คนรักเนื้อทุกคนต่างรู้ดีว่าเนื้อแต่ละส่วนมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน และเหมาะกับกรรมวีธีการปรุงอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้นการทำเนื้อแต่ละเมนูจึงต้องเลือกเนื้อส่วนที่ถูกต้องเพื่อเสริมให้รสชาติอาหารจานนั้นอร่อยมากที่สุด และเมื่อพูดถึงเมนูเนื้อ เชฟคนแรก ๆ ที่วงการคนรักเนื้อจะต้องนึกถึงก็คือเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม แบรนด์แอมบาสเดอร์ True Aussie Beef ประจำประเทศไทย
และยังเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรายการ Top Chef Thailand รวมถึง The Table by Chef ซึ่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจร้านอาหาร ที่ให้บริการอาหารไฟน์ไดนิ่งแบบไพรเวต ด้วยการเปิดบ้านให้แขกเข้ามารับประทานอาหารภายในบ้านอย่างเป็นกันเอง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เชฟแพมยังได้สร้างความฮือฮาแก่บรรดานักชิมในกรุงเทพฯ ด้วยการนำเสนอเมนูเนื้อสไตล์โอมากาเสะ 8 คอร์สสุดสร้างสรรค์ ซึ่งมีเนื้อวัวออสเตรเลียเป็นพระเอก คอร์สโอมากาเสะเนื้อออสเตรเลีย เริ่มด้วยเมนู Smoked Beef Tallow ตามด้วย Beef Jam / Beef Heart / Sourdough, Wagyu Flat Iron, Beef Ribs and Truffle Rice, Beef Sando, Fried Aged Beef, Black Sesame Bao Mousse และปิดท้ายด้วย Corn husk ice cream
โดยเชฟแพมเลือกเนื้อส่วนที่แตกต่างกันสำหรับอาหารแต่ละจานเพื่อดึงรสชาติของเนื้อแต่ละส่วนให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ทำให้อาหารแต่ละจานมีรสชาติที่อร่อยเข้มข้น โดดเด่น และสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เชฟแพมยังเผยเคล็ดลับการเลือกเนื้อส่วนต่างๆ ในแบบฉบับมือเชฟมือโปรที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกใช้เนื้อถูกส่วนสำหรับทำเมนูอาหารจานโปรดได้เองที่บ้านอีกด้วย
Smoked Beef Tallow / Beef broth
ขนมปังบริยอช หรือขนมปังเนยสไตล์ฝรั่งเศสทำจากน้ำมันเนื้อ ทานคู่กับซุปกระดูกเนื้อเข้มข้น โดยใช้เวลาตุ๋นนานกว่า 24 ชั่วโมงและปรุงรสด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว ให้รสสัมผัสที่กลมกล่อม หอมกลิ่นเนื้ออย่างแท้จริง
Beef jam / Beef heart / Sour Dough (Beef Chuck)
เลือกใช้เนื้อสันคอออสเตรเลีย (Chuck) ตุ๋นจนเปื่อยจนกลายเป็นแยม ปรุงรสกลมกล่อมเค็มๆหวานๆมันๆ หอมกลิ่นเนื้อ วางบนขนมปังซาวโดวจ์ที่ย่างด้วยน้ำมันเนื้อ เสิร์ฟพร้อมกับหัวใจเนื้อสไลด์บางๆ ย่างถ่านแบบความสุกกำลังดี ระดับมีเดียม แรร์ (medium rare) ตัดเลี่ยนด้วยรสเปรี้ยวฝาดจากแตงกวาดอง
Beef Ribs and Truffle Rice (Beef Ribs)
เลือกใช้เนื้อออสเตรเลียส่วนซี่โครง (beef ribs) มารมควันกับไม้มะขามและไม้ลิ้นจี่นานกว่า 14 ชั่วโมง ด้วยอุณหภูมิต่ำ เพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่มชุ่มฉ่ำและและความหอมกำลังพอดี ทำให้มันเนื้อมีความหวานมากยิ่งขึ้น เสิร์ฟพร้อมกับข้าวอบเม็ดสวยเข้มข้นด้วยซอสเนื้อและโรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิ้ลดำฝานบางๆ
Beef Sando (Tenderloin)
ปรุงด้วยเนื้อสันในออสเตรเลีย (Tenderloin) เนื้อส่วนที่นุ่มที่สุดของวัว นำเนื้อไปเซียร์จนได้ระดับความสุกปานกลางหรือกำลังดี อย่าง มีเดียม แรร์ (medium rare) เพื่อให้ได้ความนุ่มและชุ่มฉ่ำละมุนลิ้น ทานคู่กับขนมปังกรอบนอกนุ่มในและซอสพริกขี้หนูรสจัดจ้าน มาพร้อมกับเครื่องเคียงอย่างหอมแดงดอง
Fry Aged Beef Mantou (Rib Eye)
เลือกเนื้อส่วนริบอาย มาบ่มด้วยความเย็นหรือดรายเอจ (dry-aged) นานถึง 45 วัน เพื่อให้ได้ความนิ่ม นุ่มและมีรสชาติของเนื้อที่เข้มข้นและหอมมากกว่าเนื้อปกติและเป็นเอกลักษณ์ ก่อนนำเนื้อมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ โปะด้วยชีสและพริกฮาลา
พิโน ดอง (Jalapeño) แล้วสอดไส้ในหมั่นโถวทอด
Wagyu Flat Iron (Wagyu Oyster Blade)
เลือกเนื้อส่วนใบพาย (oyster blade) เนื้อส่วนที่เชฟแพมที่สุด เนื้อที่มีความนุ่มอันดับ 2 รองจากเนื้อสันใน นำมาคลุกกับผงชาโคล และย่างด้วยเนยหอมๆ ทานคู่กับซอสกระเทียม (Black Garlic Puree) มอบรสชาติหวานมัน ผสมผสานความนุ่มละมุนลิ้นและได้รสสัมผัสของเนื้อแบบเต็มคำ
Pre dessert – Black Sesame Bao Mousse
ซาลาเปาเนื้อแป้งนุ่มสอดไส้หมูสับ และหอมงาดำอย่างลงตัว เสิร์ฟมาบนจานเซรามิกที่วางบนถ้วยเซรามิกให้ดูโดดเด่นขึ้น
Main Dessert – Corn husk ice cream
ไอศครีมรสข้าวโพดรสชาติหวานมัน ผสานกับความความหอมไหม้นิดๆของเมอแรงค์
ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการเลือกเนื้อวัวส่วนต่างๆ สำหรับการทำเมนูอาหารจานแต่ละจานนั้น การทราบข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของแหล่งผลิต รวมถึงวิธีการเลี้ยง อาหารที่ใช้เลี้ยง และมาตรฐานการแปรรูป เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญมากๆ สำหรับเชฟทุกคน เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อรสชาติและรสสัมผัสของเนื้อวัวโดยตรง สำหรับเชฟแพม เนื้อวัวออสเตรเลียเป็นวัตถุดิบหลักที่เชฟเลือกใช้ปรุงเป็นอาหารให้ลูกค้ามาตลอด เพราะเชฟต้องการนำเสนอเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
เนื่องจากเนื้อวัวออสเตรเลียผลิตจากวัวในฟาร์มปศุสัตว์ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี วัวสามารถเดินท่องไปในทุ่งหญ้าธรรมชาติอันกว้างใหญ่ที่ปราศจากมลภาวะ ถูกเลี้ยงด้วยหญ้าและธัญพืชคุณภาพดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งทำให้วัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ปราศจากความเครียด และให้เนื้อที่มีรสชาติดีเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆของโลก สิ่งเหล่านี้ทำให้เชฟแพม และเชฟคนอื่นๆ เชื่อมั่นในคุณภาพที่สม่ำเสมอและเลือกเนื้อวัวออสเตรเลียในการปรุงอาหารทั้งที่บ้านและที่ร้าน
เราจะทราบได้อย่างไรว่าเนื้อส่วนไหนเหมาะกับเมนูอะไร? เรื่องนี้สร้างความสับสนมากโดยเฉพาะกับคนรักเนื้อที่ต้องการทำเมนูเนื้อกินเองที่บ้าน วันนี้เชฟแพมจะมาบอกเคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกเนื้อส่วนต่างๆ สำหรับการทำอาหารอาหารจานโปรดของคุณให้ได้รสชาติดีที่สุด
- สันคอ (Chuck) – คือเนื้อส่วนไหล่ที่มีไขมันน้อย มีราคาไม่แพงมากและใช้ปรุงอาหารได้หลายอย่าง แต่เหมาะมากสำหรับกรรมวีธีการปรุงที่ใช้ความร้อนนาน ๆ หรือการเคี่ยวเพื่อให้เนื้อที่นุ่ม ชุ่มฉ่ำ และเข้มข้นยิ่งขึ้น เนื้อสันคอจะมีเนื้อเยื่อเกี่ยวกันหนาแน่น ดังนั้น เมื่อนำมาปรุงด้วยความร้อนนาน ๆ ก็จะยิ่งทำให้เนื้อมีความนุ่มละมุนลิ้นและหอมอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น
- ส่วนเนื้อใบพาย (Oyster blade) – เป็นเนื้อบริเวณไหล่ที่มีความชุ่มฉ่ำมาก ทั้งยังนุ่มมาก มีชั้นไขมันแทรกเยอะ และเหมาะกับการปรุงด้วยความร้อนสูง เช่นการปิ้งย่างหรือการทอดในกระทะเพื่อสลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน แต่ไม่ว่าจะปรุงเป็นเมนูอะไร ห้ามเลาะเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทิ้งเด็ดขาด เพราะถ้าปรุงอย่างถูกต้องมันจะให้รสชาติที่อร่อยมาก ซึ่งคุณจะสัมผัสได้ตั้งแต่คำแรกที่กัดเนื้อชิ้นนั้น
- ซี่โครง (Beef ribs) – เนื้อซี่โครงมี 2 แบบ ได้แก่ Back Ribs กับ Short Ribs โดย Back Ribs ได้จากส่วนหลังบนของวัวบริเวณด้านหลังไหล่ ส่วน Short Ribs จะอยู่ต่ำลงมาจากกระดูกซี่โครงวัวด้านหลังของเนื้อเสือร้องไห้ ซึ่งจะมีไขมันเยอะ ชั้นไขมันแทรกมาก และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหนาแน่น ซี่โครงทั้งสองส่วนนี้ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ส่วนกรรมวิธีการปรุงที่เหมาะกับซี่โครงทั้งสองแบบคือการปรุงด้วยไฟอ่อนอย่างช้า ๆ ไม่ว่าจะด้วยการย่าง เคี่ยว ตุ๋นในหม้อแรงดัน ปิ้งไฟอ่อน หรือซูวี (Sous vide) แต่ต้องจำไว้ว่า ถ้าเลือกใช้ส่วน Back Ribs แทน Short Ribs คุณอาจต้องเติมไขมัน
- สันใน (Beef Tenderloin) – เนื้อแถบยาวไขมันน้อยบริเวณสะโพก ซึ่งเป็นคัตเนื้อส่วนมีความนุ่มที่สุดและราคาแพงที่สุดของวัว แต่ก็คุ้มค่ามากที่สุด วิธีการปรุงเนื้อส่วนนี้ที่ง่ายดายและรวดเร็วที่สุดก็คือการย่าง หรืออบในเตาอบด้วยความร้อนสูงจนได้ความสุกระดับ Medium-rare ไปจนถึง Rare ให้สุกตั้งแต่ด้านนอกไปจนถึงกลางชิ้นเนื้อ แต่การอบให้สุกแบบ Medium-rare จะได้เนื้อสันในที่นุ่มที่สุด
- ริบอาย (Ribeye or Scotch fillet) – เนื้อส่วนซี่โครงของวัวที่เลาะเอากระดูกและเอ็นด้านนอกออกแล้ว มีเนื้อสัมผัสนุ่มอย่างเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากคัตเนื้อส่วนอื่น ๆ โดยมีชั้นไขมันแทรกอยู่ลึก รสชาติเข้มข้น และนุ่มอร่อยอย่างแตกต่าง กรรมวิธีการปรุงที่ดีที่สุดสำหรับคัตเนื้อส่วนนี้ทำได้ทั้งการอบ การย่าง การเซียร์ หรือทำเป็นบาร์บีคิว ซึ่งล้วนมอบรสชาติเนื้อที่เข้มข้น ชุ่มฉ่ำ และนุ่มละมุน
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการเลือกเนื้อวัวสำหรับทำเมนูสเต็กก็คือ การเลือกเนื้อที่มีความหนาราว 1½ – 2 นิ้ว ซึ่งจะเหมาะกับการทำสเต็กมากที่สุด
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เนื้อวัว True Aussie Beef ดูที่เว็บไซต์ https://www.trueaussie.co.th/
Kin Review
Kinlakestars.com
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว