ทำไมเราถึงต้องไปทานอาหารไทยในโรงแรม แล้วมันจะคุ้มหรอ? ต่างจากอาหารไทยทั่วๆไปอย่างไร? ในคอลัมน์นี้เรามีคำตอบค่ะ
คำถามที่ดิฉันสงสัย ก่อนที่จะได้ไปทดลองทานเมนูใหม่ของทางห้องอาหารศิลาดล โรงแรมสุโขทัย
แต่หลังจากที่ดิฉันได้ลองชิมเมนูใหม่ ทั้งหมด 9 เมนูแล้วนั้น ต้องบอกว่ามันคุ้มมากค่ะที่จะมาทาน แม้ว่าเราจะเป็นคนไทยที่หาซื้ออาหารไทย หรือไปทานตามห้างได้สบายๆ แต่มันไม่ใช่แค่รสชาติอาหารเท่านั้นที่ถูกปาก แต่การสร้างสรรค์นำวัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว บวกกับ การนำเสนอที่ละเอียดอ่อน ทำให้อาหารแต่ละจานที่ออกมานั้น มีค่ามากขึ้นทวีคูณ
ทุกท่านอาจจะคิดว่าดิฉันอวยเยอะไปรึเปล่า…งั้นเราจะพาไปชมกันค่ะว่า เมนูที่ดิฉันได้ลองชิมนั้น มันพิเศษอย่างไร
เมนูแรก ปลาแห้งแตงโม
เมนูนี้ เค้านำปลาน้ำดอกไม้ ของดีจังหวัดสมุทรสงคราม นำมาห่อสมุนไพรย่าง โรยด้วยหอมเจียวจากจังหวัดเชียงราย เสิร์ฟมาในแตงโมไร้เมล็ด จากฟาร์มออแกนิก ครอบมาในถ้วยแก้ว ที่ทำให้มีการรมควันของควันเทียนและดอกไม้ไทย เช่น ดอกพยอม กระดังงา แค่การนำเสนอก็น่าสนใจไม่น้อยแล้ว พอเราเปิดถ้วยแก้วออกมา ควันที่รมไว้ภายในจะหอมฟุ้งขึ้นมาเตะจมูก ที่ไม่ใช่แค่ความสวยในการนำเสนอ
ปลาแห้งแตงโม : เนื้อแตงโมมีความพิเศษ คือจะกรอบๆ หวานฉ่ำ เข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาแห้งและหอมเจียวที่โรยมา จนกระทั่งทานหมดแล้ว กลิ่นควันเทียนและดอกไม้ที่อยู่ในถ้วยแก้ว ยังคงหอมอบอวล ไม่น่าเชื่อว่าวิธีการนำเสนออาหารแบบรมควันมา จะทำให้เมนูนี้อร่อยขึ้นอย่างแตกต่างจากร้านอื่น
ไม่เชื่อท่านผู้อ่าน ลองไปตามร้านที่มีเมนูนี้ ปกติจะเสิร์ฟมาบนจานตกแต่งสวยงามธรรมดา ไม่ได้มีการอบรมควันอย่างที่นี่นะคะ เพราะฉะนั้นคุณผู้อ่านจะได้รับรสความอร่อย จากการทานอย่างเดียว ไม่ได้จากกลิ่นค่ะ
เมนูเรียกน้ำย่อยต่อมาคือ ข้าวเกรียบปากหม้อโบราณ
เนื้อปูม้าเป็นก้อนๆ จาก คลองวาน จังหวัดประจวบฯ คลุกมากับ เห็ดชิเมจิ และออรินจิ หั่นเต๋าเล็กๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสรสเปรี้ยวเค็ม ที่หมักมาจากน้ำตาลมะพร้าว ของจังหวัดสมุทรสงคราม นานถึง 6 เดือน จนได้เป็นน้ำส้มสายชู จานนี้จะมีรสเผ็ดเล็กๆ จากพริกสดที่หั่นบางๆ มาช่วยดึงความจัดจ้าน เห็ดที่หั่นเต๋า ทำให้มีลูกเล่นมากขึ้นเวลาที่เราทานคู่กับ ปูก้อน และตัวแป้ง
กินๆไปจะเห็นเลยค่ะว่าเนื้อปูเป็นก้อนๆใหญ่และแน่นมาก
จานต่อมา แสร้งว่าหอยเชลล์ญี่ปุ่นใบชะคราม
หอยเชลล์จากฮอกไกโด ที่ผ่านการซูวี (sous vide) ที่อุณหภูมิ 55 องศา นาน 30 นาที ส่งผลให้ด้านในเนื้อหอยเชลล์ยังมีความหนึบ และยังคงความหวานฉ่ำไว้ได้อย่างดี เสิร์ฟมาบน ใบชะครามน้ำกร่อย กรุบกรอบ ที่คลุกและราดมาด้วยน้ำยำรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบเครื่องตำรับไทย ด้านบนสุดโรยด้วยข่าอ่อนฝอย
ไม่ต้องห่วงว่ารสชาติจะอ่อนไป เอาไว้ให้ชาวต่างชาติทาน…คนไทยอย่างดิฉันทานมาแล้ว รู้สึกว่ารสชาติจัดจ้าน ครบรสมากค่ะ
เมนูถัดไป ต้มหน่อข่าอ่อนไก่บ้านในมะพร้าว แค่ชื่อก็ยาวแล้ว เอาง่ายๆคือ ต้มข่าไก่ ค่ะ
แน่นอน มีความพิเศษคือใช้ สะโพกไก่บ้านตะนาวศรี ของดีของท้องถิ่น ที่นำมาซูวี ที่อุณหภูมิ 63 องศา เป็นเวลานานถึง 2 ชั่วโมง ทำให้สะโพกไก่นุ่ม คงรสหวานธรรมชาติไว้ได้ เสิร์ฟมาในมะพร้าวพวงร้อย (เป็นพันธุ์มะพร้าวที่ทะลายนึงจะมีลูกมะพร้าว มากถึงประมาณ 100 ลูก) มะพร้าวพันธุ์นี้ เริ่มหายากแล้ว ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ น้ำจะหวานกว่าพันธุ์อื่นๆ
จานนี้เสิร์ฟมาแบบใช้น้ำสมุนไพรที่ใช้ทำต้มข่าไก่ ราดบนน้ำแข็งแห้ง (dry ice) ไม่เพียงแต่ สวยงามเท่านั้น เวลาที่ราดลงไปแล้ว กลิ่นหอมของสมุนไพรต้มข่า จะลอยมาพร้อมกับควัน ช่วยทำให้จานนี้ มีความน่าสนใจกว่าต้มข่าไก่ทั่วไปมาก
ต้มข่าไก่บ้านของที่นี่เด่นกว่าที่อื่นคือ มีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวานกลมกล่อม รสชาติไม่ครีมกะทิมากจนรู้สึกเลี่ยน เพราะจานนี้ไม่ได้ทานกับข้าว ถ้าเป็นรสชาติตามท้องตลาดทั่วไป คงต้องยกมือขอข้าว แก้ขัดกันเลยล่ะค่ะ เนื้อไก่ก็นุ่มมาก ส่วนเนื้อมะพร้าวด้านใน ก็นิ่ม หวาน อร่อยมากค่ะ จานนี้เปลี่ยนเมนูบ้านๆให้ดูแพง ดูมีมูลค่า แถมรสชาติก็อร่อย ไร้ที่ติค่ะ
เรามาถึง เมนูอาหารจานหลัก ที่ทานกับข้าว
วันนี้ดิฉันได้ลอง ชิม 3 เมนู นั่นคือ
พะแนงเนื้อแก้มวัวห่อใบตองย่าง
ใช้เนื้อแก้มวัวจากออสเตรเลียนำมาปรุงกับเครื่องแกงพะแนงเข้มข้น เสิร์ฟบนใบตอง ที่วางบนเตาย่างถ่านเล็กๆ ทำให้เครื่องพะแนงและเนื้อร้อนอยู่ตลอดเวลา กลิ่นใบตองย่างบนเตาถ่านก็หอมอบอวล
ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการทานมากขึ้นไปอีก ตัวเนื้อแก้มวัวนิ่มจนแทบจะละลายในปาก บรรยายยังไง ก็อาจจะไม่เห็นภาพเท่ามาลองด้วยตัวเอง
กุ้งแม่น้ำย่างถ่าน หลนเคยสด
เป็นการนำกุ้งแม่น้ำ หนักประมาณ 2 ขีดกว่าๆ มันท่วมๆ มาย่างและราดด้วยหลน ที่ทำจากเคยสด เมนูนี้ได้ใจจากความสดของกุ้ง ทั้งหวานมัน จากไข่กุ้ง ตัวกุ้ง ปกติทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่ที่นี่ใช้หลน รสชาติหวานๆเค็มๆราดมาด้วย รสชาติไม่จัดจ้าน แต่เข้ากันได้ดีกับเนื้อกุ้ง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินที่สุดแล้วค่ะ อร่อยจนอยากจะขอซอสหลนเพิ่ม เพราะกุ้งตัวใหญ่มาก กินซอสหมดก่อนซะอีก
มะระหวานผัดไข่
รสชาติเบาๆ ตัวมะระผัดมาพอดี ยังคงความสดกรอบได้ดีมาก ไม่มีรสขมเลยด้วย กับข้าวจานนี้ เหมือนเป็นเมนูผัดผัก ที่มักจะต้องสั่งมา ทานกับพะแนง ที่รสแกงเข้มข้นค่ะ
จบของคาว เรามาต่อกันที่ของหวานแบบไทยๆ
วันนี้ดิฉันได้ชิม 2 เมนู นั่นก็คือ
ไอศกรีมมันสำปะหลังย่าง
รสชาติหวานมัน หอม ครบสูตร ประดับมาด้วยกะทิที่นำไปปั่น แช่แข็งและขูดเป็นก้อนๆมาบนจานใบตอง บนไอติมมีซอส คาราเมลที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าวกับหัวกะทิ หวานเล็กน้อย ช่วยให้มื้อนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ของหวานอีกอย่างที่ประทับใจมากนั่นก็คือ บัวลอยไข่เค็ม
เชฟเลือกไข่เค็มไชยา ของดีจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำมาดอง 7 วัน แล้วเอาไข่แดงมาตีกับกะทิ ผ่านบนน้ำที่ต้มร้อน จนไข่ขึ้นฟู ใส่ในแป้นพิมพ์ให้กลมสวยแล้วแช่เย็นไว้ ก่อนเสิร์ฟก็ต้องนำมาละลายเล็กน้อย ทานคู่กับแป้งบัวลอยที่ทำจากเผือก และฟักทอง นุ่มเหนียวหนึบ มาพร้อมกับโฟมกะทิบัวลอย และมีลูกเล่นโดยให้เราราดน้ำกะทิลงไปบนขนม สมบูรณ์แบบความเป็นบัวลอยแบบไทยๆ ดิฉันชอบรสสัมผัสของไข่เค็มมาก เพราะหยุ่นๆ นุ่มๆ ไม่เค็มตามชื่อเพราะดองแค่ 7 วัน แต่กลับมีรสหวานกำลังดี เมื่อทานคู่กับน้ำกะทิ โฟมกะทิ ตักไข่คำ บัวลอยคำ รู้ตัวอีกทีหมดแล้วหรอคะเชฟ
จบมื้อนี้อย่างสมบูรณ์แบบ หากใครสนใจจะไปลองทาน ซึ่งดิฉันแนะนำยืนยัน นอนยันเลยว่า มันดีมากกกก และคุ้มค่ากับราคา แม้ว่าจะเป็นคนไทย ทานอาหารไทยเป็นประจำก็ควรจะมา ขอดิฉันสารภาพว่าปกติก็ไม่เคยทานบางเมนูเลย แต่หลังจากมาทานที่นี่ รู้สึกชอบถูกปากทุกจาน และมีเมนูใหม่ในดวงใจ ที่ต้องไปทานประจำอีกแน่นอน
ส่วนใครมีเพื่อนชาวต่างชาติ อยากจะพาไปทานหรูๆ แต่ยังคงรสชาติไทยไว้ ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะพามาที่นี่ แล้วเพื่อนของคุณจะประทับใจแน่นอน
รายละเอียดร้านอาหาร
Celadon ห้องอาหาร ศิลาดล โรงแรมสุโขทัย
สำหรับ tasting menu มีเฉพาะมื้อเย็น
>>9 เมนู (เหมือนที่รีวิว)>> 2900++ /คน
>>6 เมนู >> 2200++/คน
Wine pairing 4 แก้ว (ไวน์ 4ชนิด ) >>1900++/ คน
หากใครไม่ต้องการทานเป็นคอร์ส หรือถ้ามากันเป็นครอบครัว อยากแชร์อาหารกัน ทางร้านก็มีเมนู แบบแยกสั่ง แต่ละอย่างเช่นกันค่ะ
ร้านอาหารศิลาดล เปิดทุกวัน เวลากลางวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 – 15:00 น. เวลาเย็น ตั้งแต่เวลา 18:30 – 23:00 น. มีดนตรีไทย รำไทย โชว์ทุกวัน เวลา 20:00 และ 21:00 น.
โทร 02-344-8888 การเดินทาง โรงแรม สุโขทัย ถนนสาทรใต้ Public transport ที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลุมพินี
Story : Dr. Kwankamol W.
Photo : Pol.Cap. Kittin A.
Testing menu, Celadon, The Sukhothai Bangkok, thai cuisine, fine diing, review
KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว