สัมผัสความโดดเด่นในบรรยากาศสุดเก๋ของห้องอาหารเอกลักษณ์
วันนี้ Kinandleisure ขอพาทุกท่านมาสำรวจหนึ่งในโรงแรมที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท ที่ถึงแม้ไม่ได้ติดถนนใหญ่ แต่ก็สะดวกสบายสำหรับการเดินทาง ด้วยทำเลที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยไม่ลึกมาก แถมยังสามารถเชื่อมต่อไปยังย่านทองหล่อได้อย่างง่ายดาย โรงแรมแห่งนี้มีชื่อสุดเก๋ว่า “มาดี ไปดี กรุงเทพ ออโตกราฟ คอลเลคชั่น” สื่อถึงการเดินทางอันรื่นรมย์ทั้งการมาถึงและการจากไป
เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณโรงแรม ความประทับใจแรกเริ่มตั้งแต่โถงต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นมิตร ห้องอาหารที่เราจะพาทุกท่านมาชมในวันนี้ ตั้งอยู่ทางด้านขวามือของทางเข้า และถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงง่าย มีความตั้งใจให้รู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งพอได้เห็นก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงบรรยากาศของโรงแรมหลายแห่งในยุโรปที่มักจัดวางพื้นที่ในลักษณะนี้
ห้องอาหารเอกลักษณ์ เป็นดั่งหัวใจของโรงแรมที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ โดดเด่นตั้งแต่พื้นจรดเพดาน โทนสีและลวดลายถูกออกแบบมาอย่างประณีต พื้นไม้สีอ่อนที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียด
เข้ากันอย่างลงตัวกับเพดานลายตารางทรงโค้งที่ให้ความรู้สึกสง่างามในแบบร่วมสมัย โคมไฟห้อยเพดานทรงกลมสีขาวเปล่งแสงอบอุ่น เพิ่มความสบายตาและเสริมให้บรรยากาศโดยรวมดูโปร่งโล่งยิ่งขึ้น
ใจกลางห้องอาหารคือ เคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะสะดุดตา ยังเป็นพื้นที่ที่ลูกค้าสามารถเลือกนั่งชิลล์พลางชมการทำเครื่องดื่มสุดพิเศษจากบาร์เทนเดอร์ได้อย่างใกล้ชิด หรือจะเลือกนั่งในบริเวณ ซุ้มที่จัดไว้อย่างมีสไตล์
และชุดโต๊ะเก้าอี้โทนสีน้ำเงินและครีมที่แฝงความหรูหราแบบไม่โอ้อวด ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้เหมาะสำหรับทุกโอกาส ตั้งแต่มื้อกลางวันแสนสบายไปจนถึงดินเนอร์สุดพิเศษในยามค่ำคืน
ด้วยการออกแบบที่ลงตัวและบรรยากาศอันน่าประทับใจ ห้องอาหารเอกลักษณ์ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของโรงแรม มาดี ไปดี กรุงเทพ ออโตกราฟ คอลเลคชั่น แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ทำให้ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจ
ประเดิมมื้อเย็นด้วย Welcome Bread ที่ทั้งสร้างสรรค์และอร่อยจนประทับใจ
สำหรับมื้ออาหารเย็นนี้ เริ่มต้นด้วย Welcome Bread ที่ไม่เพียงแต่เป็นการเตรียมพร้อมลิ้นสำหรับรสชาติอันหลากหลายในมื้อถัดไป แต่ยังสร้างความประทับใจแรกได้อย่างดีเยี่ยม ที่เสิร์ฟในวันนี้คือ Pumpkin Bread & Pumpkin Purée ซึ่งแค่เพียงได้เห็นก็สัมผัสถึงความใส่ใจในรายละเอียด
ขนมปัง Pumpkin Bread มีกลิ่นหอมหวานจากฟักทองอบ และยังโดดเด่นด้วยความกรุบกรอบจากเมล็ดฟักทองที่โรยท็อปด้านบน ช่วยเพิ่มมิติของรสสัมผัสให้หลากหลายยิ่งขึ้น เสิร์ฟคู่กับ Pumpkin Purée ที่เนียนนุ่มละมุน มีความมันนัวที่คล้ายกลิ่นอายไข่เค็ม ซึ่งเป็นความสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้นและทำให้นึกถึงกลิ่นอายความเป็นเอเชียนได้อย่างชัดเจน
Pumpkin Purée นี้ถูกปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน รสชาติหวานธรรมชาติของฟักทองผสานกับรสเค็มละมุนของส่วนผสมที่คล้ายไข่เค็ม สร้างสมดุลที่ลงตัวเมื่อทานคู่กับขนมปัง ช่วยให้ทุกคำที่กัดเป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
แนะนำให้ใช้มือหยิบขนมปังอย่างสบายๆ แล้วปาด Pumpkin Purée ลงบนขนมปังกรอบๆ ในแบบที่คุณต้องการ การสัมผัสกับเนื้อขนมปังและความรู้สึกจากการใช้มือทาน ช่วยเสริมบรรยากาศให้สนุกสนานและเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น เป็นประสบการณ์เล็กๆ ที่ทั้งอร่อยและสร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มต้นมื้ออาหาร!
Amuse Bouche: เมื่อรสชาติไทยแท้ผสานความอินเตอร์ในคำเดียว
เริ่มต้นด้วยจาน Amuse Bouche ที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์และน่าตื่นตา เสิร์ฟมาในช้อนเล็กที่รวมเอาความอร่อยแบบไทยๆ และความแปลกใหม่จากวัตถุดิบนานาชาติมาไว้ด้วยกัน
ในคำนี้ ไฮไลท์คือ ลาบน้ำตก ที่คงรสชาติแบบไทยแท้ได้อย่างครบถ้วน ความเปรี้ยวนำโดดเด่นชัดเจน ตามด้วยความเค็มและเผ็ดเล็กน้อย รสชาติที่สมดุลและลงตัวนั้นทำให้นึกถึงกลิ่นอายของอาหารอีสานแท้ๆ ที่มีความจัดจ้านแต่ยังคงความกลมกล่อม
ส่วนที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับจานนี้คือ เบคอนทวิสสไตล์ฝรั่ง ที่ถูกบิดเป็นเกลียวอย่างประณีตและนำไปย่างจนกรอบ หอมมัน เสริมรสสัมผัสที่แตกต่างให้กับลาบน้ำตกแบบไทย เมื่อทานคู่กัน กลิ่นหอมของเบคอนและรสชาติจัดจ้านของลาบน้ำตกกลับเข้ากันได้อย่างน่าประหลาดใจ สร้างประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับลิ้น
ปิดท้ายอย่างเก๋ไก๋ด้วย Seaweed Caviar ท็อปด้านบน อัญมณีสีเขียวเล็กๆ ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับจาน แต่ยังเติมรสชาติของท้องทะเลด้วยสัมผัสนุ่มและเค็มละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสะท้อนถึงแนวคิดการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คำนี้จึงเป็นเหมือนการเดินทางของรสชาติจากอีสานสู่สากลในช้อนเดียว เต็มไปด้วยมิติของรสชาติและเท็กซ์เจอร์ที่หลากหลาย พร้อมสะท้อนตัวตนของเชฟที่ผสานศิลปะการปรุงอาหารเข้ากับความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด
ซุปมะเขือเทศ: ประสบการณ์ใหม่ที่พลิกภาพจำเดิมๆ
เมนูซุปมะเขือเทศจานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซุปธรรมดา แต่เป็นการตีความใหม่ของซุปมะเขือเทศแบบคลาสสิกที่เชฟสร้างสรรค์ขึ้นให้กลายเป็นจานที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจและรสชาติที่ซับซ้อน
เนื้อซุปที่ครีมมี่นวลละมุน เนื้อสัมผัสของซุปนี้โดดเด่นด้วยความครีมมี่ที่เข้มข้นแต่ไม่หนักจนเกินไป สร้างอารมณ์ที่นุ่มนวลคล้ายซุปล็อบสเตอร์ที่มีสีส้มอ่อนละมุนตา ความหอมมันนั้นผสานกับกลิ่นเปรี้ยวหวานแบบธรรมชาติของมะเขือเทศที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและกลิ่นหอมที่เกิดจากการนำมะเขือเทศไปย่างก่อนนั่นเอง ประทับใจมากๆเลยค่ะ รสชาติที่ได้จึงมีความลึกซึ้งและหลากมิติ
มะเขือเทศลูกเล็กสดๆ เพิ่มความสดชื่นและมิติให้กับซุปด้วยมะเขือเทศลูกเล็กที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ สัมผัสกรุบกรอบเมื่อกัดลงไปทำให้เกิดความแตกต่างที่ลงตัวกับเนื้อซุปที่เนียนละเอียด
ท็อปปิ้งสุดสร้างสรรค์ ความน่าสนใจไม่ได้หยุดอยู่แค่เนื้อซุป แต่ยังรวมถึงท็อปปิ้งที่เพิ่มความหลากหลายของรสชาติและสัมผัส เริ่มจาก Seaweed Caviar ที่มอบรสชาติเค็มละมุนแบบทะเล และช่วยเติมมิติความนุ่มเบาให้กับจาน เมล่อน หวานฉ่ำที่ตัดกับรสเปรี้ยวของซุปได้อย่างน่าทึ่ง และปิดท้ายด้วย ชีสสด ที่มอบความหอมมันและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน
เมื่อทุกองค์ประกอบรวมกันในช้อนเดียว คุณจะได้รับรสชาติที่หลอมรวมทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม พร้อมสัมผัสที่หลากหลายตั้งแต่เนื้อครีมซุปที่เนียนนุ่ม มะเขือเทศสดที่กรุบกรอบ ไปจนถึงคาเวียร์เม็ดเล็กที่แตกในปาก จานนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณลืมซุปมะเขือเทศแบบเดิมๆ แต่ยังยกระดับความคาดหวังของคุณต่อเมนูนี้ขึ้นไปอีกขั้น
เอกลักษณ์สลัด: ความสดใหม่ในทุกคำ
เมนูสลัดนี้ถือเป็นจานที่แสดงความใส่ใจและความคิดสร้างสรรค์ในทุกองค์ประกอบ เริ่มจาก ผักสดหลากชนิด ที่ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งผักใบอ่อนกรอบ มะเขือเทศลูกเล็กสีแดงฉ่ำที่มอบรสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น และชิ้นฟักทองที่ผ่านการปรุงอย่างเหมาะสมจนได้รสหวานธรรมชาติ เพิ่มสัมผัสด้วย เม็ดทับทิมหวานฉ่ำ ที่สร้างสีสันให้จานอาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
การจัดวางอย่างประณีต ผักต่างๆ ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะเป็นวงกลมรอบจาน สร้างความสวยงามและความสมดุลให้กับองค์ประกอบของอาหาร ไม่เพียงแต่จะดึงดูดสายตา แต่ยังช่วยให้ทุกคำที่ตักขึ้นมามีส่วนผสมที่ลงตัว
น้ำสลัด Seaweed Caviar กับซอสส้มจี๊ด น้ำสลัดนี้คือหัวใจของจาน ด้วยรสชาติที่สดชื่นและมีมิติจาก Seaweed Caviar ที่เพิ่มความเค็มละมุนอย่างกลมกลืน ผสานกับ ซอสส้มจี๊ด ซึ่งใช้ส้มจี๊ดที่ปลูกจากสวนเล็กๆ ด้านหลังโรงแรม จึงให้รสชาติที่สดใหม่ เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยยกระดับจานนี้ให้ไม่ธรรมดา
ทูน่าทาทาร์และอโวคาโดพิวเร: คู่หูที่ลงตัว
เมนูทูน่าทาทาร์นี้เสิร์ฟพร้อม ขนมปังกรอบ ที่เหมาะสำหรับการทานเป็นคำเดียว ทูน่าสดถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงอย่างพิถีพิถัน ให้รสชาติที่สะอาด สดชื่น และเข้ากันได้ดีกับ อโวคาโดพิวเร ที่เนื้อเนียนละเอียด รสชาติหอมมัน เพิ่มความนุ่มนวลในทุกคำ
ท็อปปิ้งที่เพิ่มความพิเศษ บนทูน่าทาทาร์โรยด้วย ไข่แซลมอนสีส้มสดใส ที่แตกในปาก มอบความเค็มนุ่มละมุนและสัมผัสที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมี โชยุเจลลี่ ที่ซ่อนอยู่ในจาน ให้รสชาติอูมามิกลมกล่อมที่ช่วยเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน
จานนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความประทับใจด้วยรสชาติที่สดใหม่และหลากหลาย แต่ยังแฝงความตั้งใจในการนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้ ทำให้ทุกคำเต็มไปด้วยความหมายและความอร่อยที่ยากจะลืม
ยำส้มตำผลไม้: สีสันและรสชาติที่ลงตัวในทุกคำ
จานนี้คือการผสมผสานระหว่าง ความสดชื่นของผลไม้ และรสชาติที่จัดจ้านของยำส้มตำได้อย่างลงตัว ถือเป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยรสชาติและการจัดวางที่งดงาม
องค์ประกอบที่หลากหลายของผลไม้
ผลไม้ในจานถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างรสชาติที่สมดุล เริ่มจาก แก้วมังกร สีขาวเนื้อกรอบที่มีความหวานละมุน สลับกับ สับปะรด ที่มีความหวานอมเปรี้ยวสดชื่น และ แตงกวาดอง ที่โรงแรมหมักเอง มอบรสเปรี้ยวเค็มอย่างเป็นธรรมชาติ วัตถุดิบทั้งหมดถูกหั่นและจัดเรียงเป็นชั้นๆ อย่างปราณีต สร้างมิติทั้งในด้านรสชาติและการนำเสนอ
น้ำยำรสจัดจ้านที่ลงตัว
หัวใจของจานนี้คือ น้ำยำสูตรพิเศษ ที่มีความหวานจากน้ำตาล ความเค็มของน้ำปลา และความเปรี้ยวของมะนาว ซึ่งคลุกเคล้ากับผลไม้ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการปรุงรสเผ็ดร้อนที่สมดุล ไม่รุนแรงจนเกินไป แต่เพียงพอที่จะเพิ่มความตื่นเต้นให้กับรสชาติในทุกคำ
ถั่วและกุ้งที่เพิ่มความพิเศษ
บนจานยำโรยด้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่คั่วจนหอมกรอบ เพิ่มความมันและสัมผัสที่หลากหลายในจาน ด้านบนจัดวาง กุ้งตัวใหญ่ ที่ปรุงจนสุกกำลังดี เนื้อเด้งแน่น ให้รสชาติเข้มข้นเค็มมัน ผสมผสานกับผลไม้และน้ำยำได้อย่างยอดเยี่ยม
การจัดจานที่น่าประทับใจ
ผลไม้หลากสีสันถูกจัดเรียงเป็นชั้นๆ อย่างงดงาม โดยเน้นความประณีตและความสมดุลของสีที่ทำให้จานนี้ดูน่ารับประทานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดวางให้สามารถตัดแบ่งและทานได้ทีละแถว ซึ่งทำให้ทุกคำมีรสชาติที่หลากหลาย แต่ยังคงความกลมกล่อมอย่างสมดุล
ยำส้มตำผลไม้จานนี้ไม่เพียงแต่จะมอบรสชาติที่ครบรส แต่ยังสร้างความสดชื่นและประสบการณ์ที่พิเศษให้กับมื้ออาหาร หากคุณกำลังมองหาจานที่ทั้งอร่อยและสวยงาม เมนูนี้คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ!
ผัดไท: ความคลาสสิกที่ผสานความคิดสร้างสรรค์
เมนูผัดไทของที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นจานโปรดของคนไทยและนักท่องเที่ยว แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมาและนวัตกรรมในอาหารไทยอย่างน่าสนใจ
จุดเริ่มต้นแห่งวัฒนธรรมอาหารไทย
ผัดไทถือเป็นอาหารที่สามารถเล่าย้อนประวัติศาสตร์ไปได้ถึงยุคสมัยอยุธยาเมื่อผู้คนใช้แม่น้ำลำคลองเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางและค้าขาย เมนูนี้จึงสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาหารและวิถีชีวิตในยุคนั้นได้อย่างลึกซึ้ง
เนื้อสัมผัสและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
ผัดไทของที่นี่ถูกปรุงอย่างพิถีพิถันจนเส้นเหนียวนุ่มกำลังดี คลุกเคล้ากับซอสที่ปรุงรสด้วยความกลมกล่อมแบบดั้งเดิม มีรสชาติหวานนิด เค็มนัว และเปรี้ยวอ่อนๆ ในแบบที่คุ้นเคย เนื้อกุ้งสดตัวใหญ่ถูกนำมาผัดพร้อมเส้น เพิ่มความหอมและรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเสิร์ฟพร้อมถั่วงอกกรอบ หัวไชโป๊เค็มหวาน และมะนาวซีกที่ให้ผู้ทานปรุงรสเพิ่มตามชอบ
มิติใหม่ในการลิ้มลอง
สิ่งที่ทำให้ผัดไทของที่นี่แตกต่าง คือการเพิ่มทางเลือกในการรับประทานแบบใหม่ โดยทางร้านแนะนำให้ตักผัดไทในปริมาณพอดีใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วเติม น้ำสต๊อกไก่ ที่เคี่ยวอย่างเข้มข้น น้ำสต๊อกนี้ไม่ได้เป็นเพียงน้ำซุปธรรมดา แต่มีการปรุงรสแบบต้มยำที่ให้ความเปรี้ยว เค็ม และเผ็ดมาครบครัน เมื่อเส้นผัดไทดูดซับน้ำสต๊อกเข้าไป จะเปลี่ยนรสชาติเป็นความเข้มข้นและซับซ้อนที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทานต้มยำในรูปแบบใหม่
ความลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน
การนำเสนอผัดไทแบบคลาสสิกที่มีมิติใหม่ในวิธีการรับประทานนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับรสชาติ แต่ยังสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์และนวัตกรรมในอาหารไทย เป็นจานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความคุ้นเคยในจิตวิญญาณของอาหารไทย
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักผัดไทแบบดั้งเดิมหรือผู้ที่มองหาความแปลกใหม่ในมื้ออาหาร ผัดไทของที่นี่จะมอบทั้งความอร่อยและประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่เคยมีมา ลองสัมผัสด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่าผัดไทยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย!
ข้าวซอยเฟตตูชินี: ความแปลกใหม่ที่ผสานเอกลักษณ์ล้านนาและอิตาเลียน
การผสมผสานวัฒนธรรมอาหารที่ลงตัว
จานข้าวซอยเฟตตูชินีนี้เป็นตัวอย่างของการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง นำอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของภาคเหนืออย่างข้าวซอยมาผสมผสานกับเส้นพาสต้าสไตล์อิตาเลียนอย่างเฟตตูชินีได้อย่างน่าสนใจ ไม่เพียงแต่แปลกใหม่ในแนวคิด แต่ยังอร่อยและลงตัวในรสชาติ
เส้นเฟตตูชินีและซอสข้าวซอย
เส้นเฟตตูชินีถูกปรุงจนได้ความเหนียวนุ่มในแบบพอดี มีความคล้ายกับเส้นข้าวซอยดั้งเดิม แต่ให้เนื้อสัมผัสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซอสข้าวซอยที่ราดบนเส้นมาพร้อมรสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องแกงแบบไทย มีความมันนวลจากกะทิที่เป็นส่วนสำคัญของซอสข้าวซอยดั้งเดิม
เครื่องเคียงที่เพิ่มความสมบูรณ์แบบ
จานนี้มาพร้อมเครื่องเคียงที่หลากหลาย เริ่มจาก แคปหมู กรอบมัน ที่ช่วยเพิ่มความกรุบกรอบและเติมรสชาติที่แตกต่างให้กับจาน ต่อด้วย น้ำพริกหนุ่ม รสชาติกลมกล่อม เผ็ดนิดๆ หอมกลิ่นพริกย่าง และ แตงกวาดองที่ทำเอง ที่ให้รสเปรี้ยวสดชื่น ช่วยตัดความเลี่ยนและเพิ่มมิติรสชาติ
ไส้อั่ว: หัวใจหลักของจานนี้
ไส้อั่วที่เป็นพระเอกของจานนี้มีรสชาติที่เข้มข้น เผ็ดกำลังดี หอมสมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และขมิ้น ซึ่งเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยมกับซอสข้าวซอยและเส้นเฟตตูชินี เมื่อนำไส้อั่วมาทานคู่กับเครื่องเคียงและซอสข้าวซอย จะสัมผัสได้ถึงความสมดุลของรสชาติที่ทั้งหอม มัน เปรี้ยว และเผ็ด
การสร้างสรรค์ที่คุ้มค่าแก่การลอง
จานข้าวซอยเฟตตูชินีนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความสร้างสรรค์ในการนำเสนออาหาร แต่ยังสะท้อนถึงความเข้าใจในรสชาติและวัตถุดิบที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์อาหารที่แปลกใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของอาหารพื้นบ้านไทยล้านนา
คำแนะนำในการลิ้มลอง
แนะนำให้ลองทานทีละคำที่รวมทุกส่วนไว้ด้วยกัน ทั้งเส้นเฟตตูชินี ซอสข้าวซอย ไส้อั่ว และเครื่องเคียงต่างๆ คุณจะสัมผัสได้ถึงการผสมผสานของรสชาติที่หลากหลาย แต่กลับเข้ากันได้อย่างน่าประหลาดใจ เป็นอีกหนึ่งจานที่ไม่ควรพลาดสำหรับมื้อนี้!
Pinacalada suguz : pineapple champagne top, hazelnut syrup นัตตี้ gummy สีเหมือนต้นคริสมาสต์ที่โรงแรม
Frosty : childhood memory, December, Thai rum, deep down memories รัมแรงมาก และหอมยิ่งขึ้นด้วยเปลือกส้มมาขับ
1753 : Santa clause and X’mas Jin , white choc, Burn marshmallow
สังขยาฟักทอง + กะทิ: ขนมไทยสุดสร้างสรรค์ที่นำเสนอความหลากหลายของเนื้อสัมผัสและรสชาติในจานเดียว
ความหอมหวานที่โดดเด่น
จานนี้เริ่มต้นด้วย สังขยาฟักทอง ที่มีคัสตาร์ดสีเหลืองอ่อน เนื้อเนียนนุ่ม ละเอียดจนแทบละลายในปาก พร้อมกลิ่นหอมหวานจากฝอยทองที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับจานนี้ ตัวฟักทองที่ทำหน้าที่เป็นฐานของคัสตาร์ดถูกปรุงจนได้ความนุ่มในระดับพอดี และให้รสหวานธรรมชาติจากฟักทองสด
การเพิ่มความกรุบกรอบและรสชาติที่ซับซ้อน
สิ่งที่ทำให้จานนี้ไม่ธรรมดาคือ ทองม้วนกรุบกรอบ ที่รองอยู่ด้านล่างสุดของจาน ซึ่งช่วยเพิ่มมิติของเนื้อสัมผัสให้ต่างจากความนุ่มเนียนของคัสตาร์ด นอกจากนี้ยังมี เม็ดฟักทอง ที่โรยเพิ่มอยู่ในจาน ทำหน้าที่ตัดเลี่ยนและเพิ่มรสชาติที่เฉพาะตัว ซึ่งช่วยให้จานนี้สมดุลและไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
การไล่ระดับความหวาน
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ควรกล่าวถึงคือจานนี้มีการจัดเลเยอร์ของความหวานในแบบที่ไล่ระดับกันได้อย่างน่าสนใจ จากความหวานอ่อนโยนของคัสตาร์ด ไปจนถึงความหวานที่เข้มข้นขึ้นจากฝอยทอง ทำให้การทานทุกคำเหมือนได้สำรวจความหลากหลายของรสชาติที่ไม่ซ้ำกัน
Tiramisu แบบ Re-construction: การตีความใหม่ที่ยังคงความคลาสสิกของรสชาติ
การนำเสนอที่แยบยลและสร้างสรรค์
จานทีรามิสุนี้ถูกนำมานำเสนอในรูปแบบใหม่ โดยยังคงความดั้งเดิมของส่วนประกอบและรสชาติไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้จะอยู่ในรูปแบบ Re-construction แต่ยังคงเห็นเค้าโครงของทีรามิสุดั้งเดิมชัดเจน
ความสมดุลของส่วนประกอบ
ตัว ครีมกาแฟ ให้ความหอมเข้มในแบบฉบับของกาแฟอิตาเลียนแท้ ผสานกับเนื้อสัมผัสเนียนละมุนที่ลื่นไหลบนลิ้น ขณะที่ ชิฟฟอนช็อกโกแลต เนื้อนุ่มเบาช่วยเพิ่มความหวานและความสมดุลของจานนี้ ทั้งสองส่วนถูกจัดวางแยกกัน แต่เมื่อทานคู่กันในคำเดียวจะได้รสชาติที่กลมกล่อมพอดี
การคุมรสชาติที่ลงตัว
จุดเด่นของทีรามิสุนี้คือการคุมรสชาติให้ไม่โดดเด่นเกินไปในแต่ละส่วน ทั้งรสขมของกาแฟและรสหวานของช็อกโกแลตกลับประสานกันได้อย่างนุ่มนวล เป็นประสบการณ์ที่ไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ไม่จืดชืด
ทั้งสองจานนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสร้างสรรค์ในการตีความอาหารแบบดั้งเดิมให้ทันสมัย แต่ยังมอบประสบการณ์การลิ้มลองรสชาติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาอะไรใหม่ๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อยที่เข้าถึงได้ง่ายในแบบคลาสสิก
นอกจากนี้ห้องอาหารเอกลักษณ์ ยังมีอาหารจานอื่นๆที่มีเอกลักษณ์ดังข้างต้นให้ค้นหาอีกหลายจาน หรือเกิดอยากดื่มช็อกโกแลตเย็นซักแก้วระหว่างรอเพื่อน (ที่ไม่มีในเมนู) แถมอยากใส่มิ้นท์อีก ทางบาร์เทนเดอร์ก็ยินดีจัดให้ และอร่อยมากด้วยค่ะ 😆
Kin Review
KinAndLeisure.com
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์
รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด