Brasserie Cordonnier – ร้านอาหารฝรั่งเศสแนวบิสโตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่างซ่อมรองเท้า ซึ่งก็มีความหมายตรงกับชื่อร้าน คำว่า “Cordonnier” ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 หาได้ไม่ยาก ถ้าเข้ามาจากปากซอย 11 ตรงเข้ามาจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้าย ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือนั่นเอง
ภายในร้านตกแต่งแนวย้อนยุคนิดๆ อารมณ์ประมาณปี 1930 โต๊ะถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ มีให้เลือกนั่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบาร์ หรือ มุมสบายๆ อย่างมุมตรงข้าม ซึ่งมีโซฟาหนังสีเข้ม ทอดยาวจนสุดร้าน
ที่ผนังก็ประดับไปด้วยรูปมากมาย รวมไปถึงสิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ อุปกรณ์ของช่างซ่อมรองเท้า ซึ่งถือว่าเป็นคอนเซ็ปท์ของร้านเขาเลยทีเดียว
ชมร้านไปพอสมควรแล้ว เรามาเริ่มกันที่เครื่องดื่มก่อนแล้วกัน เป็นค็อกเทล ซึ่งบาร์เทนเดอร์ ได้แนะนำสองแก้วนี้มาให้ครับ
แก้วแรก With Love from Monet (350++ บาท) แก้วนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจิตรกรฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง นั่นก็คือ Claude Monet ทำให้แก้วนี้จะมีกิมมิคเล็กๆ ตรงที่จะมีพู่กันมาให้ ใช้ทาเจลมะนาวลงบนขอบแก้ว เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวลงไป ให้กับค็อกเทลแก้วนี้นั่นเอง ส่วนในขวดสแตนเลสเป็น ค็อกเทลที่ผสมมาแล้ว อาทิเช่น สก๊อตวิสกี้ สวีท เวอร์มุท คัมพารี่ เป็นต้น เทลงบนน้ำแข็งก้อนลูกบาศก์ ตกแต่งด้วยก้านไธม์
แก้วนี้จะอาจจะค่อนข้างแรงนิดหนึ่งครับ
ต่อมาเป็น Moulin Sour (390++ บาท) แก้วนี้ก็มีเรื่องราวเช่นกัน คือ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรงละครคาบาเร่ที่โด่งดังในกรุงปารีส นั่นก็คือ Moulin Rouge สำหรับแก้วนี้ จะใช้ไข่ขาว ผสมกับ น้ำมะนาว ทำให้เกิดฟอง แต่งกลิ่นวานิลาซักเล็กน้อย จากนั้นเพิ่มสีสันให้สมกับชื่อโรงละครสีแดง ด้วยพอร์ตไวน์ และทีเด็ดที่ไม่เหมือนใครของแก้วนี้คือ เขาจะหยอดน้ำมันทรัฟเฟิล ปิดท้าย และวางดอกกล้วยไม้ แทนกังหันของโรงละครฯ
แก้วนี้จะออกเปรี้ยวๆหวานๆ ได้ความนุ่มๆของฟองไข่ขาวด้านบน มีกลิ่นของทรัฟเฟิลอ่อนๆ
Chef Clement Hernandez – เชฟหนุ่มไฟแรงสัญชาติฝรั่งเศส เคยทำงานในร้านอาหารมิชลินมาแล้วหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านมิชลินดาวเดียว จน ถึง 3 ดาว มาแล้ว รับรองในฝีมือ และ ประสบการณ์ที่สั่งสมมาของเชฟเลยครับ
อาหารเริ่มทยอยออกมาแล้วครับ เริ่มด้วยพวกอาหารเรียกน้ำย่อย อย่าง Ratatouille Froide Revistée (280++ บาท)
สำหรับจานนี้ เชฟทำมะเขือเทศออกมาสามแบบ ได้แก่ มะเขือเทศสดจากญี่ปุ่น มะเขือเทศหมักในน้ำส้มสายชู และมะเขือเทศอบแห้ง โดยรสชาติแต่ละแบบก็จะต่างกัน แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกถึงมะเขือเทศ ซูกินีปรุงมาได้สุกกำลังดี และนอกจากนี้ยังได้ความหอมมัน และกรุบกรอบจากเมล็ดทานตะวันอบ อีกด้วย
Beurre à la Truffle (110++ บาท) หรือ เนยเห็ดทรัฟเฟิล นั่นเอง
โดยปกติทางร้านจะให้ขนมปัง และ เนยสดจากฝรั่งเศสเป็นคอมพลีเมนทารีอยู่แล้ว แต่มีคนบอกเนยทรัฟเฟิลของที่นี่มีความดีงาม เลยขอลองซักหน่อย มันมีความหอมของทรัฟเฟิลกำลังดี เนื้อละมุน มันดีจริงๆ ต้องลองเลย
และต้องบอกก่อนว่า ขนมปัง เป็นสิ่งๆเดียว ที่ทางร้านไม่ได้ทำเอง แต่ขอให้มั่นใจในคุณภาพ และ รสชาติ เพราะ ทางร้านฯ คัดสรรขนมปังมาให้เราได้ทาน โดยเชฟสั่งขนมปังจากร้านขนมปังชื่อดังในกรุงเทพฯ นั่นก็คือ ร้าน Amantee The Bakery
ต่อมา Terrine de foie gras façon cordonnier (560++ บาท)
ขนมปังบรีโอชอบ หอมๆ กรอบๆ ทานคู่กับ เทอร์รีนตับห่าน องุ่นสไลด์ และ ชัทนีย์องุ่นหวานๆ อมเปรี้ยวเล็กๆ มันครบรสดีนะครับ สำหรับจานนี้ มันให้ความรู้สึกละมุนมากสำหรับตัวเทอร์รีน มันนุ่ม หอมอ่อนๆ
และ ถาดนี้ก็คือ Coldcuts & Cheeses Platter (480++ บาท) เสิร์ฟชีส และ โคลด์คัท มาอย่างละ 3 อย่าง มาบนถาดไม้
Rocamadour (Goat Cheese)
Fourme D’Ambert (Blue Cheese)
Homemade Fresh Cottage Cheese ออกแนวสเปรด เชฟทำจากโยเกิร์ต มันมีความเข้มข้นทั้งสัมผัส และ รสชาติดีครับ หอมกลิ่นเครื่องเทศต่างๆที่ใส่ลงไปด้วย
มาต่อกันที่โคลด์คัท เริ่มจากทางขวาสุด คือ Rossette (dry sausage) ตรงกลาง คือ Jambon de Pays (cured ham) ตกแต่งมาด้วยแตงกวาดอง มะกอก และ มะเขือเทศแห้ง
และ Homemade Pork and Pistachio terrine สำหรับตัวเนื้อหมูไม่ได้ถึงกับละเอียดไป มีความหยาบพอให้เราได้เคี้ยว นอกจากนี้ยังมีถั่วพิสตาชิโอกรุบๆ หอมๆ มันๆ สอดแทรกอยู่ระหว่างเนื้อหมูด้วย
จานนี้เป็น Tartare de boeuf Wagyu D’Australie et huître (460++ บาท) เป็นทาร์ทาร์เนื้อวากิว และ หอยนางรม
………..
ขนมปังกรอบๆ หอมๆ มาช่วยเพิ่มความกรอบให้จานนี้มีมิติไปอีก
Soupe à L’Oignon gratinée (280++ บาท) อันนี้เป็นซุปหัวหอมสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ จะไม่ใช่แนวข้นๆ รสชาติกำลังดี ด้านบนเป็นชีส พอตักลงไปในชามก็พบกับขนมปัง และ หัวหอมผัด ชีสที่ใช้ เป็นชีสเอ็มเมนทอล มีความหนุบหนับเวลาได้เคี้ยว ได้ความหวานจากหัวหอม ส่วนขนมปังก็จะออกนุ่มๆ มีความฉ่ำน้ำซุปที่แช่มา ได้ทานซุปร้อนๆ แบบนี้ ก็รู้สึกดีจริงๆ
Escargots de Bourgogne (390++ บาท) หอยทากเบอร์กันดี อบหอมๆ
เนื้อหอยมีความสด มีความหนึบๆ หอมกลิ่นกระเทียม และ พาสลีย์ มากๆ
เชฟใช้ส่วนแก้มวัวมาใช้ในการปรุง …………………………..
Poitrine de porc confite (420++ บาท)
ตัวหมูสามชั้นถูกปรุงมาอย่างพิถีพิถัน จนเนื้อสัมผัสที่ได้นั้น มีความนุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ มีส่วนหนังบางๆ กรอบเล็กน้อย
ทานคู่กับ มันฝรั่งย่าง แอปเปิ้ลสด และ แอปเปิ้ลย่าง ช่วยเพิ่มรสชาติหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ
นอกจากนี้ก็มีผักร็อคเกต ด้วย คือ เอาจริงๆ เป็นคนที่ไม่ได้ถึงกับชอบกลิ่นของผักชนิดนี้ แต่พอได้ทานจานนี้ ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่ากลิ่นมันช่วยทำให้จานนี้มันดูมีเอกลักษณ์เพิ่มขึ้นไปอีก
Magret de canard poêlé (520++ บาท) คือ ต้องบอกว่าทางร้าน รู้จักการวิธีจัดการกับเนื้อต่างได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงเนื้อเป็ด เชฟทำออกมาได้นุ่มกำลังดี คือ ไม่ใช่นุ่มจนนุ่มไปเลย หรือ ไม่ได้เหนียวจนเกินไป ซอสรสชาติกลมกล่อม หอมๆ
สำหรับจานนี้สามารถเพิ่มในส่วนของ Foie gras poele rougié (190++ บาท) หรือฟัวกราส์ย่าง ได้ด้วย คือ ดีเลิศมาก คือ ต้องบอกเลยว่าสัมผัสของมันดีจริงๆ คือ วัตถุดิบที่ดีแล้ว อีกข้อหนึ่งก็คือ การปรุงที่ถูกวิธี อันนี้คือเค้าย่างมากำลังดีเลยครับ และ นอกจากนี้ก็มีเห็ดย่าง เนื้อกรุบๆ ด้วย
ทานคู่กับสลัดผักราดด้วยบัลซามิกเดรสซิ่งเปรี้ยวๆ ตัดเลี่ยน กับ มันบดทรัฟเฟิล เนื้อนุ่มเนียน หวานอ่อนๆ เค็มนิดๆ หอมเนยหอมทรัฟเฟิล ต้องบอกก่อน จริงๆแล้วสำหรับเมนู เค้าจะเสิร์ฟเป็นมันบดธรรมดาให้ทานคู่กัน แต่เราสามารถเพิ่มในส่วนของเนยทรัฟเฟิล (110++ บาท) ได้ครับ
มาตบท้ายด้วยขนมกัน Tarte tatin (220++ บาท) ขนมสัญชาติฝรั่งเศสดั้งเดิม แอปเปิ้ลนุ่มๆ เรียงเป็นชั้นบางๆ รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ รองด้วยฐานแป้งพัฟเพสตรี้กรอบๆ หอมกลิ่นคาราเมลอ่อนๆ
ทานคู่กับไอศกรีมชินนามอน หอมกลิ่นอบเชยอ่อนๆ แต่อาจจะรสหวานไปนิดหน่อย แต่เข้ากันสุดๆไปเลยครับ
Mousse au chocolat (180++ บาท) มูสช็อคโกแลต ดูหน้าตาแล้ว อาจจะรู้สึกธรรมดาๆ แต่รสชาติมันค่อนข้างแตกต่างไปจากหน้าตาเลย คือ รสชาติมันเข้มข้นถึงใจ และ สัมผัสนุ่มๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเบาจนเกินไป แบบว่า เข้าปากแล้วละลายหายไปเลย อันนี้คือมันยังได้สัมผัสของตัวมูส และมีความหอมมันดี ได้ความกรุบกรอบของครัมเบิล และ ช็อคโกแลตด้านบนด้วย
Nougat glacé sauce fruits rouges (200++ บาท) จากชื่อเมนู ‘นูก้ากลาเซ่’ มันน่าจะอารมณ์เหมือนไอศกรีม หรือ พวกขนมแช่แข็ง แต่พอดีกว่าจะได้ทาน มันก็ไม่เย็นแล้ว แต่ยังคงสภาพเดิมอยู่ ตอนที่ทานตัวขนม มันนุ่มดี เหมือนมูส เบาๆ รสชาติออกนมๆ หวานๆ แต่ไม่ได้หวานมากมาย สอดแทรกด้วย ถั่ว และ ผลไม้แห้ง ข้างใน ตกแต่งด้วยเบอรี่ด้านบน ทานกับซอสเปรี้ยวๆ มันช่างเข้ากันๆ
brasserie cordonnier, bistro, bistrot, french cuisine
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด