Tea : Mariage Frères Date : Nov 2020
Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A.
วันนี้ KINLAKESTARS.COM จะขอเชิญทุกท่านไปจิบน้ำชายามบ่ายที่ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ อีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าจะไปเยี่ยมเยือนเมื่อใด ก็ยังคงตื่นตาตื่นใจกับจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมอันแสนวิจิตรงดงามที่ศิลปินได้บรรจงสรรสร้างขึ้นมาทุกครั้ง
ปกติแล้ว อาฟเตอร์นูนที ที่ เดอะ ล็อบบี้ ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเมนูขนมคาวหวานไปตามช่วงเวลาหรือเทศกาลพิเศษอยู่เสมอ ๆ ซึ่งในช่วงเวลานี้จะอยู่ในธีม Chocolate Temptation Afternoon Tea เอาใจสายช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ ให้ได้ลิ้มรสช็อคโกแลตเกรดพรีเมี่ยมกันอย่างเต็มที่ โดยเมื่อก้าวเข้าไปภายในบริเวณร้านก็จะพบกับ chocolate fondue fountain ตั้งอยู่ด้านหน้าอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
คอยให้ทุกท่านได้มาสนุกสนานเพลิดเพลินกับการดิปช็อคโกแลต ถัดไปเป็นส่วนของขนม ก็จะมีไลน์ที่เป็นช็อคโกแลตล้วน ๆ ทั้งแบบบาร์แบบแผ่น ทั้งไวท์ช็อค ดาร์คช็อค ก็มีหมด และขนมอื่น ๆ ก็มีส่วนที่ใช้ช็อคโกแลตเป็นส่วนประกอบตามธีมอีกด้วย ซึ่งจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป เชื่อว่าคงถูกใจคนรักช็อคโกแลตอย่างแน่นอน
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของอาฟเตอร์นูนที ที่ เดอะ ล็อบบี้ ก็คือเมนูเครื่องดื่มประเภทชา ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นชา Mariage Frères ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชาอันดับ 1 ของโลก โดยจากเดิมที่มีมากถึง 12 กลิ่น ซึ่งจะมี special blend ที่มีเสิร์ฟเฉพาะที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ก็คือ ELÉPHANT BLANC, LUNE ROUGE และ TEMPLE DE L’AUBE ตามที่ทางเพจได้เคยรีวิวมาแล้ว (สามารถย้อนไปอ่านรายละเอียดการรีวิวครั้งก่อนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kinlakestars.com/afternoon-tea-lobby-anantara-siam-review-416/)
ซึ่งนับว่าสเปเชี่ยลมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้มีความพิเศษมากขึ้นไปอีก เนื่องจาก Mariage Frères ได้นำชาน้ำเงิน (Blue tea) หรือที่หลายท่านเคยได้ยินกันมาในชื่อ อู่หลง ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้มีแต่ประเทศจีนเท่านั้นที่ผลิตได้ โดยชาน้ำเงินเป็นชาที่บ่มแบบ partially oxidized สีและรสชองน้ำชาจะเข้มกว่าชาเขียว แต่ไม่เข้มเท่าชาดำ โดย Mariage Frères ได้นำชาน้ำเงินมาเบลนด์เข้ากับส่วนผสมที่หลากหลายเพื่อให้ได้รับรสชาติและมิติที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น
จึงเกิดเป็น 2 เบลนด์พิเศษ คือ MARCO POLO BLUE เป็นการพัฒนามาจาก MARCO POLO ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากนักเดินทางชาวตะวันตกผู้หลงใหลในโลกตะวันออกและเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม โดยดั้งเดิม MARCO POLO จะใช้ชาดำ ผสมกับผลไม้และดอกไม้จากจีนและธิเบต แต่สำหรับMARCO POLO BLUE นี้ ได้เปลี่ยนมาใช้ชาน้ำเงินแทน จึงทำให้ชามีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น เมื่อผสมกับกลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้อ่อน ๆ แล้ว ทำให้ชามีความมีความหอมละมุนที่ลงตัวมาก ๆ
อีกหนึ่งเบลนด์พิเศษคือ OPÉRA BLUE เป็นการพัฒนามาจาก THÉ À L’OPÉRA ที่หมายถึง Tea at the Opera ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเสียงเพลงชั้นสูงของโอเปร่า โดยได้นำชาเขียวไปเบลนด์กับ RED BERRY และวานิลลา
แต่สำหรับ OPÉRA BLUE นี้ ได้เปลี่ยนมาใช้ชาน้ำเงิน จึงทำให้ชามีความเข้มขึ้นเล็กน้อย ได้มิติของความเป็นชามากขึ้น เมื่อมาผสมกับกลิ่นฟรุ๊ตตี้ของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีแดง และกลิ่นของวานิลลาบาง ๆ ในตอนท้าย เหมือนเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของเสียงร้องและดนตรีราวกับได้รับฟังเพลงโอเปร่าก้องกังวาลอยู่ภายใน
ในส่วนของขนมนั้น นอกจากช็อคโกแล็ตหลากหลายรูปแบบดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ยังมีขนมคาวหวานต่าง ๆ อีกมากมาย ได้แก่
- Scallop Tartare, Roasted Pumpkin, Brown Bread and Chocolate Zest
ทำจากหอยเชลล์สดนำเข้าจาก USA เสิร์ฟกับฟักทองย่าง บนขนมปังธัญพืช โรยด้วยเกล็ดช็อคโกแลตจากฝรั่งเศส
- Chocolate Chicken Liver Mousse and Zucchini Tartlets
ตับไก่บดผสมกับช็อคโกแลตจากฝรั่งเศส ตกแต่งด้วยแตงกวาซูชินีฝานบางๆ เสิร์ฟบนขนมปังทาร์ตอบกรอบ
- Chocolate Crepe Roll with Smoked Salmon Cream Cheese
เครปโรลช็อคโกแลต สอดไส้ข้างในด้วยแซลมอนรมควัน ท็อปด้านบนด้วยครีมชีส และไข่ปลาแซลมอน จัดไว้เป็นชิ้นทานได้พอดีคำ
- Ham & Green Pea Crust on Black Toast
ขนมปังชาร์โคลอบกรอบทาด้วยถั่วลันเตาบด และแฮมวางไว้ด้านบน
- Pickled Duck Focaccia
เนื้อเปิดสไลด์รมควันเสิร์ฟคู่กับผักดอง บนขนมปังฟอคคาเซีย ขนมปังสไตล์อิตาเลียนลักษณะคล้ายพิซซ่าแผ่นบาง
- Dulcey Chocolate Chai Panna cotta, vanilla crumble, poached pear
Panna cotta เป็นขนมหวานของชาวอิตาเลียน มีลักษณะคล้ายพุดดิ้ง โดยเชฟได้ใช้ Dulcey Chocolate สุดพรีเมี่ยมจากฝรั่งเศส ที่มีความหอมหวานละมุน ผสมผสานกับชาไชซึ่งมีส่วนประกอบของเครื่องเทศ ด้านบนโรยด้วยวานิลลาครัมเบิล กับลูกแพรชิ้นใหญ่อันแสนหอมหวาน
- Mango Strawberry White Chocolate Lune Rouge Tea Mousse Slice
ด้านในเป็นมูสที่ทำจากชา Lune Rouge ของ Mariage Frères กับแผ่นเยลลีมะม่วงและสตรอเบอร์รี่ด้านบน เคลือบด้วยช็อคโกแลตกับถั่วด้านข้างทำให้มีรูปทรงเป็นชิ้นพอดีคำและเพิ่มความกรุบกรอบ ท็อปด้านบนด้วยไวท์ช็อคโกแลต
- Darjeeling Tea Madeleines with Maple and Ginger Scented Mousse
ขนมเมดดาเลน ลักษณะคล้ายขนมไข่ของไทย แต่เนื้อแน่นเนียนกว่า เพิ่มกลิ่นหอมด้วย Darjeeling Tea ของ Mariage Frères ด้านบนมีเมเปิ้ลมูสและเพิ่มความสวยงามหรูหราด้วยแผ่นทองคำเปลว
- Caramelia Custard Earl Grey Profiteroles.
Profiteroles เป็นขนมฝรั่งเศสชนิดหนึ่งทำจากแป้งชู โดยเชฟได้นำชาเอิร์ลเกรย์มาเป็นส่วนผสม สอดไส้ด้วยคาราเมลคัสตาร์ด ผิวด้านนอกเคลือบด้วยเกล็ดอัลมอนด์เพิ่มเท็กซเจอร์ให้มีความกรอบนอกนุ่มใน
- Green Tea Opera with 70% Chocolate.
เค้กเนื้อนุ่มทำเป็นชั้นๆ แทรกด้วยครีมที่ทำจากชาเขียวโอเปร่า และช็อคโกแลตเข้มเข้น 70%
- Sour Cherry Tart, Lemon Verbena Tea Scented White Chocolate Curd
ทาร์ตเชอร์รี่กับไวท์ช็อคโกแลต แต่กลิ่นด้วยชาLemon Verbena ซึ่งเป็นชาสมุนไพรกลิ่นมะนาว มีสรรพคุณมากมาย ทั้งช่วยในเรื่องอาหารไม่ย่อย ปัญหาการนอนหลับ ฯลฯ รสชาติออกเปรี้ยวช่วยตัดความหวานได้ดี ทำให้รู้สึกสดชื่น
- Macaroon
มาการองรสต่าง ๆ เช่น ช็อคโกแลต, เลมอน, มะลิ
- Lemon Zest Scone and Raisin scone serve with Clotted Cream, Strawberry jam and Marmalade
สโคนกลิ่นเลมอน และสโคนลูกเกด เนื้อสโคนไม่นิ่มไม่แข็งกำลังดี กัดแล้วเนื้อไม่ร่วน เสิร์ฟคู่กับคลอตเต็ดครีม แยมสตรอเบอร์รี่ และแยมส้ม
สุดท้ายี้มีไอเทมลับที่สามารถรับได้ท่านละหนึ่งที่ นั้นก็คือ ซูเฟล่ (Souffle) กับซอสสตอเบอร์รี่
เชฟจะอบซูเฟล่คู่กับภาชนะที่เป็นเซรามิคเสมอ และในสมัยก่อนหาก ซูเฟล่ต้องขึ้นโต๊ะเสวย ก็จะถูกอบอยู่ในเครื่องดินเผาลายครามสุดหรู ซึ่งปัจจุบันร้านอาหาร Fine Dining ดังบางร้านก็จะพิถีพิถันกับการเลือกภาชนะด้วย เนื่องจากเซรามิคจะช่วยพาความร้อนเข้าไปถึงเนื้อขนมปังโดยไม่ทำให้ไหม้ และรักษารสชาติที่เติมแต่งลงไป ซูเฟล่ (Souffle) เป็นขนมเค้กชนิดหนึ่งที่ตีกับไข่ขาว และส่วนผสมอื่น ๆ ด้วยการอบให้ฟูในถ้วยเซรามิค คล้ายกับ แครมบรูว์เล แต่ใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อให้เกิดรสชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมุนไพร, ชีส, ผัก, รับประทานคู่กับแยมผลไม้ หรือ ช็อคโกแลต
แม้ว่าจะอบในเซรามิคเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่าง ซูเฟล์ และ เครมบรูว์เล ก็คือ ซูเฟล์จะมี เนยหรือชีส เป็นตัวชูโรงให้แป้งเค้กฟู แต่ในขณะเดียวกัน แครมบรูว์เล จะรักษาระดับไม่ให้แป้งเลยขอบภาชนะออกมา และมีคาราเมล เป็นส่วนประกอบให้รสหวานให้ได้รสกลิ่นน้ำตาลไหม้หอม ๆ มาเสริมรส บางร้านจะเสิร์ฟซูเฟล่ร่วมกับไอศกรีม รสวานิลลา, ช็อคโกแลต หรือ เชอร์เบทที่ออกเปรี้ยว ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้รับประทาน โดยไม่ได้มีรูปแบบกำหนด และมีการพัฒนาวิธีการอบซูเฟล่กับไส้ช็อคโกแลต โดยนำถ้วยเซรามิคออกขณะเสิร์ฟ เพื่อให้ผู้รับประทานได้เจาะไส้ช็อคโกแลตให้ไหลออกมาเป็นช็อคโกแลตลาวา และเสิร์ฟพร้อมวิปครีม
สำหรับ Chocolate Temptation Afternoon Tea แบบนี้ จะมีจนถึง 30 พฤศจิกายน 2563 นี้เท่านั้น โดยให้บริการทุกวัน เวลา 14.00-18.00 น. สำหรับวันจันทร์-ศุกร์ จะเป็นแบบเซ็ต ในราคา 850++ บาท ต่อเซ็ต ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ราคาเพียง 950++ บาท ต่อท่าน ถือว่าคุ้มค่ามาก อยากให้ทุกท่านได้มาลิ้มลองด้วยตัวเอง สำรองที่นั่ง โทร. 0-2126-8866 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: Anantara Siam Bangkok Hotel, IG: AnantaraSiamBangkok
anantara siam bangkok, lobby lounge, review, Afternoon tea, fine dining, review, รีวิว, Mariage Frères
Kinlakestars.com
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว