อาหารไทยเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมสูงและเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก นอกจากรสชาติที่ เข็มข้น และอาจมีความเผ็ดร้อน ตามสภาพอากาศ อาหารไทยยังถูกมองว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพในหายเมนู จากส่วนผสมที่เต็มไปด้วยสมุนไพร และส่วนประกอบต่างๆที่เป็นประโยน์ต่อร่างกาย นอกจากรสชาติ และคุณค่าทางสารอาหาร ความงามกซึ่งเป็นอาหารตาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้อาหารไทยไม่เหมือนใคร และสำหรับอาหารไทยที่โอชา จะทำให้ทุกท่านตื่นตากับหน้าตาและความสร้างสรรค์
หากท่านได้เข้ามาในร้านอาหารแห่งนี้ ท่านจะสะดุดตาแปลกใจตั้งแต่แรกเข้า การนำศิลปและองค์ประกอบงานปฎิมากรรม วิจิตรศิลป์แบบไทยมาประยุกต์เข้ากับการออกแบบภายในที่นำสมัย ในพื้นที่และรูปทรงที่ชวนตื่นตา พื้นที่นั่งถูกจัดแต่งออกมาในหลายรูปแบบและมีความเป็นส่วนตัว สวยงม น่านั่ง และมีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละส่วน
***************************************************************************
ดอกไม้กรอบโอชา
เชฟนำกลีบดอกไม้นานาพรรณสีสันสวยงามไปทอดกับแป้งกรอบเป็นแผ่นใหญ่ หักเป็นชิ้นใหญ่พอดีๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสใบหม่อนสีน้ำตาลสองแบบ มีทั้งซอสแบบร้อนและแบบเย็น โรยหน้าซอสด้วยโคโคนัทคาร์เวียร์เม็ดเล็กสีขาว นับว่าเป็นเมนูที่ใช้การเล่นสีบนจานอาหารได้ลงตัวทีเดียว โทนร้อนเย็น และสัมผัสร้อนเย็นของซอสใบหม่อน เวลาทานตักซอสใบหม่อนทั้งสองแบบมาวางบนแป้งกรอบที่มีกลีบดอกไม้ ทานพร้อมๆกันให้รสชาติเค็มกลมกล่อม เรียกน้ำย่อยก่อนเมนูถัดไปได้ดีเลย
ปลาหมึกผัดไข่เค็มไชยา
เป็นอีกเมนูเด็ดของร้านนี้ ใช้ปลาหมึกสดมาผัดกับไข่เค็มไชยาซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีของเมืองสุราษฎร์ธานี ไข่เค็มไชยาขึ้นชื่อในเรื่องสีไข่แดงที่เข้มและรสชาติที่กลมกล่อมกว่าไข่เค็มทั่วไป เมนูปลาหมึกผัดไข่เค็มไชยาของร้านโอชาจึงนับว่ารสชาติออกมาถูกปากคนได้ลองชิมจริงๆ มีความมันเค็มของตัวไข่พร้อมกับความสดกรอบของปลาหมึก นอกจากนี้การนำเสนอจัดวางก็แปลกจากที่อื่น โดยใช้กะลาขัดมันเป็นภาชนะรองปิดทับด้วยแผ่นใส ด้านล่างมีไอสีขาวๆลอยอยู่ ทำให้เพลิดเพลินไปกับการทานเมนูนี้จริงๆ
กุ้งแช่น้ำปลา
จานนี้ทางร้านก็ภูมิใจนำเสนอ ทางร้านคัดกุ้งสดขนาดพอดีคำ นำมาเสิร์ฟเรียงบนจาน ประดับด้วยแตงกวาหั่นบางๆล้อมรอบ แต่ที่พิเศษกว่าที่อื่นคือซอสสีเขียวที่เสิร์ฟไว้ข้างบน ลักษณะคล้ายๆกับ sorbet แต่มีความเผ็ดของพริก ต้องทานคู่กับกุ้งพร้อมๆกัน จะได้รสชาติเผ็ดเค็มและความหนึบสดของกุ้ง แต่เมนูนี้ก็จะออกเผ็ดหน่อยๆ สำหรับคนไม่กินเผ็ดก็อาจต้องบอกทางร้านครับ
ข้าวตังไรซ์เบอร์รีและบัวลอยน้ำกะทิ
ต้องยอมรับว่าร้านทำของหวานไทยได้ดีทั้งรส กลิ่น และการจัดวาง เมนูนี้ทางร้านนำข้าวไรซ์เบอร์รีไปทำเป็นข้าวตัง และอีกส่วนนำไปทำคล้ายบัวลอยในน้ำกะทิ เสิร์ฟมาพร้อมๆกันในฝาแก้วปิดครอบอบควันหอม ด้านล่างวางบัวลอยข้าวไรซ์เบอร์รีในน้ำกะทิ ส่วนด้านบนเป็นข้าวตัง เวลาทานเปิดฝาแก้วออกจะได้กลิ่นหอมลอยฟุ้งบนโต๊ะ จากนั้นนำข้าวตังเทลงในน้ำกะทิรสมันเค็ม หอม กลมกล่อม ตักแบ่งทานได้ 2 ท่าน รสชาติของข้าวตังแช่น้ำกะทิจะออกมันๆ หวานๆ กรอบๆ ตัดกันกับ รสมันเค็มของกะทิได้อย่าง งดงาม ลงตัว เป็นรสอันดีเยี่ยใและละมุนในปาก ทานพร้อมกับบัวลอย แป้วนุ่มหนึบ ก็จะได้อรรถรสไปอีกแบบ
ผลไม้แกะสลัก
เมนูผลไม้ แต่นำเสนอด้วยเอกลักษณ์แบบไทย ก็คือการแกะสลักผลไม้ ทางร้านเสิร์ฟผลไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงแบบไทย มีทั้งชมพู่ ฝรั่ง และมะม่วง พร้อมด้วยเครื่องจิ้มที่เป็นน้ำปลาหวานซึ่งทางร้านบอกว่าได้จดลิขสิทธิ์ไว้ด้วย
ผลไม้รวมและไอศกรีมซอร์เบต์
ร้านได้นำเสนอไอศกรีมซอร์เบต์รสชาติพิเศษ คือ แอปเปิลผักชี และเสาวรส นับว่าเป็นรสชาติที่ไม่ค่อยเจอที่ใด รสแรกแอปเปิลผักชีฝรั่ง มีสีเขียว รสชาติจะออกหวานเล็กน้อยจากแอปเปิลและจะได้กลิ่นแบบผักชีด้วย นับว่าค่อนข้างแปลกใหม่ ส่วนอีกรสคือเสาวรส จะเป็นสีเหลือง รสชาติเปรี้ยว ตัดกับแอปเปิลผักชีเลยทีเดียว ทานเป็นเมนูตบท้ายในอากาศร้อนๆของเมืองไทยก็ทำให้คลายร้อนลงไปได้ดีเลยครับ
เรื่อง : Dr. Apirath N.
ภาพ: Pol.Lt. Kittin A.
———————————————————————————————————————————————
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A
A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A