ช่วงหน้าหนาวคนรู้จักหลายคนมักจะขึ้นไปเที่ยวทางภาคเหนือกัน ที่เห็นมากที่สุดเห็นจะเป็นเชียงใหม่ แต่สำหรับเราเคยไปเชียงรายตอนเด็กๆและอยากจะลองกลับไปอีกครั้งมากกว่า จังหวัดที่อยู่เหนือสุดของไทย มีอาณาเขตติดกันกับพม่าและลาวที่สามเหลี่ยมทองคำ ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไป ปัจจุบันนี้เชียงรายมีที่ให้ไปเที่ยวหลายแห่งมากมาย ทั้งไร่ชาฉุยฟง วัดร่องขุ่น พิพิธภัณฑ์บ้านดำ สวนดอกไม้ อีกทั้งคาเฟ่ร้านอาหารอร่อยๆก็น่าไปลองเช่นกัน
ในครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวกับครอบครัว จอง เลือก หาโปรเองทุกอย่าง และอยากจะนำเรื่องราวมาแชร์กันไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการท่องเที่ยวต่อไปค่ะ
โดยทริปนี้เราเลือกที่จะขึ้นเครื่องบินไป เชียงรายนี้มีหลายสายการบินให้เลือกบินไปทั้งจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปถึงเชียงรายช่วงเช้า แล้วเช่ารถพร้อมคนขับท้องถิ่นผู้ชำนาญเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยว มาช่วยต่อเติมโปรแกรมในครั้งนี้ให้สมบูรณ์เป็นจำนวน 3 วัน อีก 1 วันสุดท้ายเก็บไว้เดินเที่ยวเล่นและนั่งรถรางแอ่วเมืองกันก่อนที่จะบินกลับในตอนค่ำค่ะ
วันที่ 1 ขับรถออกไปเที่ยวทางนอกเมืองทางทิศเหนือ และสถานที่ๆอยู่ใกล้กับสนามบิน
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2544 ผู้มีผลงานแสดงเดี่ยวและกลุ่มมากมายหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการประชุมสัมนาทางศิลปะนานาชาติอยู่เสมอ ผลงานบางส่วนติดตั้งแสดงถาวรเป็นสมบัติของชาติ ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และสถานที่สำคัญๆทั้งของรัฐและเอกชนหลายแห่งในประเทศและต่างประเทศแถบเอเชีย ยุโรปและอเมริกา ท่านได้ใช้เวลากว่า 50 ปีในการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ด้วยเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ณ ที่จังหวัดเชียงรายอันเป็นบ้านเกิด จัดแสดงศิลปะหลากหลายแขนงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ศิลปะที่จัดแสดงของท่านนั้นแฝงไปด้วยปรัชญาพุทธศิลป์ ความเชื่อ การตีความ จัดวาง สเปซและสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ สามารถเดินชมได้ตามเรือนที่วางเรียงรายอยู่ในสวน
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00-17:00 น. ♦ ค่าเข้าชม 80 บาท
หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงเผ่าต่างๆ ที่จะจัดเป็นโซนหมู่บ้านภายในพื้นที่ให้เราเดินวนดูเป็นวงกลม และเลือกซื้อของ เช่น ผ้าพันคอ หมวก กำไร กระเป๋าแบบชาวเขา และสินค้าอื่นๆได้ ส่วนตัวแล้วอันนี้ถือว่าได้มาเห็นไม่ค่อยเจอ แต่ก็จะไม่แนะนำให้ไปค่ะ
ซ้ายไปขวา : การแสดงเคาะไม้ – ส่วนขายของสินค้าท้องถิ่น – ชาวกะเหรี่ยงคอยาวนั่งทอผ้าพันคอ – ผ้าพันคอหลากสีสันต์
♦ ค่าเข้าชม xxx บาท
มื้อกลางวันที่ Hacienda coffee house & restaurant เป็นร้านที่อยากจะทานจริงจังหรือเล่นๆก็ได้ทั้งนั้น มีทั้งอาหารจานอร่อย เค้กและขนมมากมายให้เลือกลอง ตกแต่งร้านในสไตล์ English country house ทั้งหมดเลยค่ะ มีหลายมุมให้เลือกถ่ายรูปเล่นและวิวที่มองออกไปจากโต๊ะก็สวยมากๆด้วย เราจึงใช้เวลาอยู่ที่นี่กันนานซักหน่อยค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน – ช่วงที่เรามาช่วงนี้ ม.แม่ฟ้าหลวงที่อยู่ใกล้ๆเขากำลังจะรับปริญญากันในไม่กี่วันนี้ ทางร้านเลยตกแต่งแบบนี้ไว้รอต้อนรับเหล่าบัญฑิตใหม่ด้วยค่ะ
ซ้ายไปขวา : แม้แต่จานยังสวยมาก – ผักขมอบชีส – ข้าวผัดห่อไข่ – ข้าวอบสับปะรด (แนะนำมากๆค่ะ แถวนี้ยิ่งขึ้นชื่อสับปะรดอร่อยอยู่แล้วด้วย และจานนี้ดีจริงๆ) – สเต๊กปลาดอรี่
วิวที่เราได้มองไปจากโต๊ะ ทานไปมองวิวนี้ไป เพลินมากค่ะ
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 – 20:00 น.
ซ้ายไปขวา : วิวจากท่าเรือ – เห็นเขตพม่าแล้ว – ฝั่งไทยไม่ไกลจากท่าเรือนัก – ป้ายสามเหลี่ยมทองคำที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปด้วย
ซ้ายไปขวา : ฝั่งลาว Donesao island ล่าง : ของที่ขายบนเกาะ – เรือที่เราได้นั่งไป
เป็นเขตยกเว้นพิเศษ ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตค่ะ มี ♦ ค่าเหยียบแผ่นดิน 20 บาท ค่าเรือขึ้นอยู่กับจำนวนคนและประเภทของเรือ
ไร่ชาฉุยฟงในยามบ่ายแก่ อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว นิยมมาเดินเล่น ถ่ายรูป ทานเค้กชาเขียว น่าเสียดายที่วันนี้เรามาถึงร้านตอนครึ่งชั่วโมงก่อนปิด เค้กยอดฮิตบางตัวจึงหมดแล้ว และเคาเตอร์ขายน้ำก็กำลังเริ่มเคลียร์ไม่รับออเดอร์แล้วเช่นกันค่ะ ฉะนั้นเผื่อเวลากันไว้หน่อยนะคะ อย่ามาเย็นมากแบบพวกเรา
บนล่างซ้าย : วิวไร่ชาจากอาคารแรก บนล่างขวา : คณะชาวเขาที่บังเอิญเจอแต่งตัวมาถ่ายรูป – วิว พระอาทิตย์ตกหลังโรงสีข้าวเก่าแก่ที่หาได้ยากยิ่งแล้ว
เห็นมี 2 อาคาร ถ้าอยากถ่ายรูปใกล้ชิดกับไร่ชาเป็นอาคารแรก ถ้าอยากได้ภาพวิวมุมกว้างสวยๆส่วนตัวว่าไปอาคารด้านในสุดค่ะ ส่วนขนมนมเนยและที่ให้นั่งรับประทานมีทั้ง 2 อาคารค่ะ
ส่วนร้านขายของมีทั้งชาเขียว ชาอู่หลงเบอร์ต่างๆให้ลองชิม กาน้ำชา กระเป๋า ของที่ระลึกต่างๆให้ได้เลือกซื้อหากันด้วย
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:30 – 17:30 น. ♦ เค้กชาเขียวในรูป 110 บาท
มาถึงเหนือทั้งที เราต้องมาลองอาหารเหนือกันบ้าง และร้านเด็ดที่คนในทีมแนะนำมาคือร้านนี้ค่ะ ร้านหลู้ลำ ตั้งอยู่ในตัวเมืองริมน้ำกก วันนี้คนเยอะและอาหารช้าหน่อยอาจจะเพราะเป็นวันอาทิตย์และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกำลังจะมีงานรับปริญญาในวันสองวันนี้ด้วย
คืนที่ 1-2 นี้ ได้เลือกพักในเมือง สามารถเดินมาหน้าโรงแรมแล้วเรียกตุ๊กตุ๊กไปเที่ยวต่อได้ อย่างคืนนี้เราจะไปเดินถนนคนม่วน ที่มีทุกคืนวันอาทิตย์กันค่ะ เปิดตั้งแต่
ซ้ายไปขวา : บรรยากาศของถนนคนม่วน – มุมนั่งรับประทานอาหาร – เดินๆไปเจอการแสดงฟ้อนรำ – ได้แค๊บหมูและข้าวเกรียบว่าวจิ๋วมา
เป็นถนนคนเดินที่ใหญ่มากจริงๆ เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นจะสุดซักที มีการแสดงฟ้อนรำ มีร้านของกิน เสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆอีกมากมายให้เดินดู รับรองกลับถึงโรงแรมทีนี้หลับสนิทเลยค่ะ
วันที่ 2 ยังคงมุ่งขึ้นไปทางทิศเหนือ แถบดอยตุง
สวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจ กาดดอยตุง นั้นอยู่ตรงจุดเดียวกัน เราสามารถจอดรถ มาซื้อตั๋วแล้วเข้าชมได้เลยค่ะ ส่วนพระตำหนักดอยตุงอยู่อีกจุดนึง และสวนรุกชาติอยู่อีกจุดนึงที่ต้องขับรถไปอีกหน่อยค่ะ
สวนแม่ฟ้าหลวง
มีตั๋วจำหน่ายเป็นแบบเหมารวม สวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจ สวนรุกขชาติ และพระตำหนักดอยตุง ราคา 220 บาท (แต่วันนี้พระตำหนักปิดไม่ให้เข้าชมพอดีค่ะ ขออภัยเลยไม่มีรูปให้ดูนะคะ)
เดินออกมาจากสวนแม่ฟ้าหลวง ผ่านร้านค้าห้องอาหารดอยตุง ที่มีไอศกรีมสตรอเบอร์รี่เน้นๆ แบบรูปด้านล่างนี้อร่อยมากค่ะ
ราคาแท่งละ 60 บาท สินค้าอื่นๆที่ขายในร้านค้าห้องอาหารดอยตุง สามารถอ่านต่อได้ที่นี่
เมื่อทานไอศกรีมเสร็จแล้ว เดินต่อมาอีกหน่อย จะพบ หอแห่งแรงบันดาลใจ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติของรัชกาลที่ 9 โครงการในพระราชดำริต่างๆ เป็นนิทรรศการที่จัดแสดงได้น่าสนใจดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ
ซ้ายบน : เป็นส่วนที่ประทับใจในระบบการจัดแสดง โดยให้เรายกมือขึ้นไปกลางอากาศ ทำท่าแตะไปที่ตัวจอตรงนั้น แล้วตัวการ์ตูนจะวิ่งไปตามจุดต่างๆในจอ เช่น สร้างแก้มลิง ปลูกหญ้าแฝด เป็นต้น เป็นการเล่นกับคนดูที่เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย ลองไปเล่นดูกันได้นะคะ
พระธาตุดอยตุง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงราย บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือกระดูกไหปลาร้าซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีกุน(ปีหมู)อีกด้วย หลังจากได้ผ่านการบูรณะมา ณ ปัจจุบันมีพระธาตุ 2 องค์
ต้นตุง : ตุงเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ ความสดใสและความมีโชคดี นำไปปัก ณ ที่ใดก็เกิดมงคล ณ ที่นั้น ไม้นอนไพรทั้งห้าต้นนำมาใช้ เป็นเสาตุงอย่างเป็นธรรมชาติ ประกาศความงามมหัศจรรย์ และประโยชน์ยิ่ง ทั้งเตือนใจให้เรานำป่าคืนสู่ ดอยตุงโดยเร็ว (คัดลอกมาจากป้ายในรูปภาพ)
Photo trick : เนื่องจากเวลานี้เป็นเวลาเที่ยงวัน
แดดตรงหัวพอดี เดินไปด้านหลังจะหามุมถ่ายรูปเราและตัวพระธาตุได้ดีกว่าค่ะ
สวนรุกขชาติ มีต้นกุหลาบพันปีสวยๆปลูกอยู่มากมายทั้งสีแดง สีชมพูแซมขาวสวยงามนัก เดินไปเดินมาเรายังเจอนักส่องนกถือกล้องกับเลนส์บิ๊กเบิ้มมาส่องนกอยู่ด้วยค่ะ
ลงจากดอยตุงมาไม่ไกล มีร้านอาหารจันกะผัก ที่ขึ้นชื่อว่ามีผักสดๆที่ปลูกภายในศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริและชุมชนที่เข้าร่วมโครงการนำมาทำอาหารจานอร่อยให้เราทานกันอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นร้านที่จัดตั้งโดยสมเด็จพระเทพรัจนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีด้วยค่ะ
จานคะน้าผัดน้ำมันหอยในรูปด้านบนนี้ สดกรอบ อร่อยมากๆค่ะ เป็นเหมือนเมนูแนะนำที่นี่เลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีสวนเล็กๆให้เดินย่อยหลังอาหาร และจักรยานให้เช่าปั่นไปชมสวนด้านในได้ด้วยค่ะ
ตลาดแม่สายในวันนี้ เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายที่เป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทยกับพม่า
เป็นแหล่งช็อปปิ้งขนมนมเนย ชา กาแฟ ข้าวของเครื่องใช้ทั้งจากไทยและพม่า มีหลังคาคลุมแดดคลุมฝนให้เดินดูของได้อย่างสะดวกทั้งซ้ายและขวา
หากอยากข้ามไปที่ฝั่งพม่าต้องไปทำเอกสารขอข้ามแดน พาสปอร์ตใช้ได้ในกรณีที่เราบินเข้าไปค่ะ
และดูคนขับรถเค้าอยากให้เราเดินอยู่ฝั่งนี้มากกว่า (สงสัยอยากจะรีบพาเราไปเที่ยวที่อื่นต่อ)
ศิลปะวันละนิดวันนี้ขอเสนอ ขัวศิลปะค่ะ เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดของศิลปินเชียงราย ที่จะจัดหมุนเวียนไปตามช่วง มีกิจกรรมทางศิลปะจัดขึ้นอยู่เรื่อยๆ หรือถ้าหิวก็มีร้านอาหารที่ตั้งอยู่ข้างใน ที่ได้ข่าวว่าทั้งอาหารและวิวดีค่ะ
ซ้ายไปขวา : ด้านหน้าอาคารขัวศิลปะ – ทางเข้าชมห้องจัดแสดงนิทรรศการรูปวาดด้านใน – 3 รูปในหลายรูปที่จัดแสดงอยู่
ซ้ายไปขวา : บรรยากาศห้องโถง – หน้าทางเข้าส่วนร้านอาหาร – ศิลปะบนเพดาน
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 19:00 น. ♦ ค่าเข้าชม ฟรี
นาทีนี้ร้านอาหารที่ดังมากในเชียงราย คงหนีไม่พ้นชื่อร้าน ชีวิตธรรมดา เป็นแน่ ด้วยบรรยากาศการตกแต่งของร้านอาหารสีขาวที่ดูสบายๆ อยู่ริมแม่น้ำกก ในร้านมีโต๊ะและมุมให้เลือกถ่ายรูปเล่นหลายมุม อาหารหลากหลาย คงทำให้หลายๆคนไม่พลาดที่จะแวะมาเยือนเป็นแน่ เราจึงไม่ขอเอ่ยถึงมากนะคะ และขอแนะนำให้มาตอนกลางวัน ช่วงที่คนน้อยๆจะถ่ายรูปเล่นได้ถนัดถนี่มากกว่า
ส่วนคืนนี้เราจะลองเดินไปดู ตลาดไนท์บาร์ซาร์ ที่อยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 5 นาทีถึงค่ะ

วันที่ 3 ในตัวเมืองและทางทิศใต้ของเมือง

ที่นี่ชาวบ้านเอามาวางแบขายกันอย่างนี้เลยล่ะค่ะ ประมาณ 9 โมง 10 โมงเช้าก็วายหมดแล้ว เอ จะซื้อฟักทองรึว่ากะหล่ำดีนะ?

เมื่อจอดรถเสร็จจะมีรถรางให้นั่งไปที่ฐานของเจ้าแม่กวนอิม ทำบุญตามศรัทธา ขึ้นลิฟต์ไปชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และวิวที่ด้านบนได้



นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปีด้วย และในวันนี้เป็นวันที่กำลังเตรียมงานกันอยู่ เราเลยไม่ได้เข้าไปทางส่วนนั้นค่ะ


ซ้ายไปขวา : อาคารสีทองอร่ามตานี้คือ ห้องน้ำ!ค่ะ – ด้านหลังของพระอุโบสถที่อลังการไม่แพ้กับด้านหน้าเลย – บ่อนำ้ศักสิทธิ์ที่ให้โยนเหรียญตามปีนักษัตริย์




วันที่ 4 เดินเล่นในสวนตุง นั่งรถรางแอ่วเมือง





kinlakestars.com
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด