The St.Regis เอาใจคนรักปูด้วยเมนูพิเศษจากสุดยอดเชฟอาหารจีน คาซซิดี เซน ที่บรรจงนำปูทะเลก้ามโตปรุงรสด้วยสุดยอดซอส 3 แบบ 3 สไตล์ ทั้งผัดไข่เค็ม พริกไทยดำมา และ ซอสพริกสไตล์สิงคโปร์ กับเครี่ยงเคียงที่เติมได้เรื่อยๆให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง
เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านคงชื่นชอบอาหารทะเลเหมือนผม ยิ่งการได้กินปูทะเลตัวโตๆ เนื้อแน่น ก้ามใหญ่ ปรุงด้วยส่วนผสมพิเศษที่ทำให้วัตถุดิบมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แล้วละก็ รีวิวนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษเลยใช่ไหมครับ วันนี้ห้องอาหาร Viu แห่ง The St.Regis พร้อมนำเสนอเมนูสุดพิเศษมาให้ลูกค้าได้สัมผัสกันครับ
การเดินทางมา St.Regis ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีราชดำริทางออก 4 จะมาทางเชื่อมมายังโรงแรมเลยครับ ว่าแล้วก็กดลิฟต์มาที่ห้องอาหาร Viu ชั้น 12 กันได้เลยครับ
บรรยากาศห้องอาหารดูหรูหราสวยงามตามสไตล์ St.Regis โทนแสงไฟอุ่นๆ ใช้สีเฟอร์นิเจอร์โทนร้อน ประดับประดาฝาผนังไปด้วยภาพจิตรกรรมที่หากใครสนใจก็สามารถซื้อได้ด้วยครับ
มาถึงโต๊ะที่จองไว้แล้วครับ ก่อนจะไปกินปูกัน ผมต้องขอบอกก่อนว่าหากทุกท่านจะมาหากสะดวกก็สามารถโทรมาจองโต๊ะก่อนก็ดีนะครับ เพราะด้วยความที่อาหารที่นี่ดีงามมาก หลายๆ เทศกาลลูกค้าจะแน่นเลยฮะ
อ่ะ ลองมาดูอาวุธที่ใช้ในการกินปูครั้งนี้กันก่อน มีครบเลยไม่ว่าจะเป็นที่แกะเนื้อ ค้อนทุบเปลือก มีดและช้อนส้อม ตอนนี้ท้องร้องแล้ว ไม่พูดมากเรามาลุยกันเลยครับ
ทีนี้เราลองมาดูเมนูที่เราจะชิมในวันนี้กันครับ โดยปูทะเลจะถูกเชฟนำมาผัดกับซอส 3 แบบ 3 สไตล์ เสิร์ฟมาพร้อมกับส้มตำไทยและข้าวผัดปูครับ
เมนูแรกในเซ็ท Crack a Crab จะเป็น ปูผัดซอสพริกไทยดำ
เมนูนี้รสชาติเค็ม หวาน และออกไปทางเผ็ดร้อนนิดๆ ของพริกไทยดำ ซึ่งผัดออกมามีความหอมของเครื่องเทศครับ เชฟผัดซอสเข้าเนื้อ และหอมมาก ซอสคลุกเคล้าชุ่มฉ่ำกินคู่กับข้าวผัดปูเบรครสชาติได้ดีครับ
มาต่อกันที่ถึงที่สองกันเลย คือ ปูผัดซอสพริกสไตล์สิงคโปร์
ถังนี้เป็นถึงที่มีรสชาติกลมกล่อมที่สุดครับ แม้จะผัดซอสพริก แต่รสชาติออกไปทาง เปรี้ยวหวาน ตัดเผ็ดปลายลิ้นนิดหน่อย น่าจะถูกใจหลายๆ ท่านและเด็กๆ กินคู่กับข้าวผัดปูและส้มตำไทย เข้ากันดี
ถังที่สาม ปูผัดซอสไข่เค็ม
ถังนี้เป็นถังที่ผมชอบมากที่สุดครับ ด้วยความที่เป็นคนชอบไข่แดงเค็มอยู่แล้วเลยชอบมากเป็นพิเศษ ไข่แดงที่เชฟใช้รสชาติดี มันและเข้าเนื้อปูมาก รสชาติเค็มนิดๆ มันหน่อยๆ กินเพลินที่สุดครับ ที่สำคัญถังนี้แกะเนื้อง่ายมาก เพราะเชฟจะผัดแห้งๆ ทำให้เนื้อปูล่อนจากเปลือกง่าย
เครื่องเคียงแบบที่กล่าวมาข้างต้นจานแรกคือ ข้าวผัดปู
ข้าวผัดเนยหอมๆ โดยเชฟจะผัดมาแบบรสชาติกลางๆ ค่อนไปทางจืด เพื่อที่จะทำกินกับปู 3 ถังข้างต้นแล้วไม่เลี่ยนจนเกินไป ข้าวผัดเม็ดเรียงสวยผัดแห้งกำลังดี เนื้อปูชิ้นใหญ่ๆ หวานๆ ใส่มาแบบไม่หวงของเลยครับ
เครื่องเคียงจานที่สอง ส้มตำไทย
เห็นหน้าตาแบบนี้ตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นส้มตำรสชาติเบาๆ แต่พอได้ลองชิมแล้วต้องบอกว่าเป็นตำไทยที่รสชาติดีครับ ใครกินเผ็ด หรือไม่เผ็ดก็สามารถบอกเชฟได้ตามความต้องการนะครับ
MONDAYS: CRACK A CRAB
6:00pm – 9:00pm Singaporean native Chef de Cuisine Cassidy Shen invites you to experience this popular Singaporean delicacy. Delight in three traditional recipes, including som tum and fried rice.
THB1,850++ per person
กินของคาวกันมาแล้วเราก็มาถึงจานของหวานกันบ้าง โดยที่ของหวานไม่ได้รวมอยู่ในเซ็ทปูนะครับ แต่ด้วยความที่ติดการกินของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร ก็เลยจัดการเปิดเมนูสั่งด่วนๆ ครับ
เมนูแรก Chocolate and Almond Crusted Profiteroles 300.- ++
ของหวานจานแรกเป็นครีมพัฟ เสิร์ฟสามชิ้น กรอบนอกนุ่มใน ด้านบนเคลือบช็อคโกแลต และโรยอัลมอนด์ครัชกรอบๆ ประกบไอศครีมมิ้นท์เย็นสดชื่น หรือใครอยากกินรสชาติอื่นก็สามารถบอกเซฟได้ครับ
เมนูที่สอง St. Regis Hot Chocolate Lava 420.- ++
ช็อคโกแลตลาวาร้อนๆ เนื้อนุ่มหนึบ สูตร St.Regis โดยเฉพาะ ท็อปปิ้งด้านบนด้วยไอศกรีมวนิลาหอมๆ ปิดท้ายด้วยไอซ์ซิ่งเย็นๆ คอช็อคโกแลตพลาดไม่ได้ครับ
เมนูที่สาม Peach Crumble “The Cobbler” 400.- ++
ใครอยากได้ของหวานแก้เลี่ยนที่ให้ความสดชื่น ผมขอแนะนำจานนี้ครับ พีชเชื่อมเปรี้ยวนิดหวานหน่อย เนื้อนุ่มกินคู่กับครีมซอส และคุกกี้ครัมเบิลกรุบๆ รสชาติลงตัวมากๆ เคี้ยวพีชกับคุกกี้ครัมเบิลพร้อมกัน ได้เนื้อสัมผัสหลากหลายดีครับ
ของหวานจานสุดท้าย St.Regis New York Cheese Cake Textures 380.- ++
ชีสเค้กสูตรพิเศษของ St. Regis รสชาติหวานนิดๆ และได้รสชีสเค้กเต็มๆ ท็อปด้านบนด้วยเบอร์รี่และไวท์ช็อคโกแลต กินพร้อมกันรสเปรี้ยวหวานช่วยเบรคความเลี่ยนของชีสได้ดี
กินของคาวและของหวานกันมาแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องดื่มครับ ไม่ว่าจะเป็น Non-Alcohol , Soft Drink หรือใครที่อยากจะดื่มไวน์ ทางห้องอาหารก็มีให้บริการสั่งแยกจากเมนูเช่นกัน รอบนี้ขอเป็น HUNKY DORY สักแก้ว เข้ากับอาหารทะเลอย่าบอกใคร
สำหรับคอเบียร์ท่านสามารถจ่ายเพิ่มอีก 400 บาทเพื่อสั่งเบียร์ 4 ขวดนี้มาดื่มสังสรรค์เพิ่มรสชาติอาหารระหว่างแกะปูก็ได้เช่นกันครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเมนูอาหารสุดพิเศษ Crack a Crab แห่งห้องอาหาร Viu โรงแรม St. Regis ที่เรานำมาแนะนำทุกท่านกันในวันนี้ แม้จะไม่ใช่บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลแบบที่เราคุ้นเคยกัน แต่ก็ถือได้ว่าอิ่มและอร่อยมากครับ ไม่ว่าจะด้วยคุณภาพวัตถุดิบ รสชาติของปูจานหลักทั้งสามถัง หรือแม้กระทั่งเครื่องเคียงทั้งสองเมนู แล้วตบท้ายด้วยของหวาน ต้องบอกเลยว่ามื้อนี้อิ่มและประทับใจมากครับ
หากท่านใดสนใจอยากลิ้มรสปูทะเลตัวใหญ่ๆ แกะง่ายๆ ที่สำคัญอร่อยมากอย่าบอกใคร สามารถโทรสอบถามเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 02-207-7777 หรืออีเมล [email protected]
เรื่อง / ภาพ Khanenpan C.
KinlakeStars.com