บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น หรู ไม่ซ้ำใคร โดยใช้เขียงไม้โทนสีน้ำตาลเข้มสลับอ่อนหลากหลายขนาดมาประดับส่วนต่างๆของร้าน โต๊ะและเก้าอี้ทำจากไม้และหนังสีดำซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น ภายในร้านจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน Dining Area สำหรับรับประทานอาหาร
และโซน Tapas Bar ที่เรียกว่า CAVA by Islero สำหรับดื่ม ผ่อนคลายหลังเลิกงานซึ่งใช้โต๊ะและเก้าอี้ไม้ทรงสูงใช้โทนสีธีมเดียวกันกับโซน Dining Area
เมนูอาหารของ อิสเลโร่ (Islero) จะคงรสชาติอาหารสเปนสไตล์โมเดิร์นที่เน้นรสชาติแบบดั้งเดิม แต่มอบประสบการณ์ใหม่แก่นักชิมด้วยเทคนิคการทำอาหารแบบโมเดิร์น และการจัดวางองค์ประกอบบนจานอย่างมีศิลปะ รังสรรค์โดย หัวหน้าเชฟเปโดร (Head Chef Pedro) และเชฟชื่อดังระดับโลกเชฟเอ็ดดวร์ด (Chef Eduard Bosch) ทั้งสองมีประสบการณ์ทำงานในร้านมิชลินสตาร์มาแล้วหลายแห่งแม้กระทั่งร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์สามดาว
เริ่มด้วยเมนูทาปาสที่เป็นเอกลักษณ์ของสเปนก่อน Mixed Iberico Cold Cuts ที่รวมแฮมชั้นเลิศจากสเปนไว้ด้วยกัน อาทิเช่น Jamon Iberico, Jamon Serrano, Chorizo, Prosciutto แต่ละอย่างจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สาวกที่หลงใหลแฮมจึงไม่ควรพลาดครับ
Spanish Pure Iberico on Bread with Tomato Catalan Style ใช้แฮมที่ทำจากหมูขาดำ ซึ่งถือว่าเป็นแฮมคุณภาพที่ดีที่สุดวางบนขนมปังที่หั่นเป็นแผ่นกรอบนอกแต่นุ่มในราดด้วยซอสมะเขือเทศสไตล์สเปน ทานแล้วเพลินดี
Idiazabal Cheese Cream with Olive Oil (220++ บาท) รูปลักษณ์สะดุดตาน่าลิ้มลอง เป็นชีสครีมทำเป็นก้อนสีเหลี่ยมไม่แข็ง ไม่เหลว นิ่มพอดีทานกับขนมปังสไลด์เป็นแผ่นบางมากๆขนาดมิลลิเมตร ทั้งบางทั้งกรอบอย่างหน้าทึ่ง เพราะใช้เครื่องสไลด์พิเศษ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน 4 แผ่น ถ้าขนมปังไม่พอสามารถสั่งเพิ่มได้ราคา 50++ บาท จานนี้สามารถทานคู่กับไวน์แดงหรือไวน์ขาวก็ได้ครับ
“Rostit Catala” Cannelloni เป็นเครปบางๆเหนียว นุ่มสีขาวห่อเหมือนก๋วยเตี๋ยวหลอด ไส้ข้างในเป็นเนื้อหมูและเนื้อวัวที่นำไปปรุงอย่างช้าๆจนมีรสชาติที่เข้มข้นแต่นุ่มลิ้น เพิ่มรสชาติด้วยชีสสเปนและซอส Demi-glace ที่ทำจากน้ำสต๊อกเนื้อวัวเคี่ยวจนรสชาติเข้มข้นพร้อมด้วยกลิ่นหอมของเห็ดทรัฟเฟิลดำ เป็นอีกจานหนึ่งที่ห้ามพลาดครับ
Grilled Octopus หนวดปลาหมึกยักษ์นำเข้าจากสเปนเหนียว นุ่ม หั่นขนาดพอดีคำในน้ำสตูว์แบบ Castilian เวลาทานต้องทานพร้อมกับเม็ดถั่ว Giant Bean ไซด์ใหญ่และนุ่มเข้ากันได้ดี ในขณะที่ Spanish lardo เป็นมันชิ้นบางๆเพิ่มรสชาติให้กับน้ำสตูว์ เป็นอีกหนึ่งจานที่เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
ต่อมาเป็น Main Course คือ Red Snapper Fillet Cooked in Sea Salt Bed with Vegetable จานนี้สามารถใช้ได้ทั้งปลา Red Snapper / Sea Bass แต่ในรูปใช้ปลากระพงแดง (Red Snapper) ราดด้วยน้ำมันมะกอกทานคู่กับมะเขือเทศ มันฝรั่งสไลด์และหอมเจียวกลิ่นโดดเด่น ชูโรงมาก รสชาติอร่อย มันดีครับ
Suckling Pig “Segovia” Style (3990++ บาท) เป็น Signature Dish ของร้าน สามารถพูดได้ว่าถ้าไม่ได้ทานเมนูนี้เหมือนมาไม่ถึงอิสเลโร่เลยทีเดียว ทางร้านเลือกใช้ลูกหมูที่นำเข้าจากสเปนจะแตกต่างของบ้านเราตรงที่ลูกหมูที่นั่นจะเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ให้กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างธัญพืชทำให้ไม่มีกลิ่นสาบและชั้นไขมันน้อย เลือกใช้ลูกหมูอายุประมาณ 2 – 3 เดือน น้ำหนักตัว 3 กก. นำไปย่างในเตา Josper ที่นำเข้าจากสเปนที่มีเทคโนโลยีย่างเนื้อต่างๆให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสชั้นเลิศ ทำให้หนังกรอบแต่เนื้อนุ่ม จนสามารถใช้จานสับหมูทั้งตัวเป็นชิ้นได้ เวลาทานจะราดด้วยน้ำซอสที่ได้จากการย่างตัวหมู เวลาเสิร์ฟจะมาเป็นครึ่งตัว ทานคู่กับไวน์แดงแล้วเยี่ยมเลยครับ
Desserts
ขนมหวานทานร้านราคาจะเริ่มต้นที่ 180 บาท – 250 บาท++ ของหวานแนะนำของทางร้านมี 3 เมนูคือ
Tocinillo de Cielo ขนมหวานก้อนลูกบาศก์สีส้มหอมหวานละมุนทำจากไข่แดง กลิ่นคล้ายทองหยิบขนมไทยบ้านเราตัดรสอย่างลงตัวด้วยหยดเยลลี่ที่ทำจากบลูเบอร์รี่และเชอร์รี่รสเปรี้ยวอมหวานแตกในปาก ทานคู่กับวิปครีมนุ่ม ละมุนลิ้น
Torrijas เป็นขนมหวานที่ทานในช่วง Holy Week ของสเปน เป็นขนมปังก้อนสี่เหลี่ยนผืนผ้าที่ซึมซับรสชาติของนมอย่างชุ่มฉ่ำ นำมาทอดบนกระทะจนกรอบนอก นุ่มใน คล้ายๆกับ Honey toast พร้อมโรยผงอบเชยเพิ่มกลิ่นหอม หวาน เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมเสาวรสออกเปรี้ยวนิดๆทานตัดหวานกับขนมปัง เข้ากันดีครับ
Fresh Cheese Pudding ขนมหวานเสิร์ฟในโถแยมใสโชว์ชั้นเนื้อขนมหวาน ด้านบนเป็นมะม่วงตามด้วยชั้นคาราเมล ส่วนด้านล่างเป็นชีสครีมคล้ายชีสเค้กแต่ตีให้เนียนละเอียด เวลาทานต้องตักให้ได้ครบทุกส่วนเพื่อลิ้มรสของความหวาน มัน นุ่มละมุน หอมหวานมะม่วงและละมุนไปกับเนื้อครีมชีสที่เนียนละเอีดรสมันละมุน
ร้านอิสเลโร (Islero) ตั้งอยู่บนชั้น G อาคาร Athenee Tower หลังโรงแรม Plaza Athenee Bangkok ซึ่งเชื่อมต่อกันตรงบริเวณ Lobby บนถนนวิทยุ เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 – 24.00 (Last Order 23.00) โทร. 02-168-8100
การเดินทางสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเพลินจิตและเดินต่อมาประมาณ 500 เมตร ไม่ไกลนัก เข้าจากทางด้านหน้าโรงแรม Plaza Athenee Bangkok
ซึ่งหากนำรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถจอดได้ที่อาคารจอดรถของ Athenee Tower เมื่อประทับบัตรจอดรถแล้วจะสามารถจอดได้ 3 ชั่วโมง เกินกว่านั้นจะคิดค่าบริการรับฝากรถ ชั่วโมงละ 100 บาท โดยไม่สามารถนำไปประทับตราได้กับทางโรงแรม Plaza Athenee Bangkok หากไป อาจเจอพนักงานเคาเตอร์ทางโรงแรมบางคน ปฎิเสธตามกฎแต่แสดงอาการไม่เป็นมิตร
4/5 Stars Islero $$$$$ ประเภทคะแนนเต็มคะแนนที่ได้
1. อาหาร40/36
รสชาติ กลิ่น สัมผัส20/18
วัตถุดิบ10/9
การจัดวางตกแต่ง5/5
เครื่องดื่ม5/4
2. บรรยากาศ20/17
บรรยากาศภายนอก5/4
บรรยกาศภายใน – แสง สี กลิ่น10/8.5
บรรยกาศภายใน – วัสดุ โต๊ะ ช้อน5/4.5
3. การบริการ20/18
การเข้าถึง ที่จอดรถ ขนส่งมวลชน5/4
ความสะอาด10/10
ความสุภาพและการดูแลแนะนำ5/4
4. ราคาและความคุ้มค่า20/18
รวม100/89
เรื่อง/ภาพ : Chetrat M., Kittin A.
——————————————————————————————————————————————