ความรื่นรมย์แห่งรีสอร์ทใจกลางเมือง ความสงบที่หลายคนถวิลหายังมีอยู่จริงริมถนนสาทร ใครจะคิดว่า รีสอร์ทบรรยากาศดีแสนสงบแห่งนี้ จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยตึกสูง แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว ที่ทำให้คุณได้รับประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน วันนี้ก็จะพาทุกท่านไปพบกับหนึ่งในโรงแรมที่ท่านสามารถทอดตัวสบายใจไปกับความสงบ พักผ่อนวันหยุดอันแสนมีค่าของคุณ แต่กลางเมือง ณ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ เบื่อไหมกับการที่ท่านจะต้องฝ่ารถติดไปยังต่างจังหวัด? เหนื่อยหรือเปล่ากับการที่ต้องขับรถไกลๆไปยังจุดหมายปลายทาง? ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปถ้าท่านเลือกพักผ่อนที่โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ The Sukhothai Bangkok แหล่งรวมความผ่อนคลายที่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง สปาคุณภาพสูง ร้านอาหารที่ดีเยี่ยม ชั้นเลิศกับคุณภาพวัตถุดิบ ความพิถีพิถันในการปรุงรวมถึงหน้าตาการจัดแต่งจาน บริการ และรสชาติ ศูนย์รวมเครื่องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่ครบวงจร
ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับอีกฝั่งที่มีการรีโนเวทใหม่กันครับ อาคาร Club Wing ตารางของอาคารแห่งนี้หากเข้ามา ก็จะพบกับห้องอาหารลาสกาล่า La Scala ห้องอาหารอิตาเลียนชื่อดัง หากเดินตรงไปและทะลุออกไปนอกตึก ท่านก็จะพบกับสระว่ายน้ำแสนสวยบริเวณริมสระว่ายน้ำที่แสนสงบ และทางลงไปยังศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วย ส่วนอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย
การออกแบบทั้งสถาปัตยกรรมภายในและภายนอกนั้นล้อมาจากหมู่อาคารหลัก ด้านนอกอาคารมีความเป็นมวลขนาดใหญ่ที่เป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนทางสีขาว มีช่อเปิด เรียงกันอย่างสมมาตร เป็นช่องเปิดสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียงรายต่อกัน ซึ่งถอดรูปมาจากสัดส่วนการเรียงตัวของเสาและช่องเปิดของงานสถาปัตยกรรมไทยที่เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทาสีขาวที่ในอดีตมักต้องทำผนังให้หนาเพราะโครงสร้างหลักในการรับน้ำหนักและพยุงตัวคือกำแพงที่รับน้ำหนังจากด้านบนและถ่ายลงสู่ฐานรากที่พื้นนั้นเอง
งานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในจะใช้วัสดุหลักๆเช่นเดียวกับหมู่อาคารหลักเช่นกัน นั่นคือกระจกเงา ผ้าไหม ไม้สัก และหินแกรนิตสีดำ วัสดุทั้ง 4 นี้ เป็นวัสดุหลักที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมโยงการออกแบบหลักทั้งโรงแรมทำให้รูปแบบของงานสถาปัตยกรรมภายในที่นี่ดูมีความเป็นเอกภาพและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งยังส่งผลให้ภาพลักษณ์มีความเป็นไทย
Club Lounge
เราเริ่มต้นสู่ประสบการณ์เข้าพักกันเลยดีกว่าครับหลังจากที่เข้ามาถึงอาคารแห่งนี้จอดรถเรียบร้อยและนำสัมภาระลงเราสามารถส่งสัมภาระทั้งหมดนี้ให้กับเจ้าหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่พนักงานจะนำกระเป๋าต่างๆของเราขึ้นไปสู่จุดเช็คอินซึ่งเป็นล็อบบี้ที่อยู่ชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้เข้าพักจะพรุ่งนี้ Club lounge
เราจะได้รับการต้อนรับจากพนักงานโดยพวงมาลัยแสนสวยงามขนาดใหญ่หลังจากให้รายละเอียดพนักงานเป็นที่เรียบร้อย ก็จะมีเครื่องดื่มต้อนรับและบริการ สำหรับการเช็คอินที่นี่จะมีความพิเศษกว่าในหลายๆที่คือเราไม่จำเป็นต้องยืนเกาะเคาน์เตอร์ให้เมื่อยเพราะจะมีเก้าอี้ให้เรานั่ง และคอยทำธุรกรรมจนแล้วเสร็จ
ก่อนจะขึ้นไปสู่ห้องพัก เราขอพาทุกท่านชื่นชมบรรยากาศ Club Lounge ซึ่ง Club Lounge ที่นี่แม้จะอยู่เพียงระดับชั้นที่ 6
แต่ก็มีทัศนียภาพที่งดงาม ด้วยทัศนียภาพสระว่ายน้ำของโรงแรมที่สวยงามรวมถึงบริเวณโดยรอบและเป็น ภาพที่สวยงามยิ่งกับพื้นที่สีเขียวจากหมู่มวลต้นไม้ของสถานทูตเยอรมัน จรดสายตาต่อไปกับเส้นขอบฟ้าที่เป็นบรรดาตึกสูง ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้างไม่มีอะไรบังสายตาในระยะกระชั้น
ผนังด้านที่อยู่ชมทัศนียภาพเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงเพดาน แบ่งเป็นปีกซ้ายและขวา พื้นที่ฝั่งขวาหากหันหลังให้ลิฟท์จะมีโต๊ะที่นั่งกินดื่ม เป็นกิจลักษณะ ด้านติดกำแพงเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีผนังบุผ้าไหมสีเทาแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน
ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ สามารถให้บริการท่านได้อย่างหลากหลายโดยตั้งแต่ในช่วงเช้าจะให้บริการอาหารเช้า ส่วนในช่วงบ่ายจะมีการให้บริการเป็น ชุดน้ำชายามบ่ายพร้อมขนมหวาน
และในช่วงนี้ Chocolate Buffet ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของโรงแรมยังให้บริการ ณ ที่แห่งนี้ด้วยซึ่งย้ายจากล็อบบี้ฝั่งตึกใหญ่มาที่นี่ ท่านสามารถชมรายละเอียดได้ที่ Link นี้คลิกที่นี่
นอกจากนี้ในช่วงเย็นถ้ายังสามารถกินดื่มที่นี่ได้อย่างเต็มอิ่ม หากท่านมีแพ็คเกจ Club Lounge experience
ซึ่งสำหรับในช่วงเย็นท่านสามารถเลือกได้ทั้ง แอลกอฮอล์หลากหลายรายการที่สามารถดื่มได้อย่างไม่จำกัดไม่ว่าจะเป็น sparking wine อย่างเปอร์เซโก้ หรือเหล่า Mocktail และ cocktail ต่างๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายรายการ
อาหารที่บอกได้เลยว่ากินจนอิ่ม กลับห้องนอนหลับสบายไปได้เลยทีเดียว ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อยอาหารจานหลัก ไปจนถึงของหวาน ที่จะสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆโดยให้บริการจากห้องอาหารลาสกาล่า La scala ซึ่งเติมได้ไม่อั้น
Suite Room
เรากลับมาในส่วนของการเข้าพักกันต่อดีกว่าครับ หลังจากทำการเช็คอิน และเริ่มเข้าสู่การเข้าพัก พนักงานจะพาท่านไปยังห้องพัก
โดยที่กระเป๋าจะถูกนำไปที่ห้องพักเรียบร้อยก่อนหน้าแล้ว ในครั้งนี้เราเข้าพักเป็นห้อง Suite ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารนั้นคือชั้นที่ 7 ห้องนี้มีความพิเศษคือเพดานสูงมาก และมีประตูเข้าห้องถึง2ประตู
โดยประตูใหญ่เป็นทางเข้าหลักสำหรับแขกผู้เข้าพัก และประตูเล็กเป็นทางเข้าสำหรับแม่บ้าน ออกแบบแยกกันเพื่อไม่ให้แขกผู้เข้าพักถูกรบกวนขณะที่แม่บ้านมาทำความสะอาดหรือบริการ
ห้องพักนี้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมสุทธิประมาณ 100 ตารางเมตร ซึ่งถือว่ากว้างขวางใหญ่โตมากทีเดียวภายในห้องพักถูกแบ่งการใช้งานหลักๆออกเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน ได้แก่เข้ามาถึงจะเป็น พื้นที่ทานข้าว ซึ่งมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่พอที่จะสามารถนั่งทานข้าวกันได้ 4 คน
ผนังห้องส่วนนี้เป็นไม้สักและกระจกเงา โถงทางเข้า ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง มีชั้นวางของเครื่องใช้พื้นฐาน อาทิ หม้อชงน้ำร้อน เครื่องชงกาแฟ ตู้เย็น แก้วทรงต่างๆ และมินิบาร์ และห้องน้ำเล็กที่ประกอบไปด้วยส่วนทำธุระหนัก-เบา และอ่างล้างหน้า
ในส่วนแรกนี้เมื่อเข้ามาถึงจะมีขนมและผลไม้ พร้อมบัตรอวยพรต้อนรับ ขนมประกอบไปด้วยลุกชุบและหุ่นจำลองไม้รูปทรงรถตุ๊กๆ กับชั้นวางของสุดแสนน่ารัก
สื่อถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผลไม้ตามฤดูกาลที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีช็อคโกแลตสัญชาติไทยชื่อดังอย่างกาดโกโก้ให้ลองลิ้มรสกันอีกด้วย
ซึ่งในพื้นที่ส่วนแรกนี้เรายังใช้เป็นพื้นที่สำหรับกินอาหารภายในห้อง หรือ in room-breakfast โดย in room-breakfast
ท่านสามารถเลือกสั่งได้ว่าจะเอาอาหารชุดแบบไหน โดยอาหารชุดนั้นมีให้ท่านเลือกทั้งอาหารชุดเอเชีย และอาหารชุดแบบตะวันตก
อาหารชุดแบบเอเชียจะประกอบไปด้วยแซลมอนย่าง ซุปมิโสะ ข้าวญี่ปุ่น ผักดอง และของหวาน ส่วนอาหารชุดตะวันตกจะประกอบไปด้วยไส้กรอก เมนูไข่ที่เลือกได้ในตอนสั่ง แฮม เบคอน ขนมปัง ผลไม้ น้ำผลไม้ นม
อาหารที่บริการในห้องพนักงานจะเข็นเข้ามาให้และทำการจัดเรียงให้บนโต๊ะ พร้อมชาและกาแฟ
แต่หากท่านเลือกรับบริการอาหารเช้าในห้องพัก ท่านจะไม่มีสิทธิ์รับบริการอาหารเช้าบริเวณ Club lounge หากท่านต้องการรับต้องจ่ายเงินเพิ่มในส่วนเกิน
หลังจากผ่านส่วนแรกของห้องเข้ามา เรามาพบกับส่วนที่ 2 ของห้องพักกันครับ ส่วนนี้จะเป็นเหมือนห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น มีการตกแต่งผนังด้วยกระจกเงา และผ้าไหมไทยสีเทาของ Jim Thompson
จุดโดดเด่นของพืนที่ส่วนที่ 2 นี้คือผังทีวีที่หมุดได้ทั้งผนังครับ ผนังนี้เป็นผนังสีดำสูงจากพื้นจรดเพดาน ถือเป็นหนึ่งในลูกเล่นที่โดดเด่นไม่เพียงสวยงามและดูแปลกตา แต่ยังแฝงไปด้วยประโยชน์การใช้งาน
เพราะหากเราหมุนผนังนี้กลับไปอีกฝั่งหนึ่ง พื้นที่ส่วนแรกจะสามารถรับชมทีวีได้ด้วยนั้นเองครับ ในผนังนี้นอกจากจะเป็นที่ยึดติดของทีวี ยังมีลำโพงไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆเพื่อเล่นเพลงหรือวีดิโอได้ นอกจากเสียงที่ดัง ยังอัดแน่นด้วยเสียงคุณภาพสูง การันตีโดยแบรนด์ระดับ world class อย่าง Herman kardon
ด้านหลังของโซฟาที่เป็นผนังผ้าไหมสลับกับกระจกเงานั้นยังมีงานประติมากรรมเป็นศิลาแลง ศิลปะนูนต่ำสไตล์สุโขทัย ให้สมกับชื่อโรงแรมและการตกแต่งแบบไทยประยุกต์ ตัวโซฟาทำจากผ้าไหม Jim Thompson ด้านตรงข้ามชุดโซฟาเป็นชั้นวางของ ตู้โชว์ และโต๊ะทำงานอย่างเป็นสัดส่วน
หน้าต่าง 2 บานที่เป็นช่องเปิดกระจกจากพื้นถึงเพดานให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่โถง หากเปิดม่านก็จะสามารถรับชมทัศนียภาพอันงดงาม ประกอบไปด้วย ทัศนียภาพสระว่ายน้ำและพื้นที่เปิดโล่งรอบๆ
พื้นที่สีเขียวต่อเนื่องออกไป ภาพอาคารตึกสูงที่วางตัวเรียงรายอย่างไกลๆ ไม่กระชั้น ทำให้ได้เห็นภาพที่สวยงาม นอกจากม่านโปร่งที่สามารถดึงมาบดบังแสงแดดที่อาจแรงเกินความต้องการ หากแขกอยากได้รับความเป็นส่วนตัวที่สูงขึ้น ยังสามารถเลื่อนผนังกระจกออกมาเพื่อปิดช่องเปิดได้อีกด้วย โดยผนังกระจกเงานี้ตอนที่ยังไม่ปิดเมื่อเปิดไว้ก็เรียงตัวเป็นชั้นไล่ระดับได้อย่างสวยงาม
มาต่อกันยังพื้นที่ในส่วนที่ 3 สำหรับส่วนนี้เป็นพื้นที่ห้องนอน ซึ่งให้ความรู้สึกสงบด้วยผนังที่กรุด้วยผ้าไหมไทย Jim Thompson เป็นหลัก
เป็นผ้าไหมสีเทาเข้ม ทำให้เหมาะแก่การนอนและพักผ่อน เตียงเป็นเตียงไม้สัก ขาเตียงเป็นขาที่แกะเป็นลายไทย แต่กลมกลืนกับการตกแบ่งแบบไทยประยุกต์เป็นอย่างดี
แม้เป็นห้องนอนแต่ก็ยังมีโซฟานั่งเล่น นอกจากนี้ในห้องก็ยังมีทีวีและลำโพงตัวเดียวกับพื้นที่ส่วนที่ 2
ท่านสามารถนั่ง day bed ชมทัศนียภาพไปพร้อมๆกับจิบชา ดื่มกาแฟ หรืออ่านหนังสือได้อย่างเพลิดเพลิน เป็นอีกมุมที่ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
ทัศนียภาพสระว่ายน้ำและบริเวณโดยรอบ เมื่อชื่นชมจากมุมนี้นับว่าสวยงามมากทีเดียว
บริเวณหัวเตียงบุด้วยฟองน้ำ หุ้มด้วยผ้าไหมทำให้นุ่มสบายนั่งพิงนอนพิงได้ อีกทั้งท่านยังสามารถควบคุมแผงไฟส่องสว่างทั้งห้องได้อย่างสะดวกสบายเพียงปลายนิ้ว อีกทั้งไฟหัวเตียงเองก็มีทั้งไฟดาวไลท์และไฟกิ่งที่ปรับองศาจุดส่องสว่างได้ตามต้องการ ทำให้ไม่ว่าคุณจะนอนอ่านหนังสือ หรือทำธุระต่างๆก็แสนจะสะดวกสบาย
บนเตียงมีเตรียมหน้ากากผ้าและสเปรย์แอลกอฮอลไว้ให้ด้วยครับ
ต่อมาเราจะมากับพื้นที่ใช้งานส่วนสุดท้ายของห้องพัก นั้นก็คือพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำ วัสดุตกแต่งหลักๆของส่วนนี้จะเป็นผนังไม้สักและผนังกระจกเงา พื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ใช้งานส่วนแรกไปยังประตูเล็กเข้า-ออก ของห้องพัก
ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในส่วนนี้จะเป็นส่วนแต่งตัว ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดที่แยกตัวออกมา 2 ข้าง ด้านล่างเป็นชั้นวางรองเท้า มีตู้วางกระเป๋าเดินทางได้อย่างเหมาะสม มีตู้เก็บของนิรภัยที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้
ถัดเข้ามาจะแยกเป็นฝั่งซ้ายและขวาเช่นเดิม ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำสำหรับทำธุระหนัก-เบา มีประตูปิดอย่างมิดชิด บนผนังไม้สักมีการบากร่องลายฝาปะกน สุขภัณฑ์มีระบบฝารองก้นระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ
ฝั่งขวาเป็นห้องอาบน้ำ ทำจากหินอ่อนที่นำเข้าจากอิตาลี สวยงามมากเป็นหินใหญ่ไร้รอยต่อทั้งแผ่น ประตูกระจกใสบานใหญ่มียางซีลทำให้น้ำไม่กระเซ็นออกมา ภายในห้องอาบน้ำมีที่นั่งหินอ่อน
ถัดเข้าไปชั้นในสุดเป็นอ่างล้างหน้าทั้งสองฝั่งแยกซ้ายและขวา สามารถใช้อ่างล้างหน้าได้พร้อมๆกัน ด้านข้างอ่างล้างหน้ามีอุปกรณ์ที่สุดพิเศษคุณภาพสูงหาที่อื่นจะมีให้น้อยมากนั้นคือ เครื่องเป่าผมยี่ห้อ dyson พร้อมอุปกรณ์ครบชุด หัวเป่าลมแบบอ่อนโยนใหม่ ออกแบบมาสำหรับผมเส้นเล็กและหนังศีรษะที่บอบบาง
หัวเป่าลมแบบนุ่มนวลใหม่ช่วยกระจายลมไปรอบๆ เพื่อสร้างกระแสลมอุ่นที่อ่อนโยน ช่วยให้ผมแห้งเร็วไม่ต่างจากเดิม หัวต่อแบบประกบติดด้วยแม่เหล็ก
โดยเครื่องเป่าผม Dyson มาพร้อมหัวต่อจัดแต่งทรงแบบประกบติดด้วยแม่เหล็ก ช่วยให้ถอดเข้าออกและบิดหมุนได้ง่ายในขณะจัดแต่งทรง
และตรงกลางเป็นอ่างอาบน้ำที่เป็นอ่างน้ำวน สามารถกดให้เกิดแรงดันน้ำภายในอ่างอาบน้ำได้ รอบๆอ่างอาบน้ำออกแบบให้เป็นผนังกระจกเงาสวยงาม มีทีวีภายในห้องน้ำ สามารถดูและเพลิดเพลินขณะแช่น้ำอาบได้ นอกจากนี้อ่างยังมีหมอนรองคอ และโทรศัพท์อีกด้วย ด้านข้างอ่างมาพร้อมกับเกลือชมพูหิมาลายัน
เพียงแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสมเกลือสีชมพูก็จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยแมกนีเซียมและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้ HPS มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ รวมไปถึง กระดูกและผิวหนัง ให้จากการเจ็บปวดเมื่อยล้าได้อีกด้วย เกลือสีชมพูทำหน้าที่ในการขับของเสียได้เป็นอย่างดี การแช่น้ำอุ่นผสมเกลือหิมาลายันจะทำให้สามารถขจัดสารพิษที่ผิวหนัง ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้
และสิ่งที่พลาดไม่ได้ของการเข้าพัก ณ โรงแรมสุโขทัยกรุงเทพ The Sukhothai Bangkok นั้นก็คือ บรรดาผลิตภัณฑ์ สบู่ ยาสระผม ครีมนวดผม สบู่ก้อน โลชั่น ล้วนหอมประดุจใส่น้ำหอม โดยทั้งหมดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ Bottega Veneta กลิ่นติดตัวทนทานนานมากเพราะเป็น Bottega Veneta Perfumed Shower Gel
อีกสิ่งที่ทำให้ห้องน้ำภายในห้องพักของที่นี่ไม่เหมือนใครนั่นก็คือ พื้นห้องน้ำทำจากไม้สักทอง ใช่แล้วครับทุกท่านอ่านไม่ผิด พื้นทุกจุดในห้องน้ำปูด้วยไม้สักทองแผ่นใหญ่
อีกทั้งชุดคลุมอาบน้ำที่นุ่มนิ่มสบายตัวมากๆ โดนเป็นของ La Bottega by Bottega Veneta ซึ่งช่วยให้อุณหภูมิที่เย็นอยู่อุ่น และทำให้อากาศที่ร้อนเย็นลงเมื่อสวมใส่
หลังจากพาชมกันในส่วนห้องพักไปเรียบร้อยแล้ว เราไปชมส่วนอื่นของ อาคาร Club Wing กันดีกว่าครับ โดยเริ่มจากหนึ่งในจุดเด่นของอาคารแห่งนี้นั้นคือสระว่ายน้ำสระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบน้ำเกลือ
Pool&Gym
ระบบเกลือ เป็นระบบที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา โดยใช้เกลือเทลงไปในสระน้ำ น้ำเกลือก็ถูกส่งผ่านไปยังเครื่องเกลือ(Salt Chlorinator) ทำหน้าที่แยกและผลิตตัวฆ่าเชื้อโรคซึ่งจะมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคและจุลินทรีย์ในลักษณะเดียวกันกับระบบคลอรีน แต่จะสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่า
นอกจากความยอดเยี่ยมจากระบบน้ำเกลือของสระว่ายน้ำนี้ ยังมีขนาดความใหญ่ของสระและสีกับลายกระเบื้อง เพราะน้อยนักที่จะมีสีกระเบื้องสระว่ายน้ำสีเขียวและมีลายเลื่อมเหมือนเปลือกหอยมุก
บริเวณรอบๆสระว่ายน้ำสามารถนั่งและนอนพักผ่อนได้อย่างสบาย ได้บรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ทย่านอิตาลีใต้ สายลมอ่อนๆ ท้องฟ้าสีสดใส ตัดกับสระว่ายน้ำสีเขียว
หลักจากเลือกที่นั่งพนักงานจะนำผ้ามาปูที่เตียงให้และนำเครื่องดื่มมาให้ที่โต๊ะ พื้นที่ผ่อนคลายรอบๆสระมีทั้งเตียงนอนแบบริมชายหาดและแบบศาลาซุ้มขนาดเล็ก
ส่วนถัดมาเราจะพาทุกท่านไปชมพื้นที่ที่อยู่ใต้ตึกกันครับ นั้นก็คือศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่และส่วนสนับสนุนอื่นๆกันครับ
เพียงท่านเดินกลับเข้าไปในดึกและเดินลงบันได 1 ชั้น ท่านก็จะพบกับส่วนต้อนรับของศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่
ท่านสามารถแจ้งเลขที่ห้องพักให้กับพนักงาน จากนั้นพนักงานจะพาท่านเข้าไปแนะนำในส่วนสนับสนุนการใช้งานได้แก่
ห้องแต่งตัว ตู้เก็บของ ห้องอาบน้ำ อ่างน้ำวนชมดาวบนท้องฟ้าจำลอง ห้องอบไอน้ำ และห้องซาวน่าที่มีทีวีให้ดูขณะใช้งาน อันช่วยเพิ่มความเพลิดเพลิน
ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่นี่มีความสูงมาก วัสดุที่ใช้ยังคงรักษาเอกภาพของการตกแต่งภายในโรงแรมไว้ได้เป็นอย่างดี
คงวัสดุอย่างแกรนิตดำ กระจกเงา และไม้สักทองไว้เป็นวัสดุหลักทั้งหมดในการตกแต่ง
ห้องมีความกว้างขวางจากผนังกระจกเงาที่ทำให้สะท้อนไปอย่างสุดลูกหูลกตา
Restaurant
นอกจากนี้ทุกท่านยังสามารถอิ่มอร่อยไปกับ 2 ห้องอาหารที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ณ ขณะนี้ได้แก่ ห้องอาหารไทยในเรือนไทยกลางบ่อบัวอย่างศิลาดล อ่านต่อที่ (คลิกที่นี่)
หรือห้องอาหารอิตาเลียนอันแสนเลื่องชื่ออย่าง La Scala ซึ่งชื่อนั้นหมายถึงโรงละคร สถานที่สวยงามด้วยการออกแบบในสีหลักๆ คือ แดงดำและมีสีทองเพิ่มความโดดเด่นเป็นบางจุดอ่านต่อที่ (คลิกที่นี่)
ในส่วนของห้องอาหารโคโลเนทนั้นจะเปิดให้บริการ Sunday Brunch ทุกๆ 2 สัปดาห์ อ่านต่อที่ (คลิกที่นี่)
ข้อมูลติดต่อ
เดอะ สุโขทัย บางกอก (The Sukhothai Bangkok). 13/3 ถนนสาธรใต้, สาทร, กรุงเทพ, ประเทศไทย, 10120 13/3 S Sathon Rd, Thung Maha Mek, Sathon, Bangkok 10120 โทร 02 344 8888
Story Dr.Athiwat T
Photo Pol.Capt. Kittin A.
Kinlakestars.com
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด