Chocolate Boutique
So much more than chocolate…
Chocolate Boutique – ร้านขนมที่ขายขนมต่างๆมากมาย หลากหลายชนิด ภายใต้แบรนด์ของโรงแรม แชงกรี-ล่า กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ชั้นเดียวกันกับล็อบบี้เลยครับ มีขายทั้ง เค้ก คุ๊กกี้ ขนมปัง ครัวซองต์ และอื่นๆอีกมากมาย ให้ได้เลือกซื้อกลับบ้าน หรือ สามารถทานที่โรงแรม พร้อมดื่มด่ำความสวยงามของวิวติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วย
โดยขนมทั้งหมดที่วางขายตอนนี้ ได้ผ่านการรังสรรค์ใหม่ทั้งหมด จากเชฟชาวเดนมาร์ก อย่าง Chef Claus Olsen หัวหน้าพ่อครัวขนมอบและขนมหวานคนล่าสุดของโรงแรมฯ นั่นเอง
ข้างหน้ามีโชว์พีชกาน้ำชาด้วย ทั้งหมดนี่ทำจากน้ำตาลเลยครับ
บริเวณนี้ก็มีจำหน่ายของฝากต่างๆด้วยนะครับ ทำจากช็อคโกแลต ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตุ๊ก ช้าง ลิปสติก เป็นต้น
เค้กแนวผู้หญิ้งผู้หญิง ให้เป็นของขวัญวันเกิด หรือ เทศกาลสำคัญต่างๆ ก็สามารถสั่งได้เลยครับ
หรือ จะเป็นแบบนี้ก็สามารถสั่งได้
เรามาดูขนมของวันนี้กันดีกว่า จานนี้จะมี Chocolate Croissant (70 บาท) และ Creme brulee Bun (69 บาท) ได้ลองชิมแครมบูเล่บันไป คือ บอกเลยว่า มันดี ตัวแป้งทำได้ดีทีเดียว มันยังมีความกรอบที่ผิวนอกเล็กน้อย เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม และ ข้างในสอดไส้ด้วยครีมหอมๆ เบาๆ แบบทะลักๆ ความนุ่มเบา และ ที่สำคัญมีความหวานกำลังพอดี อร่อยเลยครับ สำหรับชิ้นนี้
ถัดมาเป็น Plain Croissant (60 บาท) และ Ham Cheese Croissant (99 บาท) คือ อันนี้ไม่ได้ชิม แต่จากการได้ลองทานแครมบูเล่บันไป คิดว่าน่าจะดี เพราะแป้งที่ใช้น่าจะเป็นตัวเดียวกัน
Quiche Lorraine (105 บาท) อันนี้ได้ลองทานแบบคลาสิคไป แป้งมีความกรอบร่วนดี ส่วนไส้ มีความนุ่มละมุน หอมไข่ หอมเนย หอมเบคอน ส่วนอีกอย่าง เขาจะใช้ผักโขม ทำเป็นไส้ของคีช แนะนำว่าถ้าได้ทานที่นี่ สามารถเรียกพี่ๆ พนักงานให้อุ่นให้ได้ จะช่วยให้ความอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีก
อันนี้เป็นเดนิชครับ มี 2 แบบ คือ Fruit Danish (60 บาท) และ Cinnamon Apple Twist (60 บาท)
Baguette (60 บาท) ก็มีนะครับ
อันนี้ถือว่า เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เด็ด คือ ชิ้นข้างซ้าย Salted Caramel Big Cookie ส่วนชิ้นทางขวา XL Soft Chocolate Chunk Cookie คือ ชอบเนื้อสัมผัสของคุกกี้นิ่มแบบนี้ มันมีความหนึบเล็กๆ และ ข้างในไม่ได้แบบแฉะๆ
แต่ชิ้นที่เด็ดจริงๆ คือ ชิ้นทางซ้าย คือดีตรงเนื้อสัมผัสแล้ว ไม่เท่าไร แต่มันมีอะไรที่ดีไปกว่านั้น คือ ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบคาราเมลมากๆ และ ชิ้นนี้บอกเลยว่า สวรรค์ของคนรักคาราเมล ต้องได้เห็นความเยิ้ม และ ความยืดของเขา
คือ พี่บริกร เขาบอกว่าสามารถอุ่นได้ แต่ผมคิดว่าไม่ต้องอุ่น แบบนี้กำลังทานมากๆ ในรูปนี้คือไม่ได้อุ่นนะครับ ตัวเนื้อคุกกี้มันมีความหนึบ อาจจะหนึบประมาณบราวนี่เลยก็ว่าได้ มีช็อคโกแลตชิพแทรกอยู่ในเนื้อคุกกี้ด้วย ให้ได้กรุบๆหน่อย และ ช่วยเพิ่มรสชาติของช็อคโกแลต ส่วนคาราเมล ต้องบอกว่า ดีมาก!! คือ กลิ่นมันหอมหวานมาก แอบมีความรู้สึกว่ากลิ่นมันคล้ายกับ Blond chocolate ของ Valrhona หรือไม่ก็ลูกอมคาราเมลชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง คือ รวมๆแล้ว ทั้งกลิ่น และ สัมผัส ออกมาดีมาก แต่อาจจะติดอยู่นิดเดียว คือ ด้วยความที่เป็นคาราเมล หรือ การที่จะทำให้คุกกี้มีสัมผัสแบบนี้ เลยอาจจะทำให้รสชาติของมัน อาจจะหวานไปซักนิด แต่คิดว่า ถ้าได้ชา หรือ กาแฟดริฟ มาทานคู่กัน น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ
ส่วนอันนี้เป็น Raspberry Muffin (55 บาท) อันนี้ไม่ได้ลองชิม แต่เห็นว่าสองอย่างนี้ เนื้อแป้งจะเป็นคนละอย่างกันครับ
Pot Pie (105 บาท) และ Sausage Roll (105 บาท) ได้ลองชิมตัวซอสเสจโรลไป แป้งจะออกร่วนๆหน่อย แต่หอมเนยดี ส่วนไส้กรอก มีความดีงามอยู่ รสชาติกลมกล่อม เนื้อสัมผัสดี หอม อร่อย ส่วนสำหรับพ็อทพายจะมีไส้ไก่ และ ไส้เนื้อ
แต่จริงๆ ตัวพ็อทพาย นอกจากไส้ไก่ ไส้เนื้อแล้ว ยังมี Seafood Pot Pie (110 บาท) ด้วยนะครับ
Shang O Bun (55 บาท) เป็นโดนัทแบบฉบับของแชงกรี-ล่า กรุงเทพฯ มีทั้งหมด 3 รสชาติด้วยกัน คือ เบคอนนูเทลล่า และพราลีนกรอบ สตรอเบอรี่ครีม และ รสสุดท้าย มะนาวกับส้ม
ได้ลองชิมชิ้นซ้ายสุด นั่นก็คือ เบคอนนูเทลล่า และพราลีนกรอบ ชิ้นนี้ก็ถือว่าเป็นอีกชิ้นที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ดูจะเป็นโดนัทธรรมดาๆ แต่เป็นการจับคู่ที่ไม่ธรรมดา เพราะ เชฟได้จับเอาพราลีน มาคู่กับ เบคอน ซึ่งใครจะรู้ว่า มันก็ไปด้วยกันได้ แป้งโดนัทมีความฟู เหนียวนุ่ม สอดไส้ด้วยพราลีนหอมๆ ชุบด้วยดาร์กช็อคโกแลต และ ปิดท้ายด้วยการโรยเบคอนทอด กรุบๆ คือ เวลาทานมันจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของเบคอน และ มีเนื้อสัมผัสให้เราได้เคี้ยวไปพร้อมๆกัน
Fudge Nut Brownie (110 บาท) บราวนี่ฟัดจ์ชิ้นหนาดูน่าทาน แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ เราต้องเก็บท้องไว้สำหรับขนมเค้กด้วย
บริเวณโต๊ะ ก็เค้กแต่งงานจิ๋วๆ ในลูกบอลแก้ว ตกแต่งอยู่ด้วย
ขนมในตู้ส่วนใหญ่ ราคาจะอยู่ที่ 149 บาท ต่อชิ้น ครับ คือ เชฟจะพยายามทำเค้กออกมาให้รสชาติมีความแตกต่างกันออกไป เพื่อที่จะได้เป็นทางเลือกให้สำหรับคนที่มาทานกันครับ มีทุกอารมณ์ ช็อคโกแลต ผลไม้ ชาเขียว
มีช็อคโกแลตให้เลือกทานกัน มากกว่าสิบชนิดเลย ชิ้นละ 41 บาท ครับ มีทั้งแบบผสมแอลกอฮอล์ และ ไม่ผสมแอลกอฮอล์ครับ
ข้างๆ ก็จะมีช็อคโกแลตบาร์ แคนดี้บาร์ต่างๆ รวมไปถึง เหล่าช็อคโกแลตเพิร์ลทั้งหลาย
ด้านหน้าสุดเป็น ถั่วเฮเซลนัทเคลือบด้วยมิลค์ช็อคโกแลต ถัดไปเป็นพวกเพิร์ล คือ จะเป็นช็อคโกแลต และตรงกลางจะเป็นคล้ายๆ ข้าวพองกรอบๆ มีหลากหลายรสชาติให้เลือกกัน
จริงๆ อยากลองชิมอีกหลายชิ้นนะครับ แต่ไม่ไหวจริงๆ ในบรรดาเค้กในตู้ทั้งหมด หลากหลายอย่าง ขอเลือกชิ้นที่อยากลองที่สุด และ น่าจะสามารถตัดความเลี่ยนได้แล้วกัน กับ Yuzu de Ponti (149 บาท) ที่เลือกชิ้นนี้เพราะ ยุซุ เลยนะครับ
ลองตัดซักหน่อย โดมข้างล่างเป็นเลเยอร์เค้ก ฉ่ำๆ สอดไส้ด้วยครีมยุซุ และ ส้มจี๊ด (อันนี้เชฟบอกมาครับ) เคลือบด้วยช็อคโกแลตสีเขียว ที่มีถั่วเฮเซลนัทชิ้นเล็กๆ ที่ผ่านการเคลือบด้วยคาราเมล ส่วนด้านบน เป็นสเฟียร์ยุซุ และ ถูกรายล้อมด้วยเหล่าเมอแรงก์กรอบๆสีขาว สำหรับชิ้นนี้ มันเป็นขนมที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นได้ดีทีเดียว ด้วยความเปรี้ยว และ กลิ่นหอมของยุซุ
สำหรับที่นี่ มีเสิร์ฟเครื่องดื่มสุขภาพ อย่าง Shirley Temple (220 บาท)
รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ อมหวาน มีกลิ่นหอมของเชอรี่ คือ แก้วนี้ ถ้าได้ดื่มแล้ว ช่วยทำให้เรารู้สึกสดชื่นดีจริงๆ
สมูทตี้ เขาก็มีเช่นกัน แก้วนี้คือ Mixed Berry Frappuccino (220 บาท)
วันนี้เขามีการสาธิตทำเครื่องดื่มให้ชมด้วย
ชงชาไทยอย่างดี กับ นมสดก่อน แล้วนำมากรองใส่แก้ว จากนั้น สตรีมนมให้นุ่มเบา แล้วตักใส่ลงไปบนชาไทยที่ชงไว้
ทีเด็ดของแก้วนี้ คือ เขาจะหยอดสีผสมอาหาร ลงไปบนฟองนม แล้วใช้แท่งแก้ววาดเป็นลวดลาย
ได้ออกมาเป็น Thai Tea Latte (120 บาท) ตัวชา และ นม แบ่งชั้นอย่างสวยงาม และ ลวดลายที่โดดเด่นสวยงามด้านบน
แก้วต่อมา เป็นกาแฟบ้าง สำหรับแก้วนี้ จะเป็นกาแฟที่มีกลิ่นมิ้นต์เบาๆ ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น และ พร้อมที่จะทำงานในวันใหม่ โดยเริ่มจากน้ำเชื่อมมิ้นต์ จากนั้นใส่นมลงไปในแก้ว ปิดท้ายด้วยเอสเพรสโซ่หนึ่งชอต และ นมที่สตรีมนุ่มๆ
Coffee After Eight (180 บาท)
ของเรามาแล้ว คือ ที่เขาชื่อ After Eight ก็คือ ถ้าได้ดื่มแก้วนี้ แปดโมงเช้า เราก็จะรู้สึกสดชื่น พร้อมสำหรับวันใหม่แล้ว ซึ่งพอได้ดื่ม ก็รู้สึกอย่างนั้นนะครับ คือ กาแฟเข้มข้น หอมกรุ่น และได้ความหอมของมิ้นต์อีก
Green Tea Cream Frappuccino (180 บาท) หอมกลิ่นชาเขียวดี ปั่นได้อย่างละเอียด และ ความหวานกำลังดี ท๊อปปิ้งมาด้วยวิปครีมเข้มข้น
ภาพหมู่ซักหน่อย
สำหรับ Chocolate Boutique เขาเปิดกันทุกวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลยนะครับ เปิดตั้งแต่ 07.45 – 23.00 น. สนใจสั่งซื้อขนมต่างๆ สั่งเค้กในโอกาสพิเศษ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 02 236 9952 หรือ อีเมลล์ [email protected]
chocolate boutique, chocolate, pastry, ขนมหวาน, เค้ก, ขนมปัง, เบเกอรี่, bakery, Shangrila, bkk, bangkok, ช็อคโกแลต บูติค, lounge,lobby,แชงกรีล่า, เจ้าพระยา, ริมแม่น้ำ, riverside, veinnoserie, patisserie, claus olsen
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด