Chef : – : Feb 2022
Story : Nathapol K./ Photo : Pol.Capt. Kittin A
Yao rooftop, Marriott Surawongse Bangkok
หากพูดถึงการไปทานอาหารจีนที่ร้านแล้ว หลายคนคงมีภาพในหัวว่าจะต้องเป็นห้องอาหารจีนแบบเดิม ๆ ที่มีโต๊ะเก้าอี้ทำจากไม้ขนาดใหญ่ บรรยากาศภายในดูเคร่งขรึม มีแต่ผู้ใหญ่หรือคนสูงอายุที่ไปพบปะญาติมิตรเพื่อนฝูงกัน จนอาจรู้สึกเบื่อกับการไปทานอาหารจีนแล้ว แต่ในวันนี้ Kinlakestars จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับประสบการณ์ทานอาหารจีนที่แตกต่างไปจากภาพจำเดิม ๆ อย่างสิ้นเชิงกัน ที่ YÀO Rooftop Bar (เย่า รูฟท็อป บาร์)
YÀO Rooftop Bar ตั้งอยู่ที่โรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse บนชั้น 33 หรือจะเรียกว่าดาดฟ้าชั้นบนสุดก็ได้ โดย YÀO Rooftop Bar นั้น เป็นส่วนหนึ่งของ YÀO Restaurant ซึ่งอยู่ที่ชั้น 32 ของโรงแรมดังกล่าว โดยจะต้องขึ้นบันไดหรือลิฟท์พิเศษไปอีกหนึ่งชั้น เมื่อขึ้นไปที่ชั้น 33 แล้ว ก็จะพบกับบาร์เปิดโล่งสไตล์โมเดิร์นไชนีสให้บรรยากาศแบบเซี่ยงไฮ้
ที่นั่งจะมีทั้งแบบโซฟาอันแสนสบายและเก้าอี้ธรรมดา โดยแต่ละโต๊ะจะอยู่แยกกันเป็นสัดส่วน มีระยะห่างกันพอสมควรตามมาตรการป้องกันโควิด 19 โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้จะเป็นสไตล์วินเทจสีเอิร์ธโทนดูเรียบโก้
แต่แฝงกลิ่นอายความเป็นจีนด้วยการใช้ลวดลายแบบจีนที่โครงของโซฟา เก้าอี้ และระแนงไม้ เสริมด้วยสีสันอันสดใสของหมอนอิงและโคมไฟ ทำให้มีบรรยากาศสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
สำหรับทิวทัศน์โดยรอบ จะได้เห็นวิวอันตระการตา 360 องศา ของใจกลางกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่โค้งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 8 ไล่ไปจนถึงสะพานตากสิน ย่านสาทร สีลม ซึ่งจะมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ตั้งแต่ช่วงเวลาดวงอาทิตย์ตก ก็จะได้เห็นสีฟ้าครามของท้องฟ้าตัดกับสีเหลืองส้มของแสงอาทิตย์ยามเย็น จรดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและตึกน้อยใหญ่สูงต่ำสลับกันไป เป็นไฮไลท์หนึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้
หลังจากนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นตามจังหวะของดวงทิตย์ที่กำลังตกจนลับขอบฟ้าไป ก็จะกลายเป็นบรรยากาศของท้องฟ้าอันมืดมิดตัดกับแสงสีในเมืองหลวง ที่มีแสงของดวงไฟตามตึกและรถราต่าง ๆ ล้อกับดวงดาวและแสงจันทร์บนท้องฟ้า โดยตลอดเวลาที่นั่งทานอาหารก็จะมีลมพัดมาเป็นระยะ ๆ เคล้ากับเสียงดนตรีแจ๊สที่เปิดคลอเบา ๆ เหมาะกับในทุกโอกาส ทั้งการนั่งชิลล์ ปาร์ตี้สังสรรค์ หรือพาคนรู้ใจไปดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนโรแมนติก
สำหรับเมนูอาหารนั้น เนื่องจากเป็นรูฟท็อปบาร์ ทางร้านจึงจัดอาหารแบบ ready to eat คือ เมื่อเสิร์ฟอาหารมาแล้วสามารถทานได้เลย ไม่ต้องมีการหั่นหรือตัดอีก ทำให้สะดวกแก่การรับประทาน และสามารถ sharing กันได้ แต่ทว่ารสชาติอาหารนั้นไม่ได้ถูกลดทอนไปแต่อย่างใด เนื่องจากใช้ครัวและเชฟเดียวกันกับ YÀO Restaurant
โดยเมนูอาหารนั้นจะเป็นอาหารจีนสไตล์เซี่ยงไฮ้และกวางตุ้ง ซึ่งมีทั้งที่เป็นแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ขึ้นเองทำให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ส่วนเมนูเครื่องดื่มนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแบบมีแอลกอฮอล์ ซึ่งมีแทบทุกประเภท ตั้งแต่ beer, rum, liqueur, tequila, vodka, gin, whiskey ,champagne, wine หรือ cocktail หรือหากใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็มีน้ำผลไม้ น้ำดื่ม น้ำแร่ ไว้ให้บริการ
ซึ่งในวันนี้เมนูที่ทางร้านได้จัดมาให้พวกเราได้ลิ้มลองกันมีดังนี้
ขนมจีบกุ้งและหอยเชลล์ (SCALLOP WITH SHRIMP SHU MAI)
ขนมจีบแป้งบาง เมื่อกัดเข้าไปก็สัมผัสได้กับความนุ่มเด้งของเนื้อกุ้งและหอยเชลล์เต็มคำ รสชาติหวานเค็มกำลังดี ท็อปด้านบนด้วยไข่ปลาคาเวียร์ให้ความพรีเมียมและเพิ่มเท็กซ์เจอร์ในการทาน
ติ่มซำเกี้ยวไก่และกุ้ง (CHICKEN AND SHRIMP DUMPLING)
ใช้แผ่นแป้งเกี๊ยวแบบบางที่มีสีขาวและแดงสดตัดกันมาห่อขึ้นรูปเป็นลักษณะกรวยสามอัน ภายในเป็นเนื้อกุ้งผสมกับไก่บดละเอียด แต่เอาจริง ๆ คือถ้าไม่อ่านชื่อเมนูก็แทบจะไม่ทราบเลยว่ามีเนื้อไก่ผสมอยู่ ท็อปด้านบนด้วยไข่ปลาคาเวียร์ โรยต้นหอมซอยอีกเล็กน้อย
ฮะเก๋าแบบดั้งเดิม (TRADITIONAL HA GAW)
เป็นเมนูติ่มซำที่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าใช้พิสูจน์ความสามารถของเชฟได้พอสมควร เพราะเป็นเมนูเบสิคที่ร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ต่างต้องมี แต่จะสามารถทำได้อร่อยถูกใจลูกค้าหรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง ซึ่งฮะเก๋าของที่นี่บอกเลยว่าแป้งบางมาก เนื้อกุ้งข้างในเป็นชิ้นโต ๆ ใช้กุ้งขาวแชบ๊วยเกรดเอ ขนาดเต็มคำ รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ถือว่าสอบผ่าน
กุ้งห่อฟองเต้าหู้ทอด (SHRIMPS WRAPPED IN TOFU SHEET)
ฟองเต้าหู้ทอดบางกรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมัน กัดเข้าไปเจอเนื้อกุ้งนุ่มเด้ง ทานกับน้ำจิ้มบ๊วย รสเค็มหวานเปรี้ยวนิด ๆ กำลังดี
กรรเชียงปูและกุ้งนึ่งมะนาว (CRAB CLAW AND SHRIMPS WITH LIME CHILLI SAUCE)
กรรเชียงปูชิ้นโตเนื้อหวานห่อด้วยเนื้อกุ้งบด ไม่มีกลิ่นคาว ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด พอสมควร ถือว่าเป็นเมนูติ่มซำที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี
เป็ดปักกิ่งห่อแป้ง (PEKING DUCK ROLL WITH CAVIAR SERVED WITH WASABI SAUCE)
ปกติแล้วการทานเป็ดปักกิ่งก็จะต้องเอาแผ่นแป้งมาห่อเอง แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเพื่อให้เหมาะกับการทานบนรูฟท็อปบาร์ เชฟจึงได้ทำการห่อเป็ดปักกิ่งพร้อมผักเครื่องเคียงมาให้เรียบร้อยสามารถทานได้ทันที ไม่ต้องกลัวเลอะเทอะ โดยด้านในจะใส่มาทั้งหนังและเนื้อเป็ด เพราะการเสิร์ฟแบบนี้หากมีแต่หนังเป็ดก็จะทำให้เหนียวได้ ซึ่งเมื่อลองทานดูแล้ว ก็พบว่าไม่เหนียวเลย แม้จะไม่ได้ทานทันทีที่มาเสิร์ฟก็ตาม โดยแผ่นแป้งมีความบาง กัดเข้าไปเจอหนังเป็ดบางกรอบกำลังดี เนื้อเป็ดยังมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่เหนียว มาพร้อมกับผักเครื่องเคียงเสร็จสรรพในคำเดียว ท็อปด้านบนด้วยไข่ปลาคาเวียร์เพิ่มความพรีเมียม น้ำราดด้านบนมีความหวานเค็มกำลังดี
ปูนิ่มทอดกรอบผัดพริกเกลือ (DEEP-FRIED SOFT SHELL CRAB WITH DRIED CHILI )
ปูนิ่มตัวใหญ่ชุบแป้งบาง ๆ ทอดกรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมันเลย นำไปคั่วแห้ง ๆ กับพริกสด กระเทียม เกลือ โรยด้วยต้นหอมซอย พริกแห้ง รสเค็มเผ็ดกำลังดี มีกลิ่นหอม ใส่มาในกระทงที่ทำด้วยเส้นบะหมี่นำไปทอดให้เป็นลักษณะรังนก สามารถทานคู่กันได้
เกี๊ยวหมูซอสหม่าล่า (PORK WONTON WITH MALA SAUCE)
ใช้แป้งเกี๊ยวแผ่นบางห่อหมูบดละเอียดแบบดั้งเดิม แต่ดัดแปลงมาทานกับน้ำซอสหม่าล่า รสชาติเค็มเผ็ดนิด ๆ กำลังดี โรยด้วยกุ้งแห้งบดหยาบ ๆ กับต้นหอมซอย ได้ทั้งความหอม และเท็กซ์เจอร์ เพิ่มความกรุบกรอบ
บาร์บีคิวรวม เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ (BBQ PLATTER ROASTED DUCK, BBQ PORK, CRISPY PORK)
โดยส่วนตัวถือว่าเป็นจานเด็ดอีกจาน แม้จะเป็นเมนูเบสิคเช่นกัน แต่การจะทำให้อร่อยได้นั้น ต้องใช้ความพิถีพิถันและเทคนิคการทำอย่างดี ซึ่งขอบอกเลยว่าสมกับคำร่ำลือจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป็ดปักกิ่งย่าง หนังบางกรอบกำลังดี แทบจะไม่มีมันแทรก เนื้อเป็ดมีความชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งไม่เหนียว ส่วนหมูแดงนั้น เป็นเนื้อหมูชิ้นหนากำลังดี แต่ไม่เหนียว มีมันแทรกเล็กน้อย เนื้อมีความชุ่มฉ่ำ รสหวาน ๆ เค็ม ๆ และสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด คือ หมูกรอบ การันตีความกรอบได้เลย แม้จะทิ้งไว้นานก็ยังมีความกรอบอยู่ และกรอบแบบไม่แข็ง เคี้ยวไปแล้วไม่ติดฟัน เนื้อหมูมีมันแทรกเล็กน้อยมาก ๆ แต่ก็มีความนุ่ม ซอสที่ราดมีรสเค็มหวานตัดกับความเผ็ดซ่านิด ๆ ของวาซาบิ ลงตัวพอดี
ไก่ทอดผัดพริกกรอบและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (FRIED CHICKEN WITH CHILLI AND CASHEW NUTS)
ใช้เนื้อไก่ชิ้นพอดีคำไม่มีกระดูกชุบแป้งบาง ๆ ไปทอดให้กรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมัน นำไปคั่วกับพริกสด เกลือ พริกไทย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ โรยด้วยต้นหอมซอยและพริกแห้ง เมื่อกัดเข้าไปข้างนอกจะกรอบแต่ข้างในนุ่ม รสชาติเค็ม ๆ เผ็ด ๆ นิดหน่อย เคี้ยวเพลิน
บะหมี่เส้นสดดึงมือ ราดซอสหมูสับสไตล์ปักกิ่ง (HAND PULLED NOODLE WITH SPICY PORK GRAVY SAUCE OLD PEKING STYLE)
เป็นบะหมี่เส้นสดที่เชฟได้ทำด้วยมือตัวเองแบบดั้งเดิม เส้นมีความนุ่มเหนียวกำลังดี ไม่ติดกันเป็นก้อน และไม่เละไปกับน้ำราด ทานกับน้ำซอสเกรวี่หมูสับสไตล์ปักกิ่ง รสชาติเค็มหวานเผ็ดนิด ๆ กลมกล่อมกำลังดี
ส่วนเครื่องดื่มนั้น ได้เลือกเป็นค็อกเทลที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ และทางร้านยังได้แนะนำว่ามีค็อกเทลตัวใหม่ที่เพิ่งคิดค้นขึ้นสำหรับเทศกาลตรุษจีนนี้อีกด้วย ดังนี้
PURPLE BREEZE FROM THE EAST
ค็อกเทลสีม่วงอ่อนสดใส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตึก Pearl tower หรือหอไข่มุกตะวันออก ซึ่งตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน นั่นเอง โดยสีม่วงอ่อนนั้นได้มาจากส่วนผสมของน้ำอัญชันกับน้ำมะนาว ทำให้มีรสสัมผัสหอมหวานอมเปรี้ยวเบา ๆ สามารถจิบได้เรื่อย ๆ แอลกอฮอล์ไม่แรงมาก
อั้งหมิงเยว่
ค็อกเทลสีส้มแดง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดวงจันทร์และศาลเจ้าแม่ทับทิมนั่นเอง โดยใช้ส้มหั่นเป็นแว่นให้มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์ ลอยตระหง่านอยู่บนผืนน้ำ และใช้ผลทับทิมแกะเมล็ดออกมา สื่อถึงเจ้าแม้ทับทิมซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นเทพที่คุ้มครองเกี่ยวกับการออกทะเล ด้านบนแก้วประดับตกแต่งด้วยแผ่นทองคำเปลว สื่อถึงการบูชา ความศักดิ์สิทธิ์ ความมงคล ช่วยเพิ่มความสวยงามหรูหรามากยิ่งขึ้น
Vodka and apollo oh taikik
ค็อกเทลสีส้ม ที่ใช้ส้มซึ่งเป็นผลไม้มงคลของชาวจีนสำหรับไหว้ในเทศกาลหรือวันสำคัญต่าง ๆ เป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นค็อกเทลแก้วนี้
YAO On the Rock
แก้วนี้โดดเด่นด้วยน้ำแข็งก้อนใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสรูป มีลายนูนต่ำบนน้ำแข็งเป็นตราสัญลักษณ์ของร้าน ใส่มาในแก้วบรั่นดี ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ที่กินได้นั้นคือดอกเก๊กฮวยสีเหลือง และใบลาเวนเดอร์
โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นรูฟท็อปบาร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกแบบจีนดั้งเดิมเข้ากับความเรียบโก้คลาสสิคสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้รับประสบการณ์การทานอาหารจีนแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เปลี่ยนภาพจำของการทานอาหารจีนแบบเดิม ๆ ไปได้อย่างสิ้นเชิง พร้อมกับจิบเครื่องดื่มชิลล์ ๆ เคล้ากับเสียงเพลง ดื่มด่ำกับบรรยากาศและทัศนียภาพของกรุงเทพมหานคร ในมุมมอง 360 องศา ทั้งวิวดวงอาทิตย์ตกที่แม่น้ำเจ้าพระยา และวิวของตึกสูงระฟ้าใจกลางเมือง เหมาะกับการสังสรรค์ เฉลิมฉลอง ในทุกเทศกาลและทุกโอกาสของทุกคน
ข้อมูลติดต่อ
YÀO Rooftop Bar @ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse ถนนสุรวงศ์ สี่พระยา บางรัก กรุงเทพฯ
วันเวลาให้บริการ
Friday – Saturday: 5:00 pm – 12:00 am
Sunday – Thursday: 5:00 pm – 11:00 pm
www.yaobangkok.com/
www.facebook.com/yaobangkok/
Tel. 02-088-5666