Chef : Z : 07 2023
Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A
North
Kinandleisure จะขอนำทุกท่านไปยังสถานที่สุดพิเศษ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ความฝัน แรงบันดาลใจ และ อาหารสุดแสนอร่อย ณ ใจกลางถนนสุขุมวิท นั่นคือ ร้านอาหารที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ North Gastronomy of Lanna
The Vibes
ร้าน North ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 33 ที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถให้จอดในตัวร้าน หรือจะมาทางรถไฟฟ้าเพื่อเลี่ยงรถติดในบางช่วงเวลา ลงที่ BTS พร้อมพงษ์ วันนี้ผมมาเร็วก่อนเวลานัดพอสมควร ก็สามารถแวะเดินชมสวนเบญจสิริ นั่งสักพัก ก่อนข้ามไปอีกฝั่งเพื่อไปซอย 33 และเดินเข้าไปอีกเล็กน้อยก็ถึงร้านอาหารสีเขียวสวยโดดเด่นกว่าตึกอื่น ๆ ในซอย นอกจากภายนอกที่จะมีสีเขียวสวยเด่นเย็นตา ภายในเองก็ยังใช้โทนสีเขียวเป็นสีหลักประจำร้าน ซึ่งให้ความรู้สึกสบายตา อบอุ่น อนุรักษ์ แต่ก็ให้ความหรูหราด้วยโทนสีเขียวที่เลือกมาเป็นอย่างดี
ตัวร้าน North ถูกปรับมาจากบ้านไม้สักเก่าของครอบครัวพานิชพัฒน์ โดยภายในมีการตกแต่งอย่างสวยงามทั้งทางด้านโครงสร้างและจิตรกรรมภายใน มีการแสดงโครงสร้างไม้สัก ภาพวาด ภาพเขียนที่โด่งดังจากภาพเหนือของไทย และยังมีส่วนชานบ้านที่ปรับเป็นเรือนกระจกที่เพิ่มมาเพื่อเป็นร้านอาหาร ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยโคมไฟยี่เป็ง แสงไฟซ่อนจากกำแพงที่ทำให้ได้บรรยากาศสวยทุกมุมมอง ประดุจนั่งกินดื่มท่ามกลางบรรยากาศเทศกาลงานลอยโคม ทั้งจากภายนอกและภายใน ที่พิเศษอีกอย่างคือเรือนกระจกที่ต่อเติมเป็นโครงสร้างไม้กลมกลืนไปกับตัวบ้านเก่าเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ ความรักในตัวร้านอาหาร และวัฒนธรรมล้านนาอย่างแท้จริง
ด้านบนของร้าน เมื่อเดินเยื้องกายขึ้นมาจะพบกับห้องส่วนตัวปลายทางและพื้นที่โถงสำหรับนั่งกินดื่ม โดยมีงานไม้เกะสลักที่สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์แห่งแผ่นดินถิ่นภาคเหมือ ภายในห้องโถงมีงานไม้แกะสลักเป็นปลาที่แหวกว่ายไปตามสายน้ำที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลาในนามีข้่าว เมื่อเดินย้ายตัวไปทางระเบียงก็จะเห็นทัศนียภาพแสนสวยเหมือนชมบรรยากาศเทศกาลงานโคมลอยยี่เปง
ด้วยร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามนี้จะทำให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ที่ดีอย่างไร้รอยต่อ โดย North ได้จัดโซนเพื่อให้เลือกรับประทานอาหารได้หลากหลาย รวมไปถึงมีห้องส่วนตัว ทำให้เป็นสถานที่ดีที่เหมาะสำหรับหลาย ๆ โอกาส
The Menu
สำหรับอาหารร้าน North ตามชื่อจะเสิร์ฟอาหารไทยสไตล์อาหารเหนือประยุกต์ ที่ยังคงความดั้งเดิมไว้ที่โด่งดัง เช่น ข้าวซอย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการใช้วัตถุดิบสมัยใหม่บ้าง เช่น วากิว หรือ คุโรบุตะ แต่ตัวซุปข้าวซอย ยังถูกปรุงสูตรดั้งเดิม นั่นคือ เครื่องแกงจะมีการใช้เครื่องเทศกระวาน ขิง ลูกผักชี ทำให้ได้รสชาติแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง และ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในสูตรอาหารอย่างลึกซึ้งของทีมเชฟที่รู้ว่าหัวใจของแต่ละเมนูคืออะไร
นอกจากอาหารง่าย ๆ อย่างข้าวซอย ร้าน North ยังเสิร์ฟ Full Dinner Course อีกด้วย ซึ่งความโดดเด่นคือ เป็นที่เดียวในประเทศไทยขณะนี้ที่นำเมนูอาหารเหนือ มาจัดเป็น course dinner และ วันนี้ kinandleisure จะขอนำเสนอ preview เมนูอาหารมื้อเย็นครับ
โดยแรงบันดาลใจของ North course menu นี้คือ นอกจากจะเป็นอาหารเหนือและใช้วัตถุดิบจากภาคเหนือเป็นหลักแล้ว ยังเป็นอาหารเหนือแบบสูตรดั้งเดิมที่ชาวบ้านรับประทานกันจริง ๆ ในครัวเรือน รายละเอียดต่าง ๆ จะถูกปรับเพียงเพื่อนำเสนอในรูปแบบของ fine dining แบบ full course ครับ
Welcome Drink
เริ่มต้นกันที่ Welcome drink เมื่อเรานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว สตาฟก็จะเสิร์ฟ welcome drink เพื่อต้อนรับครับ ซึ่งที่เสิร์ฟมาเป็น เครื่องดิ่มที่มีเบสจากเหล้าหมาใจดำของดีเชียงใหม่ครับเป็นเหล้าที่กลั่นจากดอกมะพร้าว ปรุงรสด้วยลิ้นจี่ มะนาว และไซรัปกุหลาบเวียงพิงค์ รสชาติหวานเป็นเอกลักษณ์ เข้ากับลิ้นจี่มากจิบคล่องคอ (มึนนิดหน่อย)
เนยผักแพ้ว ขนมปังใบเมี่ยง
ในส่วนของขนมปังและเนยก็จะโชว์วัตถุดิบของทางเหนือเช่นกัน ตัวขนมปังจะเป็นซอฟ์ตโรล อบพร้อมใบเมี่ยง รับประทานกับเนยผักแพ้ว มีความขมปลาย ช่วยให้อยากอาหาร ขนมปังรับประทานอุ่น ๆ อร่อยเป็นเอกลักษณ์ของร้าน North เป็นของว่างก่อนจะเริ่มคอร์ส
“Mae Hong Son” Amuse Bouche
Minced Pork Wrapped in Deep Fried Flour with Garlic Mayonnaise, Lanna Baked Eggs with Red Chill Paste and Caviar
Amuse bouche เสิร์ฟสองคำ มาในกล่องไม้ โดยได้แรงบันดาลใจอาหารว่าง street food ของภาคเหนือที่เราจะได้เจอถ้าไปเดินตามตลาดพื้นบ้านแท้ ๆ เป็นไข่ป่ามล้านนา และ จิ้นลุง ครับ โดยตัวไข่ป่ามจะเป็นไข่ปิ้งที่มักจะเห็นเสิร์ฟในกระทงใบตอง เชฟเสริมความพิเศษด้วยการใช้น้ำพริกตาแดง ทำให้ได้รสเข้มข้นขึ้น เสิร์ฟบนข้าวตังและทอปด้วยคาร์เวียร์ เป็นคำที่รสชาติเข้มข้น ต่อด้วยจิ้นลุง หรือ แปลตรงตัวหมายถึง “เนื้อ(จิ้น)ปั้นกลม(ลุง) ซึ่งทำจากหมูสับซอสกระเทียมและพาเมซานชีส คำนี้จะได้รสของอาหารเหนือเต็มที่ เป็นถือว่าเป็น amuse bouche ที่รสชาติไต่ระดับได้เข้มข้น
สำหรับ pairing จะเป็น Spumante Bottega Vino Millesimato Brut โดย spumante หมายถึง sparkling wine ในภาษา Italy อโรม่าหอมเท่สมเป็น brut ช่วยลดรสเผ็ดจาง ๆ ได้ดีครับ
“Nam Phrik Nam Phak Wiang Chai Narai” Salad
Vegetable Chili Paste Foam, Salt-cured Hamachi Fish, Mustard Greens with Northern Pepper Oil
จานต่อไปเป็นสลัด ชื่อว่า น้ำพริกน้ำผัก เป็นอาหารล้านนาพื้นบ้าน จุดเด่นคือจะใช้ผักหมักที่มีรสเปรี้ยว ซึ่งเชฟจะใช้เป็นผักกวางตุ้ง หมักจนเปรี้ยวทำเป็นโฟม เสิร์ฟพร้อมกับปลาฮามาจิ และ ไข่แดงออร์แกนิกซูวี สำหรับวัตถุดิบพิเศษอีกอย่างคือ น้ำมันมะแขว่นที่เชฟจะใช้เชื่อมรสชาติของสลัด ปลา และ ไข่เข้าด้วย จานนี้คลุกเคล้าสลัดให้เข้ากับและรับประทานกับเลมอนปิดท้าย
สำหรับไวน์จะเป็นไวน์ขาว White Wine Chardonnay Gran Valientte Valle Central Chile กลิ่นหอมสดชื่น ได้สัมผัสของแร่ค่อนข้างชัด กลิ่นเฉพาะตัวน้อยกว่า Chardonnay ทั่วไป คนที่ไม่ชอบกลิ่น Chardonnay น่าจะดื่มตัวนี้ได้คล่อง
“Chiang Mai” Soup
Ceylon Spinach Consomme and Phu Phan” Black Chicken with Kaffir Lime Jelly
จากต่อไปจะถึงคิวของซุป เป็นรับประทานกับไก่ดำ ตัวซุป consome ทำจากผักปลังผักปรังซึ่งเป็นผักที่นิยมรับประทานในภาคเหนือ ถือเป็นพืชยาประเภทนึง มีฤทธิ์บำรุงร่างกาย ตัวไก่ดำภูพานที่แสดงถึงความสามารถของเกษตรกรไทยในการเพาะเลี้ยง และยังนิยมรับประทานเพื่อบำรุงร่างกาย นับว่าเป็นซุปที่อัดแน่นด้วยพลัง รับประทานแล้วให้ความรู้สึกดี สดชื่นแก้มึนจากไวน์ เชฟใช้มะกรูดทำเป็น jelly ให้กินปิดท้ายเพื่อเคลียร์ palate ก่อนจะเข้าสู่อาหารจานถัดไป
“Lamphun” Pasta Dish
Ravioli with Wagyu Beef Filling in “Nam-Ngiaw” and Lamphun Black Garlic Sauce
จานถัดไปเป็นพาสต้าสไตล์ล้านนา ถือเป็นจานเด็ดจานหน่งประจำคอร์สนี้ จานนี้เป็นราวีโอลีน้ำเงี้ยวซอสกระเทียมดำ เคียงด้วยดอกงิ้วอบแห้ง ข้าวเกรียบ ภายในราวิโอลีอัดแน่นด้วยไส้เนื้อวากิวและน้ำเงี้ยวรสอร่อย ที่น่าทึ่งคือมีความเผ็ดร้อน แต่ไม่แสบลิ้น เนื้อนุ่มอร่อย เข้าได้ดีกับคัวซอสและกระเทียม
pairing กับ Red Wine Russian Jack Martinborough New Zealand เป็น pinot noir จาก Martinborough ไวน์ยาร์ดชื่อดังของนิวซีแลนด์ กลิ่นหอมเครื่องเทศหลากชนิด กลิ่นแอลกอฮอล์ไม่ฉุนมาก บอดี้ดีลื่นคอรับประทานกับ ravioli ได้รสดี
“Phrae” Sorbet
Ma-khiang Sorbet with Norther Sticky Rice Crumble and Sugar Glazed Rose
คอร์สถัดเป็นเป็น palate cleanser ทำจากมะเกี๋ยงเมืองพล ครัมเบิลข้าวแต๋น เคียงด้วยกุหลาบเคลือบน้ำตาล รสหวานเปรี้ยว เตรียมความพร้อมก่อนคอร์สถัดไป
“Pha Yao” Freshwater Catch
Baked Giant River Prawn with Lanna Herbs Espuma, Chili Wood Crisp and Herbs Caviar
จานถัดไปเป็นเมนคอร์สจานแรก เป็นกุ้งแม่น้ำตัวโตเนื้อสดหวาน จากกว๊านพะเยาแหล่งน้ำสำคัญของภาคเหนือ เชฟย่างได้พอดีมากเนื้อยังเด้ง แต่สวนมันกุ้งสุกหอม โฟมเอสพูม่าทำจากสมุนไพรมีรสเผ็ดจาง ๆ รับประทานกับมันม่วง และคาร์เวียร์สเฟียร์ที่ทำจากสมุนไพรผักชีใบมะกรูด
เครื่องเคียงอีกตัวจะทำจากจ๊ะค่าน เป็นไม้สมุนไพรที่รสชาติเผ็ดร้อน ภาคเหนือนิยมใส่ในแกง หรือ ใช้ดับกลิ่นเนื้อสัตว์ ซึ่งเชฟนำมาทำเป็น stick เพื่อใช้ dip คู่กับโฟม
Pairing เป็น Red Wine Primitivo Sensi Collezione IT Puglia Italy บอดี้เข้มกับกลิ่นเบอร์รี่แบบจัดเต็ม ได้เบา ๆ กับตัวกุ้งแม่น้ำและซอส
“Lampang” Khan-Toke Dinner
Aromatic Hung-Lay Curry with Beef, Jackfruit Curry w/ Salted Fish, Seabass Namprik Ong, Norther Spicy Sausages & Pork Cracklings, Vegetables, Sticky Rice & Steamed Rice
จานนี้เป็นเมนคอร์สสุดพิเศษที่มีร้าน North ที่เดียวในประเทศไทย นั่นคือ ขันโตก ต้นตำรับแบบชาวเหนือ ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ 3 ชนิด พร้อมกับข้าวสวย ข้าวเหนียว แคบหมู และ ไส้อั่วหมูคุโรบุตะอบกะลามะพร้าว โดยจะเติมได้ไม่อั้น เสิร์ฟจนกว่าแขกจะมั่นใจว่าอิ่มกลับบ้าน สำหรับกับข้าว 3 ชนิดจะเสิร์ฟเป็น
- น้ำพริกอ่องปลากะพง ซึ่งสืบเนื่องจาก ในภาคเหนือคนพื้นเมืองหลายบ้านจะนิยมใช้ปลาทำน้ำพริกอ่อง มากกว่าหมูที่พบได้ทั่วไป ทำใช้เชฟเลือกใช้ปลากะพงมาทำเป็นน้ำพริกอ่อง ซึ่งความโดดเด่นจะเห็นได้ชัดคือไม่มีมันลอย ตัวเนื้อน้ำพริกอ่องจะมีสัมผัสที่ละมุนแห้งกว่าน้ำพริกอ่องทั่วไป รสชาติจะมีความเข้มข้นเผ็ดร้อน แบบกลาง ๆ สดชื่น อร่อย
- Aromatic hung-lay หมูสามชั้น จานนี้คนรักหมูสามชั้นจะต้องประทับใจด้วยเนื้อหมูสามชั้นที่หั่นมาเป็นชิ้นกำลังพอดี พร้อมกับแกงฮังเลรสเค็มหวานละมุนกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ ตัดเลี่ยนด้วยขิงซอส เนื้อหมูสามชั้นเคี่ยวจนเปื่อย มีชั้นมันนุ่มนิ่มละลายในปาก จานนี้ต้องขอเติมครับ
- แกงขนุน สำหรับกับข้าวตัวสุดท้ายจะเป็นแกงขนุน ซึ่งทางร้านเกริ่นก่อนเลยว่าแกงขนุนนี้เป็นเมนูทีท้าทายเป็นอาหารที่ถือได้ว่าดูแปลกมากกว่าคอร์สอื่น ๆ ด้วยรสชาติเฉพาะตัวของแกงขนุน แต่ก็ต้องการนำมาเพราะเป็นหนึ่งในแกงพื้นบ้านที่หาโอกาสรับประทานได้ยาก เพราะมักจะทำเฉพาะในโอกาสสำคัญ ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ วันแต่งงาน แต่เชฟก็ทำได้ออกมาได้ดีตัวแกงขนุนจะเสิร์ฟแบบแห้งเพื่อใส่ในขันโตกและกินกับข้าว รสชาติจัดจ้านเปรี้ยวขมอ่อน ๆ รับประทานได้เรื่อย ๆ เหมาะกับแก้เลี่ยนจากอาหารมัน ๆ ได้ดี
สำหรับ wine pairing จะเป็น Red Wine Shiraz Cabernet Sauvignon Koonunga Hill 76 Australia จัดมาแบบฟูลบอดี้ ตัวนี้สำหรับคนที่ชอบความเข้มข้นของ Shiraz น่าจะประทับใจ มีรสชาติอัดแน่นซับซ้อน บอดี้เข้มแต่ดื่มคล่อง สมกับเป็นหนึ่งใน Shiraz ตัวทอป
“Nan” Dessert
North’s Sticky Rice topped with Dried Wampee Fruit, Nameleka Mango Mousses, Mango Sorbet Maa Jai Dum Sticky Rice Coconut Milk Cocktail
มาถึงของหวานเป็นมูสมะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งทำเป็นสไตล์ Namelaka ทำให้มีผิวด้านนอกนุ่มเด้งจากเจลาติน และมีกานาชมะม่วงด้านในผสมกับใบมิ้นอ่อน ๆ
เสิร์ฟคู่มากับของหวานที่ผสมผสานวัถตุดิบสองจังหวัด คือ ข้าวเหนียวจากเชียงใหม่ทอปด้วยคัสตาร์ดทำจากมะไฟซึ่งเป็นผลไม้จากน่าน ราดด้วยน้ำกะทิผสมเหล้ามาใจดำ แอลกอฮอล์ทำให้ได้กลิ่นหอมหวานอบอวลมากขึ้น และยังมีมะม่วงซอร์เบต์ให้กินคู่อีกจาน
“Lanna” Petit Fours
Rice Cake with Black Sesame Fillings, Baked Rice, Kanom-Jok Glutinous Rice Cake, Chocolate
สำหรับ Petit fours ก็ยังแสดงวัตถุดิบทางภาคเหนือ และ ขนมของภาคเหนือที่เป็นของพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็น ชอคโกแลตก็จะใช้เป็นชอคโกแลคที่ผลิตในภาคเหนือ, ขนมจ๊อกที่ทำจากแป้งและมะพร้าวคั่วหอมห่อใบตอง, ดังโงะข้าวหนุกงา และ ข้าวมันปิ้ง เรียกได้ว่าได้เรียนรู้วัฒนธรรมขนมล้านนาตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับความรู้สึกหลังรับประทาน full course menu ของ North นอกจากอาหารที่รสชาติอร่อย แปลกตา และ การเรียนรู้วัฒนธรรมการกินของภาคเหนือแล้ว สิ่งที่ทุกท่านจะสัมผัสได้ก็คือพลังและความภูมิใจของเชฟและสตาฟ โดยสตาฟหลายคนในร้านจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจรักและความภูมิใจในวัฒนธรรมของภาคเหนืออย่างแท้จริง แรงบันดาลใจทีได้รับเมื่อจบมื้อ ทำให้ยกระดับประสบการณ์การกินอาหารที่ร้าน North ไปอีกขั้น สำหรับท่านที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ full course Lanna พร้อม wine pairing สามารถมาลิ้มลองได้ในราคาเพียง 5188++ บาท ต่อท่านเท่านั้น สำหรับท่านที่ยังไม่ต้องการดื่ม alcohol ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารได้ในราคาเพียง 2888+ บาท เท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติม: CONTACT US | North-Restaurant
ข้อมูลสำคัญ
Address: 8 Sukhumvit 33 Alley, Khlong Tan Nuea, Watthana, Bangkok 10110 Phone: 061 426 2642
Open Hours:
Wednesday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Thursday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Friday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Saturday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Sunday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Monday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Tuesday | 11:30 AM–2:30 PM, 6–11 PM |
Kin Review
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์