กว่า 10 ปีที่ Siam Kempinski สร้างความประทับใจ รอยยิ้ม และช่วงเวลาสุดพิเศษให้ใครหลายคนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารรสเลิศ บริการที่ดีเยี่ยม สถานที่สถาปัตยกรรมที่โอ่อ่างดงาม ความเฉพาะตัวที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แบรนด์โรงแรมเยอรมันนี ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นเลิศแห่งคุณภาพ
เลดี้ อิน เรด (Lady in Red) ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) ของเครือของกลุ่มธุรกิจโรงแรมในเครือเคมปินสกี้ (Kempinski) จึงถูกหยิบยกมาเป็นสัญลักษณ์สำหรับการร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี
โดยมีอัตลักษณ์อันโดดเด่น เป็นตัวแทนสื่อถึงความเอาใจใส่ การบริการที่เป็นเลิศและความประณีต ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ภายใต้เครื่องแบบสีแดงอันโดดเด่น เลดี้ อิน เรด ให้การบริการที่ดีเยี่ยมสไตล์ยุโรปผสมผสานการต้อนรับอันอบอุ่นแบบไทย สร้างความสุขและความประทับใจให้กับแขกผู้รับการบริการอย่างคาดไม่ถึง
ชุดน้ำชายามบ่ายฉลองครบรอบ 10 ปี เลดี้ อิน เรด ณ หนุมาน บาร์
เนื่องในโอกาส เลดี้ อิน เรด ครบรอบ 10 ปี จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่หัวหน้าพ่อครัวเบเกอรี เชฟแฟรงค์ อิสเทล (Franck Istel) ได้รังสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสีแดงของ เลดี้ อิน เรด เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านดื่มด่ำพร้อมอิ่มอร่อย ชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษ 10 ปี เลดี้ อิน เรด (10 years Lady in Red edition) ประกอบไปด้วยขนมเลิศรสมากมาย เริ่มต้นด้วยเมนูของว่าง เช่น สลัดไข่เสิร์ฟบนขนมปังบริยอช แซลมอนทาร์ทาร์พร้อมขนมปังพัมเพอร์นิกเกิล แซนด์วิชไก่รมควันถั่วพิสตาชิโอครีมชีส มินิทาร์ตล็อบสเตอร์ เมนูของหวานแนะนำ เช่น
เลดี้ อิน เรด มาการอง ทาร์ตราสเบอร์รีมาร์ชเมลโล่ มินิไวท์ช็อกโกแลตและซอสสตรอว์เบอร์รี เค้กโอเปร่ากาแฟผสมช็อกโกแลตเข้มข้น 70% เค้กชาเขียวมัทฉะสอดไส้ครีมเชอร์รี่และเมนูซิกเนเจอร์ที่ขาดไม่ได้ภายในชุดน้ำชายามบ่ายนั่นก็คือสโคนสูตรเฉพาะของหนุมาน บาร์ เสิร์ฟให้รับประทานทั้งแบบดั้งเดิมและผสมลูกเกดอบร้อน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเสิร์ฟคู่กับตัวเลือกระหว่างชาคุณภาพเยี่ยมจากประเทศเยอรมันนี รอนเนอเฟลด์ (Ronnefeldt) หรือกาแฟคั่วบดพรีเมี่ยมกลิ่นหอมกรุ่น ลาวาซซา (Lavazza) จากประเทศอิตาลี
สำหรับใครที่ยังสงสัยใน Lady in Red ผมจะขอเสริมรายละเอียดเพิ่มให้อีกนิดครับ Lady in Red (เลดี้ อิน เรด) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) ภายใต้เครื่องแบบสีแดงซึ่งรูปแบบจะแตกต่างไปตามเอกลักษณ์ที่สะท้อนออกมาจากวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ณ โรงแรมภายในเครือเคมปินสกี้ทั่วโลก เลดี้ อิน เรด เปรียบเสมือนตัวแทนที่สื่อความเป็นเคมปินสกี้ได้ดีที่สุดในแง่ของการให้บริการต้อนรับแขกที่มาใช้บริการ คอยช่วยอำนวยความสะดวก แนะนำและให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือกิจกรรมท้องถิ่นต่างๆ เพื่อให้แขกมั่นใจได้ว่าเมื่อมาใช้บริการจะได้รับทั้งประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นที่น่าจดจำในทุกๆครั้งที่มารับบริการ ณ โรงแรมในเครือเคมปินสกี้
ชาที่แนะนำ
สำหรับที่ Siam kempinski นั้นเป็นแบรนด์สุดหรูจากเยอรมัน ชาที่ใช้จึงเป็นชาชั้นเลิศจากเยอรมันที่ผ่านกรรมวิธีสุดพิถีพิถันนั้นคือ Ronnefeldt
ส่วนชา Ronnefeldt ที่เราจะดื่มคู่กับขนมในวันนี้ สามารถเลือกได้ตามใจชอบจากที่มีในเมนูประมาณ 24 ชนิด ส่วนผมและเพื่อนได้เลือกตัวนิยมที่ผมและเพื่อนเคยดื่มและชอบมาก เป็นชาดำแต่งกลิ่น Schoko & Creme ที่หอมช็อกโกแลตผสมครีมอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยส่วนผสมหลักๆ 3 ชนิด วนิลา ครีม และไอริชครีม ซึ่งเราจะไม่ค่อยได้เจอชาที่ให้รสคล้ายช็อกโกแลตซักเท่าไหร่ แต่เราสามารถหาได้ที่นี่ครับ
ชาเขียวรสหอมหวานที่สร้างขึ้นเพื่อที่นี่และมีเพียงที่นี่ก็เป็นอีกตัวที่ผมแนะนำมากครับ Siam เป็นชาที่ให้รสหอมหวานจากผลไม้สุกและดอกไม้
นอกจากนี้ยังมีชาสุดแสนพิเศษ ทำอย่างปราณีตอีกมากมายกว่า 50 รายการจาก Ronnefeldt ให้คุณเลือก อาทิ
ชา White Yunnan (White Tea) – The leaf buds with their silvery shine unfold a full-bodied aroma with a soft, fruity note and rich florality. หรือที่เรียกได้ว่าหอมสดชื่นแบบดอกไม้นั่นเอง
ชา Morgentau (Sencha Tea) – Flavored green tea with mango-lemon flavor ที่ในภาษาเยอรมันแปลว่าน้ำค้างยามเช้า
ชา Splendid Earl Grey (Black Tea) – เป็นชาเอิร์ลเกรย์ที่จะหอมกว่าปกติด้วยความเข้มข้นของใบ Bergamot ที่มากขึ้น
Scone
สโคนของที่นี่ที่จัดได้ว่าเด็ดที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯก็ว่าได้ น่าตื่นตามิรู้ลืมตามชื่อและแนวคิด
เนื้อสโคนของที่นี่จะไม่ร่วน เนื้อขนมเกาะเป็นก้อน หอมมันจากเนยคุณภาพสูงจากฝรั่งเศส ให้ความรู้สึกกึ่งขนมปังกึ่งเค้กได้ดีทีเดียว พอทานคู่กับ คล็อตเตดครีมและแยม หรือ จะเป็นเลมอนเคิร์ดก็เข้ากัน ส่วนตัวชอบเคิร์ดเสาวรสของที่นี่ ด้วยเนื้อสัมผัสเนื้อครีมที่นุ่มเบา หอมกลิ่นเสาวรส รสเปรี้ยวหวานเหมาะแก่เมืองร้อนยิ่งนัก
Cheese Scone
สำหรับสโคนนี้มีความแปลกกว่าที่ไหน ตัวเนื้อสโคนมาจากสโคนธรรมดาแต่ท๊อปด้วยเชด้าชีสที่ให้รสมันเค็ม เสริมเพิ่มความอร่อยด้วยเบคอน ส่วนประกอบที่เติมเต็มความอร่อยได้อย่างดีเยี่ยม
Plain Scones
Raisin Scones
served with Raspberry Jam, Passion Fruit Curd and Clotted Cream
Savoury
เมนูเต็มไปด้วยวัตถุดิบพรีเมี่ยมที่เป็นของโปรดของหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นแซลมอน ล็อบสเตอร์ คาร์เวียร์ จะน่าสนใจขนาดไหนไปดูกันเลยครับ
Egg Salad, Quail Egg and Chervil on Soft Brioche Bread
ชิ้นนี้จะรสเบาที่สุดในบรรดาของคาว ตัวฐานเป็นขนมปัง Soft Brioche แป้งนุ่ม ชิ้นพอดีคำ ไส้เป็นสลัดไข่รสเบาๆมันๆ ท๊อปด้วยไข่นกกระทาผ่าครึ่งท๊อปบนสุดคือคาร์เวียร์ที่ให้รสเค็มๆ
Salmon Tartar on Pumpernickel Bread Sour Cream and Salmon Roe
สำหรับชิ้นนี้ฐานเป็นขนมปังเปรี้ยว หรือ Sourdough Bread เป็นขนมปังที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยยีสต์ทำให้ฟู และได้รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ เป็นขนมปังเก่าแก่ที่มีกำเนิดมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณช่วงประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล อ่านเพิ่มเติม(ตำนานขนมปังเปรี้ยว Sourdough)>> มีไส้เป็นแซลมอนสดที่ให้รสมันหวานเค็มจากแซลมอนออกมาได้ดี ท๊อปด้วยครีมฟักทองและไข่ปลาแซลมอนซึ่งให้ทั้งสัมผัสที่แสนสนุกและรสมันเค็มที่แสนเฉพาะตัว ช่วยเรียกน้ำย่อยทำให้น้ำลายสอได้อย่างดี
Herbed Cream Cheese and Cucumber on Crispy Oats Bread
คำนี้ไม่มีเนื้อ แต่อย่าพึ่งคิดว่ามันจะน่าเบื่อและจืดชืด คำนี้เป็นอีกคำที่อร่อยมาก ตัวฐานเป็นขนมปังข้าวโอ๊ตกรุบกริบ มันเค็มด้วยครีมชีส ความสดๆเฟรชๆเขียวๆจากแตงกวา
Smoked Chicken, Pistachio, Cream Cheese Finger Sandwich Baked Bacon
แม้แซนวิชจะดูธรรมดาแต่ไม่ใช่คำนี้แน่นอน ด้วยส่วนประกอบที่นำเอาพิสตาชิโอ้กรุบกรอบมาบดให้รสหอมมันที่มีเอกลักษ์เฉพาะตัว อีกทั้งสัมผัสที่กรุบๆ รสหวานฉ่ำๆจากลูกฟิกและผลไม้แห้ง ผสานรสทั้งหมดด้วยครีมชีส
Lobster Cocktail Mini Tart
ปิดท้ายตัวของคาวด้วยทาร์ต Lobster ที่แม้จะจิ๋วแต่แจ๋ว เนื้อล็อปสเตอร์สับละเอียดปรุงรสจัดแต่ลงในทาร์ตแป้งกรุบกรอบท๊อปหน้าด้วยคาร์เวียร์รสเค็มๆ
Sweet
ของหวานชุดนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน ช็อคโกแลต ทั้งหมดใช้ช็อคโกแลตชั้นเลิศของ Valrhona (เวโรน่า) จากฝรั่งเศส
Lady in Red Macaron
Raspberry and Marshmallow Tartlet
Mini Pot of White Chocolate, Strawberry Salad
Matcha Green Tea Cherry Mini Club
Opera Slice Cake, Coffee Cream 70% Chocolate
Ganache Passion Fruit MousseWild Strawberries Mini Cube
ข้อมูลสำคัญ
ชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษ 10 ปี เลดี้ อิน เรด มีให้บริการทุกวันตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 31 มกราคม 2563 เวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ราคาเซ็ตละ 1,010 บาท++ สำหรับหนึ่งท่าน รวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟ ณ หนุมาน บาร์ พร้อมรับของขวัญชิ้นพิเศษตุ๊กตาหมีเลดี้ อิน เรด เซตละหนึ่งตัวเพื่อเป็นของที่ระลึก
*ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อเซ็ต ยังไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรืออีเมล์ [email protected]
Story / Photo : Pol. Capt. Kittin A.
afternoon tea, lady in red, siam kempinski, hanuman bar, review, รีวิว
Kin Review
Kinlakestars
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว