หลายคนหากจะนึกถึงอาหารจีนสิ่งแรกๆที่เรามักจะนึกถึงกันเลยคือ ติ่มซำ อาหารคำเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศกับความบรรจงสรรสร้างของเชฟ ซึ่งเชฟที่จะทำติ่มซำก็จะทำเพียงติ่มซำเท่านั้นและใช้เวลาฝึกฝนมาไม่น้อยกว่า 3 ปี
ในวันนี้ Kinlakestars.com จะขอพาไปลิ้มลองติ่มซำจากมาสเตอร์ติ่มซำรับเชิญพิเศษ ที่มีประสบการณ์การทำติ่มซำมาเกือบ 20 ปี เชฟเจฟฟรีย์ กวาน ที่ได้บินตรงมาจากห้องอาหารจีน Red ที่มีชื่อเสียง ของโรงแรม พูลแมน กัวลาลัมเปอร์ ซิตี้เซ็นเตอร์ ประเทศมาเลเซีย มาโชว์เมนูขึ้นชื่อระดับเหรียญทอง ในการนี้โดยเฉพาะ ที่ห้องอาหาร Loong Foong โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา (ชื่อเดิมโรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ)
ติ่มซำดีๆจับคู่กับชาชั้นเลิศ ที่ในวันนี้ได้มีนักชงชามาชงชาที่จะจับคู่กับติ่มซำให้เราได้ดูด้วยตามขั้นตอนแบบจีนโบราณที่เริ่มตั้งแต่ น้ำแรกสำหรับปลุกป้านดินเผาให้มีชีวิต แล้วจึงเริ่มใส่ใบชาลงไป การล้างถ้วยชาที่ใช้วิธีหมุนไปรอบๆแบบฮกเกี้ยน แล้วน้ำต่อๆมาถึงได้ชาชั้นเลิศมาลิ้มลอง
เหล่าของนึ่งที่จะจับคู่กับ ชาทิกวนอิม ชาที่เป็นที่โปรดปรานขององค์พระจักรพรรดิ์มาก่อน ถูกปลูกใกล้ๆกับมณฑลกวางตุ้งแหล่งกำเนิดของติ่มซำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และชานี้ยังช่วยชะล้างไขมัน ความมันจากติ่มซำได้ด้วย จึงนิยมนำมาทานคู่กัน
ทีนี้เราก็มีทั้งติ่มซำดีๆและชาชั้นเลิศพร้อมแล้ว มาเริ่มมื้อนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยเหล่าของนึ่ง
ฮะเก๋ากุ้งเนื้อเด้งในแป้งห่อจีบบางใสสีขาว ที่เวอร์ชั่นนี้ของเชฟได้แอบใส่หน่อไม้ฝรั่งลงไปด้วย และหยอดกุ้งขาวลงไปเยอะ
การผสมกันที่ลงตัวของหมูและกุ้งในห่อแป้งเกี๊ยวสีเหลืองทอง ท๊อปด้วยไข่กุ้งจำนวนไม่น้อย ชวนให้ดูน่ากินยิ่งขึ้น
ชิ้นนี้ขอให้ลืมฮะเก๋าแบบเดิมๆไปแล้วมาลองชิ้นนี้กันค่ะ ห่อสีดำโดดเด่นด้วยแผ่นแป้งที่ผสมหมึกดำกับไส้ข้างในที่เป็นเนื้อกุ้งล้วนๆ ท๊อปด้วยเนื้อหอยเชลล์ด้านบน แล้วคุณจะลืมฮะเก๋าแบบเดิมๆไปทีเดียวเลยล่ะ
ซาลาเปาชาโคลสีดำลูกกระทัดรัดแต้มทอง สอดไส้ลาวาไข่เค็มมันๆที่รสกำลังดี ไม่หวานไปและที่เชฟแอบกระซิบมาว่าเอาไปอบมาก่อนลาวาจึงไม่เหลวไป
และเหล่าของทอดก็ทยอยกันมา
กุ้งเป็นตัวๆผสมกับใบกุ้ยช่ายเล็กน้อยสอดไส้อยู่ในฟองเต้าหู้แผ่นบางทอดกรอบกำลังดี เพิ่มรสชาติอีกนิดด้วยบ๊วยเจี่ย
เกี๊ยวหมูผสมกุ้งเนื้อแน่นเต็มคำทอดมากำลังดี และยังมีแผ่นแป้งกรอบชิ้นโก้เก๋ช่วยเพิ่มเทกเจอร์อีกด้วย ด้วยหน้าตาและรสชาติทานแล้วอาจจะสับสนว่านี่เหมือนเกี๊ยวญี่ปุ่นเลย ซึ่งสองชาตินี้เค้าก็ได้รับอิทธิพลกันไปมา แต่ของจีนนี้เชฟได้เฉลยว่าข้างในจะใส่ซอสน้อยกว่า ได้รสที่พอดีกว่านั่นเอง
แผ่นเกี๊ยวทอดกรอบ (กรอบมาก) ห่อไส้กุ้ง ทานคู่กับมายองเนซผสมวาซาบิเจือจาง ที่คนไม่ชอบวาซาบิก็น่าจะลองได้ค่ะ
เผือกทอดและไส้หมูพริกไทดำที่หนักพริกไทดำสมชื่อ แต่ไม่ฉุน กับผิวแป้งกรอบๆที่ผิว คนที่ชอบเผือกทอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว น่าลองค่ะ
จานหลัก จับคู่กับชาหอมหมื่นลี้ เป็นชาใบยาวที่จะส่งกลิ่นหอมออกมาตั้งแต่น้ำแรกในป้าน
จานนี้ที่ดีงามกลมกล่อมด้วยความร่วมมือกันของน้ำซุปมะเขือเทศ กุ้งแม่น้ำ และเส้นบะหมี่ทำเองแบบเส้นใหญ่ๆกลมๆนิ่มๆ ทำให้เราได้ตักเนื้อกุ้ง มันกุ้งที่หัวทานไปอย่างเพลิดเพลินกับเส้นบะหมี่ ซดน้ำซุปมะเขือเทศอ่อนๆไปพลาง
และของหวานปิดท้าย กับชาหอมหมื่นลี้ เหมาะกับอาหารรสอ่อนๆ เช่น ขนม
รังนกสีขาวเป็นแพถูกใส่มาในลูกมะพร้าวอ่อน น้ำหอมหวานอ่อนๆ กำลังดีที่ถ้าทานรังนกหมดแล้ว สามารถขูดเนื้อมะพร้าวอ่อนมาทานต่อได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะมันเข้ากันดีค่ะ
เสิร์ฟมาแบบเย็นๆพร้อมไอน้ำแข็งแห้งลอยฟุ้งมาด้วย เป็นไอศกรีมวนิลามีเม็ดแมงลักเม็ดเล็กๆเพิ่มสัมผัสกรุบๆ ถั่วพิชตาชิโอคั่วมันๆกรอบๆ เติมความเป็นมะม่วงอีกเล็กน้อยที่ขอบๆ และตักไปตักมาจะเจอเนื้อส้มโอให้ตัดรสกันอีกนิด
พบกับเมนูติ่มซำเหรียญทองของเชฟเจฟฟรีย์ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2561 และ Winter Promotion ตลอดเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม
วันจันทร์ – ศุกร์ บุฟเฟ่ต์ มื้อกลางวัน/มื้อเย็น ท่านละ 790++ บาท
วันเสาร์ – อาทิตย์ บุฟเฟ่ต์ มื้อกลางวัน/มื้อเย็น ท่านละ 890++ บาท
ห้องอาหารจีน หลงฟ่ง มื้อกลางวันเปิดบริการ เวลา 11.30 -14.30 น.
และมื้อเย็นเวลา 18.00 – 22.30 น.
สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02 694 2222 ต่อ 1560 หรือ อีเมล์: [email protected]
Story : Nopmanee P.
Photo : Pol. Cap. Kittin A.