ในวันที่ 6 ถึง 11 พฤศจิกายน 2560 ณ ห้องอาหารโจโจ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โจโจ ณ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ พาทุกท่านเปิดประสบการณ์แห่งอรรถรสไปกับนานาเมนูอิตาเลียนรสเลิศ รังสรรค์โดยมิชลินสตาร์เชฟ มัสสิมิเลียโน มัสสะ (Massimiliano Mascia) จาก San Domenico ห้องอาหารเลื่องชื่อระดับมิชลิน 2 ดาว แห่งเมืองอิโมลา ประเทศอิตาลี อิ่มเอมไปกับ 5 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน และ 7 คอร์สเมนูมื้อค่ำที่น่าจดจำ พร้อมไวน์ชั้นเลิศบรรจงจับคู่กันให้อาหารแต่ละจานอร่อยล้ำยิ่งขึ้น ในวันที่ 6 ถึง 11 พฤศจิกายน 2560
มัสสิมิเลียโน เชฟผู้ที่หลงใหลในการปรุงอาหารผสานอาหารแบบอิตาเลียนดั้งเดิมกับเทคนิคการทำอาหารแบบส มัยใหม่ (next-generation Italian cuisine) เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในเรื่องความพิถีพิถันในการปรุงอาหารอย่างสร้างสรรค์
เพื่อรสชาติของอิตาเลียนแท้ในทุกๆ เมนู
“ความสดใหม่ของส่วนผสมและวัตถุดิบที่สลับสับเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาลนับเป็นหัวใจสำคัญต่อการพัฒนาเทคนิคต่างๆรวมถึงนวัตกรรมในการปรุงเพื่อให้อาหารทุกจานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น”
เชฟมัสสิมิเลียโน มัสสะ กล่าว
เรามาเริ่มดูในส่วนของอาหารกันเลยดีกว่าครับ สำหรับครั้งนี้จะเป็นเซ็ทมื้ออาหารกลางวัน พร้อมจับคู่กับไวน์ที่เหมาะกับอาหาร
เริ่มจากขนมปังสุดอร่อย
Marinated Amberjack with Yuzu, Small Vegetables, Spray of Gin & Tonic
ปลาสำลีน้ำลึกหมักกับส้มยูซุปรุงรสด้วยละอองของจินและโทนิค (Marinated amberjack with yuzu, baby vegetables and a spray of gin and tonic)
สำหรับในเมนูแรกนั้น รสชาติจะออกเบาๆมาก เน้นให้ได้รับรู้ถึงความสดของปลา มีรสเปรี้ยวเบาๆจากยูสุ และความเค็มจากเกลือที่โรย ผสานกับกลิ่นหอมเบาๆจากสเปร์ จินและโทนิคที่เชฟมาฉีดพ่นให้กันถึงที่โต๊ะ
กินคู่กับ Komaros Marche, IGT Marche Rosé 2015, Italy
Cornflake encrusted Shrimp, Mousseline, Balsamic Vinegar, Sweet and Sour Sauce
จานนี้รสจะหนักขึ้นกว่าจานที่แล้วแต่ก็ยังเบาๆ สัมผัสกรอบๆจากคอนเฟริคที่หุ้มกุ้งไว้ เป็นสัมผัสที่ดีเยี่ยมและน่าจดจำ ความมันนุ่มละมุนจาก mousseline รสเปรี้ยวจากบัลซามิค รวมๆกันทำให้จานนี้ออกมาดีมาก
กินคู่กับ Argiolas Iselis Bianco 2015, Italy
Fresh Handmade Ravioli with Ricotta, Spinach and Parmesan, White Truffle and Brown Butter
และจานนี้เป็นอีกจานที่มีก้มมิคเก๋ๆ เชฟเน้นว่าต้องรีบกินทันที หลายคนอาจคุ้นเคยกับซาลาเปาลาว่าแต่นี่คือลาวิโอรี่ลาว่าแสนอร่อยเลิศ ทำกันสดๆ ผ่าออกมาไข่แดงเยิ้มไหลเลยทีเดียว ความเค็มๆมันๆจากชีสพาเมซาน ผสานกับความมันนุ่มจากผักโขม และความหอมจากเห็ดทรัฟเฟิลดำ ลงตัวสุดๆเลยทีเดียวครับ
กินคู่กับ Laroche Mas La Chevaliere Pinot Noir 2015, France
Veal Sirloin with Black Truffle
สุดท้ายของของคาวก่อนจะไปของหวาน เราได้มาถึงจานหลักของมื้อกันแล้ว นั้นคือ เนื้อลูกวัวสันนอก เนื้อนุ่ม หวาน เสิร์ฟพร้อมเห็ดทรัฟเฟิลดำ และหน่อไม้ฝรั่งขนาดกำลังดี
กินคู่กับ Castello Banfi Rosso di Montalcino 2015, Italy
Infused Almond Cream with Rhubarb Crisp
กินคู่กับ Disaronno Originale, Amaretto Liqueur
สำหรับราคาเซ็ทมื้อเที่ยงที่รีวิวในคอลัมน์ไปนี้อยู่ที่ THB 3,800++ เพิ่มเติมหากต้องการไวน์จับคู่กับอาหารด้วยในราคา THB 2,500++
พบกับเมนูไฮไลต์ อาทิ ปลาสำลีน้ำลึกหมักกับส้มยูซุปรุงรสด้วยละอองของจินและโทนิค (Marinated amberjack with yuzu, baby vegetables and a spray of gin and tonic) หอยเชลล์ย่างกับซอสที่เข้มข้นปรุงจากหอยนางรมและมาร์ตินี่ เสิร์ฟพร้อมหอยตลับกับสมุนไพร (Scallops all plancha come with a reduction of oysters and dry martini, as well as clams with herbs) เนื้อลูกวัวสันนอกเสิร์ฟพร้อมเห็ดทรัฟเฟิลดำ
และปิดท้ายมื้ออาหารด้วยครีมอัลมอนด์กับรูห์บาร์บ (infused almond cream and rhubarb crisp) อีกทั้งเมนูอื่นๆให้คุณได้ลิ้มลอง สัมผัสประสบการณ์อาหารสุดพิเศษจากมิชลินสตาร์เชฟมัสสิมิเลียโน ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ณ
ห้องอาหารโจโจ ด้วยราคาพิเศษดังนี้
– 3,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 5 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน– 6,300 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 5 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน เสิร์ฟควบคู่กับไวน์
– 5,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 7 คอร์สเมนูมื้อค่ำ
– 8,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 7 คอร์สเมนูมื้อค่ำ เสิร์ฟควบคู่กับไวน์
ติดต่อ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ โทร 02-207- 7777 หรืออีเมล์
[email protected] เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ stregisbangkok.com
เกี่ยวกับเชฟมัสสิมิเลียโน มัสสะ
เส้นทางสายอาชีพของเชฟหนุ่มชาวอิตาเลียน มัสสิมิเลียโน มัสสะ เริ่มต้นขึ้นด้วยวัยเพียง 14 ปี จากการร่ำเรียนสาขาการโรงแรมควบคู่ไปกับการทำงานครัวที่เขาใฝ่ฝันในร้าน Vissani และ Romano di Viareggio ประเทศอิตาลี หลังจากจบการศึกษามัสสิมิเลียโนออกเดินทางไปยังมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฝึกฝนและพัฒนาฝีมือในร้านอาหารชื่อดังอย่าง Osteria Fiamma ก่อนย้ายไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรสชาติ วัตถุดิบ รวมถึงเทคนิคการปรุงอาหาร ณ ห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ในโรงแรม Bastide Saint Antoine จากนั้นจึงมีโอกาสร่วมงานกับ Alain Ducasse au Plaza Athenée ห้องอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปารีส
ซึ่งครอบครองรางวัลมิชลินสตาร์สามดาว และ ร้านอาหารติดอันดับโลก The World's 50 Best Restaurants 2017 อันดับที่ 13 ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมและพรสวรรค์ในการปรุงอาหารอิตาเลียนสไตล์ contemporary อันเป็นการผสานนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ใช้ในการปรุง วัตถุดิบที่ปรับเปลี่ยนไปทุกฤดูกาล และเสน่ห์ของรสชาติแบบต้นตำรับเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว มัสสิมิเลียโน เชฟหนุ่มวัย 33 ปี สานต่อธุรกิจร้านอาหารครอบครัวเชฟชื่อดังต่อจาก Natale และ Valentino ปลุกปั้นธุรกิจห้องอาหารอิตาเลียนในประเทศบ้านเกิดจนประสบความสำเร็จ ด้วยการคว้ารางวัลรางวัลมิชลิน 2 ดาวในที่สุด
เรื่อง /ภาพ : Pol.Cap. Kittin A.
Jojo, St. regis Bangkok, Massimiliano, San Domenico, Michelin Stars, Italian cuisine, fine dining
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว