั่งเล่น (Living Room) สามารถพักผ่อน ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้ ส่วนที่สี่ คือ ห้องครัวเปิด (Open Kitchen) สามารถมองดูเชฟปรุงอาหารเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารได้ ส่วนสุดท้าย คือ ห้อง VIP เป็นห้องส่วนตัวสำหรับคุณลุงพาสาวๆมาที่บ้าน เครื่องดื่ม Cocktail และ Mocktail ที่แนะนำครับ ในรูปสองแก้วซ้ายมือจะเป็นเครื่องดื่ม Mocktail ส่วนสองแก้วขวามือจะเป็นเครื่องดื่ม Cocktail …
สุดยอดพิซซ่า ที่คุณต้องลอง รับประกันความอร่อย แปลก แป้งที่กรอบ ขอบที่เยี่ยม และ Schiacciatina พิซซ่าแซนวิช หนึ่งเดียวที่นี่ไม่มีใครเทียบเทียม วันนี้ทาง Kinlakestars จะมาเอาใจคนรักพิซซ่ากันหน่อยครับ เป็นพิซซ่าโฮมเมดเตาฟืนที่ทำกันสดๆในครัวเปิดของห้องอาหาร La Scala (ลา สกาล่า) ณ โรงแรมสุโขทัย ซึ่งเป็นห้องอาหารอิตาเลียน บรรยากาศสบายๆ มีทั้งโซนด้านใน และโซนด้านนอกซึ่งสามารถมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำโรงแรมได้ บรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลาย โซนด้านในตรงกลางจะเป็นครัวเปิด เราจะสามารถเห็นเชฟทำอาหารเป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารอีกด้วย บรรยากาศด้านในอาจจะสลัวนิดนึง ถ้าจะให้สว่างหน่อย แนะนำให้นั่งฝั่งติดกระจกใส ที่นี่ไม่ได้เด่นเฉพาะพิซซ่าแต่มีอาหารอิตาเลียนที่น่าสนใจหลากหลายเมนูที่รังสรรค์และปรุงโดยเชฟ David Tamburini โดยเชฟจะคัดสรรวัตถุดิบที่ดี สด ใหม่จากแหล่งต่างๆมาปรุงอาหาร ซึ่งตอนนี้มีเมนู A La Carte ใหม่ๆด้วย ถ้ามีโอกาสต้องลองมาชิมอาหารอิตาเลียนของห้องอาหาร La Scala นี้กันครับ เราจะพาทุกท่านมาชิมพิซซ่าตัวเด่นๆของที่นี่กัน เริ่มต้นจากตัว Signature กันเลยครับ ชื่อว่า Schiacciatina (790++ บาท)… พิซซ่าหน้านี้มีมาตั้งแต่ห้องอาหารเปิดแล้ว กล่าวได้ว่าถ้ามาที่นี่แล้วไม่ได้สั่งพิซซ่าเมนูนี้ เหมือนมาไม่ถึงร้าน La Scala เป็นพิซซ่าที่หน้าตาคล้ายกับแซนด์วิช แป้งบางกรอบสองแผ่นประกบกัน ด้านในเป็นพาร์มาแฮมสไลด์บางๆ รสชาติเค็มกำลังดี ตรงกลางเป็นผักร็อกเก็ตนำเข้าเกรดพรีเมียม กลิ่นหอม ทานง่าย สอดไส้ด้วยมาสคาโปนชีส เป็นชีสสดรสชาติเบานุ่ม ละมุนลิ้น และด้านล่างเป็นมะเขือเทศฝานสด หวาน แป้งด้านนอกจะโรยด้วยโรสแมรี่เพิ่มความหอม ทานพร้อมกันแล้วรสชาติกลมกล่อม เป็นการผสมผสานวัตถุดิบได้ลงตัวมาก พิซซ่านี้จะเสิร์ฟมาคู่กับมะกอก รสชาติเค็มนิดๆ ทำให้เพิ่มรสชาติให้กับพิซซ่ายิ่งขึ้น ตัดเลี่ยนได้ดี ตัวที่สองจะเป็น Siciliana (690++ บาท) . วัตถุดิบหลักของพิซซ่าหน้านี้คือ มะเขือม่วง บางคนอาจจะคิดว่าทานยาก ไม่อร่อย แต่เชฟปรุงออกมาได้ดี ทานง่าย เป็นพิซซ่าแป้งบาง อบร้อนๆ นุ่มๆ พร้อมกับมะเขือเทศอบแห้งเพิ่มรสชาติให้โดดเด่นยิ่งขึ้น กลมกล่อม ด้านบนหน้าพิซซ่าจะเป็นริคอตต้าชีส ชีสอิตาเลียน หอม มันโดยเชฟจะนำชีสมาขูดป็นฝอยโรยหน้า พิซซ่าที่นี่จุดเด่นอีกอย่างจะอยู่ที่ขอบพิซซ่าซึ่งปกติคนทั่วไปมักจะไม่ทานเพราะแข็ง ไม่อร่อย แต่ที่นี่ทำได้ดีมาก…
วันนี้ทาง Kinlakestars จะมาเอาใจคนรักบุฟเฟต์โรงแรมหรูใจกลางเมือง บรรยากาศสบายๆ ย่านสุขุมวิท ของโรงแรม The Landmark Bangkok ชื่อห้องอาหาร The Atrium อยู่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม เดินทางสะดวก สามารถโดยสารมาทางรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดย่านสุขุมวิทได้ เป็นบุฟเฟต์อาหารนานาชาติ มีอาหารหลากหลายทั้งอาหารญี่ปุ่น ฝรั่ง และไทย รวมทั้งอาหารเมนูสุขภาพสลัดบาร์ อาหารทะเล บาร์บีคิวปิ้งย่าง ก๋วยเตี๋ยวและขนมหวานให้เลือกทานมากมาย ลองมาดูไลน์อาหารแต่ละสเตชั่นกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องอาหารจะพบกับสเตชั่นแรกทางด้านขวามือเป็น สเตชั่นของหวาน (Cake and Pastry) เป็นช็อกโกแลตฟองดูว์ สไตล์ฝรั่งเศส มีผลไม้เสียบไม้ไว้ให้ดิปกับช็อกโกแลต ถัดมาเป็นเฟลมเบ้ กล้วยชุบแป้งทอด แล้วราดด้วยซอสและทอปปิ้งตามใจชอบ ถัดมาจะเป็นเค้กต่างๆมีทั้ง Mille feuille หรือเค้กพันชั้น เป็ขนมหวานจากฝรั่งเศส แป้งพัพฟ์บางกรอบสามชั้น คั่นกลางด้วยช็อกโกแลตครีมข้น ชีสเค้ก เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น รสชาติหวาน หอม Fruit Jelly เนื้อเจลลี่เด้งหนึบกำลังดี ราดด้วยฟรุตสลัดด้านบน Coconut Mousse เค้กเนื้อมูสสีขาว กลิ่นมะพร้าวหอมชัดเจน มันเล็กน้อย Panna Cotta ใส่มาเป็นถ้ายเล็กๆ น่ารักๆ เนื้อเนียน ละมุน ตัดเปรี้ยวด้วยซอสเบอร์รี่ Chocolate Tissismo Cake เค้กช็อกโกแลตเข้มข้น หวานน้อย และเค้กอื่นๆอีกมากมายหลากหลาย ผลไม้ตามฤดูกาล จะมีแตงโม แคนตาลูป แก้วมังกร สับปะรด ฝรั่ง ส้ม .ไอศกรีมมีให้เลือก 3 รส คือ วนิลา ชาเขียว และ กล้วย พร้อมซอสคาราเมลและสตรอเบอร์รี่ และทอปปิ้งให้ใส่ตามใจชอบเลยครับ ขนมไทย (Thai Dessert) เป็นน้ำแข็งใส มีเครื่องให้เลือกใส่มากมาย เช่น ลอดช่อง ทับทิมกรอบ เฉาก๊วย ข้าวโพด…
น้ำมันมะกอกดีๆ ทำให้รส กลิ่นของอาหารแตกต่างอย่างชัดเจน ช็อกโกแลตเองก็เป็นของที่กินเพื่อสุขภาพและสร้างสรรค์จาก สมุนไพร และ พืชพันธุ์ธรรมชาติได้เช่นกัน เซ็ตดินเนอร์ 5 คอร์สเมนู สร้างสรรค์อย่างละเมียดละไมโดยเชฟ ฟิลลิป เทรช ซึ่งทุกจานจะปรุงด้วยน้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพพรีเมี่ยม (Grand Cru Olive Oil) ในระดับเทสติ้งโน้ต (Tasting notes) 87-97 ซึ่งจะชูให้รสชาติของอาหารแต่ละจานโดดเด่นอย่างเหลือเชื่อ นับได้ว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ความละเมียดละไมในมื้ออาหารที่แตกต่างจากที่หลายๆท่านเคยสัมผัสจากเชฟระดับเวิลด์คลาสอื่นๆ และปิดท้ายรายการมื้อค่ำเซ็ตนี้ด้วย โฮมเมดช็อกโกแลต ฝีมือเชฟ ฟิโอน่า โดยนำเสนอ สูตรใหม่ “Botanical Choco Olio Atelier” ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ อาทิ การผสมผสานใบเจเรเนียมเข้าไปในช็อกโกแลตทรัฟเฟิล ให้กลิ่นหอมสดชื่นแปลกใหม่ พิเศษไม่เหมือนใคร วันนี้ทาง Kinlakestars พาทุกท่านไปพรีวิวงาน Exclusive Dinner and Choco Atelier with Chef Philipp Tresch and Fiona Sciolti โดยเชฟรับเชิญ ฟิลลิป เทรช (Philipp Tresch) เจ้าของรางวัล Olive Oil Culinary Award จากฝรั่งเศส และ เชฟช็อกโกแลต ฟิโอน่า โชล์ตตี้ (Fiona Sciolti) จากประเทศอังกฤษ ผู้มีฝีมือระดับรังสรรค์ช็อกโกแลตทรัฟเฟิลให้แก่พระราชวังบักกิ้งแฮม งานนี้เชฟจะให้ประสบการณ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันมะกอกว่าน้ำมันมะกอกนั้นสำคัญอย่างไร และได้มีโอกาสชิม ดม เทสน้ำมันมะกอก 5 ชนิดที่มีกลิ่น สี และรสที่แตกต่างกัน ซึ่งลักษณะการ taste นั้นเหมือนกับไวน์ไม่มีผิด ซึ่งการนำน้ำมันมะกอกที่ต่างชนิดกันมาปรุงอาหารจานเดียวกัน จะทำให้รสชาติของอาหารจานนั้นเปลี่ยนไปได้ด้วย น้ำมันมะกอกที่ดี น้ำมันมะกอกที่สด เมื่อเข้าปากแล้วจะรู้สึกได้ถึงความสด ความบาง เบา รสที่เผ็ดนิดๆ กลิ่นเขียวสดๆ ซึ่งต่างกันกับน้ำมันมะกอกพรีเมียมธรรมดา ที่กลิ่นจะเบาๆ ไม่มีกลิ่นเขียวสด ความหนักและหนืดของน้ำมันมะกอก จะต่างกันอย่างชัดเจนมาก หากลองดมและดื่มสลับคู่กัน ไม่ว่าใครก็สามารถแยกออกได้ ต้น…
วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับ แลนด์มาร์คของร้านอาหารมีระดับ สถานที่นัดพบ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษ ท่ามกลางทัศนียภาพบนยอดตึกระฟ้าใจกลางกรุงเทพมหานคร ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์คนทันสมัย ครบวงจรหนึ่งเดียวในไทย HEAVEN BANGKOK สวรรค์แห่งการกิน-ดื่ม-เที่ยวอย่างมีระดับบนยอดตึกระฟ้า ใจกลางกรุงเทพมหานคร ตอบรับคนเมืองที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยและมีความสุขในการใช้ชีวิต บนเนื้อที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ตั้งแต่ชั้น 17-20 ห้างฯเซน @ เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมก้าวขึ้นสู่แลนด์มาร์คสุดฮิป เป็นสถานที่นัดพบพูดคุยรับประทานอาหารของคนไทย หรือโชว์ความอลังกาลของเมืองหลวงไทย ด้วยวิวสวยสุด เพื่อต้อนรับชาวต่างประเทศ ZENSE ชั้น 17 The Event Space รองรับการจัดงาน Event รูปแบบต่างๆ ทั้ง Indoor Outdoor ด้วยความโดดเด่นของสถานที่ ที่ออกแบบได้เก๋ ไม่ซ้ำใคร โดยนักออกแบบระดับ top ของเมืองไทย สามารถสร้างบรรยากาศ การจัดงาน eventในรูปแบบต่างๆที่ทันสมัย ได้อย่างลงตัว ZENSE ในชั้น 18 Gourmet Deck The Zense of Gastronomy รวบรวมร้านอาหารชื่อดัง นานาชาติชั้นเลิศ 5 สัญชาติ อย่างอาหารไทย,อิตาเลียน,ญี่ปุ่น,อินเดียน และ ยุโรเปี้ยน รวมถึงของหวาน โดยทีม ZENSE เคล้าคลอเสียงดนตรีชิลเลาท์มิวสิค พร้อมเพิ่มไวน์บาร์หลากหลายชนิดจากทั่วโลก ตามความต้องการของลูกค้าพร้อมมีบริการห้องส่วนตัว และโซนพิเศษเหมาะสมสำหรับการจัดงานพิเศษต่างๆ คืนนี้ทาง Kinlakestars จะมารีวิวเมนูอาหารนานาชาติหลากหลายสัญชาติที่เป็นอาหารแนะนำให้ทุกท่านได้ลองชิม โดยเริ่มจาก Starters ที่เป็น อาหารญี่ปุ่นก่อนจาก NipponZENZE Sashimi Assortment (1,850++ บาท) เป็นชุดปลาดิบรวมสด หวาน มีทั้งปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาฮามาจิ กุ้งหวาน และหอยเชลล์ เสิร์ฟมาพร้อม Dry ice อลังการน่าทาน ให้ความรู้สึกถึงความสด ใหม่ เหมือนพึ่งจับขึ้นมาสดๆจากทะเล ต่อมาเป็น…