สำหรับชื่อ “โบตั๋น” ในภาษาไทยนั้น มาจากชื่อดอกไม้นี้ในภาษาญี่ปุ่นว่า “โบะตัง” แต่บางคนก็ว่า มาจากชื่อในภาษาจีนว่า “หมู่ตัน” ส่วนในภาษาอังกฤษเรียกว่า “peony” โดยมีตำนานเล่าว่า ตั้งตามชื่อของไพอัน (Paean) ศิษย์คนหนึ่งของเอสเคลปิอัส เทพเจ้าแห่งการแพทย์ของกรีกโบราณ ต่อมาเอสเคลปิอัสอิจฉาลูกศิษย์ของตน เทพเซอุสช่วยไพอันให้พ้นภัยโดยสาปให้กลายร่างเป็นดอกโบตั๋น
เทศกาลดอกโบตั๋นบาน เมืองลั่วหยาง (ใน 1 ปีมีจัดงานเทศกาลดอกโบตั๋นแค่ครั้งเดียว ช่วงประมาณวันที่ 5 – 25 เมษายน)
ดอกโบตั๋น เป็นดอกไม้ที่มีความหมายพิเศษสำหรับชาวจีน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นหนึ่งในดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน เป็นดอกไม้ที่มีความหมายดีๆ เป็นมงคล
ดอกโบตั๋น แตกต่างจากดอกไม้ชนิดอื่น ๆ คือที่ก้านจะมีใบ 3 ใบ และในใบใหญ่แต่ละใบจะแตกออกเป็นใบเล็กอีก 3 ใ บ รวมทั้งหมด 9 ใบ จึงเป็นที่มาของคำเปรียบเปรยว่า “ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้มังกร 9 หัว” กล่าวคือเป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความมั่งมีศรีสุข มีลาภยศยิ่งใหญ่ จิตรกรจีนมักจะวาดภาพดอกโบตั๋นสีสันสดใส และคนจีนก็นิยมนำไปประดับบ้านโดยเฉพาะที่ห้องรับแขก เพราะเชื่อกันว่าจะนำพามาซึ่งความมั่งคั่ง โชคลาภและความร่ำรวย
ในสมัยโบราณ ดอกโบตั๋นเป็นที่นิยมเพาะเลี้ยงกันในหมู่ชนชั้นสูง ซึ่งบางครั้งราคาประมูลขายกันแพงมาก จนสุดยอดกวีราชวงศ์ถังท่านหนึ่ง ชื่อ ไป๋จวีอี้ กล่าวไว้ว่า “อี้ฉงเซินเซ่อฮวา สือฮุจงเหรินฝู้” ซึ่งหมายความว่า “โบตั๋นเพียงไม่กี่ดอกยังมีมูลค่ามากกว่าเงินภาษีของชนชั้นกลางสิบคนเสียอีก”
มีเรื่องเล่ากันว่าสมัยพระนางบูเช็คเทียน พระองค์เคยโปรดดอกโบตั๋นมาก สมัยนั้นโบตั๋นยังมีแพร่หลายในเมืองฉางอาน เมืองหลวงของจีนในสมัยนั้น หรือซีอานในปัจจุบัน วันหนึ่งในฤดูหนาว พระนางบูเช็คเทียน เกิดอยากชมดอกไม้ขึ้นมา จึงออกคำสั่งให้ดอกไม้บานโดยพร้อมเพรียงกัน มีแค่ดอกโบตั๋นเท่านั้น ที่ไม่ยอมบาน เนื่องจากเห็นว่าไม่ถึงฤดูกาล เมื่อดอกโบตั๋นไม่ยอมบาน พระนางฯ ก็โกรธมาก สั่งเผาอุทยาน แล้วให้ถอนรากถอนโคนดอกโบตั๋น เอาไปทิ้งที่เขาเป่ยหมาง ในเมืองลั่วหยาง แต่ไม่คิดว่าโบตั๋นจะปลูกได้ดีที่นี่ ลั่วหยางก็เลยกลายเป็นแหล่งเพาะปลูกโบตั๋นที่สำคัญไป และจากสาเหตุที่โดนเผา จึงกลายเป็นที่มาว่าทำไมต้นโบตั๋นจึงแห้งและมีสีเข้มเหมือนถูกไฟเผา
ดอกโบตั๋น ในประเทศจีนจะออกดอกและบานในช่วงเดือนเมษายน ดอกโบตั๋นดอกหนึ่งจะมีอายุการผลิบานอยู่ราว 7-10 วัน “เทศกาลดอกโบตั๋นบานเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน เป็นเทศกาลชมดอกโบตั๋นที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน”
ความหมายของภาพดอกโบตั๋น ติดที่ห้องไหนถึงจะดี
ดอกโบตั๋น เป็นสัญลักษณ์ของความรักใคร่ ความสวยงามของเพศหญิงและความรู้สึกที่เป็นไปด้วยความรักของหนุ่มสาวและใช้เป็นสัญลักษณ์ตกแต่งหลักในศิลปะต่างๆของจีนเพื่อดึงดูดความรักและความมั่งคั่งร่ำรวย
ไว้ที่ห้องไหนถึงจะเหมาะสม 1. ภาพดอกโบตั๋นในห้องนั่งเล่น เพื่อเพิ่มสเน่ห์ให้สาวโสด ที่อยุ่ในวัยพร้อมจะแต่งงานและดึงดูดชายหนุ่มมากมาย พลังจากสัญลักษณ์ของดอกโบตั๋น จะช่วยให้ได้พบสามีที่ดีที่จะช่วยดูแลกันได้
2. วางต้นดอกโบตั๋นไว้ใกล้ประตูหน้าบ้าน ที่มุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในห้องนั่งเล่นเพื่อดึงดูดพลังแห่งความสุข ความหลงใหลและความตื่นเต้นในความสัมพันธ์ด้านใดด้านหนึ่งคล้ายกับโดนยาสเน่ห์
3. สำหรับหนุ่มโสด ควรวางต้นโบตั๋นที่มุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ในห้องนอน เพื่อกระตุ้นพลังหยินให้มาอยู่รอบๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ดึงดูดให้มีการแต่งงานและยังช่วยนำหญิงสาวที่เหมาะสมเข้ามาในชีวิต
ข้อควรระวัง ถ้าท่านแต่งงานแล้ว การแขวนรูปดอกโบตั๋นไว้ภายในห้องนอน จะทำให้สามีของท่านเจ้าชู้มากขึ้น จะสอดส่ายสายตามองหาผู้หญิงอื่น โดยเฉพาะถ้าพ้นช่วงข้าวใหม่ปลามัน ดังนั้น ต้องระมัดระวัง ดังนั้น ขอแนะนำให้แขวนรูปดอกโบตั๋นไว้ในห้องนั่งเล่นจะดีกว่า อย่าแขวนในห้องนอน ชีวิตสมรสจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น
ดอกโบตั๋น เป็นไม้ดอกสกุล Paeonia ในวงศ์ Paeoniaceae เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชีย ตอนใต้ของยุโรปและตะวันตกของอเมริกาเหนือ ดอกโบตั๋น ส่วนใหญ่เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 0.5–1.5 เมตร บางชนิดเป็นพุ่ม ลำต้นสูง 1.5-3 เมตร ลักษณะของใบเป็นใบประกอบ มีแฉกลึก ดอกใหญ่ และมักมีกลิ่นหอม มีหลายสี ตั้งแต่ แดง บานเย็น เหลือง ขาว ออกดอกในช่วงต้นฤดูร้อน