ในปัจจุบันกลยุทธ์การตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญมาก แม้ว่าสินค้าคุณจะดีแค่ไหนแต่ถ้าการตลาดไม่ดีก็เกิดยาก แต่สินค้าบางรายการธรรมดาทั่วไปแต่ทำการคลาดเก่งก็เปรี้ยงปังขึ้นมาแบบสบายๆ อย่างไรก็ดีกลยุทธการตลาดที่หลากหลายไม่ว่าการหาพรีเซนเตอร์มาแนะนำ การใช้กลไกราคา การจำกัดช่วงราคาขาย หรือการกำหนดราคาสินค้า มักถูกนำมาใช้กันเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีอีกหลากหลายแบรนด์ที่เริ่มพยายามหาวิธีการตลาดใหม่ๆเพื่อให่โดดเด่นกว่าคู่แข่งทางการค้าและแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด
ในช่วงเวลาที่พึ่งผ่านมาไม่นานเกิดปรากฎการอกหักกันไปทั่วดาวดวงหนึ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ กับการเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์หนึ่งที่ประกาศว่าขายพร้อมกันทั่วโลก โดยตั้งกติกาว่า มาก่อนได้ก่อน จนกระทั่งหลายประเทศในโดลแทบเกิดจลาจลย่อมๆ มีผู้คนเป็นลม ผู้คนมารอก่อนวันขายจริง นั่ง นอน และยืนเบียดกันภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาด Covididi 19 และเมื่อถึงเวลาที่ผู้คนต่างวิ่งเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็พบกับร้านค้าที่ปิดไฟต้อนรับ พร้อมป้ายประกาศว่าปิดทำการชั่วคราว ต่อมา เจ้าหน้าที่ห้างต่างๆจึงทยอยมาอธิบายว่าทางแบรนด์มีความเป็นห่วงเป็นใยลูกค้าจะติดโรคระบาดจึงมีการระงับ นั้นเป็นเหตุผลที่แท้จริงหรือไม่ เรามาลองดูลำดับเวลาและการสื่อสารที่เกิดขึ้นกันดีกว่าครับ
- ทางแบรนด์มีการสื่อสารต่อลูกค้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเปิดทำการขายในประเทศไทยไม่ถึง 8 ชั่วโมงหรือเกือบ 20.00 (GMT+7) ว่าให้มารับบัตรคิวในจุดที่กำหนดเวลา 9.30 (GMT+7) ซึ่งประเทศอื่นๆก็มีลำดับกิจกรรมและเวลาตามที่กล่าวไปโโยเพิ่มลดตาม Time zone แต่ละประเทศ
- เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลา 7.30 (GMT+7) และ 9.30 (GMT+7) ซึ่งแตกต่างไปในแต่ละประเทศ ทางแบรนด์ดังกล่าวได้มีการประกาศอีกครั้งว่างดและยกเลิกการขายในช่องทางออนไลน์ของตน แต่ทว่าผู้คนที่รออยู่หน้างานนั้นต่างใจจดใจจ่ออยู่กับการรอคอยการเปิดของห้างและร้านค้าในประเทศไทย ซึ่งนั้นรวมถึงในต่างประเทศด้วยเช่นกัน
- โดยเหตุผลที่ทางแบรนด์ให้มาสำหรับการยกเลิกการขายคือ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรง covididi 19
ซึ่งหากผู้อ่านท่านใดเคยทำงานอยู่ในองค์กรขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ จะทราบดีว่าแต่ละองค์กรนั้นจะมีตำแหน่งหรือผู้ทำหน้าที่นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ซึ่งทำหน้าที่นำข้อมูลเชิงสถิติที่มีอยู่มาทำการวิเคราะห์คาดการณ์ รวมถึงคิดแผนงานต่างๆ โดยผู้เขียนเองก็เคยทำงานในตำแหน่งนี้ในหน่วยงานภาครัฐเช่นกัน
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทางแบรนด์ดังกล่าวจะไม่ทราบถึง หรือคาดการผิดพลาดของจำนวนของอุปสงค์สินค้า และจำนวนลูกค้าที่จะมาทำการแย่งซื้อ หากทางแบรนด์มีความจริงใจและเป็นห่วงต่อกรณีการแพร่ระบาดของโรคจริงทางแบรนด์ควรใช้วิธีการให้ลูกค้าลงทะเบียนออนไลน์หรือทำการเลื่อนก่อนที่ผู้คนจะออกมาเบียดเสียดถึงเพียงนี้ ผู้เขียนคาดการว่าคงมีผู้มีเชื้ออยู่อย่างน้อยหนึ่งในกลุ่มคนที่รอคอยซํกแห่ง ดังนั้นการจะเปิดขายหรือไม่จึงคงไม่สามารถช่วยลดการแพร่ระบาดได้แต่อย่างใด การซื้อขายแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นจากอุปสงค์และอุปทาน นั้นเป็นเรื่องพื้นฐานที่แม้แต่เด็กประถมก็คงทราบ ซึ่งเมื่อคาดการณ์ได้ และทราบถึงหลักอุปสงค์ตลาด ก็คงทราบว่าจะมีการแออัด และสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด แต่แบรนด์ยังคงเดินหน้าต่อไปจนเกิดเหตุการณ์ต่างๆที่เป็นไปตามคาดการณ์ตามมา
อย่างไรก็ดีการยกตัวอย่างกรณีศึกษานี้มิได้เป็นการกล่าวถึงตัวสินค้าแต่อย่างใดหรือเจาะจงว่าเป็นสินค้าแบรนด์ใด ข้อความที่กล่าวไปนั้นไม่ทราบได้ว่าเกิดขึ้นจริงบนดาวดวงใด หากเกิดขึ้นบนดวงดาวของเราจริงคงน่าเศร้าใจ