ตั้งแต่ 5 ตุลาคมถึง 30 ธันวาคมนี้ ที่ห้องอาหาร Scalini ชั้นสอง โรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok (ลงจาก BTS พร้อมพงษ์) ได้จัดโปรโมชันพิเศษสุด Light my Fire ที่นอกจากจะได้พบกับเมนูใหม่ของเชฟ Roberto Pinna ผู้ผ่านประสบการณ์ร้านระดับมิชชิลสตาร์มาแล้ว ยังมีการนำวัตถุดิบชั้นดี มาปรุงพร้อมเสริฟอย่างใกล้ชิด ถึงข้างโต๊ะเลยครับ
เชฟโรแบร์โต อายุ 29 ปี เคยเป็นเชฟประจำห้องอาหารทั้ง 2 ห้อง ของโรงแรม แชงกรีล่า ทันจัง ซาปา ที่มาเลเซีย และยังเคยเป็นเชฟประจำห้องอาหารอิตาเลียนที่ดังระดับโลกอย่าง โรงแรมโรสวู๊ด หาดจัมบี้ ที่แคริเบียน แอนติกา ก่อนที่จะมาเป็นเชฟประจำห้องอาหารสกาลินี
เชฟโรแบร์โต ได้นำเอาความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงไปในเมนูใหม่ของสกาลินี อย่าง ‘Light my Fire’ โปรโมชั่น ที่นำเอาไฟ ควัน และน้ำแข็งมาเป็นส่วนผสมผสานในการปรุงอาหารอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเป็นการปรุงอาหารแบบใกล้ชิดติดขอบโต๊ะและเสริฟแบบทันที
นอกจากนี้เชฟยังได้รังสรรเมนูประจำห้องอาหารสกาลินีขึ้นมาใหม่ อย่างออสตริค อิ แองกูเรีย
หอยนางรม ฟินส ดิ แคลร ครีมมอสซาเรลลา ซารดิเนียโบตากาและแตงโม ซึ่งเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำให้เราสดชื่น และ สกาลินีตอรเตลี่ พาสตาตอรเตลี่สอดไสปลามั้งฟิช ซอสไซตรัส ไขปลาดองสไตลซารดิเนียนใบมิ้นทและซอสซัลซาบร็อคโคลี่
ในส่วนของอาหารจานหลักแนะนำเช่น แกมวัวตุ๋น กัวอันเชีย บราซาตา หัวหอมอบ เบบี้แครอทเผ็ด มะเขือมวงและซอสโรสแมรี่ และยังมีเมนูที่คนชื่นชอบของหวานพลาดไม่ได้อย่าง บราวนี่อุนๆ ผสมผสานกับช็อคโกแลตมูสสไตลฝรั่งเศส เสิรฟพรอมไอศกรีมเหลาแซมบูคา เป็นต้น
“พวกเราเชื่อว่าความสามารถและประสบการณ์ทางด้านการรังสรรอาหารอิตาเลียนของเชฟโรแบร์โต จะเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของคนรักอาหารอิตาเลียนที่มาเยี่ยมเยียนสกาลินีของเรา” มร เอียน แบร์โรว์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรงฮิลตัน สุขมวิท กรุงเทพฯ กล่าว
ในส่วนของเมนูที่ได้มีโอกาสชิมวันนี้ เริ่มจาก Pass around canapes
เริ่มจาก Fire flamed foie gras & fig jam
ที่เป็นอาหารที่เชฟ สาธิตการปรุงโดยใช้ไฟ ย่างฟัวการส์ ชิ้นใหญ่พิเศษ ทานคู่กับ แยมฟิก และขนมปัง ตัวฟัวการส์มีกลิ่นหอมของไฟ ความเกรียม กัดเข้าไปนุ่มแน่น เข้ากับแยมฟิกรสชาติอ่อนๆ กับขนมปังกรอบ เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยได้ดีมากครับ
ถัดมาเป็น Salmon carpaccio & frozen orange
เป็นจานที่เน้นให้ความสดชื่น โดยรสส้ม กับแซลมอนแร่บางๆ รสชาติอ่อนๆ
Beef tartar & mustard greens เป็นเนื้อปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคลำ กับซอสทาทาร์รสชาติกำลังดี
ขนมปังแสนอร่อย
ถัดมาที่ Starter เป็น Marinated watermelons Italian Burrata cheese oysters, asparagus salad
สำหรับผมจานนี้ทำได้ดีมาก แปลกใหม่ ไม่เหมือนที่ไหน มีการใช้แตงโมในสลัด แบบอิตาเลียน ให้ความหอม หวาน สดชื่น เข้ากันได้ดีกับทั้งชีส ตัวหอยออยส์เตอร์ ที่มีความหวานรสชาติเข้มข้น เข้ากับสลัดหน่อไม้ฝรั่ง อร่อยมากครับจานนี้
Middle course เป็น Monkfish tortelli, citrus sauce, Sardinion bottarga fresh mint & broccoli salsa
เป็น จานพาสต้าที่ข้างใน สอดไส้ชีส รสชาติเข้มข้น ตัดกับซอสปลารสชาติบางๆ สดชื่นด้วยน้ำส้มไซตรัส อร่อยเบาๆ สบายท้อง เพื่อเตรียมพร้อมสู้ จานหลัก
Main course เป็น Slow cooked beef cheek & roasted onions spicy baby carrot eggplant puree & rosemary sauce
เป็นการนำ เนื้อแก้มวัวมาทำการ slow cook ปรุงให้สุกอย่างช้าๆจนได้เนื้อสุดนุ่ม รสหวานจากหอมที่ย่างจนความหวานออกมาอย่างหวานฉ่ำ เบ่งบานประดุจการบานของดอกกุหลาบในฤดูร้อนที่เมืองนิช และรสหวานจากแครอทกับสัมผัสที่นุ่มกำลังดี ทานคู่กับซอสโรสแมรี่ที่ยังมีเทคเจอร์นิดๆ ซึ่งเป็นการทำซอสให้เป็นพิวเร่ย์แบบฝรั่งเศส จานนี้รสชาติได้มาตรฐานดีครับ
ปิดท้ายด้วยของหวานด้วย Warm brownie, Valhana chocolate mousse, Sambuca ice cream
เป็นบราวนี่ สุดเข้มข้น หอมหวานมาก ทานคู่กับ ไอศครีมที่ทำจากเหล้าแซมบูกา ซึ่งเจ้าเหล้านี้มันมีกลิ่นที่เฉพาะตัวเสียมากๆ กลิ่นที่โดดเด่นออกมามากที่สุดทั้นก็คือ โป๊ยกั้ก หรือ จันทน์แปดกลีบ และ Cardamon หรือลูกกระหว่านนั้นเอง เจ้าลูกนี้เราก็มักจะคุ้นชิ้นเพราะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องใส่ลงไปใส่ลงไปในพะโล้ ที่เป็นคล้ายๆไวน์กลิ่นสมุนไพร เป็นเหล้า ลิเคอ หรือ เหล้าหวาน ของ อิตาลี่ มีเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ประมาณ 35-42 ดีกรี รสจะหวานๆ เข้ากันได้ดีรสชาติแปลกใหม่ครับ
สุดท้ายจริงๆของมื้อนี้ ปิดท้ายด้วย เหล้าแซมบูกา 1 ชอร์ต
ซึ่งเจ้าเหล้านี้มันมีกลิ่นที่เฉพาะตัวเสียมากๆ กลิ่นที่โดดเด่นออกมามากที่สุดทั้นก็คือ โป๊ยกั้ก หรือ จันทน์แปดกลีบ และ Cardamon หรือลูกกระหว่านนั้นเอง เจ้าลูกนี้เราก็มักจะคุ้นชิ้นเพราะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องใส่ลงไปใส่ลงไปในพะโล้ ที่เป็นคล้ายๆไวน์กลิ่นสมุนไพร เป็นเหล้า ลิเคอ หรือ เหล้าหวาน ของ อิตาลี่ มีเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ประมาณ 35-42 ดีกรี รสจะหวานๆ
ติดต่อ
ลูกค้าสามารถชิมเมนูใหม่ รวมไปถึงโปรโมชั่น ‘Light my Fire’ ได้ที่ห้องอาหารสกาลินี ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.30 น.
ห้องอาหารสกาลินี ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 24 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองโต๊ะได้ที่ 02 620 6666 หรืออีเมล [email protected]
เรื่อง Sorawich W.
ภาพ : Pol.Cap. Kittin A.
Scalini, hilton, Italian cuisine, fine dining, review, พร้อมพง
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว